Ep.454 - เริ่มท้าทาย
3/3
Ep.454 - เริ่มท้าทาย
เดิมตั้งใจจะสู้รอง BOSS แต่ผลลัพธ์กลับได้เป็นเจ้านายของรอง BOSS ไปซะได้
ใครจะคิดว่าเรื่องราวมันจะพลิกผันแบบนี้
การเดินทางครั้งนี้เมื่อขาด BOSS ตัวสำคัญไป ผลกำไรจากสินสงครามย่อมน้อยลงมาก แต่ข้อดีคือได้ลูกน้องที่แข็งแกร่งมาเป็นพรรคพวก!
คุณค่าของเพลิงสีชาดไม่ใช่สิ่งที่สามารถเอาอุปกรณ์สีฟ้าสองสามชิ้นหรือหินสกิลสองสามก้อนมาเทียบได้
พลังรบของมันไม่ด้อยไปกว่าขุนนางใหญ่แต่อย่างใด ยิ่งไปกว่านั้นยังครอบครองมรดกของจ้าวสงครามอีกด้วย การยอมรับคำขอลี้ภัยของมัน คุ้มค่ายิ่งกว่าได้รับไอเท็มสีม่วงทั่วๆไป!
ฮังอวี่คิดว่าความสำเร็จในการกำราบสั่งสอนชายผู้นี้ให้อยู่ในการควบคุมมีค่อนข้างสูง เพราะยังไงซะอายุโลกวิญญาณของอีกฝ่ายยังไม่ถึงหนึ่งปีด้วยซ้ำ และยังไม่เคยก้าวออกจากสถานที่นี้มาก่อน ยิ่งเป็นแบบนี้ ก็ยิ่งควบคุมได้ง่าย
ฮังอวี่เอ่ยตามตรง “พวกเราจะโจมตีวังต่อ นายน่าจะเป็นประโยชน์กับพวกเราได้”
“นี่พวกเจ้าต้องการท้าทายราชาปีศาจทรายสีชาด? นั่นเป็นไปไม่ได้!” ใบหน้าของเพลิงสีชาดแปรเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคำของฮังอวี่ “ท่านผู้นั้นแข็งแกร่งมาก เป็นตัวตนเพียงหนึ่งเดียวในสถานที่นี้ที่ไม่อาจล่วงเกิน!”
เห็นได้ชัดว่าเมื่อตื่นรู้ เพลิงสีชาดก็สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของราชาปีศาจ ทำให้มันไม่มีความคิดที่จะท้าทายอีกฝ่ายอีกต่อไป
คาดไม่ถึงเลยว่าจุดประสงค์ที่คนนอกเหลือนี้บุกเข้ามา ที่แท้คือการท้าทายการดำรงอยู่ที่ร้ายกาจที่สุดในที่นี้
ฮังอวี่กล่าวว่า “ในเมื่อพวกเรามาแล้ว แน่นอนว่าต้องเตรียมตัวมาพร้อม แค่ทำตามที่ฉันบอกก็พอ”
ระหว่างกล่าวคำ
คนอื่นๆพร้อมกับกองทหารอันเกรียงไกรตามมาสมทบ
เพลิงสีชาดตกตะลึงเมื่อเห็นกองทัพมนุษย์กว่าสองสามพันนายปรากฏขึ้นในที่ราบลาวา
กลายเป็นว่าคนกลุ่มนี้ที่มันเจอ เป็นแค่ผู้เบิกทาง ยังมีกองทัพรออยู่ข้างหลัง!
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงกล้าท้าทายราชาปีศาจทรายสีชาด อีกทั้งทหารที่คนเหล่านี้นำมายังไม่ใช่ทหารของเผ่าทรายสีชาด ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะถูกราชาปีศาจทรายสีชาดเข้ายึดครองแล้วสั่งการแทน พวกเขาอาจมีโอกาสชนะจริงๆ!
ฮังอวี่พูดกับเพลิงสีชาดว่า “ฉันไม่ต้องการให้นายเข้าร่วมการต่อสู้ ที่นายต้องทำคือเบี่ยงเบนความสนใจของทหารทรายสีชาดที่อยู่ใกล้กับวัง คอยขัดขวางการก่อกวนจากด้านหลัง สร้างสภาพแวดล้อมการต่อสู้ที่ดีแก่พวกเรา เข้าใจไหม?”
เพลิงสีชาดคือบอสใหญ่หมายเลขสอง ในความเป็นจริงแล้วอำนาจของมันสูงมาก
อย่างไรก็ตาม หากคำสั่งขัดต่อประสงค์ของราชาปีศาจทรายสีชาด พวกมอนสเตอร์ต้องจัดลำดับความสำคัญ และเลือกฟังบอสใหญ่อันดับหนึ่งแน่นอน ดังนั้นให้เพลิงสีชาดเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยไม่ได้
ต้องพึงระลึกไว้เสมอ ว่าเพลิงสีชาดจะถูกข่มเมื่อเผชิญหน้ากับราชาปีศาจทรายสีชาด
อีกทั้งพวกมันยังเป็นสายพันธุ์เดียวกัน การฆ่ากันจะทำให้เกิดสถานะต้องคำสาป ยิ่งคำสาปวิญญาณโลหิตสะสมมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งยากจะกำจัดเท่านั้น
แน่นอน
มีเหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่ง นั่นคือฮังอวี่ยังไม่สามารถไว้วางใจเพลิงสีชาดได้อย่างเต็มที่ในขณะนี้ หากถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ แล้วชายผู้นี้เกิดกลับคำลุกขึ้นต่อต้าน ความเสียหายไม่อาจประเมินได้เลย
จากการพิจารณาข้างต้น ปล่อยให้ถูกผนึกไว้แบบนี้ดีกว่า อยู่นอกสนามรบ รับหน้าที่เฝ้ายาม แบบนี้ถึงจะปลอดภัย
เวลามีค่า!
ลงมือทำทันที!
หวังเอ๋อกับเสี่ยวไป๋ถูกทิ้งไว้ข้างหลังเพื่อเฝ้าดูเพลิงสีชาด
แม้พลังรบของทั้งคู่จะไม่เลว แต่เป้าหมายคราวนี้คือราชาปีศาจทรายสีชาด ความสามารถในการโจมตีของหวังเอ๋อไม่สูง และสกิลของเสี่ยวไป๋ส่วนใหญ่เป็นสายสนับสนุน หากศัตรูคือระดับทรราชย์ เอฟเฟกต์ของสกิลย่อมสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ในครั้งนี้ ศัตรูคือระดับราชันย์
การโจมตีของหวังเอ๋อไม่ต่างจากการจั๊กจี้ และสกิลของเสี่ยวไป๋ไม่อาจสร้างผลกระทบ
ด้วยประการฉะนี้ แทนที่จะปล่อยให้ทั้งคู่ติดตามไปด้วย สู้ให้อยู่เฝ้าเพลิงสีชาด ฮังอวี่จะสบายใจกว่า
ภายใต้คำสั่งของเพลิงสีชาด เผ่าทรายสีชาดที่อยู่รอบๆวังพากันจากไป เรียกได้ว่าช่วยประหยัดเวลาฮังอวี่ในการเปิดทางได้เยอะ
เพลิงสีชาดกล่าวกับฝูงชน “ข้าได้ถอนกำลังทั้งหมดที่สามารถทำได้แล้ว แต่ยังมีทหารทรายสีชาดอีกมากในวัง พวกมันอยู่ภายใต้การควบคุมของราชา ข้าสั่งการไม่ได้”
ฮังอวี่พยักหน้าว่าเข้าใจ จากนั้นเอ่ยต่อว่า “เมื่อเข้าสู้ พวกเราจะต้องถูกต่อต้านอย่างรุนแรง ดังนั้นต้องดำเนินการสองทิศทาง”
ฉูเทียนหัวเอ่ยถาม “นายวางแผนจะแบ่งกลุ่มยังไง?”
ฮังอวี่กล่าว “หน่วยแรกไม่ต้องมีจำนวนมากเกินไป เน้นหัวกะทิหลายสิบคน ภารกิจคือท้าทายราชาปีศาจทรายสีชาด ไม่ต้องสนใจเรื่องอื่น ราชาปีศาจทรายสีชาดทรงพลังมาก เราต้องทำใจให้ว่างจากสิ่งรบกวน”
เขากล่าวต่อว่า “หน่วยรบที่สองคือทั้งหมดที่เหลือ หลังจากเข้าไปในวัง จะเกิดการต่อต้านจากศัตรูอย่างรุนแรง งานของฝั่งนี้คือกวาดล้างมอนสเตอร์ ถ้าเสร็จแล้วยังมีกำลังเหลือ ก็ให้มาช่วยหน่วยแรก”
ต่อไป
ฮังอวี่ทำการแบ่งส่วนอย่างละเอียด
หน่วยรบแรกแบ่งออกเป็นสามสี่กลุ่ม
ยอดฝีมือทั้งหกแห่งมังกรครามเป็นกลุ่มต่อสู้หลักกลุ่มแรก ผู้นำสามคนจากสำนักกระบี่วิญญาณนำอีกเจ็ดคนตั้งทีมสนับสนุนที่สอง
อีกสิบกว่าคนเป็นสมาชิกที่เก่งในด้านการรักษา ปัดเป่า ผูกมัด ป้องกัน และสกิลอื่นๆ พลังรบไม่ได้แก่กล้าเป็นพิเศษอยู่ในกลุ่มสาม รับผิดชอบการสนับสนุน
หน่วยรบที่สองก็แบ่งงานกันเช่นกัน
ทหารกว่าสองพันนายถูกแบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม แต่ละกลุ่มมีมนุษย์ 4 5 คนจับคู่กับสมุนทหารหลายสิบนาย
ทำแบบนี้จะคละกันได้ลงตัวพอดี และมีความคล่องตัวสูงมาก สามารถตอบสนองต่อแผนการได้ในระยะเวลาอันสั้น
แม้ว่าราชาปีศาจทรายสีชาดจะอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างอ่อนแอ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่จะได้สู้กับตัวตนระดับราชันย์ ไม่มีใครกล้าประมาท เอาจริงๆทุกคนประหม่าเล็กน้อย!
“ทุกหน่วยจัดระเบียบเสร็จสิ้น!”
"ทีมรบทั้งหมดพร้อม!"
“ทุกคนพร้อมปฏิบัติการ กรุณาออกคำสั่ง!”
ผู้ใต้บังคับบัญชาสองสามคนรีบเข้ามารายงานสถานการณ์
ฮังอวี่พยักหน้า หยิบไอเท็มชิ้นหนึ่งออกมา มอบมันแก่จ้าวหมิง
จ้าวหมิงตกใจเมื่อเห็นมัน “ไอเท็มสีม่วง? นี่มันหัวใจของราชาธาตุไฟ!”
“ใช่ ผมให้คุณยืมใช้ก่อน มันจะมีประโยชน์ในภายหลัง” ฮังอวี่กล่าว “ถึงคุณจะสวมชุดเซ็ทโบราณสงครามศักดิ์สิทธิ์ ถือโล่คุณภาพสีฟ้า และมีชุดเครื่องประดับสัตว์ร้ายรักษาการณ์ แต่ก็ยังไม่พอที่จะต้านทานการโจมตีอันรุนแรงของราชาปีศาจทรายสีชาด แต่ถ้ามีหัวใจของราชาธาตุล่ะก็ไม่แน่!”
เหล่าจ้าวพยักหน้ารับงานหนักนี้
ทั้งทีม คนเดียวที่มีความสามารถพอจะแท็งค์มอนสเตอร์ระดับราชันย์ เกรงว่าคงมีแต่จ้าวหมิงที่มีสกิลพรสวรรค์สายป้องกันเท่านั้น!
เฉพาะในแง่การป้องกัน สามารถกล่าวได้ว่าจ้าวหมิงเหนือกว่าฮังอวี่ถึงสองช่วงตึก!
หลังจากได้รับหัวใจของราชาธาตุแล้ว
จ้าวหมิงเกิดความรู้สึกว่าเขาสามารถต้านทานการโจมตีของมอนสเตอร์ระดับราชันย์ได้
ฮังอวี่พยักหน้าให้ฉูเทียนหัว
ฉูเทียนหัวหันกลับมาแล้วตะโกนเสียงดัง “เริ่มการโจมตี!”
สมุนทหารมากกว่า 2,000 นายของเมืองธารทะเลทรายที่นำโดยมนุษย์หลายร้อยคน ราวกับสายธารเชี่ยวกรากกระเพื่อมอยู่บนพื้น เสมือนดั่งสัตว์ร้ายอ้าปากกว้าง เตรียมเข้ากลืนกินอาหารที่อยู่เบื้องหน้า!