ตอนที่ 80 หยกที่กำลังเจียระไน
นัยน์ตาของถังเทียนเป็นประกายวูบหนึ่งหมัดขวาของเขาเป็นเหมือนค้อนที่ทุบลงมา
หมัดที่มีเพลิงเขียวระเบิดใส่ตัวธนูในลักษณะที่น่าเกลียด
คลื่นพลังหลั่งไหลออกจากหมัด ถังเทียนคำรามและยืมพลังนี้ กระโจนพุ่งขึ้นไปที่ผนังหลังคา พลังของถังเทียนและพลังธนูอยู่ในระดับเดียวกัน พลังของลูกธนูรุนแรงพอๆ กับพลังยุทธระดับสี่แข็งแกร่งมาก ถ้าไม่ใช่เพราะถังเทียนใช้พลังนี้โดยบังเอิญ ธนูก็คงทะลุกำปั้นเขาไปแล้ว
แต่ก็มีประโยชน์ของพลังที่แข็งแกร่ง พลังที่ยืมนี้ส่งให้ถังเทียนพุ่งขึ้นไปได้สูงมากผนังด้านบนของอุโมงค์อยู่ใกล้เขา และเห็นว่า เขากำลังจะกระแทก นิ้วทั้งสิบของถังเทียนงอนิ้วเป็นตะขออีกครั้งและจิกเข้าไปในผนังด้านบน
แรงเฉื่อยก็หยุดทันที และร่างกายของเขาก็แนบผนังด้านบน
ถังเทียนผ่อนลมหายใจแขนทั้งสองปล่อยพลังออกมาเหมือนลูกธนูที่ปล่อยออกจากแล่งพุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นเขาก็ทำไปตามกระบวนการ
ถังเทียนไม่พบสิ่งกีดขวางเพิ่มพลังของหมัดพิฆาตน้อยก็เหลือเฟือและใช้เปลี่ยนทิศทางก็ทำได้เช่นกัน ขณะที่สิบฝ่ามือเงาสลายก็ดีพอจะเปลี่ยนทิศทางลูกศรได้ การกระทำของถังเทียนว่องไวเป็นพิเศษบวกกับพลังร่างกายที่แข็งแรงและร่างกายที่อ่อนหยุ่นได้ สิ่งเหล่านี้เป็นผลมาจากการฝึกวิทยายุทธพื้นฐานมาห้าปีขณะที่พลังเหล่านั้นได้แสดงคุณค่าของมันออกมาอย่างมากมาย
เขาเป็นเหมือนเสือดาวแมวป่าที่ว่องไวคล่องแคล่วและเคลื่อนไหวรวดเร็ว
ปิงที่ตามอยู่เบื้องหลังเขาประหลาดใจเล็กน้อย ถังเทียนมีวิธีที่คาดไม่ถึงหลายวิธี แม้แต่เขาก็ไม่มีความคิดทั้งหลายแบบนั้น และเขาเองก็ต้องอุทานด้วยความชื่นชม ความจริงเขาไม่เข้าใจว่าทำไมถังเทียนที่ปกติจะทำตัวงี่เง่าอยู่เสมอทันทีที่เข้าสู่การต่อสู้มักจะกลายเป็นคนฉลาดมาก ทหารใหม่ทุกคนผู้อยู่ในเงื้อมมือของปิงในอดีตแม้ว่าพวกเขาจะมีพรสวรรค์และพลังมากกว่าถังเทียน แต่ความสามารถเอาตัวรอดในท่ามกลางอันตรายกลับแย่กว่าถังเทียนมากมายนัก
เจ้าเด็กนี่เกิดมาเพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้
ต่อไปเจ้าจะวิ่งไปตรงไหนกันแน่
ปิงเต็มไปด้วยความคาดหวัง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะผ่านอุโมงค์พันธนูได้
นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้น....
ในไม่ช้าถังเทียนก็ตระหนักว่าพลังของธนูเริ่มเข้มแข็งรุนแรงขึ้น มุมยิงก็แนบเนียนยิ่งขึ้นทำให้ถังเทียนอยู่ในสภาพสิ้นหวัง
อย่างไรก็ตามในสายตาของปิง เขาเห็นมากมายนักแล้วเมื่ออยู่ในอันตราย ถังเทียนสามารถเอาตัวรอดได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะอยู่ในสภาพสิ้นหวัง ความเคลื่อนไหวของเขาน้อยลง ภายใต้การกดดันและจังหวะการโจมตีที่เพิ่มขึ้น ความเคลื่อนไหวของถังเทียนดูหมดจดและแม่นยำมากขึ้น
การเคลื่อนไหวของเขากลายเป็นรัดกุมมากขึ้นและโดยช้าๆ ก็ค่อยมีรสชาตเพิ่มขึ้น น่าชมจริง
เขาคือถังพื้นฐานแน่นอน
ช่วงเวลานี้ปิงชื่นชมเงียบๆ อยู่ในใจ
วิชาต่อสู้ขั้นพื้นฐานของถังเทียนสมบูรณ์แบบแต่เขาไม่เคยอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าวมาก่อน การฝึกหนักของค่ายทหารใหม่กระทำอย่างแน่นหนารัดกุม แต่ขณะเทียบครั้งนี้เขาสามารถเสียชีวิตเมื่อไหร่ก็ได้ นี่คือการฝึก ภายใต้เจตจำนงที่เป็นอันตราย ถังเทียนต้องเคลื่อนไหวรัดกุมมากขึ้น
ตอนแรกเขาอยู่ในสภาพสิ้นหวัง แต่อย่างช้าๆ ถังเทียนค่อยประคับประคองตนเองได้
แม้ว่าความเร็วของเขาจะตกลงไปบ้าง แต่เขาก็ยังอดทนและมุ่งไปข้างหน้า
พลังและพลังปราณเที่ยงแท้ของถังเทียนใกล้จะหมดเต็มที
เดี๋ยวก่อน
ปิงอุทานเบาๆ เขาสังเกตว่าถังเทียนเริ่มรวมพลังปราณเที่ยงแท้ด้วยพลังที่แตกต่าง นี่สร้างความตื่นตะลึงให้กับเขา คนที่ผิดพลาดง่ายที่สุดจะไม่รู้วิธีรวบรวมพลังเที่ยงแท้และความแข็งแรงในกายเข้าด้วยกันและในความลึกลับนี้ มีแต่ทหารที่ผ่านศึกมาจึงจะรู้สิ่งเหล่านี้
ถังเทียนเริ่มค้นพบด้วยตนเอง
การต่อสู้ที่แข็งแกร่งจะทำให้เจ้าผู้นี้เป็นนักรบโดยธรรมชาติ
ปิงไม่สามารถเผชิญกับความระมัดระวังความคล่องแคล่วและความตั้งใจต่อสู้ที่โดดเด่นของคนผู้นี้ได้ เขาไม่สามารถเชื่อมโยงกับคนผู้นี้ด้วยรูปลักษณ์ของถังเทียนผู้ปกติจะดูเหมือนโง่เขลา
นี่คือถังเทียนจริงๆ
ปิงตื่นเต้นเล็กน้อยขณะที่คิดว่าเขาได้เห็นประจักษ์ว่าหยกที่ยังไม่ได้รับการขัดสีเจียระไนค่อยๆได้รับการขัดสีจนกระทั่งสีสันชัดขึ้นและหยกเนื้อดีก็เผยโฉมจนได้ ปิงไม่เคยดูแคลนถังเทียน ความดุดัน ความเพียร ความดื้อรั้นความมุ่งมั่นและความภูมิใจ คุณสมบัติทั้งหมดนี้ทำให้ปิงชื่นชมมาก แต่วันนี้ถังเทียนทำให้ปิงตกใจ
ถังเทียนไม่ได้สังเกตความตื่นเต้นของปิงเขาไม่เคยรู้สึกสิ้นหวังและหมดเรี่ยวแรงมาก่อนและธนูระดมยิงใส่เขาเหมือนสายฝนแทบไม่มีสิ้นสุด แม้ว่าเขาเริ่มพยายามรวบรวมปราณเที่ยงแท้และพลังกายภายนอกก็ตามแต่พลังก็เริ่มถดถอยไปอย่างรวดเร็ว
ปัง
หมัดกระแทกใส่ธนูดอกหนึ่ง
ตอนนี้พลังของเขาไม่ปะติดปะต่อแต่ทันใดนั้นเขาเป็นเหมือนแรด เขาเหินขึ้นไปและในช่วงเวลาที่ตื่นตระหนกเขางอนิ้วทั้งห้าจิกเข้าไปในผนังบรอนซ์ ห้อยตัวกับผนัง
ธนูบรอนซ์ไม่ได้ยิงเขาทำให้มีโอกาสผ่อนหายใจ
ควั่บ
เสียงก้องสะท้อนในอากาศ
ถังเทียนกัดฟันใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่เหลือ และขดตัวหลบลูกธนูสองสามดอก ด้วยการผลักมือทำให้เขาพุ่งไปข้างหน้า
ถังเทียนไม่สามารถจำได้ว่าเขาก้าวหน้าไปได้ไกลแค่ไหน? เขาเริ่มจะหัวหมุนเมื่อพลังร่างกายภายนอกของเขาถูกนำมาใช้
ขณะที่เห็นถังเทียนตะลึงปิงยังคงเงียบ แต่ในฝ่ามือของเริ่มมีรัศมีเรืองแสง
เขารอให้ถังเทียนยอมแพ้ก่อนเขาจะเข้าช่วย
ในสถานการณ์คับขันเช่นนั้น ถังเทียนสามารถอดทนได้นานเท่าที่เขาสามารถทำได้ ดังนั้นเขาจะสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์มากขึ้น ประสบการณ์ที่เขาจะได้รับการนี้จะมีค่ามากและมีค่ามากกว่าการฝึกธรรมดา ระดับจะไม่เพิ่มโดยตรง พลังยุทธก็ไม่ได้เพิ่ม แต่อาจเพิ่มความแข็งแกร่งของเจ้าขึ้น และนั่นคือเรื่องจริง
ด้วยความแข็งแรงระดับเดียวกัน คนผู้ทุ่มชีวิตต่อสู้ตามทางจะกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งมากกว่า โอกาสมีชีวิตรอดก็สูงขึ้น
ปฏิกิริยาของถังเทียนช้าลง ความเคลื่อนไหวของเขาดูเหมือนเต็มฝืน เนื่องจากอันตรายล้อมรอบตัวเขาไปหมด
ปิงพร้อมจะช่วยเหลือเมื่อใดก็ได้
แต่ขณะที่เวลาผ่านไป ถังเทียนที่กำลังสะดุดเดินไปช้าๆและดูเหมือนเขาสามารถล้มได้ทุกเมื่อ แต่ก็ยังคงเดินไปได้เรื่อยไม่ล้มลงสักที แม้ว่าอันตรายจะซุ่มซ่อนอยู่รอบตัวเขา แต่เขายังเดินขึ้นหน้าด้วยความดื้อรั้น
เจ้าเด็กนี่...
ปิงอดทึ่งไม่ได้ นี่คือ... สัญชาตญาณของสนามรบ
ถังเทียนมีอาการสนองตอบช้าลง แต่เขาก็ยังฝืนหลบธนูบรอนซ์ได้จนนาทีสุดท้าย
หลายๆคนอาจคิดว่าสัญชาตญาณเป็นของขวัญจากสวรรค์ แต่ในฐานะที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนในกองทัพดาวกางเขนใต้ ปิงรู้ว่าสัญชาตญาณต้องขัดเกลาผ่านการฝึกฝนและปฏิบัติถังเทียนฝึกฝนสัญชาตญาณ ขณะที่เขารู้เรื่องนี้มานานแล้วไม่อย่างนั้นถังเทียนคงไม่มีทางทนบทฝึกโหดได้นานขนาดนั้นเป็นแน่
แต่สัญชาตญาณในสนามรบของเจ้าเด็กนี่ก้าวหน้าไปมาก
ปิงรู้สึกเหมือนว่าเขาถูกลิขิตมาให้ต้องตกใจกับถังเทียนในวันนี้ เพราะเมื่อเขากลับมาสู่ความเป็นจริง ถังเทียนก็ผ่านอุโมงค์พันธนูได้สำเร็จแล้ว
เขา... เขา....ผ่านอุโมงค์พันธนูได้สำเร็จ...
ปิงเหม่อมองดูถังเทียน ไม่มีลูกศรบรอนซ์พุ่งมาอีกต่อไปและถังเทียนที่พ้นจากอันตราย เงยหน้าขึ้นและล้มลงกับพื้นทันที เหงื่อกระเด็นไปทั่วทุกที่
ปิงลอยตัวกลางอากาศอีกครั้งจ้องดูถังเทียนที่เหนื่อยจัดจนล้มลงหลับไป เขาไม่พูดอะไรเป็นเวลานาน
เจ้าเด็กนี่....
※※※※※※※※
“แม่...รอให้ข้าโตก่อน ข้าจะเป็นหนุ่มเติบใหญ่และจะปกป้องแม่ได้แน่นอน”
“แม่, ข้าจะต้องตามหาคนใจดำนั่น, จะทุบเขาเเละลากคอเขามาหาแม่ให้เขาสำนึกผิดกับแม่”
“ดีแล้ว! เชียนฮุ่ย ข้าสัญญา ข้าจะต้องมาตามหาเจ้าให้ได้”
“เชียนฮุ่ย, ข้าจะแข็งแกร่งให้ได้แน่นอน ไม่ว่าสวรรค์วิถีจะอยู่ไกลเพียงไหน ข้าจะไม่ผิดสัญญาของเรา
….
ถังเทียนลืมตาอย่างมึนงง ดูเหมือนมีเสียงบางอย่างภายในใจเขา สิ่งที่ปรากฏอยู่ในสายตาเขาคือการออกแบบตกแต่งที่ละเอียดอ่อนบนผนังบรอนซ์
เดี๋ยวก่อน!
ถังเทียนกระโดดผางมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที“อ๊า อ๊า อ๊า อ๊า ลุงปิง, ลุงปิง”
“เออ, เจ้าฟื้นแล้ว?” เสียงของลุงปิงดังมาจากด้านหลังของเขา
หลังจากเห็นลุงปิงถังเทียนค่อยคลายใจ และหลังจากนั้นชั่วขณะ เขาถามอย่างสับสน “เอ,ข้าเผลอหลับไปได้ยังไงกัน?”
“ก็... เจ้าอาจจะเหนื่อยจัด” ลุงปิงตอบเรื่อยๆ
“ก็เหมือนจะเป็นอย่างนั้น” ถังเทียนยังระลึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนนั้น แต่ตาของเขาแทบปะทุทันที เขาเหลียวมองไปรอบๆ ชี้นิ้วมาที่ปิงและตะคอก“กล้าดียังไงมาเรียกข้าว่าเด็กใหม่”
“เป็นไปได้ไหมว่าข้าผิดเองที่เรียกเจ้าอย่างนั้น?” ลุงปิงหัวเราะและกล่าว “ตลอดทั้งสถานที่นี้ในอุโมงค์พันธนูมีเจ้าอยู่เพียงคนเดียวและความจริงเจ้าตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากเช่นนั้นจริงไหม? หึหึ อุโมงค์พันธนูเมื่อในอดีตจะถูกทำลายทุกเดือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าเมื่อมีคนผ่านได้หลายครั้ง โอว ข้าจำได้แล้ว มีอยู่ครั้งหนึ่งเราใช้มันมาหลายครั้ง และมันพังจริงๆเดือดร้อนถึงช่างเครื่องกลก็ต้องมาเพื่อซ่อมมันที่นี่ เจ้าสามารถพูดได้เลยว่าคนเราน่าเบื่อเกินไป”
แต่ลุงปิงภาวนาอยู่ในใจว่า“แต่ระดับของพวกเขาทุกคนเหนือกว่าของเจ้า...
หลังจากได้รับการอบรมสั่งสอนจากปิงแล้วเขาผงะทันทีและครางว่า “มันดีขนาดนั้นเชียวเหรอ? นี่เป็นครั้งแรกนะ, รอจนกว่าข้าจะกลับมาอีก ฮึ่ม ข้าจะเอาชนะมันให้ได้”
“โม้อยู่ได้,ดูเหมือนว่าเจ้าฟื้นคืนกำลังแล้วนะ” ปิงกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ“อย่างนั้นก็เดินหน้ากันต่อ”
ถังเทียนตะเกียกตะกายขึ้นมาทันทีและรู้สึกถึงบางอย่างพันอยู่ที่หัวทันที เขาสัมผัสดูและรู้สึกถึงบางอย่าง เมื่อจับมาดูกลับเป็นหยาหยานั่นเอง เขาขดตัวรอบคันธนูและนอนกรนอย่างสบายใจตรงท้องน้อยพองขึ้น ยุบลงตลอดเวลา ถังเทียนส่ายหัวและหย่อนหยาหยาลงไปในกระเป๋าของเขา
“ยังมีกับดักอะไรอยู่ข้างหน้าอีกไหม?” ถังเทียนถามหวาดๆ
“ทำไม? กลัวเหรอ?” ลุงปิงถามล้อเลียน
ถังเทียนเป็นเหมือนกับแมวที่ถูกเหยียบหางทันทีถึงกับกระโดดผางถลึงตามองปิง “กลัว? ให้ตายเถอะ ลุงท้าข้าอยู่เหรอ? มาเลยมาซ้อมมือกันให้สาสมใจเถอะ”
ลุงปิงไม่มองเขาสักครั้งเหมือนกับว่าไม่มีเขาอยู่ “ดูเหมือนว่าเจ้าจะฟื้นฟูเรี่ยวแรงแล้วนะ”
ถังเทียนพึมพำและพูดด้วยความภูมิใจ“แน่นอน, ลุงไม่เข้าใจหนุ่มน้อยชาวฟ้าเอง”
เดินขึ้นหน้าไปไม่ไกล ประตูบรอนซ์ก็ปรากฏอยู่ข้างหน้า
ประตูบรอนซ์ที่ส่องแสง
ประตูได้รับการขัดเงาดีเหมือนกระจก ถังเทียนวิ่งไปที่กระจกและเริ่มส่องกระจกจัดท่าทางด้วยสีหน้าร่าเริง หยาหยาตื่นขึ้นและถูกประตูบรอนซ์ดึงดูดความสนใจเหมือนกันมันปีนขึ้นมาอยู่บนไหล่ของถังเทียนและเลียนแบบทำท่าทางอย่างถังเทียน
“เฮ้, เจ้าตัวน้อย, แกดูดีไม่เบาเลยนะ”ถังเทียนชมและเพิ่มความเห็นที่ภาคภูมิใจ “แน่นอน เหมือนกันทั้งเจ้าของและเจ้าตัวน้อย”
หยาหยาตีลังกาอยู่บนไหล่ของถังเทียนด้วยความตื่นเต้น
ปิงไม่สนใจพวกเขาทั้งสอง เขาเดินมาดูที่ด้านข้างประตูและเริ่มมองดูรอบๆ
ถังเทียนสังเกตดูการกระทำของลุงปิงจากหางตา แต่เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลุงปิง
ประตูคงอยู่มาเป็นเวลานานแล้ว ไม่มีใครทิ้งร่องรอยไว้บนประตูบรอนซ์ที่เหมือนกระจกนี้จากนั้นถังเทียนก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าของเขา