ตอนที่ 83 สัญญาจิตวิญญาณพลังยุทธ
เมื่อกลับมายังรอยแยกพลังงานจิ่งหาวยังไม่กลับมา ดังนั้นถังเทียนพบมุมระยะไกลสำหรับให้ตัวเองฝึกฝนหยาหยาออกมาจากกระเป๋าของถังเทียน มันหันหัวน้อยๆ ตรวจตราไปรอบๆมันสงสัยบอลพลังงานรอบๆ ตัวมัน แต่หลังจากนั้นชั่วขณะมันก็ชอบบอลพลังงานทันที
ถังเทียนนั่งลงและเริ่มตรวจดูกล่องที่ปิงมอบให้เขา ภายในมีแต่กองขยะและแทบไม่มีของมีค่าอย่างอื่น มีการ์ดเงินระดับสี่ที่ใช้ได้อยู่สองสามใบขณะที่วิชาต่อสู้ของถังเทียนเป็นระดับสี่ จึงนับว่าพอมีค่าสำหรับถังเทียน แต่ของโปรดที่สุดของถังเทียนก็คือตู้เก็บอาวุธอควาเรียสระดับบรอนซ์
เมื่อเทียบกับตู้เก็บอาวุธควาเรียสชั้นเหล็กที่เขามีแล้วตู้อควาเรียสชั้นบรอนซ์ใหญ่กว่ามากนัก สามารถเก็บชุดเสือเขี้ยวดาบได้พลอ พอเห็นดังนั้น ถังเทียนเสียดายจนน้ำตาไหลนองหน้าทันที ทำไมเขาไม่พบตู้เก็บอาวุธอควาเรียสให้เร็วกว่านั้น...
แม้ว่าเครื่องกลบรอนซ์จะดูใหญ่โต แต่มันใช้กลไกพับจนกลายเป็นนกกระจอกเทศตัวน้อยได้ทั้งนี้เพราะนกกระจอกเทศกลบรอนซ์มีโครงสร้างอย่างง่าย จากตรงนี้ สามารถสรุปได้ว่าสำหรับตาของเครื่องกลของกองทัพดาวกางเขนใต้ ของง่ายๆ เหล่านี้เรียกว่าเครื่องจักรง่ายๆเท่านั้น ยังไม่มีคุณสมบัติพอใช้เป็นจักรกลได้
เกี่ยวกับโครงสร้างกลไกง่ายๆ สำหรับเครื่องกลของกองทัพดาวกางเขนใต้ ได้มีการวิจัยค้นคว้าอยู่ก่อนแล้วและมันมาถึงจุดที่พวกเขาสูญเสียความสนใจ เครื่องกลระดับต่ำนี้ไม่ได้ช่วยเหลือในการเพิ่มพลังมากนัก
ยิ่งอาวุธกลไกระดับสูงขึ้นไป ก็ยังมีโครงสร้างภายในที่ซับซ้อนเพื่อขยายพลังปราณเที่ยงแท้และเพิ่มพลังยุทธดังนั้นภายในจึงเป็นอีกระดับหนึ่ง
หลังจากนั้นสามวัน จิ่งหาวก็กลับมา ทั้งสองสนทนากันไม่มี่คำและจากนั้นก็เริ่มต่างคนต่างฝึก เพื่อหลีกเลี่ยงการดึงดูดพลังของกันและไม่ให้เกิดความผันผวนของพลังทั้งสองฝ่ายจึงฝึกอยู่ห่างกันมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ว่างกว้าง จึงทำให้ทั้งสองคนฝึกฝนพร้อมกันโดยไม่มีการรบกวนกัน
ในวันที่ห้า ถังเทียนเข้าไปเมืองสามวิญญาณตรงเวลา
ร้านขายการ์ดเซรีน
เมื่อเซรีนเห็นถังเทียนตาของเธอเป็นประกายทันที “ในที่สุดเจ้าก็มาถึงแล้ว ถ้าเจ้ามาฉุดให้ข้ายืนอีก เจ้าตายแน่”
ชุดที่เซรีนใส่แตกต่างจากปกติทุกวัน เธอสวมกางเกงยีนส์ขาสั้นเป็นพิเศษอวดขาขาวเรียวยาวเหมือนหิมะเสื้อเชิ้ตแขนสั้น ผมของเธอรวบมัดเป็นหางม้า มีท่าทีสดชื่นผ่อนคลายอย่างไม่อาจอธิบายได้ดูอ่อนเยาว์เป็นพิเศษ
โจรแพนด้าทั้งสามยืนเฝ้าหน้าประตูอย่างว่าง่าย เหมือนกับว่าเป็นพนักงานต้อนรับหน้าประตูมืออาชีพคอยยิ้มต้อนรับอย่างจริงใจ
สุภาพสตรีผู้นี้ทำอะไรกับโจรผู้น่าหวาดหวั่นและชั่วร้ายเหล่านี้กันแน่....
ถังเทียนรำพึงในใจ แต่ก็ออกปากถาม “อุปกรณ์ฝึกพลังจิตวิญญาณเสร็จแล้วหรือ?”
“เฮ้, มีสาวน้อยอัจฉริยะทำงานให้ จะมีปัญหาได้ยังไง?”หน้าเซรีนเต็มไปด้วยความภูมิใจ และพูดต่อ “ก็แค่เครื่องฝึกพลังจิตวิญญาณ ถ้าเจ้านำพิมพ์เขียวอาวุธจักรกลของกองทัพดาวกางเขนใต้มาให้ข้า ข้าก็สามารถผลิตมันออกมาได้”
พอได้ยินเช่นนั้น ถังเทียนหัวใจเต้นแรง และถามต่อ “อย่างนั้นเจ้าก็สามารถปรับปรุงพัฒนาอาวุธจักรกลได้หรือเปล่า?”
เซรีนอึ้งไปชั่วขณะ เธอคาดไม่ถึงว่าถังเทียนจะถามคำถามแบบนั้นจริงๆ จึงตอบว่า “ข้าต้องเห็นมันก่อนจึงจะบอกได้ อาวุธเครื่องกลเป็นเครื่องจักรของกองทัพดาวกางเขนใต้โอว..ยุคนั้นถูกยกย่องว่าเป็นยุคของช่างเครื่องกล ข้าชอบชื่อนั้นมากจริงๆ อาวุธเครื่องกลของกองทัพดาวกางเขนใต้ถูกสร้างมาด้วยกรรมวิธีทางวิศวกรรมที่สุดยอด ด้วยระบบที่มากมายและซับซ้อน ความจริงแม้แต่กรรมวิธีของวิศวกรรมยุคปัจจุบันก็ยังห่างไกลจากนั้น ข้ายังไม่เคยเห็นอาวุธจักรกลจริงๆ และความก้าวหน้าของมันมาก่อน”
“ถ้าข้าให้อาวุธเครื่องกลท่านดูชุดหนึ่ง เจ้าจะพัฒนามันได้ไหม?” ถังเทียนกดดันต่อไป
เซรีนค่อนข้างงงและเดาใจถังเทียนพลางล้อเล่นว่า “เจ้า.. อย่าบอกนะว่าเจ้ามีอาวุธจักรกลอยู่จริงๆ” แต่ไม่นานจากนั้นเธอก็ตระหนักว่าการล้อเลียนของเธอเป็นแค่เรื่องตลกจะเป็นไปได้ยังไงที่จะมีอาวุธจักรกลเก็บรักษามาถึงในยุคปัจจุบัน? เป็นไปไม่ได้! เธอส่ายศีรษะ แต่พอเห็นสีหน้าจริงจังของถังเทียนเธอกล่าวว่า “แม้ว่าข้าไม่เคยเห็นอาวุธจักรกลมาก่อน แต่ข้าก็รู้จักคนที่กำลังทดสอบมันในเรื่องนี้”
ปิงที่ไม่ได้ตั้งใจฟังแต่แรก จู่ๆก็แสดงความสนใจรับฟังทันที
ถังเทียนยิ่งหมกมุ่นมากกว่าเก่า
หน้าและดวงตาของเซรีนเป็นประกายผุดผ่องด้วยความภูมิใจ ใบหน้าที่เปี่ยมเสน่ห์ยิ้มเล็กน้อยและทำให้เธอดูงดงามมากขึ้น และแน่นอนเธอดูไม่เหมือนคนในท้องที่นั้น “อาวุธจักรกลของกองทัพดาวกางเขนใต้เดิมที่ถูกสร้างมาจากประวัติศาสตร์ที่รุ่งเรือง มีการขุดอาวุธจักรกลได้สองสามชิ้น แม้ว่าอาวุธเหล่านั้นจะไม่สามารถซ่อมแซมได้ แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นอาวุธจักรกลนั้นกลับมาทำงานได้ในสภาพสมบูรณ์ มีช่างเครื่องกลมากมายผู้ทำการค้นคว้า ปัจจุบันนี้มีมุมมองหลักเพิ่มเติมขึ้นมาก็คืออาวุธจักรกลนั้นพัฒนามาจนถึงจุดสุดยอดของคุณลักษณะของอสูรร้ายและนั่นเป็นจุดแข็งที่สุด แต่มันก็ยังมีจุดอ่อน นั่นคือมันไม่มีจิตวิญญาณพลังยุทธ”
ร่างของปิงสั่น ขณะที่เขาพึมพำกับตัวเอง “ไม่มีจิตวิญญาณพลังยุทธ...”
“ถูกแล้ว” เมื่อสัมผัสได้ถึงเรื่องนั้นโดยเฉพาะเซรีนมีสีหน้าจริงจังยิ่งขึ้น “ไม่ว่ามันจะทรงพลังมากขนาดไหนก็ตาม มันก็ยังเป็นวัตถุที่ไม่มีชีวิตและนั่นคือเหตุผลเดียวที่มันล้มเหลว ทำไมมันถึงถูกสมบัติดวงดาวแย่งตำแหน่งไปได้ ก็คงเป็นเพราะเรื่องนี้ สมบัติดวงดาวมีจิตวิญญาณพลังยุทธ มีพื้นที่ให้เติบโต มีระยะของการเสริมพลังพวกมันฉลาดกว่าและสามารถร่วมกับนักสู้ได้ ทุกคนรู้ ยิ่งเป็นนักสู้ที่มีระดับสูงจิตวิญญาณพลังยุทธก็ยิ่งมีความสำคัญยิ่งกว่าปราณเที่ยงแท้ และนั่นก็คือเหตุผล อาวุธจักรกลสามารถขยายพลังปราณเที่ยงแท้ได้ แต่พวกมันไม่มีวิญญาณพลังยุทธ บางทีสมบัติดวงดาวอาจจะไม่ทรงพลังมากนักในตอนแรกเริ่ม แต่ตราบใดที่เจ้ายังค้นพบศักยภาพพวกมันเรื่อยไป พวกมันอาจเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นก็ได้”
“จิตวิญญาณพลังยุทธ.. นั่นสินะ ทำไมข้าไม่คิดถึงเรื่องนั้น...”ปิงงงและพูดกับตนเอง
ถังเทียนไม่เหมือนปิงที่มีความรู้สึกที่หลากหลายเกิดขึ้นมากมายในใจเขาเขาห่วงปัญหาอื่นมากกว่า “อย่างนั้นเราจะพัฒนาตรงนี้ได้ยังไง?”
“ก็ให้จิตวิญญาณพลังยุทธอื่นกับมันสิ” เซรีนพูดสื่อความทำนองว่า เจ้าช่างโง่เง่า
“เพิ่มจิตวิญญาณพลังยุทธลงไป...” ถังเทียนมองเหม่อ
“หน้าโง่” เซรีนลูบคางของเธอ มองดูเหมือนผู้เชี่ยวชาญ “มีหมู่ดาวมากมายในสวรรค์วิถีที่ตอนนี้เทียบกับอดีตที่ผ่านแล้วสมบัติดวงดาวของพวกเขามีมากกว่าในอดีต พอเสริมจิตวิญญาณพลังยุทธลงไปมันจึงสมบูรณ์แบบ อาวุธเครื่องกลถือว่ามีพื้นฐานรูปร่างที่ดี ขณะที่สมบัติดวงดาวถูกมองว่าเป็นมันสมองที่ดี ถ้าประกอบทั้งสองเข้าด้วยกัน จะทำให้ทรงพลังมาก”
ถังเทียนทุบหมัดลงกับพื้น และขณะตรองดูก็รู้ตามได้ เขามีความสุข “นั่นสินะ, เป็นความคิดที่ดี ความคิดเยี่ยม”
ยิ่งคุย เซรีนก็ยิ่งเชิดหน้าขึ้นฟ้าทุกที
ถังเทียนเห็นด้วยและรู้สึกว่าไม่ว่าเซรีนจะพูดอะไรก็ตามล้วนแต่มีเหตุผลทั้งนั้น
ปิงเพิ่งรู้สึกตัวจากอาการตะลึงและพูดว่า “เป็นความคิดที่ดีจริงๆ แต่จะบรรลุผลหรือไม่ นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง”
เซรีนประหลาดใจกับท่าทีจริงจังของปิง เธอเล่นบิดมือไปมาและพูดเบาๆต่อ “ก็อย่างที่พูด บอกตามตรงข้าไม่เคยเห็นอาวุธจักรกลมาก่อน” ทันใดนั้นตาของเธอเป็นประกายวิ่งเข้ามาหาถังเทียนย่อเอวลงและพร้อมกับใบหน้าที่ร้อนผ่าว “หนุ่มน้อยชาวฟ้าบอกมา..เจ้าสนใจเรื่องนี้ด้วยใช่ไหม? นั่นเยี่ยมเลย! ตราบใดที่เจ้าเป็นผู้สนับสนุนข้า และตราบที่มีเงินสนับสนุนเพียงพอ ข้ามั่นใจว่าจะสร้างมันได้สำเร็จ เอาไงดี? ข้ามีนิสัยสนใจเรื่องเครื่องกลมากอยู่แล้ว และผลงานก็สามารถให้เจ้าเอาไปใช้ได้ด้วย โอว, ข้าสามารถสร้างอาวุธจักรกลให้เจ้าชิ้นหนึ่งได้ด้วยนะ”
เธอประสานกำมือทั้งสองแนบอกสูดหายใจเพื่อให้อกดูขยาย ทำท่าหน้าตาให้น่าเอ็นดู พร้อมกับชม้ายตาและขายความสามารถตนเองต่อ “ข้ารู้วิชาเครื่องกล สามารถเป็นเพื่อนนอนได้นะมาตรฐานกุลสตรีขนาดนี้ เจ้าจะไปหาได้จากไหน? แค่เจ้าสามารถออกทุนแค่ 200,000 เหรียญดาวเป็นทุนสนับสนุน เจ้าก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้ข้าเยอะแล้ว..”
ภายใต้แรงกดดันของเซรีนที่โน้มตัวเข้าหา ถังเทียนถอยกรูดอย่างรวดเร็ว หน้าของเขาเต็มไปด้วยความกลัว กล้ามเนื้อทุกส่วนเกร็งเต็มที่ขาของเขาพร้อมถอยหนีได้ตลอดเวลา
“เราตัดสินใจสนับสนุนเจ้า”
ปิงพูดทันที
เซรีนและถังเทียนทั้งคู่เหม่อมองเขา
“ลุง, เราไม่มีเงินมากนักนะ” ถังเทียนเตือนเขา แม้ว่าพวกเขาจะหนีจากสภาพยากจนแต่ก่อนมาได้ แต่ 200,000เหรียญดาวเป็นจำนวนมหาศาลเกินไป เซรีนพูดถึงเหรียญดาว ไม่ใช่สกุลเงินอย่างอื่น เหรียญดาวคือสกุลเงินที่ใช้ในสวรรค์วิถีมันมีค่าเท่ากับหินดวงดาว แน่นอนนั่นเป็นสกุลเงินที่แข็งมาก
ทรัพย์สินที่มีค่าทั้งหมดบนตัวถังเทียน ก็มีการ์ดชั้นเงินทั้งหมดบวกกับสมบัติดวงดาว ทั้งหมดรวมกันเป็นไปได้ที่จะเพิ่มสูงถึง200,000 เหรียญดาว
เซรีนมองดูปิงอย่างสงสัย เนื่องจากเธอเพิ่งตระหนักว่าปิงแตกต่างจากขุนพลวิญญาณคนอื่น
“เราสามารถขายอาวุธจักรกลได้” ปิงพูดเย็นชา
“นั่นก็เป็นแนวคิดยอย่างหนึ่ง” ถังเทียนผงกศีรษะ
“อะไรนะ” เซรีนตะลึง ทันใดนั้นเธอเขามามองถังเทียนด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ “เจ้ามีอาวุธจักรกลด้วยเหรอ?”
“ถูกแล้ว” ถังเทียนพยักหน้า
เมื่อเขาพูดจบ เซรีนปราดเข้าหาเขาเหมือนลูกธนู จับถังเทียนทำให้เขาตกใจ ปฏิกิริยาเขารวดเร็ว ขณะที่เขาสับขารวดเร็วราวฟ้าแล่บก็ถอยออกไปสองสามก้าวและเพิ่มระยะห่างระหว่างพวกเขาอีกครั้ง
เธอวางแผนอะไรบางอย่างหรือ?
ถังเทียนมองดูเซรีนด้วยความรู้สึกกลัว
เซรีนดูเหมือนจะตื่นจากภวังค์ เธอขยี้เท้า แต่กล่าวอย่างกังวลว่า “อย่าขาย,อย่าขายพวกมัน ตราบใดที่พวกเจ้าให้อาวุธเครื่องกลแก่ข้าไว้ค้นคว้า ข้าจะคิดว่านั่นคือการสนับสนุน ข้าจะนึกหาวิธีหาทุนของข้าเอง”
ความสนใจครอบครองอาวุธจักรกล ทำให้เซรีนยอมตายเพื่อมันได้
เมื่อเห็นความกระตือรือร้นของเซรีนและใบหน้าของเธอที่ไม่สงบเหมือนอย่างปกติ และสูญเสียความเยือกเย็นถังเทียนอดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ แม้ว่าเซรีนจะร้ายในบางเรื่องแต่ความรักในเรื่องเครื่องกลไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น ความรักชนิดนี้ฝังอยู่ในหัวใจกระดูกและวิญญาณทำให้ถังเทียนตื่นเต้น เขาต้องการพูด แต่ปิงชิงพูดก่อน
“เราค่อยพูดเรื่องปัญหาเกี่ยวกับเงินเวลาอื่นก็แล้วกัน”ปิงพูดอย่างใจเย็น “เราจะให้อาวุธจักรกลเจ้าไว้ศึกษา แต่เจ้าต้องลงนามสัญญาวิญญาณพลังยุทธกับเรา”
“สัญญาวิญญาณพลังยุทธ?” เซรีนสงบลงได้ชั่วขณะ ทันทีที่สัญญาวิญญาณพลังยุทธได้รับการลงนาม ก็จะทิ้งรอยประทับของจิตวิญญาณพลังยุทธไว้ทำให้ผู้นั้นไม่สามารถละเมิดข้อตกลงได้ พอพูดมาเพียงเท่านี้เซรีนรู้ทันทีว่าพวกเขามีเบื้องหลังที่พิเศษเนื่องจากคนธรรมดาไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน
หน้าของเซรีนเปลี่ยนไปอีกครั้ง ขณะที่เธอลังเล แม้ว่าเธอต้องการจะศึกษาอาวุธจักรกลเป็นอย่างยิ่งแต่เมื่อลงนามสัญญาจิตวิญญาณพลังยุทธ มันก็คือการขายตัวเธอนั่นเอง
หน้าของปิงสงบ และรอการตัดสินใจของเซรีน
“ข้าจะลงนามกับใคร?” เซรีนถามทันที
ปิงชี้มาที่ถังเทียน “กับเขา”
ความกังวลในดวงตาของเซรีนหายไป เธอผ่อนลมหายใจ ปิงผู้ที่เธอมองไม่เห็นความคิดเนื่องจากความลึกซึ้งและลึกลับของเขาทำให้เธอกังวล แต่ถ้าเป็นเด็กดื้อถังเทียนนั่นทำให้เธอสบายใจกว่ามากนัก
“ดี! ข้าจะลงชื่อก็ได้” เซรีนตัดสินใจในชั่วขณะ เธอตรงไปตรงมาไม่เฉไฉนอกทาง
สัญญาจิตวิญญาณพลังยุทธคืออะไร? ถังเทียนไม่เคยได้ยินมาก่อน เขาทำตามคำขอร้องของปิงอย่างง่ายดาย ขณะที่เซรีนกำลังฉลองยินดีในใจ เพราะเจ้าเด็กนี่จะชำนาญในสัญญาจิตวิญญาณพลังยุทธ เขามีประวัติแบบไหนกัน? มีแต่พวกประเภทที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีตระกูลซึ่งมีอิทธิพลหนุนหลังเท่านั้น
หลังจากความยากลำบากเปลี่ยนไปพลิกมาจนสำเร็จได้เซรีนถามอย่างร้อนรน “รีบๆเอาอาวุธกลมาให้ข้าดูได้แล้ว พวกเจ้าทั้งสองคนไปพบชุดเครื่องกลที่ไหนเหรอ?”
“ชุดเครื่องกลเหรอ?” ถังเทียนส่ายศีรษะ “เรามีมากกว่าชุดหนึ่งเสียอีก”
“อย่าบอกข้านะว่ามีสองชุด?” นัยน์ตาของเซรีนเป็นประกายและสะดุ้งทันที
“ไม่” ถังเทียนส่ายศีรษะ
“โอว, พระเจ้า! เจ้าไปพบมาสามชุดแล้ว..” เซรีนขึ้นเสียงสูง เธอตื่นเต้นจนแทบเป็นลม
ถังเทียนยังคงส่ายหน้าต่อไป เขายิ้มจนเห็นฟัน “ก็ราวๆคลังอาวุธกาองทัพหนึ่ง”
สีหน้าของเซรีนชะงักค้าง....