ตอนที่แล้วตอนที่ 82 เป้าหมายใหม่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 84 คู่แค้นหนทางแคบ

ตอนที่ 83 สัญญาจิตวิญญาณพลังยุทธ


เมื่อกลับมายังรอยแยกพลังงานจิ่งหาวยังไม่กลับมา ดังนั้นถังเทียนพบมุมระยะไกลสำหรับให้ตัวเองฝึกฝนหยาหยาออกมาจากกระเป๋าของถังเทียน มันหันหัวน้อยๆ ตรวจตราไปรอบๆมันสงสัยบอลพลังงานรอบๆ ตัวมัน แต่หลังจากนั้นชั่วขณะมันก็ชอบบอลพลังงานทันที

ถังเทียนนั่งลงและเริ่มตรวจดูกล่องที่ปิงมอบให้เขา  ภายในมีแต่กองขยะและแทบไม่มีของมีค่าอย่างอื่น  มีการ์ดเงินระดับสี่ที่ใช้ได้อยู่สองสามใบขณะที่วิชาต่อสู้ของถังเทียนเป็นระดับสี่ จึงนับว่าพอมีค่าสำหรับถังเทียน  แต่ของโปรดที่สุดของถังเทียนก็คือตู้เก็บอาวุธอควาเรียสระดับบรอนซ์

เมื่อเทียบกับตู้เก็บอาวุธควาเรียสชั้นเหล็กที่เขามีแล้วตู้อควาเรียสชั้นบรอนซ์ใหญ่กว่ามากนัก สามารถเก็บชุดเสือเขี้ยวดาบได้พลอ พอเห็นดังนั้น ถังเทียนเสียดายจนน้ำตาไหลนองหน้าทันที ทำไมเขาไม่พบตู้เก็บอาวุธอควาเรียสให้เร็วกว่านั้น...

แม้ว่าเครื่องกลบรอนซ์จะดูใหญ่โต แต่มันใช้กลไกพับจนกลายเป็นนกกระจอกเทศตัวน้อยได้ทั้งนี้เพราะนกกระจอกเทศกลบรอนซ์มีโครงสร้างอย่างง่าย  จากตรงนี้ สามารถสรุปได้ว่าสำหรับตาของเครื่องกลของกองทัพดาวกางเขนใต้ ของง่ายๆ เหล่านี้เรียกว่าเครื่องจักรง่ายๆเท่านั้น  ยังไม่มีคุณสมบัติพอใช้เป็นจักรกลได้

เกี่ยวกับโครงสร้างกลไกง่ายๆ สำหรับเครื่องกลของกองทัพดาวกางเขนใต้ ได้มีการวิจัยค้นคว้าอยู่ก่อนแล้วและมันมาถึงจุดที่พวกเขาสูญเสียความสนใจ เครื่องกลระดับต่ำนี้ไม่ได้ช่วยเหลือในการเพิ่มพลังมากนัก

ยิ่งอาวุธกลไกระดับสูงขึ้นไป ก็ยังมีโครงสร้างภายในที่ซับซ้อนเพื่อขยายพลังปราณเที่ยงแท้และเพิ่มพลังยุทธดังนั้นภายในจึงเป็นอีกระดับหนึ่ง

หลังจากนั้นสามวัน จิ่งหาวก็กลับมา ทั้งสองสนทนากันไม่มี่คำและจากนั้นก็เริ่มต่างคนต่างฝึก เพื่อหลีกเลี่ยงการดึงดูดพลังของกันและไม่ให้เกิดความผันผวนของพลังทั้งสองฝ่ายจึงฝึกอยู่ห่างกันมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ว่างกว้าง  จึงทำให้ทั้งสองคนฝึกฝนพร้อมกันโดยไม่มีการรบกวนกัน

ในวันที่ห้า ถังเทียนเข้าไปเมืองสามวิญญาณตรงเวลา

ร้านขายการ์ดเซรีน

เมื่อเซรีนเห็นถังเทียนตาของเธอเป็นประกายทันที  “ในที่สุดเจ้าก็มาถึงแล้ว  ถ้าเจ้ามาฉุดให้ข้ายืนอีก เจ้าตายแน่”

ชุดที่เซรีนใส่แตกต่างจากปกติทุกวัน เธอสวมกางเกงยีนส์ขาสั้นเป็นพิเศษอวดขาขาวเรียวยาวเหมือนหิมะเสื้อเชิ้ตแขนสั้น ผมของเธอรวบมัดเป็นหางม้า มีท่าทีสดชื่นผ่อนคลายอย่างไม่อาจอธิบายได้ดูอ่อนเยาว์เป็นพิเศษ

โจรแพนด้าทั้งสามยืนเฝ้าหน้าประตูอย่างว่าง่าย  เหมือนกับว่าเป็นพนักงานต้อนรับหน้าประตูมืออาชีพคอยยิ้มต้อนรับอย่างจริงใจ

สุภาพสตรีผู้นี้ทำอะไรกับโจรผู้น่าหวาดหวั่นและชั่วร้ายเหล่านี้กันแน่....

ถังเทียนรำพึงในใจ แต่ก็ออกปากถาม “อุปกรณ์ฝึกพลังจิตวิญญาณเสร็จแล้วหรือ?”

“เฮ้, มีสาวน้อยอัจฉริยะทำงานให้ จะมีปัญหาได้ยังไง?”หน้าเซรีนเต็มไปด้วยความภูมิใจ และพูดต่อ “ก็แค่เครื่องฝึกพลังจิตวิญญาณ  ถ้าเจ้านำพิมพ์เขียวอาวุธจักรกลของกองทัพดาวกางเขนใต้มาให้ข้า  ข้าก็สามารถผลิตมันออกมาได้”

พอได้ยินเช่นนั้น ถังเทียนหัวใจเต้นแรง และถามต่อ “อย่างนั้นเจ้าก็สามารถปรับปรุงพัฒนาอาวุธจักรกลได้หรือเปล่า?”

เซรีนอึ้งไปชั่วขณะ เธอคาดไม่ถึงว่าถังเทียนจะถามคำถามแบบนั้นจริงๆ จึงตอบว่า “ข้าต้องเห็นมันก่อนจึงจะบอกได้ อาวุธเครื่องกลเป็นเครื่องจักรของกองทัพดาวกางเขนใต้โอว..ยุคนั้นถูกยกย่องว่าเป็นยุคของช่างเครื่องกล ข้าชอบชื่อนั้นมากจริงๆ  อาวุธเครื่องกลของกองทัพดาวกางเขนใต้ถูกสร้างมาด้วยกรรมวิธีทางวิศวกรรมที่สุดยอด  ด้วยระบบที่มากมายและซับซ้อน ความจริงแม้แต่กรรมวิธีของวิศวกรรมยุคปัจจุบันก็ยังห่างไกลจากนั้น  ข้ายังไม่เคยเห็นอาวุธจักรกลจริงๆ และความก้าวหน้าของมันมาก่อน”

“ถ้าข้าให้อาวุธเครื่องกลท่านดูชุดหนึ่ง เจ้าจะพัฒนามันได้ไหม?” ถังเทียนกดดันต่อไป

เซรีนค่อนข้างงงและเดาใจถังเทียนพลางล้อเล่นว่า “เจ้า.. อย่าบอกนะว่าเจ้ามีอาวุธจักรกลอยู่จริงๆ”   แต่ไม่นานจากนั้นเธอก็ตระหนักว่าการล้อเลียนของเธอเป็นแค่เรื่องตลกจะเป็นไปได้ยังไงที่จะมีอาวุธจักรกลเก็บรักษามาถึงในยุคปัจจุบัน?  เป็นไปไม่ได้!  เธอส่ายศีรษะ แต่พอเห็นสีหน้าจริงจังของถังเทียนเธอกล่าวว่า “แม้ว่าข้าไม่เคยเห็นอาวุธจักรกลมาก่อน  แต่ข้าก็รู้จักคนที่กำลังทดสอบมันในเรื่องนี้”

ปิงที่ไม่ได้ตั้งใจฟังแต่แรก  จู่ๆก็แสดงความสนใจรับฟังทันที

ถังเทียนยิ่งหมกมุ่นมากกว่าเก่า

หน้าและดวงตาของเซรีนเป็นประกายผุดผ่องด้วยความภูมิใจ ใบหน้าที่เปี่ยมเสน่ห์ยิ้มเล็กน้อยและทำให้เธอดูงดงามมากขึ้น  และแน่นอนเธอดูไม่เหมือนคนในท้องที่นั้น  “อาวุธจักรกลของกองทัพดาวกางเขนใต้เดิมที่ถูกสร้างมาจากประวัติศาสตร์ที่รุ่งเรือง  มีการขุดอาวุธจักรกลได้สองสามชิ้น  แม้ว่าอาวุธเหล่านั้นจะไม่สามารถซ่อมแซมได้ แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นอาวุธจักรกลนั้นกลับมาทำงานได้ในสภาพสมบูรณ์  มีช่างเครื่องกลมากมายผู้ทำการค้นคว้า  ปัจจุบันนี้มีมุมมองหลักเพิ่มเติมขึ้นมาก็คืออาวุธจักรกลนั้นพัฒนามาจนถึงจุดสุดยอดของคุณลักษณะของอสูรร้ายและนั่นเป็นจุดแข็งที่สุด แต่มันก็ยังมีจุดอ่อน นั่นคือมันไม่มีจิตวิญญาณพลังยุทธ”

ร่างของปิงสั่น ขณะที่เขาพึมพำกับตัวเอง “ไม่มีจิตวิญญาณพลังยุทธ...”

“ถูกแล้ว” เมื่อสัมผัสได้ถึงเรื่องนั้นโดยเฉพาะเซรีนมีสีหน้าจริงจังยิ่งขึ้น  “ไม่ว่ามันจะทรงพลังมากขนาดไหนก็ตาม  มันก็ยังเป็นวัตถุที่ไม่มีชีวิตและนั่นคือเหตุผลเดียวที่มันล้มเหลว ทำไมมันถึงถูกสมบัติดวงดาวแย่งตำแหน่งไปได้  ก็คงเป็นเพราะเรื่องนี้  สมบัติดวงดาวมีจิตวิญญาณพลังยุทธ มีพื้นที่ให้เติบโต  มีระยะของการเสริมพลังพวกมันฉลาดกว่าและสามารถร่วมกับนักสู้ได้ ทุกคนรู้ ยิ่งเป็นนักสู้ที่มีระดับสูงจิตวิญญาณพลังยุทธก็ยิ่งมีความสำคัญยิ่งกว่าปราณเที่ยงแท้ และนั่นก็คือเหตุผล  อาวุธจักรกลสามารถขยายพลังปราณเที่ยงแท้ได้  แต่พวกมันไม่มีวิญญาณพลังยุทธ บางทีสมบัติดวงดาวอาจจะไม่ทรงพลังมากนักในตอนแรกเริ่ม  แต่ตราบใดที่เจ้ายังค้นพบศักยภาพพวกมันเรื่อยไป  พวกมันอาจเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นก็ได้”

“จิตวิญญาณพลังยุทธ.. นั่นสินะ  ทำไมข้าไม่คิดถึงเรื่องนั้น...”ปิงงงและพูดกับตนเอง

ถังเทียนไม่เหมือนปิงที่มีความรู้สึกที่หลากหลายเกิดขึ้นมากมายในใจเขาเขาห่วงปัญหาอื่นมากกว่า “อย่างนั้นเราจะพัฒนาตรงนี้ได้ยังไง?”

“ก็ให้จิตวิญญาณพลังยุทธอื่นกับมันสิ” เซรีนพูดสื่อความทำนองว่า เจ้าช่างโง่เง่า

“เพิ่มจิตวิญญาณพลังยุทธลงไป...” ถังเทียนมองเหม่อ

“หน้าโง่” เซรีนลูบคางของเธอ มองดูเหมือนผู้เชี่ยวชาญ  “มีหมู่ดาวมากมายในสวรรค์วิถีที่ตอนนี้เทียบกับอดีตที่ผ่านแล้วสมบัติดวงดาวของพวกเขามีมากกว่าในอดีต พอเสริมจิตวิญญาณพลังยุทธลงไปมันจึงสมบูรณ์แบบ อาวุธเครื่องกลถือว่ามีพื้นฐานรูปร่างที่ดี  ขณะที่สมบัติดวงดาวถูกมองว่าเป็นมันสมองที่ดี  ถ้าประกอบทั้งสองเข้าด้วยกัน จะทำให้ทรงพลังมาก”

ถังเทียนทุบหมัดลงกับพื้น และขณะตรองดูก็รู้ตามได้  เขามีความสุข “นั่นสินะ, เป็นความคิดที่ดี  ความคิดเยี่ยม”

ยิ่งคุย เซรีนก็ยิ่งเชิดหน้าขึ้นฟ้าทุกที

ถังเทียนเห็นด้วยและรู้สึกว่าไม่ว่าเซรีนจะพูดอะไรก็ตามล้วนแต่มีเหตุผลทั้งนั้น

ปิงเพิ่งรู้สึกตัวจากอาการตะลึงและพูดว่า “เป็นความคิดที่ดีจริงๆ  แต่จะบรรลุผลหรือไม่  นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง”

เซรีนประหลาดใจกับท่าทีจริงจังของปิง  เธอเล่นบิดมือไปมาและพูดเบาๆต่อ “ก็อย่างที่พูด บอกตามตรงข้าไม่เคยเห็นอาวุธจักรกลมาก่อน”  ทันใดนั้นตาของเธอเป็นประกายวิ่งเข้ามาหาถังเทียนย่อเอวลงและพร้อมกับใบหน้าที่ร้อนผ่าว “หนุ่มน้อยชาวฟ้าบอกมา..เจ้าสนใจเรื่องนี้ด้วยใช่ไหม? นั่นเยี่ยมเลย! ตราบใดที่เจ้าเป็นผู้สนับสนุนข้า และตราบที่มีเงินสนับสนุนเพียงพอ  ข้ามั่นใจว่าจะสร้างมันได้สำเร็จ  เอาไงดี? ข้ามีนิสัยสนใจเรื่องเครื่องกลมากอยู่แล้ว และผลงานก็สามารถให้เจ้าเอาไปใช้ได้ด้วย โอว, ข้าสามารถสร้างอาวุธจักรกลให้เจ้าชิ้นหนึ่งได้ด้วยนะ”

เธอประสานกำมือทั้งสองแนบอกสูดหายใจเพื่อให้อกดูขยาย ทำท่าหน้าตาให้น่าเอ็นดู พร้อมกับชม้ายตาและขายความสามารถตนเองต่อ “ข้ารู้วิชาเครื่องกล สามารถเป็นเพื่อนนอนได้นะมาตรฐานกุลสตรีขนาดนี้ เจ้าจะไปหาได้จากไหน? แค่เจ้าสามารถออกทุนแค่ 200,000 เหรียญดาวเป็นทุนสนับสนุน  เจ้าก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้ข้าเยอะแล้ว..”

ภายใต้แรงกดดันของเซรีนที่โน้มตัวเข้าหา ถังเทียนถอยกรูดอย่างรวดเร็ว หน้าของเขาเต็มไปด้วยความกลัว  กล้ามเนื้อทุกส่วนเกร็งเต็มที่ขาของเขาพร้อมถอยหนีได้ตลอดเวลา

“เราตัดสินใจสนับสนุนเจ้า”

ปิงพูดทันที

เซรีนและถังเทียนทั้งคู่เหม่อมองเขา

“ลุง, เราไม่มีเงินมากนักนะ” ถังเทียนเตือนเขา  แม้ว่าพวกเขาจะหนีจากสภาพยากจนแต่ก่อนมาได้  แต่ 200,000เหรียญดาวเป็นจำนวนมหาศาลเกินไป เซรีนพูดถึงเหรียญดาว ไม่ใช่สกุลเงินอย่างอื่น  เหรียญดาวคือสกุลเงินที่ใช้ในสวรรค์วิถีมันมีค่าเท่ากับหินดวงดาว แน่นอนนั่นเป็นสกุลเงินที่แข็งมาก

ทรัพย์สินที่มีค่าทั้งหมดบนตัวถังเทียน ก็มีการ์ดชั้นเงินทั้งหมดบวกกับสมบัติดวงดาว   ทั้งหมดรวมกันเป็นไปได้ที่จะเพิ่มสูงถึง200,000 เหรียญดาว

เซรีนมองดูปิงอย่างสงสัย เนื่องจากเธอเพิ่งตระหนักว่าปิงแตกต่างจากขุนพลวิญญาณคนอื่น

“เราสามารถขายอาวุธจักรกลได้” ปิงพูดเย็นชา

“นั่นก็เป็นแนวคิดยอย่างหนึ่ง” ถังเทียนผงกศีรษะ

“อะไรนะ” เซรีนตะลึง  ทันใดนั้นเธอเขามามองถังเทียนด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ “เจ้ามีอาวุธจักรกลด้วยเหรอ?”

“ถูกแล้ว”  ถังเทียนพยักหน้า

เมื่อเขาพูดจบ เซรีนปราดเข้าหาเขาเหมือนลูกธนู จับถังเทียนทำให้เขาตกใจ  ปฏิกิริยาเขารวดเร็ว ขณะที่เขาสับขารวดเร็วราวฟ้าแล่บก็ถอยออกไปสองสามก้าวและเพิ่มระยะห่างระหว่างพวกเขาอีกครั้ง

เธอวางแผนอะไรบางอย่างหรือ?

ถังเทียนมองดูเซรีนด้วยความรู้สึกกลัว

เซรีนดูเหมือนจะตื่นจากภวังค์ เธอขยี้เท้า แต่กล่าวอย่างกังวลว่า “อย่าขาย,อย่าขายพวกมัน ตราบใดที่พวกเจ้าให้อาวุธเครื่องกลแก่ข้าไว้ค้นคว้า  ข้าจะคิดว่านั่นคือการสนับสนุน  ข้าจะนึกหาวิธีหาทุนของข้าเอง”

ความสนใจครอบครองอาวุธจักรกล ทำให้เซรีนยอมตายเพื่อมันได้

เมื่อเห็นความกระตือรือร้นของเซรีนและใบหน้าของเธอที่ไม่สงบเหมือนอย่างปกติ และสูญเสียความเยือกเย็นถังเทียนอดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ แม้ว่าเซรีนจะร้ายในบางเรื่องแต่ความรักในเรื่องเครื่องกลไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น ความรักชนิดนี้ฝังอยู่ในหัวใจกระดูกและวิญญาณทำให้ถังเทียนตื่นเต้น เขาต้องการพูด แต่ปิงชิงพูดก่อน

“เราค่อยพูดเรื่องปัญหาเกี่ยวกับเงินเวลาอื่นก็แล้วกัน”ปิงพูดอย่างใจเย็น “เราจะให้อาวุธจักรกลเจ้าไว้ศึกษา  แต่เจ้าต้องลงนามสัญญาวิญญาณพลังยุทธกับเรา”

“สัญญาวิญญาณพลังยุทธ?” เซรีนสงบลงได้ชั่วขณะ  ทันทีที่สัญญาวิญญาณพลังยุทธได้รับการลงนาม ก็จะทิ้งรอยประทับของจิตวิญญาณพลังยุทธไว้ทำให้ผู้นั้นไม่สามารถละเมิดข้อตกลงได้ พอพูดมาเพียงเท่านี้เซรีนรู้ทันทีว่าพวกเขามีเบื้องหลังที่พิเศษเนื่องจากคนธรรมดาไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน

หน้าของเซรีนเปลี่ยนไปอีกครั้ง ขณะที่เธอลังเล  แม้ว่าเธอต้องการจะศึกษาอาวุธจักรกลเป็นอย่างยิ่งแต่เมื่อลงนามสัญญาจิตวิญญาณพลังยุทธ มันก็คือการขายตัวเธอนั่นเอง

หน้าของปิงสงบ และรอการตัดสินใจของเซรีน

“ข้าจะลงนามกับใคร?” เซรีนถามทันที

ปิงชี้มาที่ถังเทียน “กับเขา”

ความกังวลในดวงตาของเซรีนหายไป  เธอผ่อนลมหายใจ ปิงผู้ที่เธอมองไม่เห็นความคิดเนื่องจากความลึกซึ้งและลึกลับของเขาทำให้เธอกังวล  แต่ถ้าเป็นเด็กดื้อถังเทียนนั่นทำให้เธอสบายใจกว่ามากนัก

“ดี! ข้าจะลงชื่อก็ได้” เซรีนตัดสินใจในชั่วขณะ  เธอตรงไปตรงมาไม่เฉไฉนอกทาง

สัญญาจิตวิญญาณพลังยุทธคืออะไร?  ถังเทียนไม่เคยได้ยินมาก่อน  เขาทำตามคำขอร้องของปิงอย่างง่ายดาย  ขณะที่เซรีนกำลังฉลองยินดีในใจ เพราะเจ้าเด็กนี่จะชำนาญในสัญญาจิตวิญญาณพลังยุทธ  เขามีประวัติแบบไหนกัน? มีแต่พวกประเภทที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีตระกูลซึ่งมีอิทธิพลหนุนหลังเท่านั้น

หลังจากความยากลำบากเปลี่ยนไปพลิกมาจนสำเร็จได้เซรีนถามอย่างร้อนรน  “รีบๆเอาอาวุธกลมาให้ข้าดูได้แล้ว พวกเจ้าทั้งสองคนไปพบชุดเครื่องกลที่ไหนเหรอ?”

“ชุดเครื่องกลเหรอ?”  ถังเทียนส่ายศีรษะ “เรามีมากกว่าชุดหนึ่งเสียอีก”

“อย่าบอกข้านะว่ามีสองชุด?”  นัยน์ตาของเซรีนเป็นประกายและสะดุ้งทันที

“ไม่” ถังเทียนส่ายศีรษะ

“โอว, พระเจ้า! เจ้าไปพบมาสามชุดแล้ว..” เซรีนขึ้นเสียงสูง เธอตื่นเต้นจนแทบเป็นลม

ถังเทียนยังคงส่ายหน้าต่อไป เขายิ้มจนเห็นฟัน “ก็ราวๆคลังอาวุธกาองทัพหนึ่ง”

สีหน้าของเซรีนชะงักค้าง....

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด