บทที่ 828 สิ่งที่ดีที่สุดจากทั้งสองทาง(ตอนฟรี)
บทที่ 828 สิ่งที่ดีที่สุดจากทั้งสองทาง
“คุณจี้ ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ ฉันไม่รู้ว่าควรจะพูดดีไหม...”
หลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จ จี้ยูเหวินก็เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นและเห็นจี้เฟิงกำลังโอบกอดซูหยวนอยู่ เธออดไม่ได้ที่จะตกใจ แต่เพียงแวบเดียวเธอก็สงบลงและใบหน้าก็ประดับไปด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์
“อ๊ะ!”
ในที่สุดซูหยวนก็ได้สติ เธอรีบนั่งตัวตรงอย่างรวดเร็ว ใบหน้าสวยแดงก่ำ สายตาก้มมองพื้นด้วยความเขินอาย มื้อไม้ก็ไม่รู้จะวางไว้ตรงไหน
ตอนนี้หัวใจของเธอเต้นแรงมาก หัวสมองของเธอเกือบจะว่างเปล่า เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ? ดูเหมือนว่าเธอจะเอนตัวซบอยู่ในอ้อมแขนของจี้เฟิง...โอ้ไม่นะ ให้ตายสิ!
ซูหยวนรู้สึกเขินอายเป็นอย่างมาก เธออ้าปากและพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา “ฉัน.. ฉันจะขึ้นไปพักซักหน่อย!”
พูดจบเธอก็ลุกพรวดและเดินจ้ำอ้าวขึ้นไปชั้นบนอย่างรวดเร็ว
เมื่อมองไปที่ด้านหลังของซูหยวน โจวเฟยเฟยและจี้ยูเหวินก็อดไม่ได้ที่จะหันมามองหน้ากันและยิ้มออกมา ในใจของพวกเธอรู้สึกยินดีจากใจจริงสำหรับซูหยวน แต่ในขณะเดียวกันพวกเธอก็รู้สึกอิจฉาซูหยวนนิดๆ ดูเหมือนว่าเธอจะพบบ้านสำหรับพักใจของเธอแล้ว และบ้านหลังนี้ก็ค่อนข้างดีทีเดียว
ในความเป็นจริง ซูหยวน โจวเฟยเฟยและจี้ยูเหวินนั้นมีอายุเท่ากัน และพวกเธอต่างก็เป็นผู้หญิงที่รูปร่างหน้าตางดงามและมีเอกลักษณ์จุดเด่นเป็นของตนเองที่หาตัวจับได้ยาก อีกทั้งภูมิหลังของพวกเธอก็ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จี้ยูเหวินและโจวเฟยเฟย หญิงสาวทั้งสองคนไม่ได้มีพื้นเพที่เรียบง่าย ดังนั้นพวกเธอทุกคนจึงรู้ดีว่ามันยากเพียงใดสำหรับผู้หญิงอย่างพวกเธอที่จะหาผู้ชายที่ดีต่อพวกเธออย่างจริงใจ
คุณรู้ไหม ใช่ว่าผู้ชายทุกคนจะเป็นสุภาพบุรุษและมีความรับผิดชอบ
ผู้ชายจำนวนมากเข้าหาและตามจีบพวกเธอเพียงเพราะหน้าตาหรือไม่ก็ภูมิหลังของครอบครัว ประเด็นนี้ก็คล้ายกันกับซูหลงที่หลอกให้ผู้หญิงคนโตตระกูลซูหลงรักและใช้เธอเป็นบันไดอย่างเมื่อในอดีต!
แน่นอนว่ามีผู้ชายบางคนที่ปฏิบัติต่อพวกเธออย่างดีโดยที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของพวกเธอ แต่สุดท้ายแล้วพวกเธอก็ไม่อาจปิดบังตัวตนของพวกเธอได้ตลอดไป
และเมื่อผู้ชายเหล่านั้นได้รู้จักตัวตนที่แท้จริง จะมีสักกี่คนที่ไม่คิดหรือหวังผลประโยชน์ใดๆ หรือในกรณีที่ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากทางครอบครัว จะมีผู้ชายสักกี่คนที่สามารถทำตัวเยี่ยงชายชราตรียืนหยัดแบกรับความกดดันเหล่านั้นไว้ได้อย่างมั่นคง?
ผู้ชายแบบนี้มีไม่เยอะจริงๆ!
ส่วนผู้ชายที่เกิดมามีภูมิหลังดีกว่าพวกเธอ ผู้ชายกลุ่มนั้นเรียกว่าเป็นผู้ชายของสังคมชั้นสูง หรือผู้ชายที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมเป็นที่ต้องการของหญิงสาว จะมีสักกี่คนที่จะมารักพวกเธอ?
หาได้ยากจริงๆ!!
อย่างน้อยพวกเธอก็เห็นแล้วว่าจี้เฟิงรักซูหยวนจริงๆ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว และเมื่อประกอบกับภูมิหลังของจี้เฟิงเข้าไป เขาคือผู้ชายดีๆที่ไม่มีใครเหมือน และมีเพียงหนึ่งเดียวในโลกอย่างแท้จริง!
โดยเฉพาะโจวเฟยเฟย นับตั้งแต่ที่เธอได้รู้จักกับจี้เฟิง เธอได้เห็นวีรกรรมของเขา และในขณะเดียวกัน เธอก็เข้าใจถึงเหตุผลและมองเห็นถึงความมีมนุษยธรรมเกี่ยวกับการกระทำก่อนหน้านี้ของจี้เฟิงด้วย
ในความคิดของเธอ สำหรับผู้ชายอย่างจี้เฟิง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น การที่จี้เฟิงเป็นห่วงและเสียใจไปกับซูหยวนด้วยหัวใจที่แท้จริงของเขา มันก็ดีกว่าคำพูดใดๆ
และถ้าหากจะพูดถึงข้อบกพร่องใดๆของจี้เฟิง คงเป็นเรื่องที่เขามีผู้หญิงอีกคนอยู่ข้างๆ...
แต่พูดกันตามตรง ตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอเข้าใจถึงความสัมพันธ์ชายหญิงและพบเห็นอะไรต่างๆจนมาถึงปัจจุบัน เธอไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนคบกับผู้หญิงคนเดียวไปตลอดชีวิตเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบรรดาคุณชายหรือเจ้านายใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจระดับหนึ่ง
แม้แต่โจวเหยียนหมิงพ่อของเธอเองก็เป็นเช่นนั้น นับประสาอะไรกับชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์และความสามารถอย่างจี้เฟิงที่เป็นหลานชายคนโตตระกูลจี้ เกรงว่าถ้าไม่มีผู้หญิงอยู่รอบกายมันจะทำให้ผู้คนหัวเราะเยาะเสียมากกว่า!
ถ้าในเวลานี้จี้เฟิงรู้ว่าโจวเฟยเฟยกำลังคิดอะไรอยู่ในหัว เขาคงเส้นเลือดปูดขึ้นเต็มหน้าผากอย่างแน่นอน
เป็นไปได้ไหมว่านี่คือภาพลักษณ์ของจี้เฟิงในสายตาของคนอื่น?
แต่จี้เฟิงก็จะเข้าใจได้ทันทีว่าความคิดของโจวเฟยเฟยนั้นค่อนข้างสุดโต่ง หรืออีกนัยหนึ่งก็คือสิ่งที่เธอได้เห็นและได้ยินนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งของจี้เฟิงเท่านั้น ในความเป็นจริงจี้เฟิงรู้ว่ายังมีผู้คนอีกมากมายที่ประสบความสำเร็จและเพียงพอที่จะคบหาใครเพียงแค่คนเดียวอย่างจริงจัง และพวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ได้มีบ้านเล็กบ้านน้อยอยู่ข้างนอกอย่างที่โจวเฟยเฟยคิด
“อ่า.. มีอะไรเหรอ?” จี้เฟิงมองไปที่จี้ยูเหวินด้วยความประหลาดใจและถามเธอด้วยรอยยิ้ม “พูดมาได้เลย!”
“อะไรเหรอ?” จี้ยูเหวินตกใจ
จี้เฟิงหัวเราะทันที “คุณเพิ่งพูดว่ามีเรื่องจะคุยกับผมไม่ใช่เหรอ? ไม่เป็นไร มีอะไรก็พูดมาได้เลย หรือมีปัญหาอะไรก็ลองพูดมาดูก่อนได้”
“อ๊ะ! เอ้อ.. จริงด้วย!”
จี้ยูเหวินยิ้มอย่างเขินอายและใบหน้าก็แดงขึ้นเล็กน้อย เธอเรียบเรียงคำพูดของเธออยู่ในหัวครู่หนึ่งแล้วพูดออกมาว่า “คุณจี้ มันเป็นแบบนี้ ฉันเพิ่งคุยกับสำนักงานใหญ่ทางโทรศัพท์มา ฉันอธิบายให้พวกเขาฟังอย่างสั้นๆว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในคืนนี้ และตามคำแนะนำของสำนักงานใหญ่ เขาต้องการให้ฉันมาขอคนสองคนจากคุณ!”
“ใครเหรอ?” จี้เฟิงถามอย่างใจเย็น แต่เขาก็คาดเดาไว้ในใจอยู่แล้ว
และแน่นอนว่าเป็นอย่างที่จี้เฟิงคาดเดาไว้ จี้ยูเหวินพูดว่า “คุณจี้คะ คุณพอจะนำตัวซาซากิ ทาโร่ และคาวากิ ชิซุโกะให้ฉันได้มั้ย แน่นอน ฉันรู้ว่าคำขอแบบนี้มันค่อนข้างไร้เหตุผลไปสักหน่อย แต่สองคนนี้มีความสำคัญต่อกลุ่มของเรามาก ดังนั้น..”
เมื่อพบว่าการคาดเดาของเขาถูกต้อง จี้เฟิงก็หัวเราะออกมาทันที จี้ยูเหวินต้องการตัวสองคนนี้จริงๆ
“คุณจี้ โปรดอย่าเพิ่งเข้าใจฉันผิด ฉันและองค์กรไม่ได้มีเจตนาที่จะต่อรองกับคุณ นี่เป็นเพียงคำขอของเรา!” จี้ยูเหวินรีบพูดทันที
ความจริงแล้ว ตอนที่จี้ยูเหวินขอคำแนะนำจากพ่อของเธอทางโทรศัพท์ พ่อของเธอไม่ได้พูดแบบนี้
ตามที่พ่อของเธอพูด เขาให้เธอใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ทำข้อตกลงในแง่ของความร่วมมือ หรือใช้ความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้เป็นข้อต่อรองเพื่อบีบบังคับให้จี้เฟิงส่งมอบซาซากิ ทาโร่และคาวากิ ชิซุโกะ พูดง่ายๆ ไม่ว่าเธอจะใช้วิธีการใด ก็ต้องเอาตัวซาซากิ ทาโร่และคาวากิ ชิซุโกะมาใหได้!
เกี่ยวกับวิธีการของพ่อของเธอ จี้ยูเหวินรู้สึกไม่เห็นด้วยอยู่ในใจ แต่เธอไม่ได้พูดอะไรออกไป พ่อของเธอไม่รู้สถานการณ์ของที่นี่ แต่เธอนั้นเห็นด้วยตาของเธอเองว่าจี้เฟิงสามารถกำจัดคนเจี๋ยเผิงและลูกน้องของแก๊งพยัคฆ์มังกรด้วยตัวของเขาเองคนเดียว!
พลังการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวของเขาสามารถทำให้ผู้คนหวาดกลัวจนตายได้!
จี้ยูเหวินแอบคำนวณอยู่ในใจ หากทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุดของแก๊งเหลียนจูเผชิญหน้ากับจี้เฟิง เว้นเสียแต่ว่าสถานที่และเวลาถูกจำกัด เกรงว่าทีมนั้นคงไม่มีโอกาสที่จะชนะ
จี้เฟิงเพียงคนเดียวสามารถกวาดล้างทีมของแก๊งเหลียนจูได้ทั้งหมด!
แล้วกับบุคคลเช่นนี้ จะใช้วิธีบีบบังคับได้อย่างไร? ทางที่ดีใช้ไม่อ่อน สอบถามด้วยความเป็นมิตรจะดีกว่า ถ้าอีกฝ่ายไม่ยอม ก็ไม่ต้องพูดถึงอีก มิฉะนั้น ถ้าอีกฝ่ายโกรธขึ้นมาจริงๆ กองกำลังของแก๊งเหลียนจูในจีนอาจถูกถอนรากถอนโคนโดยเขา!
ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับจี้เฟิง จี้ยูเหวินจึงใช้วิธีของเธออย่างแน่วแน่และใช้วิธีการขอร้องที่ค่อนข้างจะอ่อนน้อมเล็กน้อย
“คุณจี้ โปรดเชื่อในความจริงใจของเรา!” จี้ยูเหวินรีบเสริม แต่คำพูดของเธอสุภาพมาก “คุณจี้ ถ้าคุณต้องการสิ่งใด ขอแค่บอกมา ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงจนเกินไป เรายินดีเป็นอย่างยิ่ง!”
“ฮ่าๆๆ~!”
จี้เฟิงหัวเราะ เขาส่ายหัวเล็กน้อยและพูดว่า “ถ้าผมไม่เห็นด้วย ความร่วมมือระหว่างโรงงานเซียวฟามาซูติคอลและไพโอเนียร์ฟามาซูติคอลกรุ๊ปของคุณจะจบลงเลยหรือเปล่า?”
“ไม่แน่นอน!”
หัวใจของจี้ยูเหวินตึงเครียดขึ้นมาทันที แต่ใบหน้าของเธอยังคงประดับไปด้วยรอยยิ้มที่สุภาพจางๆ และพูดเบาๆว่า “คุณจี้ อย่างที่ฉันพูดไปเมื่อกี้ ฉันไม่ได้มีความตั้งใจที่จะมาต่อรองเลย นี่เป็นเพียงคำขอจากฉันเท่านั้น และแน่นอนว่าเรื่องความร่วมมือของเราก็ยังคงสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่เราสรุปไว้!”
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้นและมองเธอด้วยความประหลาดใจ และอดพูดในใจไม่ได้ว่า ‘หืม? ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาเลย!’
จี้ยูเหวินไม่ได้พูดถึงว่าเธอจะใช้เรื่องความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนกับซาซากิ ทาโร่ และ คาวากิ ชิซุโกะเลย เธอบอกเพียงแค่ว่านี่เป็นการขอร้องเท่านั้น การเจรจานี้ฉลาดมาก เป็นการถอยเพื่อก้าวไปข้างหน้าได้ง่ายขึ้น!
เนื่องจากทั้งสองฝ่ายกำลังจะมีการร่วมมือกันทางธุรกิจในเร็วๆนี้ แน่นอนว่าตามมารยาทแล้วจึงต้องไว้หน้ากันเป็นเรื่องปกติ และถ้าหากมีปัญหาขัดแย้งกันเพียงแค่คำขอเล็กน้อย มันก็ดูไม่มีเหตุผลเท่าไหร่นัก จี้ยูเหวินใช้วิธีนี้เพื่อที่จะให้จี้เฟิงปฏิเสธได้ยาก
จี้เฟิงจุดบุหรี่และสูบมันอย่างช้าๆ ภายใต้สายตามที่ยังคงมองมาของจี้ยูเหวิน หลังจากพ่นควันไปสามสี่ครั้ง จี้เฟิงก็ยิ้มและพูดว่า “คุณจี้ ผมอยากจะถามอะไรสักหน่อย ถ้าสมมติว่าผมมอบตัวซาซากิ ทาโร่และคาวากิ ชิซุโกะให้พวกคุณไป คุณจะใช้วิธีไหนในการพาพวกเขากลับไปที่เกาะไต้หวัน.. แน่นอนว่าผมหมายถึงวิธีปกติน่ะนะ!”
“เรื่องนี้...”
สำหรับจี้ยูเหวินแล้ว เรื่องนี้ไม่ง่ายที่จะตอบในตอนนี้ หากเป็นวิธีที่ไม่เป็นทางการ มันง่ายมาก! แต่ถ้าจะพาชาวเจี๋ยเผิงสองคนเดินทางไปยังเกาะไต้หวันด้วยวิธีที่เป็นทางการ ดูเหมือนว่ามันจะยากจริงๆ หรืออาจเป็นไปไม่ได้เลย!
“ก่อนอื่น ผมคงต้องขอประกาศว่า ผมจะไม่มีวันยอมให้คุณพาคนออกไปด้วยวิธีที่ผิดปกติ!” จี้เฟิงพูดอย่างจริงจัง
จี้ยูเหวินขมวดคิ้วเล็กน้อยและมองไปที่โจวเฟยเฟย จากนั้นก็มองไปที่จี้เฟิงด้วยใบหน้าที่จริงจัง เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกลำบากใจ
โจวเฟยเฟยเข้าใจดีว่าจี้เฟิงหมายถึงอะไร หากจู่ๆคนเจี๋ยเผิงหายตัวไปในประเทศจีน และยังมีความเกี่ยวข้องกับจี้เฟิง อาจมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นได้ เพราะตัวตนของเขานั้นไม่เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการสนทนาระหว่างจี้เฟิงและจี้ยูเหวิน ดังนั้นโจวเฟยเฟยจึงทำได้แค่ฟังอย่างเงียบๆ ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะพูดขัดจังหวะ
“คุณจี้ พูดตรงๆเลยนะคะ ถ้าผ่านช่องทางปกติอย่างที่คุณพูด ฉันไม่มีหนทางที่จะทำแบบนั้นได้!” จี้ยูเหวินยอมรับอย่างตรงไปตรงมา “และตอนนี้คุณจี้ก็ได้บอกอย่างชัดเจนแล้วว่าจะไม่ยอมให้เรานำตัวสองคนนั้นผ่านช่องทางที่ผิดปกติ ดังนั้น สิ่งเดียวที่เราทำได้คือทำให้สองคนนั้นอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ไปก่อน!”
จี้เฟิงพยักหน้าเล็กน้อยและพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณจี้เป็นคนตรงไปตรงมามาก... แต่ด้วยความแข็งแกร่งของคุณ มันจะไม่เป็นเรื่องที่เหลือบ่ากว่าแรงเกินไปหน่อยเหรอที่จะเก็บบุคคลเหล่านั้นไว้ที่นี่?”
จี้ยูเหวินพยักหน้ายอมรับอย่างตรงไปตรงมา “คุณจี้พูดไม่ผิด มันค่อนข้างจะเกินกำลังของเราจริงๆ”
เธอรู้สึกว่าสิ่งต่างๆอยู่เหนือการควบคุมของเธอ ตอนนี้จี้เฟิงคือผู้ที่สามารถกำหนดสิ่งต่างๆได้อย่างสมบูรณ์ จี้ยูเหวินรู้สึกทำอะไรไม่ถูก นับประสาอะไรกับการใช้เรื่องความร่วมมือมาเป็นข้อต่อรอง
ในขณะที่จี้เฟิงกำลังตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จู่ๆจี้เฟิงก็พูดว่า “คุณจี้ ผมมีวิธีแก้ปัญหาเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดจากทั้งสองทาง คุณสนใจที่จะฟังดูก่อนมั้ย?”
“แน่นอน ฉันอยากฟัง!”
......จบบทที่ 828 ~