ตอนที่ 1 ฝันร้าย
ตอนที่ 1 ฝันร้าย
คุณเคยตื่นจากฝันร้ายและพบว่าตัวเองอยู่ในฝันร้ายเดิมอีกครั้งหรือไม่?
ลู่เซิงเป็นอยู่ในขณะนี้
“ลู่เซิง!”
เสียงที่จริงจังดังก้องในหูของเขาราวกับฟ้าร้อง ลู่เซิงเงยหน้าขึ้นพรวด ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความมึนงง
ชายวัยกลางคนหน้าชั้นเรียนดันแว่นตาที่สันจมูกของตนและจ้องมาที่ลู่เซิงอย่างโกรธเคือง
“อีก 6 เดือนจะถึงช่วงสอบเข้ามหาลัยแล้ว คุณยังขี้เกียจอยู่อีกเหรอ? หากคุณจบไปแบบนี้คุณทำงานในไซต์ก่อสร้างได้คงเป็นบุญโขแล้ว! คุณรู้ไหมว่าคนงานในไซต์ก่อสร้างมีค่าปราณโลหิตเท่าไหร่? 0.8! ค่าปราณโลหิตของคุณถึง 0.8 ไหม!”
ลู่เซิงก้มศีรษะลงขณะฟังครูดุด่าอย่างเชื่อฟังและชายร่างอ้วนที่นั่งถัดจากเขาทางซ้ายแอบหันมา
“ฝันร้ายอีกแล้วหรอ” ลู่เซิงพยักหน้าอย่างท้อแท้ เขาฝันแบบนี้สามวันแล้ว
เขาไม่สามารถอธิบายได้ว่าความฝันนั้นเป็นเช่นไร เขาเพียงยืนอย่างงุนงงในดินแดนแห้งแล้งและสิ่งมีชีวิตคล้ายคนที่มีท่าทางแปลกๆเดินเพ่นพ่านไปทั่ว ฉากนั้นสำหรับเขาน่ากลัวมาก
ลู่เซิงมั่นใจว่ามันคือฝันร้าย เพราะหลังจากเจอความฝันนี้ เขาเริ่มเซื่องซึมและคุณภาพการนอนหลับก็แย่ลงเรื่อยๆ แม้เขาจะนอนสิบชั่วโมงต่อวัน แต่สภาพก็เหมือนกับไม่นอนทั้งคืน
ดังนั้นในช่วงสามวันที่ผ่านมา ค่าปราณโลหิตของลู่เซิงจึงลดลง 0.02!
0.02 เชียวนะ!
ต้องกินยาเสริมร่างกายกี่วัน ต้องฝึกฝนหนักแค่ไหนถึงจะชดเชยได้!
ลู่เซิงคิดอย่างเศร้าโศก
....
หลังเลิกเรียน ลู่เซิงเดินออกมาจากห้องเรียนอย่างว่องไวโดยสะพายกระเป๋านักเรียนไว้ที่หลัง
“ลู่เซิง เล่นเกมกันไหม?”
เสียงเรียกชื่อลู่เซิงไล่หลังมา จากนั้นชายร่างอ้วนที่อยู่ในห้องเรียนเดียวกันก็มายืนตรงหน้าเขา อีกฝ่ายชื่อหลิวฉีหมิง เขาเป็นหนึ่งในเพื่อนไม่กี่คนของลู่เซิง
เมื่อเผชิญกับคำชวนกระทันหันของหลิวฉีหมิง ลู่เซิงก็ส่ายหัว
"ไม่ล่ะ ฉันจะกลับบ้าน"
“กลับบ้านเร็วจัง ไม่สมเป็นนายเลย ไปเล่นเกมกันเถอะ วันนี้ฉันเลี้ยงเอง!” หลิวฉีหมิงตบหน้าอกและชวนอีกครั้งอย่างจริงใจ
ลู่เซิงยังคงส่ายหัวและอธิบาย “ฉันไม่อยากไปจริงๆ ฉันอยากกลับบ้านไปนอน”
“วันนี้นอนในห้องเรียนยังไม่พออีกเหรอ?” การแสดงออกที่ตกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลิวฉีหมิง
ลู่เซิงขี้เกียจเกินกว่าจะอธิบาย เขาโบกมือและเดินต่อไป
หลิวฉีหมิงต้องการชวนเขาอีกครั้ง แต่ในเวลานี้ มีเด็กชายสองสามคนวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“หลิวฉีหมิง เล่นเกมกันไหม”
"ได้เลย!"
หลิวฉีหมิงชำเลืองมองลู่เซิงเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นเขาก็ทิ้งลู่เซิงโดยไม่พูดอะไรและจากไปพร้อมกับเด็กคนอื่นๆ
ลู่เซิงเฝ้ามองแผ่นหลังหลิวฉีหมิงที่เดินจากไป ในช่วงเวลานี้นักเรียนในชุดนักเรียนสีดำและสีน้ำเงินเดินผ่านเขาทั้งซ้ายและขวา เด็กเหล่านี้รีบไปที่ประตูโรงเรียนเหมือนคลื่นน้ำไหลออกไปอย่างพลุ่นพล่าน
"เห้อ..."
ลู่เซิงถอนหายใจเบาๆ ความคิดในใจของเขาเริ่มปั่นป่วน เขาเกือบลืมไปเลยว่าเขาอยู่ในโลกนี้มาเกือบสิบแปดปีแล้ว
ความทรงจำในอดีตของเขาคลุมเครือมาก ในบางครั้งก็อดสงสัยไม่ได้ว่ามันเป็นแค่ความฝันหรือเปล่า
ความฝันที่เขาทำเหมือนเดิมทุกอย่างตั้งแต่เด็กจนกระทั่งตอนนี้
"...ไม่มีบ้าน...ไม่มีรถ...ไม่มีแฟน...เป็นพนักงานเงินเดือน...เดินป่า...ตกหน้าผา...ตื่นขึ้น..."
ลู่เซิงพึมพัมบางอย่างและดวงตาของเขาค่อยๆ ว่างเปล่าจนกระทั่งเขาพูดคำสุดท้าย
"ข้ามมิติ..."
ถูกต้องลู่เซิงวาร์ปข้ามมิติ
โลกในชาติที่แล้วของเขา ไม่มีศิลปะการต่อสู้ ไม่มีสัตว์ประหลาดวิ่งออกมาจากรอยแยก ไม่มีการบุกรุกของสัตว์ต่างดาวและการประลองศิลปะการต่อสู้ในข่าวทีวี
สิ่งที่สร้างปัญหาให้กับนักเรียนในโรงเรียนไม่ใช่ค่าปราณโลหิต พลังยุทธ์และศิลปะการต่อสู้ แต่เป็นกระดาษสอบภาษาต่างประเทศ, คณิตศาสตร์และฟิสิกส์เคมี
บางครั้งลู่เซิงก็คิดถึงโลกเช่นนั้น เพราะอย่างน้อยโลกนั้นก็...
สงบสุข
....
ลู่เซิงผลักประตูบ้านเข้าไป
ในบ้านพ่อของเขาลู่ต้าไห่นอนเปลือยกายอยู่บนโซฟา ในขณะที่แม่ของเขาเจิ้งหยูเฟิ่นกำลังหาที่แปะแผ่นพลาสเตอร์บนหลังของลู่ต้าไห่
ลู่เซิงสังเกตเห็น "แผ่นหลัง" ของพ่อตนเอง ดวงตาของเขาเริ่มแสบร้อนและตะโกนออกไปว่า "ผมกลับมาแล้ว"
“ลูกหิวไหม? เดี๋ยวแม่จะทำอาหารให้” เจิ้งหยูเฟิ่นกดแผ่นพลาสเตอร์ลงบนหลังของลู่ต้าไห่และหันมาถามเขา
ลู่เซิงส่ายหัวและเดินสะพายกระเป๋านักเรียนไปที่ห้องของเขา
หยุดไปครึ่งทาง เขาหันศีรษะไปที่โซฟาแล้วพูดด้วยเสียงครึมเล็กน้อยว่า "ทำไมพ่อไม่ไปซื้อเครื่องกระตุ้นเลือด มันสามารถกระตุ้นเลือดในร่างกายทำให้ไหลเวียนได้ดีขึ้นและยังทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายได้อีกด้วย ที่บ้านเพื่อนผมมี..."
“เฮ้ พ่อไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นหรอกนะ ดูสิพ่อแข็งแรงมาก! พักสองสามวันพ่อก็หายแล้ว! เก็บเงินไว้ซื้อยาเสริมร่างกายให้ลูกดีกว่า...” ลู่ต้าไห่ปฏิเสธข้อเสนอของลู่เซิงอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงพยายามหันมามองเขาอย่างเต็มที่
“ช่วงนี้ค่าปราณโลหิตของลูกเป็นยังไงบ้าง? เกิน 0.85 ไหม พ่ออ่านข่าววันนี้แล้วเกณฑ์ในการสอบมหาลัยปีนี้เพิ่มขึ้น 0.01...”
“ผมรู้แล้ว ผมจะไปฝึกเดี๋ยวนี้....”
เมื่อลู่เซิงได้ยินสิ่งนี้ หัวใจของเขาก็ตึงเครียดและเขาก็รีบกลับห้องของตัวเองราวกับกำลังวิ่งหนี
ถ้าลู่ต้าไห่รู้ว่าปราณโลหิตของลู่เซิงไม่ดีขึ้นเลย แต่กลับแย่ลง เขาจะต้องกระโดดขึ้นจากโซฟาทันทีและหยิบรองเท้าฟาดใส่ลู่เซิงแน่นอน