ตอนที่ 84 คู่แค้นหนทางแคบ
เมื่อเซรีนรู้ว่าเป็นอาวุธเครื่องกลของคลังอาวุธทั้งหมด ถึงกับหมดความรู้สึกไปชั่วขณะ แต่เมื่อเธอรู้สึกตัวในที่สุดอารมณ์ความรู้สึกดูเหมือนจะถูกอาวุธเครื่องกลดึงดูดไปหมดแล้ว และไม่ว่าถังเทียนจะพูดอะไร เหมือนกับว่าเธอไม่ได้ยินสักอย่างปากของเธอพึมพำๆ เหมือนกับคนไร้สติ
“ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าแม้แต่ผู้หญิงคนนี้ที่ปกติจะใจเย็นสงบ มีความรู้เรื่องจักรกล เธอจะหมกมุ่นจริงๆ ขนาดนี้” ถังเทียนเหลือบมองมาทางปิง “นึกไม่ถึงเลยว่าลุงก็เจ้าเล่ห์ไม่เบา”
“เออ, ข้าเรียนรู้มาจากคนอื่น”ปิงนึกถึงเมื่อครั้งที่เขาเพิ่งเข้าร่วมกับกองทัพ หัวใจของเขามีประกายอบอุ่นวูบหนึ่ง เพราะเป็นวิธีที่เขาเคยถูกโกงเมื่อตอนเข้ากองทัพครั้งแรกนานมาแล้ว
“ดูเหมือนคนรอบๆ ลุงในอดีตจะไม่ใช่คนดีเลยนะ”ถังเทียนแสยะยิ้ม
“ถูกต้องที่สุด” ปิงทำท่าขบกราม“ตัวบัดซบทั้งกลุ่มรู้จักแต่วิธีกินและดื่มและเล่นสนุก ใครจะสนเรื่องงานที่เหมาะสมเล่าเจ้าพวกตัวแสบเจ้าเล่ห์นั้นอาจขายเจ้าได้ทุกเวลา เจ้าพวกงี่เง่าพวกนั้นใช้เวลาทั้งคืนปิ้งเนื้อจนกระทั่งควันฟุ้งไปทั้งกองทัพ”
ถังเทียนฟังนัยน์ตาเบิกกว้างและด้วยสีหน้าเห็นอกเห็นใจ “ลุง! ที่ลุงเอาตัวรอดผ่านสภาพที่เลวร้ายและน่ารังเกียจเช่นนั้นมาได้นับว่าไม่ง่ายเลย”
“ฮึ่ม..” ปิงคำราม “เอาของทิ้งไว้ให้เธอ และเราไปกันได้แล้ว”
“ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม ถ้าปล่อยของไว้ที่นี่ตามลำพัง?” ถังเทียนลังเล
“สบายใจได้ สถานที่นี้ปลอดภัย” เมื่อเห็นว่าเซรีนมีแนวโน้มรักชอบอาวุธเครื่องกลมากแค่ไหนปิงกล่าวว่า “อาการโรคทางจิตชนิดนี้ ทันทีที่พวกเขาได้สัมผัสของที่พวกเขาชอบ ตาของพวกเขาจะไม่มองอะไรอย่างอื่น”
“โอว” ถังเทียนเห็นด้วย หลังจากนั้นเขาจึงรู้สึกตื่นเต้น “ลุง! การปรับปรุงที่เธอพูดถึงนั้น จะทำได้สำเร็จหรือเปล่า?”
“ข้าเองไม่มั่นใจนัก”ปิงส่ายหน้าอย่างตรงไปตรงมา “ของอย่างนี้ใครจะรับประกันความสำเร็จได้? แต่เธอมีพรสวรรค์และความทุ่มเทมากมายและเราต้องการช่างเครื่องกลผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง นั่นก็น่าลองดู”
“อย่างนั้นเราจะเห็นในอีกไม่กี่วัน” ถังเทียนกล่าว“เราจะกลับไปทดสอบผลของอุปกรณ์ทดสอบพลังวิญญาณว่าเป็นเช่นไรด้วย”
ถังเทียนมีสีหน้าพึงพอใจตามปกติ นอกจากอุปกรณ์ฝึกพลังวิญญาณแล้วเขานำอาวุธจักรกลมาด้วยห้าชุด
พวกท่านมีขุนพลวิญญาณที่ทรงพลัง ข้ามีอาวุธจักรกลที่ทรงพลังเหมือนกัน
พวกเจ้ามีสมบัติดวงดาวที่ทรงพลัง ข้าก็มีอาวุธจักรกลที่ทรงพลัง
ถังเทียนปรารถนาว่าเขาสามารถหยุดใครสักคนและท้าสู้อย่างมีความสุขสักครา
ปิงไม่ได้ห้ามเขา ในสายตาเขา ถังเทียนตอนนี้มีทัศนคติอย่างทหารใหม่ เพื่อรับมือกับทหารใหม่อย่างนี้เขามีประสบการณ์มากมาย และเมื่อถึงช่วงเวลากดดันหรือตำหนิว่ากล่าว ไม่เพียงแต่ทหารใหม่จะไม่เข้าใจแต่จะก่อให้เกิดสภาพจิตคัดค้านกระด้างกระเดื่องในพวกทหารใหม่ได้ วิธีที่ดีที่สุดก็คือปล่อยถังเทียนเจอของแข็งในช่วงสู้จริงด้วยตนเอง
บุรุษหนุ่มมักจะห้าวเสมอ
ปิงเริ่มเตรียมตัวในใจแล้วที่จะหาคู่ต่อสู้ที่โดดเด่นและเหมาะสมให้ถังเทียน เป็นที่น่าเสียดายที่เขาเหลือเพียงผู้เดียวอยู่ในกองทัพ ถ้าไม่อย่างนั้นพวกบ้าทุกคนที่อยู่ในกองทัพ เขาสามารถดึงพวกเขาออกมาสู้ ทีละคนๆเพื่อให้พวกเขาสามารถสั่งสอนให้บทเรียนถังเทียนด้วยตัวพวกเขาเอง
แต่ปิงเป็นผู้แปลกหน้ามากในโลกยุคปัจจุบัน
แต่ปิงมีไหวพริบและไม่ห้าวไม่มีแม้แต่จะกระพริบตา
ฐานทัพกลับมีชีวิตชีวาอีกครั้งด้วยการทำงานที่แข็งขันหลายอย่าง ทำให้ถังเทียนประหลาดใจ ภายใต้การควบคุมของถังเทียน ฐานใต้ดินก็ทำงานได้สมบูรณ์และทางเข้าได้หายไป เพื่อป้องกันไม่ให้คนขุดทางเข้าออกมา ฐานทัพที่อยู่ใต้ดินได้เคลื่อนย้ายไปอีกห้าร้อยเมตรเพียงชั่วข้ามคืน ซากปรักพังก็หายไปทันที ปล่อยให้ผู้คนหลายคนประหลาดใจ ในที่สุดก็ไม่มีใครใส่ใจอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะมีของหลายอย่างที่ขุดออกมาได้จากซากหักพังก็ตาม แต่ก็เป็นของที่ไม่มีค่ามาก เมืองสามวิญญาณเป็นเมืองค่อนข้างอ้างว้างในภูมิภาควิญญาณ มียอดฝีมืออยู่น้อยมากและก็ถูกลืมไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อกลับมาที่เมืองสามวิญญาณทั้งสองเตรียมจะกลับไปฝึกที่ค่ายฝึกทหารใหม่ แม้ว่าจะเป็นส่วนของภูมิภาควิญญาณ แต่กระแสเวลาก็สัมพันธ์กับโลกด้านนอก ดังนั้นเวลาในค่ายทหารใหม่จึงมีค่ามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถังเทียนผู้รู้สึกว่า เขามีเวลาไม่พอและไม่อาจเสียเวลาได้อีกต่อไป
ทันใดนั้นตาของถังเทียนเป็นประกาย เพราะเหลือบไปเห็นร่างๆ หนึ่ง ฝีเท้าของเขาชะงักทันที
เมื่อสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงบนสีหน้าของถังเทียน ปิงมองตามสายตาเขาและหัวเราะ
ข่งโหย่วหลิน
เป็นข่งโหย่วหลินจริงๆ
ถังเทียนหัวเราะที่เขาเที่ยวไปทั่วโดยไม่ดูปลายทางแต่กลับมีคู่อริหนทางคับแคบจนได้ ถังเทียนไม่มีความประทับใจที่ดีกับข่งโหย่วหลิน แต่เขาไม่คาดว่า จะเป็นข่งโหย่วหลินจริงๆที่ส่งเขาไปสุสานใหญ่ของค่ายทหารชั้นนอก ข่งโหย่วหลินทะนงตัวและไม่จริงใจ แต่ถังเทียนก็ไม่สนใจแม้แต่น้อย คนอย่างเขามาทำอะไรในที่นั้น? แม้ว่าจะมีการติดต่ออะไรที่ละเอียดอ่อน แต่ความจริงก็คือเขาเตะโด่งเรามาที่แห่งนี้
ไม่ว่าจะเป็นความบาดหมางหรือความซาบซึ้งก็ตาม จะต้องคลี่คลายได้ด้วยหมัดของเขาเท่านั้น
“เราจะตามไป” ถังเทียนลดเสียง จากนั้นเขาย่อตัวลงและสะกดรอยตามข่งโหย่วหลินแต่ไกล
ปิงตามถังเทียนโดยไม่พูดสักคำใจของเขากำลังคิดว่า ข่งโหย่วหลินนับได้ว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่ดีพลังของเขานับว่าไม่เลว และปล่อยให้ถังเทียนได้วิ่งชนของแข็งสักครา ยิ่งเขาเดินไกลออกไปก็ยิ่งเป็นเส้นทางผิดผลาดทำไมไม่ปล่อยให้ถังเทียนได้คลุกฝุ่นสักครา
ด้วยความคิดเช่นนั้นปิงไม่ขัดขวางเขา แต่จะคอยแนะนำเขาอยู่ด้านนอก
“สายตาของเจ้าไม่ควรจะไปจับจ้องฝ่ายตรงข้าม ถ้าไม่อย่างนั้นจะดึงดูดความสนใจของคนอื่นได้ง่าย เคล็ดในการสะกดรอยตามคนก็คือต้องเชี่ยวชาญจากการมองด้วยหางตาเจ้าให้ได้ สายตาเจ้าก็ไม่ควรจับจ้องอยู่ที่ศัตรูอย่างเดียว แต่ก็ไม่ควรมองห่างเกินไปด้วย
ถังเทียนเรียนรู้อย่างรวดเร็วเขาตามดูจากระยะไกล ข่งโหย่วหลินคาดไม่ถึงว่าในเมืองสามวิญญาณ จะมีคนติดตามเขา
ในพริบตาข่งโหย่วหลินก็เข้าไปในบ้านที่มีลานบ้านหลังหนึ่ง
บ้านตรกูลหลิน
ถังเทียนเดินวนอยู่รอบนอกกำแพงอยู่หนึ่งรอบ บ้านหลินไม่คิดว่าจะมีคนกล้าพอบุกเข้ามาเนื่องจากไม่มียามเฝ้ามองอยู่ข้างนอกแม้แต่คนเดียว
ไม่มียามดูจากที่สูง,ไม่มียามเดินตรวจ ไม่มียามซุ่มดูและไม่มีเครื่องกลไก ไม่มีการวางมาตรการป้องกันอะไรเลย...
สายตามของปิงมองขึ้นและลงชั่วขณะถ้าเขาตกอยู่ในเงื้อมมือของคนพวกนั้น ถังเทียนคงถูกจับเข้าคุกมืดและปล่อยให้อดตายแน่
เอาละ, ใจเย็นไว้...เราเป็นครูฝึกเลือดเหล็กมาหลายปีแล้ว เราไม่เคยพลาดท่าจากวิชาชีพเลย....
“สถานที่ดีๆ อย่างนี้เข้ามาจากไหนกันนี่?”ถังเทียนหันหน้าไปถามปิงเบาๆ
ที่นี้...มีความแตกต่างยังไง...
ปิงข่มใจตนเองไม่ให้หงุดหงิดจนจิตใจสงบ “จากที่เห็นตรงนี้ก็ดูดี”
ถังเทียนได้ยินและไม่พูดอะไรต่อ เขาปีนขึ้นไปบนต้นไม้เหมือนเสือดาว ใบไม้บนต้นไม้นี้หนาแน่นเป็นพิเศษ ถังเทียนพรางตัวเองอยู่ภายในใบไม้เป็นเรื่องยากที่จะระบุหาตัวเขาได้ แม้แต่ถังเทียนก็รู้สึกว่าการป้องกันในบ้านตระกูลหลินนั้นอ่อนมาก ทำไมไม่มีใครตัดต้นไม้ที่ล้อมรอบรั้วตระกูลออกไป?หรือว่าพวกเขาพยายามจะให้โอกาสคนได้เข้าไป?
ภายในรั้วมีชั้นกระเบื้องกองพะเนินและอาคารสูงกินพื้นที่หลายไร่ ถังเทียนไม่เคยคิดว่าภายในรั้วจะมีอาคารมากมายเหมือนกับเป็นเมืองน้อยเมืองหนึ่ง
ถังเทียนตะลึงตระกูลหลินมีประวัติความเป็นมาเช่นไร?
ขณะที่ถังเทียนเตรียมจะโดดลงจากต้นไม้ ปิงตะโกนห้ามเขาโดยเร็ว “ระวัง! นี่คือกับดัก”
“กับดัก?” ถังเทียนสั่น
ปิงกระซิบ “ฮืม..แผนดูเหมือนโง่มาก ข้าเกลียดการวางแผนมากที่สุด การป้องกันทั้งหมดน่าจะเป็นการให้เกียรติเพื่อที่ว่าศัตรูจะได้พบว่ายากที่จะเดินหน้าผ่านไปได้ นับด้วยจำนวนฝีเท้าของเจ้า ก้าวไปทางซ้ายสิบเก้าก้าวและเข้าไปจากตรงนั้น”
ถังเทียนไม่ชักช้า เขากระโดดและทำตามคำแนะนำของปิงอย่างไม่ลังเลและพอพลิกตัวได้เขาก็พบว่าอยู่ในสถานที่ๆก่อด้วยอิฐเขียว
“เฮ้, ลุง, ลุงมองออกได้ยังไงนี่?”ถังเทียนถามด้วยความสงสัย
“มีความเคลื่อนไหวจากพลังวิญญาณตรงนั้น แม้ว่าจะอ่อน แต่ถ้าเจ้าวิเคราะห์อย่างระมัดระวังเจ้าจะสามารถรู้สึกได้” ปิงอธิบาย “ความจริงข้าไม่ถนัดเรื่องติดตั้งกับดัก ปกติ ช่างกลไกจะถนัดเรื่องนี้ก็อย่างที่บอกไว้ ความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดมากมายไม่พ้นไปจากจุดเริ่มต้นได้ มีกับดักอยู่เพียงไม่กี่รูปแบบ วิธีหลักตามปกติก็คือใช้แก่นพลังวิญญาณและการ์ดวิญญาณช่วย”
ถังเทียนหน้าแดงด้วยความอาย“แต่ข้าไม่รู้สึกอะไรเลย”
“ก็เจ้ายังเป็นมือใหม่” ปิงพูดตรงๆ
ถังเทียนไม่ปฏิเสธแต่อย่างใดเขารู้ว่าเขายังเป็นมือใหม่
ขณะที่เขาพลิกตัวข้ามรั้ว ถังเทียนลอบมาอยู่บนพื้นโดยไม่มีเสียง เขาก้าวไปข้างหน้าและแฝงตัวอยู่ในความมืดทันใดนั้น เขาวิ่งไปข้างหน้าโดยขายังแนบกับกำแพง
ถังเทียนรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้น
เทียบกับประสบการณ์ของเขาทั้งหมด ภารกิจนี้ไกลเกินกว่าที่เขาคาดไว้เสียอีก
ปิงจะแจ้งเขาให้ทราบว่าควรจะเคลื่อนไหวอย่างไร มาตรฐานของศัตรูคนนี้สูงมากภายใต้คำแนะนำของปิง ถังเทียนยังสามารถสังเกตเห็นความคงอยู่ของยามและหวีดเตือนภัยในความมืด
ถังเทียนไม่กังวล ตรงกันข้าม อันตรายที่รายล้อมอยู่รอบๆยิ่งทำให้เขามีสมาธิมากขึ้น
การกระทำและมาตรฐานของเขาฝืนขีดจำกัดตน
ปิงนั้นร่ำรวยประสบการณ์และประสาทแหลมคมอีกครั้งที่ถังเทียนเห็นข่งโหย่วหลิน เขารวบรวมพลังทั้งหมดขณะที่เตรียมเคลื่อนเข้าหาเขา จู่ๆ ปิงก็พูดว่า“เจ้าตั้งใจจะใช้ชุดเสือเขี้ยวดาบไม่ใช่เหรอ?”
“มันใหญ่มาก คนจะเห็นได้ไม่ใช่หรือ?” ถังเทียนสับสน
ปิงดุใส่“อย่าใช้สายตาเจ้ามาประเมิน ตอนนี้เจ้าจะถูกพบตัวได้ง่ายกว่าวิชาตัวเบาของเจ้ายังห่วยอยู่มาก และแต่ละก้าวๆ เจ้าก็ทำให้เกิดเสียงขณะที่ชุดเสือเขี้ยวดาบถึงแม้จะใหญ่ก็ตาม แต่มันสามารถเสริมวิชาตัวเบาของเจ้า ฉะนั้นเจ้าจะไม่ถูกตรวจพบได้ง่าย ยิ่งกว่านั้นชุดเสือเขี้ยวดาบได้รับการแก้ไขจากช่างกลมืออาชีพไปแล้ว จึงเหมาะใช้โจมตีที่สุด และด้วยการจู่โจมฉับพลันทันทีก็หมายความว่ามันสามารถปรากฏตัวอยู่รอบๆ ศัตรูของเจ้าก็ได้”
ถังเทียนดีใจเมื่อได้ยินสิ่งที่ปิงพูด จากนั้นเขารีบไปที่มุมลับตาและเรียกชุดเสือเขี้ยวดาบออกมา
เกราะเสือเขี้ยวดาบสวมใส่ง่ายถังเทียนมีประสบการณ์อยู่แล้วจึงสวมได้อย่างรวดเร็ว
ใบหน้าที่เหมือนภาพจากไพ่ของปิงบิดเบี้ยวเขายังพูดไม่ทันจบ ชุดเสือเขี้ยวดาบเคยใช้จู่โจมสายฟ้าแล่บมาหลายครั้งแล้ว แต่ยากจะเคลื่อนไหวตามลำพังได้ นอกจากนี้คนที่สามารถควบคุมมันได้ตามลำพังและใช้จู่โจมฉับพลันต้องเป็นยอดฝีมือจริงๆ
เจ้าหนูถัง,เจ้าจะพลาดท่าเพราะความคิดดันทุรังจนก่อให้เกิดความผิดพลาดกับตัวเองนี่แหละ
ถังเทียนไม่รู้ความตั้งใจของปิง เขาสวมเกราะเสือเขี้ยวดาบขณะที่ร่างของเขาสัมผัสผิวโลหะบรอนซ์ที่เยือกเย็น เขารู้สึกถึงบางอย่างไหลเวียนลึกในหัวใจมันเป็นเหมือนลาวาร้อนลุกโชนที่ไหลผ่านหัวใจของเขา
ความรู้สึกนี้ดีเหลือเกิน
ถังเทียนตื่นเต้นเล็กน้อยมันน่าทึ่งที่ได้ควบคุมเจ้าสิ่งใหญ่นี้เข้าต่อสู้
แกรก แครก
เสือเขี้ยวดาบที่ดูอำมหิตเคลื่อนไหวแขนและหน้าผากก่อนจะหยุดอย่างฉับพลันภาพลักษณ์ของเสือที่ดูเคร่งขรึมจริงจังทำให้มันเต็มไปด้วยรังสีสังหาร
ก็เป็นเหมือนกับยุคโบราณเมื่อมันตื่นขึ้น มันจะเข้าสู่มุมมืดเร้นลับและเป็นพื้นที่ล่าเหยื่อของมัน
*** ข่งโหย่วหลิน กับ ข่งต้าเริ่น (ท่านข่ง) คนเดียวกันนะครับ ****