ตอนที่ 88 ฝึกพลังวิญญาณ
ท้องฟ้าปกคลุมด้วยบอลเพลิงโหมกระหน่ำ
ปัง ปัง ปัง
อสูรหุ่นกลตัวแล้วตัวเล่าที่มีไฟลุกท่วมตัวพุ่งตรงเข้ามาเหมือนพายุสายฟ้าและจากนั้นพุ่งเข้าหาบอลเพลิงขนาดมหึมาในท้องฟ้า ทุกๆ รัศมีไฟที่เข้าไปในบอลเพลิงจะปล่อยพลังระเบิดที่รุนแรง เสียงของระเบิดดังมาก
ลูกไฟที่ระเบิดออกมาทำให้ข่งโหย่วหลินคำรามด้วยความโกรธและเจ็บปวด
ปัง
เสียงระเบิดดังสนั่นอย่างไม่เคยปรากฏมีมาก่อน ตามมาด้วยแสงกระจายเจิดจ้าส่องลงพื้นจนขาวโพลนไปหมด ใต้พื้นที่ถังเทียนยืนอยู่สั่นสะเทือน พลังคลื่นกระแทกเป็นเหมือนพายุสลาตันกวาดล้างไปทุกที่ ตัวบ้านถูกเหวี่ยงขึ้นไปและร่วงลงมาเหมือนกระดาษ
แสงกระจายหายไปพร้อมกับคลื่นระเบิด
โลกสงบลงและท้องฟ้าว่างเปล่าราวกับว่าถูกชำระล้างทำความสะอาดเหมือนกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ข่งโหย่วหลินผู้น่ากลัวและแข็งแกร่งในชุดเกราะเพลงหงส์มองดูสง่างามเหมือนเจ้าชายหายไปจากท้องฟ้าและไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ทั้งสิ้น
หลังจากเงียบไปในช่วงเวลาสั้นๆ ตระกูลหลินก็ตกอยู่ในภาวะแตกตื่น เกิดเหตุการณ์ที่น่ากลัวบางอย่างปรากฏอยู่ในตระกูลหลิน เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
คนในตระกูลระดับสูงทั้งหมดต่างก็โผล่ออกมาทุกคนมีสีหน้าเหลือเชื่อ ทุกคนรู้ว่าภายใต้สถานการณ์แบบไหนกันแน่ที่อสูรจักรกลจะเปิดระบบฆ่าตัวตายในตัวมัน
ประมุขตระกูลตาย!
เงาร่างแต่ละคนที่เริ่มแตกตื่นตกใจปรากฏทั่วทุกมุมของบ้านสกุลหลินบางคนใช้วิชาตัวเบาทะยานขึ้นไปในอากาศวิ่งมาบนหลังคาเพื่อรวมตัวที่อาคารหลัก
ไม่มีผู้ใดสังเกตว่าในท่ามกลางความแตกตื่นวุ่นวาย บุรุษธรรมดาคนหนึ่งหลบออกมาจากตระกูลหลินเงียบๆ
ทั่วทั้งเมืองสามวิญญาณสั่นสะเทือนยอดฝีมือนับไม่ถ้วนเที่ยวตรวจตราค้นหาอยู่ตามบนหลังคาและอาคารสูงที่มองเห็นได้กว้างไกล ขณะที่ยอดฝีมือที่มีสัมพันธ์อันดีกับตระกูลหลินต่างก็เหินบินไปมาเพื่อให้ความช่วยเหลือด้วย
ในท่ามกลางความวุ่นวายถังเทียนกลับเข้าไปในค่ายฝึกทหารใหม่จากตำหนักจิตวิญญาณพลังยุทธ และจากนั้นกลับมาที่รอยแยกพลังงาน
เมื่อกลับมาถึงรอยแยกพลังงานและเห็นลูกพลังงานพุ่งออกมาจากรอยแยกไม่รู้จบนัยน์ตาของถังเทียนเป็นประกายทันที ตั้งแต่แรกจนถึงที่สุด เขาไม่เคยได้ปะทะกับข่งโหย่วหลินโดยตรงและความแข็งแกร่งของข่งโหย่วหลินนั้นทิ้งรอยประทับในใจเขายากจะลบจะลบเลือน
ถ้าไม่ใช่เพราะการโจมตีฆ่าตัวตายจากหุ่นจำนวนมหาศาลก็คงเป็นเรื่องยากที่อสูรกลจะเป็นภัยคุกคามข่งโหย่วหลินได้ รังสีปราณที่แผ่ออกมาเป็นพลังระดับเจ็ดเป็นปราณเที่ยงแท้ที่สง่างามและทรงพลัง แม้จะมีความแตกต่างด้านพลังงานมหาศาลก็ตาม ถังเทียนเห็นประจักษ์ถึงอันตรายที่แผ่ออกมาจากตัวเขา
ต่อให้เขาใช้ชุดเสือเขี้ยวดาบก็ตาม เขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข่งโหย่วหลิน
“เฮ้, ลุงปิง, อุปกรณ์ฝึกพลังวิญญาณ!เครื่องมือฝึกพลังวิญญาณ! เริ่มกันเลย!เริ่มกันเดี๋ยวนี้!” ทันทีที่ถังเทียนตั้งเป้าหมาย เขารีบโยนเรื่องการต่อสู้ทิ้งไว้เบื้องหลังจิตใจ และค่อนข้างใจร้อน
ปิงมองดูถังเทียน ตาของเด็กหนุ่มแสดงถึงความคาดหวังและจริงจังเขาจำได้ทันทีถึงสิ่งที่ถังเทียนได้พูดไว้ก่อนนั้น
“ค่อยเริ่มพรุ่งนี้ก็ได้,พักเสียวันหนึ่งก่อน เมื่อสภาพใจของเจ้าพร้อมในวันพรุ่งนี้ เราค่อยเริ่มกัน” ปิงไม่ได้ให้คำมั่นอะไร
“ทำไมต้องรอพรุ่งนี้ด้วย? เริ่มกันเดี๋ยวนี้! ข้าคือหนุ่มชาวฟ้า! ข้ามีพลังของมังกร มีความห้าวหาญดุจเสือยังจะต้องพักอะไรกันอีก?” ถังเทียนไม่พอใจ
“เจ้าไม่จำเป็นต้องพัก แต่ข้าจำเป็นต้องพัก” ปิงไม่มองดูถังเทียน และเริ่มลอยตัวไปที่มุมห้องและหลับตาลง
“ท่านแก่มากแล้วจริง คงต้องลำบากแย่เลยนะที่ร่างกายอ่อนแอลงเรื่องๆ...”ถังเทียนโพล่ง
ปิงตากระตุกเล็กน้อย เจ้าเด็กโง่น่ารังเกียจนี่... แต่ทันทีที่เขาคิดเรื่องที่ถังเทียนจะต้องทุกข์ทรมานในวันต่อไปหัวใจเขาก็สงบลงได้ หึหึ หนุ่มน้อยพรุ่งนี้เจ้าจะได้รู้ว่าชีวิตในนรกเป็นเช่นไร
พอเห็นว่าการยั่วยุใช้ไม่ได้ผลและปิงไม่ใส่ใจโต้ตอบ ถังเทียนได้แต่ถอยไปอยู่ที่ด้านข้างฝึกปราณเที่ยงแท้ต่อไป
หลังจากนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมงถังเทียนลืมตาอีกครั้ง ปราณเที่ยงแท้ในร่างเขาฟื้นฟูเต็มที่แล้ว เป็นไปตามคาดพลังจากรอยแยก สามารถใช้ฝึกปราณเที่ยงแท้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างน่าอัศจรรย์เนื่องจากถังเทียนรู้สึกได้ถึงความก้าวหน้าของปราณเที่ยงแท้ได้อย่างชัดเจน ไม่แน่ชัดว่าเป็นเพราะการต่อสู้ที่เกิดขึ้นเร็วๆนี้หรือไม่ แต่ความก้าวหน้าของพลังปราณเที่ยงแท้ของเขามีประสิทธิภาพมากกว่าปกติ
ถังเทียนคิดถึงสินสงครามของเขา จึงล้วงลูกปัดวิญญาณออกมา
“นี่, ลุงปิง ลูกปัดวิญญาณใช้ทำอะไรได้เหรอ?” เขาสงสัย
ปิงลืมตา “เอาไปให้เซรีน นางจะมีวิธีใช้เอง”
“โอว” ถังเทียนผิดหวัง งั้นก็เป็นชิ้นส่วนเครื่องกลสินะ เขาโยนมันเก็บเข้าไปในตู้เก็บอาวุธอควาเรียส สินสงครามเพียงชิ้นเดียวไม่ได้เหมาะกับเขาเลยเขารู้สึกเสียดายอยู่ในใจ เขาน่าจะใช้ช่วงเวลาที่ยุ่งเหยิงในตระกูลหลินค้นหาดู
โอกาสดีๆ อย่างนั้นเขาพลาดไปเสียแล้ว
เอาชนะนักสู้ระดับเจ็ดได้ยังมิอาจพูดได้เต็มปากเมื่อไม่ได้ค้นหาดูในตระกูลหลิน แม้แต่ชิ้นส่วนของข่งโหย่วหลินก็หายไปด้วยเกราะที่งดงามอย่างนั้นยังถูกเผาอยู่ในซากปรักหักพังนั้นด้วย น่าเสียดายจริงๆ
ถังเทียนนึกเสียใจแต่ก็ยังฝึกฝนต่อไป
※※※※※※※
“เจ้าคิดบ้างไหมว่าตอนนี้ถังพื้นฐานจะเป็นยังไงบ้าง?” อาโมรี่พึมพำกับตัวเองขณะที่ตักข้าวอย่างเต็มที่ ข้าวในชามข้าวของเขาเมื่อเทียบกับคนอื่น มีขนาดมากกว่าสามเท่า
เหลียงชิวตักผักใส่ปากอย่างดูดีมีมารยาททนเคี้ยวจนกระทั่งกลืนลงไปหมด จากนั้นจึงค่อยๆ พูด “ถังเทียนจะก้าวหน้าได้เร็วแน่นอนค่ายทหารรอบนอกไม่น่าจะมีแรงกดดันอะไร”
หานปิงหนิงนั่งกินเงียบๆ ไม่พูดอะไรสักคำ
ซือหม่าเซียงซานจู้จี้จุกจิกเรื่องอาหารในจานข้าวของเขา “อาหารที่นี่มันแย่แสนแย่จริงๆ เนื้อชิ้นนี้ไม่มีรสชาติอะไรเลย ผักก็ดิบเกินไป อาหารปรุงรสจัดเกินไปแถมยังใส่เกลือมากเกินไปอีก”
อาโมรี่รีบๆ ยัดอาหารใส่ปากและพูดทั้งที่อาหารเต็มปาก “ข้าคิดว่ามันเยี่ยมมากเสียอีก...”
“ข้าจะไปหาพวกเขามาระบายความในใจคืนนี้อีกแล้ว” ซือหม่าเซียงซานขมวดคิ้วหยิบชิ้นผักเล็กๆโยนใส่ปาก
“พ่อครัวที่นี่เปลี่ยนไปถึงสามครั้งแล้วนะ”หานปิงหนิงพูดเย็นชา “อย่าเรื่องมากนักเลย”
“หรือจะให้ข้าสังหารพวกเขาดี?” ซือหม่าเซียงซานพูดเบาๆ
“ข้าไม่ต้องการให้วันเวลาผ่านไปเปล่าๆโดยไม่ได้กินน่ะสิ” หานปิงหนิงวางตะเกียบและมองซือหม่าเซียงซานเย็นชา
เหลียงชิวเพิ่งเคี้ยวผักเสร็จทำเป็นมองไปด้านข้าง “ข้าไม่ต้องการอะไรอื่น และรู้สึกว่าผักของพวกเขาปรุงได้ดีเลยทีเดียว”
อาโมรี่ยกจานข้าวตนเองและกวาดอาหารที่เหลือในจานเข้าปากอย่างดุเดือนเหมือนกับว่าปากของเขาเป็นถ้ำที่ไร้ก้นบึ้ง ข้าวพูนจานและกับข้าวไหลลงท้องอย่างรวดเร็ว เขายืนขึ้น “ข้าจะไปขอเพิ่มอีก ข้าชอบพ่อครัวนี้จะขอให้เขาปรุงอาหารให้มากพอที่ข้าจะกินได้”
ซือหม่าเซียงซานส่ายหัวและถอนหายใจ “ก็ได้,ถ้าเสียดายขนาดนั้นดูเหมือนข้าต้องออกไปข้างนอกและลักพาตัวพ่อครัวฝีมือดีมาเองเสียแล้ว
เหลียงชิวยังเลือกกินแต่ผักอย่างต่อเนื่องหลังจากที่กินคำแรกเสร็จไปแล้ว หานปิงหนิงก็ทำตามหลังจากนั้นไม่นาน ขณะที่อาโมรี่ลุยอาหารจานที่สี่ต่ออย่างดุเดือด
“ในครั้งต่อไปท่านรัฐมนตรีไปจะไปดาวสายรุ้ง”เหลียงชิวยกแก้วชาขึ้นจิบ และถือโอกาสพูด “ข้าได้ยินว่าที่นั่นยังมีสาขาอื่นอยู่ ท่านรัฐมนตรีตัดสินใจแล้วที่จะไปดูการแข่งขันเพื่อเลือกดูว่าใครจะเป็นผู้ติดตามมีแปดตำแหน่งสำหรับคนใหม่และจะคัดเลือกจากทหารใหม่ทั้งหมดในค่ายทหารรอบนอกของหมู่ดาวเพอร์ซูส”
“ดาวสายรุ้ง” หานปิงหนิงตาเป็นประกาย “คุณเชียนฮุ่ยก็อยู่ที่ดาวสายรุ้ง”
“อ๋า, ค่ายทหารรอบนอกเหรอ? ถังพื้นฐานจะมีส่วนร่วมแน่นอน” อาโมรี่วางชาวข้าวลง
“เขาไปตั้งนานแล้ว”ซือหม่าเซียงซานล้อเล่น
“ก็มีทางเป็นไปได้มาก” เหลียงชิวพูด “การบริหารจัดการในค่ายหละหลวมมาก ถังเทียนอาจจะทนไม่ได้เขาอาจไปหาเชียนฮุ่ยจนได้”
“อา..ข้าต้องการจะร่วมไปด้วย ข้าอยากไปดาวสายรุ้ง!” อาโมรี่ชูมือทั้งสอง “ฮ่าฮ่าข้าจะได้ซ้อมมือกับถังพื้นฐานอีกครั้ง ครั้งนี้ข้าจะต้องเอาชนะเจ้าบ้านั่นให้ได้ เขาจะได้เห็นว่าข้าก้าวหน้ามากเพียงไหน”
ไม่มีผู้ใดรู้สึกอึดอัด
พวกเขาทั้งสี่คนก้าวหน้าอย่างมาก ในบรรดาพวกชุดใหม่นี้ พวกเขาโดดเด่นและเพราะพวกเขา เด็กชุดใหม่นี้จึงสามารถสร้างชื่อเสียงด้วยตนเองในฐานะเด็กที่แข็งแกร่งที่สุดของหมู่ดาวเพอร์ซูส แต่ภายในสี่คนนี้ คนที่ก้าวหน้าไวที่สุดไม่ใช่ซือหม่าเซียงซาน,หานปิงหนิงหรือเหลียงชิว แต่เป็นอาโมรี่
เจ้าเด็กนี่ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว พวกทหารระดับสูงที่ดูแลการฝึกอบรมเด็กใหม่ยอมแหกกฎให้อาโมรี่และปฏิบัติกับเขาเป็นอย่างดี ซือหม่าเซียงซานและคนอื่นๆ รู้สึกอิจฉาเขา อาโมรี่กลายเป็นจุดศูนย์กลางความสนใจและก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าเขาจะได้ซ้อมมือกับเหลียงชิวอย่างเป็นทางการ เหลียงชิวก็ยังสูญเสียความมั่นใจว่าจะเอาชนะเขาได้
บรรดาคนทั้งสี่อาโมรี่ถูกมองว่าเป็นผู้สามารถเอาชนะถังเทียนได้
พวกเขาทุกคนรู้เห็นถึงร่างกายที่ไม่ธรรมดาและผิดจากเหตุผลของถังเทียน แม้ว่าความก้าวหน้าของพวกเขาจะเห็นได้ชัด แต่ถังเทียนมีความคิดผิดธรรมดา ไม่มีใครเชื่อว่าความก้าวหน้าของเขาจะด้อยไปกว่าพวกเขา เงื่อนไขของถังเทียนอาจจะด้อยกว่าพวกเขาก็จริง แต่ถังเทียนเคยมีเงื่อนไขสถานการณ์เหมือนกับพวกเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
นี่คือสภาพที่ไม่ธรรมดาของเขาอย่างแท้จริง
เพื่อให้ได้พบถังเทียนที่ดาวสายรุ้งทุกคนมีแรงบันดาลใจต้องการเดินทางไปยังดาวสายรุ้งให้ได้สักครา
ทุกคนก็อยากรู้
ถังเทียนจะแข็งแกร่งขึ้นมากขนาดไหน เมื่อพวกเขาได้พบกันอีก?
※※※※※※※※
ถังเทียนมองดูปิงรื้ออุปกรณ์ฝึกพลังวิญญาณออกมา
อุปกรณ์ฝึกพลังวิญญาณเป็นจานโลหะบรอนซ์ขนาดสิบเซนติเมตร บนจานแผ่นมีลายดอกไม้ซับซ้อนปิงเดินวนไปมารอบๆ อีกครั้ง ก่อนที่เขาจะพบพื้นที่ซึ่งพลังงานหนาแน่น เหมาะจะวางอุปกรณ์ฝึกพลังวิญญาณ
ทันทีที่เขาวางอุปกรณ์ฝึกพลังวิญญาณลงกับพื้น เขาสามารถได้ยินเสียงตบบีบอัดดังมาจากส่วนต่างๆของแผ่นจานบรอนซ์อย่างต่อเนื่อง จากนั้นมันยึดแน่นกับพื้น
ส่วนโลหะบรอนซ์เริ่มผุดออกมาเป็นชั้นๆ ไม่ยอมหยุด และในชั่วพริบตามันก็ขยายใหญ่อุปกรณ์ฝึกพลังวิญญาณขนาดเล็กเป็นเหมือนกุหลาบบรอนซ์ที่เบ่งบานเต็มที่
อุปกรณ์ฝึกจิตวิญญาณพลังยุทธซึ่งขยายขนาดใหญ่ขึ้นมาก เหมือนกับเป็นเวทีบรอนซ์เล็ก
ด้านบนของเวทีบรอนซ์ได้รับการตกแต่งด้วยลายดอกไม้รูปแบบต่างๆนับไม่ถ้วน ระหว่างลวดลายดอกไม้มีแสงเรืองรองเล็กน้อย
“ขึ้นไปยืนบนนั้น”ปิงบอกถังเทียน
“ได้เลย”ถังเทียนรีบขึ้นไปยืนบนเวทีบรอนซ์
“พร้อมหรือยัง?” ปิงมองดูถังเทียนและถามอย่างจริงจัง“มันเป็นกระบวนการฝึกจิตวิญญาณที่เจ็บปวดมาก แต่ไม่ว่าจะยากขนาดไหนเจ้าก็ต้องทนรับไว้ให้ได้!”
“เข้าใจแล้ว”ถังเทียนยิ้ม ขณะที่เขาพูดเบาๆ
“เจ้าต้องจำไว้ให้ดี” ปิงเน้นทีละคำ “ความสำเร็จของเจ้าจะขึ้นอยู่กับว่าเจ้าสามารถทนทุกข์ทรมานได้มากแค่ไหน”
“อย่าห่วงเลยลุง,ข้าคือหนุ่มน้อยชาวฟ้าอยู่แล้ว” ถังเทียนพูดโดยไม่คิดอะไรมาก “ข้ามีชะตาต้องกลายเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก”
“อย่างนั้นเจ้าจะต้อทนทุกข์ทรมานที่คนอื่นมิอาจทนได้” ปิงกล่าว
ถังเทียนยิ้มจนเห็นฟันสดใส “เริ่มได้เลย”เขายืนอยู่บนแท่นอุปกรณ์ฝึกพลังจิตวิญญาณ และมันส่องแสงสว่างขึ้นอย่างรวดเร็ว