ตอนที่ 74 รอยแยกพลังงาน
จิ่งหาวไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดของเขาเหินขึ้นไป เห็นได้ชัดว่าเขาใส่ใจถังเทียนผู้มีระดับวิชาตัวเบาน่าเป็นห่วง นี่เองทำให้ถังเทียนมีโอกาสเห็นวิชาตัวเบาของจิ่งหาวอย่างใกล้ชิด จิ่งหาวมีลักษณะพิเศษเฉพาะขณะเคลื่อนตัวไปข้างหน้า เขาเคลื่อนตัวเป็นแนวเส้นตรงเหมือนตีเส้นด้วยไม้บรรทัด ถ้าเขาต้องการเลี้ยว เขาจะหมุนตัวอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาจะกลับไปเดินหน้าเป็นเส้นตรงอีก ถ้าเขาต้องการเลี้ยวก็จะเลี้ยวด้วยอาการแปลกประหลาดมาก ดูเหมือนมนุษย์หุ่นยนต์จากนั้นก็ไปเป็นจังหวะเหมือนที่ผ่านมา
จิ่งหาวสังเกตว่าถังเทียนเฝ้าสังเกตวิชาตัวเบาของเขาและพูดว่า“ข้ากำลังฝึกวิชาตัวเบาก้าวย่างไม้บรรทัด เมื่อข้าเดินก็มักจะไปเป็นเส้นตรงเสมอ”
“อย่างนั้นจะเป็นยังไงถ้าท่านต้องการโจมตี?” ถังเทียนถามอย่างสงสัย “คู่ต่อสู้จะสามารถป้องกันท่านได้ง่าย”
“นั่นก็ถูก แต่จุดเด่นของการเดินเป็นเส้นตรงก็คือระยะจะสั้นที่สุดและไวที่สุด ถ้าเจ้าสามารถฝึกความเร็วได้สูงสุด อย่างนั้นเจ้าจะไม่ต้องกลัวว่าคู่ต่อสู้จะรู้เจตนาเจ้า ขณะที่พวกเขาก็ไม่สามารถป้องกันเจ้าได้” จิ่งหาวพูดตามปกติ
“อย่างนั้นจะเร็วได้ขนาดไหน?” ถังเทียนตกใจ ตรรกะที่ว่าเส้นทางตรงจะเป็นทางสั้นที่สุด แต่ในวิชาต่อสู้ การโจมตีเป็นเส้นตรงทำได้ยากมาก เนื่องจากศัตรูแก้ไขรับมือได้ง่าย บนสนามต่อสู้ทันทีที่ความตั้งใจของท่านถูกเปิดเผย อย่างนั้นก็หมายความว่าท่านเสียเปรียบ
“ไวพอก็แล้วกัน” จิ่งหาวมองดูวิชาตัวเบาของถังเทียน เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยและในมือเขามีการ์ดขุนพลวิญญาณหลายใบ “มีการ์ดวิชาตัวเบาสองสามวิชาอยู่ในนี้ ลองดู ถ้าเจ้าชอบ”
มีการ์ดขุนพลวิญญาณระดับสี่ ทั้งหมดเป็นการ์ดชั้นเงิน ‘เกลียวถลาลม’ ‘ปีกในตำนาน’ ‘แปดก้าวโชคชะตา’ “กระจายพันไม้”
“เกลียวถลาลมมุ่งเน้นความเร็ว เหมาะกับการเดินทางระยะไกลมาก ปีกในตำนาน คือเหินบินในระดับที่สูง ถ้าเจ้าใช้ร่วมกับวิทยายุทธอื่นก็จะเพิ่มพลังให้กับเจ้า แปดก้าวโชคชะตา มีความเปลี่ยนแปลงซับซ้อนมากมากกล่าวกันว่าเปลี่ยนตำแหน่งได้รวดเร็ว แต่ฝึกให้เชี่ยวชาญได้ยาก กระจายพันไม้เหมาะกับการหลบและการบินที่ซับซ้อน แต่ละวิชานั้นก็มีจุดดีของตัวเอง” จิ่งหาวแนะนำ
ถังเทียนคิดและกล่าวว่า “ข้าอยากได้แปดก้าวโชคชะตา”
เพราะการเดินทางไกล เขาก็มีนกกระจอกเทศกลอยู่แล้ว วิชาตัวเบาอีกสองวิชาไม่เหมาะกับรูปแบบการต่อสู้เขา มีเพียงแปดก้าวโชคชะตามที่เหมาะกับเขาในฐานะยอดฝีมือสู้ระยะประชิด
จิ่งหาวไม่ถามอีกต่อไป และยื่นการ์วิชาแปดก้าวย่างโชคชะตาให้ถังเทียน
ขณะที่พวกเขาก้าวไปข้างหน้า สีหน้าของจิ่งหาวพลันเปลี่ยนขณะเขาระมัดระวัง เขาชักกระบี่ออกจากเอวทันที
กี๊ซ
ทันใดนั้น ประกายเงาฉายผ่านเข้ามาในความมืด หัวใจของถังเทียนเต้นผาง เขารู้สึกว่าลมที่แฝงกลิ่นเหม็นปะทะหน้าของเขา มันรวดเร็ว และมันมาเร็วจนเขาไม่มีเวลาตอบสนอง
ลำแสงเย็นฉายออกมาที่หน้าถังเทียนทันที
เงาดำกลมแยกออกเป็นสอง
กระบี่ของจิ่งหาวสอดเก็บเข้าฝัก
จนถึงตอนนี้ ผมของถังเทียนผมตั้งชันกะทันหัน สีหน้าของเขาเปลี่ยน ถ้าไม่ใช่เพราะจิ่งหาว เขาคงจะตายไปแล้ว เขามองดูที่เท้าของเขาด้วยความกลัว เงาดำที่ร่างขาดเป็นสองท่อน และร่างของมันมีปีกดำ
“มันคือค้างคาวถ้ำลึก” เสียงของจิ่งหาวดังที่หูของถังเทียน “ภูตอสูรระดับห้า มันไวถ้าเจ้ามองหาดูดีๆ ก็จะพบแก่นพลังวิญญาณ”
มิน่าเล่าถึงได้น่ากลัวนัก มันเป็นภูตอสูรระดับห้า
ถังเทียนยังคงหน้าซีดเล็กน้อย แต่ก็สงบตนเองลงได้อย่างรวดเร็ว เขาหาแก่นพลังของมัน มันใหญ่เท่าเมล็ดถั่วเหลือง และส่องประกายสลัว เมื่อถังเทียนยื่นให้จิ่งหาว จิ่งหาวส่ายหน้าและกล่าวว่า “ให้เจ้าเถอะ ข้าไม่จำเป็นต้องใช้มัน”
ถังเทียนได้ยินเช่นนั้นจึงเก็บไว้โดยไม่พูดอะไร จนถึงตอนนี้เขาได้ตระหนักว่ากระบี่ของจิ่งหาวนั้นรวดเร็วเพียงไหน
เขาสูดหายใจลึก และเกราะปรากฏอยู่บนร่างกายเขา เกราะนกยูงครามมันไม่เปล่งแสงในความมืด และเขากระชับถุงมือบนกำปั้น
“ไปกันเถอะ” ไม่มีอะไรทำต่อต่อจิ่งหาวพูดเสร็จและเดินต่อไป
ถังเทียนตามไปอย่างกระชั้น บางครั้งเขากวาดมองไปรอบๆ จากนั้นเขาถามเบาๆ “มีภูตอสูรดวงดาวมากนักหรือ?”
“ก็มากอยู่” จิ่งหาวกล่าว “ดังนั้นตั้งแต่แรกเริ่ม ข้าคิดว่าที่นี่มีสมบัติ จากนั้นจึงค่อยตระหนักว่ามีภูตอสูรดวงดาวมากเกินไป ที่นี่ยังนับว่าดี พวกมันเป็นภูตอสูรระดับต่ำทั้งหมด แต่ถ้าเจ้าล่วงลึกลงไป ก็จะพบภูตอสูรดวงดาวเพิ่มขึ้น แม้แต่ยอดฝีมือจากสมาพันธ์ชาวยุทธก็ยังไม่กล้าลงไป ไม่มีผู้ใดรู้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ภายใต้
ระดับต่ำ
ถังเทียนรู้สึกหดหู่เล็กน้อย เขาเกือบถูกภูตอสูรระดับต่ำฆ่าตายเสียแล้ว
เขายังโชคดีที่ไม่พบสิ่งที่น่ากลัวในระหว่างทาง ทันใดนั้น ถังเทียนสังเกตว่าไม่ไกลออกไปมีหลุมรูปวงรีขนาดต่างๆ กัน หลุมเล็กไม่ค่อยกว้างขนาดประมาณครึ่งเมตร ขณะที่หลุมใหญ่กว้างกว่าสิบเมตร ถังเทียนสามารถรู้สึกได้ถึงพลังงานจากหลุมนั้นว่ามีความหนาแน่นกว่าที่อื่นๆ
เมื่อเห็นสายตาของถังเทียนแล้ว จิ่งหาวกล่าวว่า “นั่นคือบ่อพลังงาน”
เขาเดินต่อไปโดยไม่มีความคิดจะหยุด
ถังเทียนรู้สึกประหลาดเล็กน้อย พวกนั้นเป็นบ่อพลังงานไม่ใช่หรือ? ถังเทียนสามามารถเห็นได้ว่าโดยธรรมชาติแล้วบ่อเหล่านี้เป็นสถานที่สำหรับฝึกปราณเที่ยงแท้อย่างไม่ต้องต้องสงสัยพลังงานของมันหนาแน่นเกินกว่าบริเวณด้านนอก ถ้าเขาอยู่ข้างนอก และมีสถานที่เช่นนี้ พวกที่มีอิทธิพลก็คงชิงพวกมันไปแล้ว
อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจากไปตามทางเดินคดเคี้ยวไม่มีที่สิ้นสุด ถังเทียนก็มึนงง
ทันใดนั้น จิ่งหาวเบียดตัวเข้าไปในรอยแยกเล็ก รอยแยกนั้นจำเป็นต้องคืบคลานเข้าไปให้ถึงด้านล่าง มีรอยแยกเช่นนี้อยู่ในใต้ดินมากมาย ถังเทียนรีบตามไป
เมื่อผ่านรอยแยกเข้ามาได้ ถังเทียนก็ตะลึงกับภาพที่เห็นอยู่ด้านหน้าเขา
จุดแสงน้ำเงินเริ่มฉายลอยออกมาจากเหวเบื้องลึก มีแสงนี้อยู่หลายจุดเหมือนกับว่าเป็นทะเลคราม แสงเหล่านี้ประดังออกมาจากเหวลึกและลอยขึ้นไปในท้องฟ้า สีของมันค่อยๆสลัวและจางหายไปในอากาศเบาบาง
ชุดแสงสีน้ำเงินนี้พอเริ่มฉายก็เรืองแสงเพิ่มขึ้นแล้วจึงหายไป
“บอลแสงทั้งหมดนี้คือพลังงาน” น้ำเสียงของจิ่งหาวตื่นเต้นเล็กน้อย “การฝึกในที่เช่นนี้ ความก้าวหน้าของเจ้าจะทำได้เร็วยิ่งขึ้น ที่สำคัญก็คือนี่คือบ่อพลังงาน พลังงานหมู่ดาวของที่นี่หนาแน่นเกินกว่าจะบรรยาย”
“มีสถานที่ลึกลับเช่นนี้อยู่ในพื้นพิภพได้ยังไง?” ถังเทียนพึมพำถาม
บอลแสงที่ล่องลอยอยู่ต่อหน้าเขา พอเขาเอื้อมมือเข้าไปจับพบว่าแสงมีความเย็นเล็กน้อยเมื่อสัมผัสผิวของเขา ในเสี้ยววินาทีนั้น ความเย็นก็หายไปและซึมเข้าไปในร่างของเขา ถังเทียนรู้สึกเพียงว่าสดชื่นขึ้น
“ข้าก็ยังไม่รู้” จิ่งหาวมิได้หลงเพลิดเพลินและเขากลับคืนสู่สภาวะปกติได้อย่างรวดเร็ว “ข้าก็เหมือนกัน ได้พบสถานที่นี้โดยบังเอิญ พลังงานนี้ไม่มีองค์ประกอบธาตุ พลังของมันและระดับของมันอยู่ราวระดับสี่ ดีที่สุดสำหรับมาตรฐานอย่างเจ้า สำหรับข้า มันไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก แต่เมื่อเทียบกับคนที่อยู่ด้านนอก ที่นี่ให้ผลดีกว่ามาก เจ้าเริ่มฝึกฝนได้เลย”
หลังจากนั้น จิ่งหาวนั่งขัดสมาธิและเริ่มฝึกฝน
ถังเทียนสังเกตดูและนั่งลงเช่นกัน
เขากระตุ้นพลังภายในเพื่อฝึกฝนทันที บอลแสงสองสามลูกเริ่มลอยเข้าหาถังเทียนเหมือนกับว่าถูกดูดเข้ามา
ถังเทียนกำลังใจจดจ่อกับการฝึก เขาสามารถรู้สึกได้ถึงความสบายอย่างมิอาจอธิบายได้ขณะที่ปราณเที่ยงแท้โคจรต่อเนื่อง และในพริบตา แอ่งตันเถียนที่สี่ก็เกือบเต็ม ถังเทียนหยุดดูดซับบอลพลังงาน จากนั้นกระตุ้นปราณเที่ยงแท้ภายในตัวซึ่งเริ่มไหลเวียนไปตามเส้นชีพจร
ถังเทียนแค่เริ่มฝึกปราณสี่มังกรฟ้าการฝึกจิตและเส้นชีพจรของเขายังไม่สามารถทำงานได้เต็มศักยภาพปราณเที่ยงแท้ของถังเทียนเหมือนกับดอกสว่าน ขณะที่ผ่านไปตามเส้นชีพจร มันขยายตัวอย่างต่อเนื่อง กระบวนการนี้ยาวนานและเชื่องช้า ด้วยการฝืนเล็กน้อยปราณเที่ยงแท้ของถังเทียนก็ลดลงฮวบฮาบ และแทบจะไม่เหลือเลย
สำหรับตามปกติ ถังเทียนจะเริ่มฝึกพลังภายในของเขา จากนั้นจะโคจรซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ในที่สุดถังเทียนก็เข้าใจเหตุที่จิ่งหาวมั่นใจว่าพลังงานที่นี่สามารถช่วยให้ถังเทียนฟื้นฟูพลังปราณเที่ยงแท้ในระยะเวลาสั้นๆได้
มันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการฝึกฝนแน่นอน
ถังเทียนจมอยู่กับการฝึกฝนภายในอย่างรวดเร็ว
วันที่ห้า
จิ่งหาวลืมตาขึ้น เขามองดูถังเทียนที่ยังนั่งอยู่ไม่ไกลนัก แววตกใจฉายอยู่ในดวงตาเขา สำหรับการฝึกฝนต่อเนื่องสิบวันจิ่งหาวก็ไม่อาจรับต่อไปได้ ระยะเวลาฝึกฝนจะยากลำบากขึ้นและจะทำให้จิตใจเหนื่อยล้าได้
ดังนั้นตามปกติ หลังจากห้าวัน จิ่งหาวจะกลับไปพัก นั่นคือขีดจำกัดของเขา
ไม่นานหลังจากนั้น ถังเทียนลืมตาขึ้น จิ่งหาวถาม “ข้าจะกลับไปพักข้างล่าง เจ้าจะทำยังไงต่อ?”
“ข้าจะขอฝึกต่อ” ถังเทียนตั้งใจไว้แล้ว “ข้านำอาหารแห้งมาด้วยจำนวนหนึ่ง”
จิ่งหาวไม่ปฏิเสธและพูดว่า “ถ้าเจ้าจิตใจอ่อนล้า, ก็แค่พักซะ ใช่ว่าวันสองวันแล้วเจ้าจะฝึกได้ทุกอย่าง”
“ไม่เลย, ข้าไม่เหนื่อย” ถังเทียนไม่ได้โกหก สำหรับเขาการฝึกฝนห้าวันไม่มีอะไรแน่อยู่แล้ว
พอเห็นถังเทียนยืนกรานตั้งใจ จิ่งหาวไม่บังคับเขา “ที่นี่ยังปลอดภัยอยู่ อย่าเดินออกไปนอกรอยแยกก็แล้วกัน”
“ตกลง” ถังเทียนตอบจริงจัง
จิ่งหาวสั่งแล้วก็หมุนตัวจากไป
ถังเทียนยืดตัว ร่างของเขาชาเล็กน้อยเนื่องจากนั่งมาเป็นเวลาห้าวัน เขาทบทวนวิชาหมัดมวยของเขาสองสามครั้งเพื่ออุ่นเครื่องร่างกายก่อนจะเข้าไปในประตูดาวกางเขน
“ลุงปิง, ลุงเคยพบที่อย่างนี้มาก่อนบ้างไหม?” ถังเทียนอดถามปิงไม่ได้
ปิงพยักหน้า “เคย, ที่เหล่านี้เรียกว่ารอยแยกพลังงาน เมื่อก่อนกองทัพก็ใช้กันอยู่ เพียงแต่ไม่ใช่ที่นี่ ข้าจำได้ว่าสิ่งที่มีประโยชน์ที่สุดเกี่ยวกับรอยแยกพลังงานของพวกเราก็คือใช้มันอาบร่างพวกเรา”
“อาบ?” ถังเทียนถูกคำนี้ดึงดูด
“ใช่แล้ว ร่างมนุษย์น่าทึ่งและแปลกมาก บางคนไม่ใกล้ชิดคุ้นเคยพลังงานธรรมชาติของโลกโดยกำเนิด ดังนั้นพอพวกเขาฝึกมัน ความเร็วในการฝึกจึงเป็นไปได้ช้ามาก แม้ว่าพวกเขาจะฝึกปราณเที่ยงแท้ แต่ร่างของพวกเขากลับปฏิเสธปราณเที่ยงแท้โดยอัตโนมัติ ในกรณีที่รุนแรงบางคนก็ไม่สามารถฝึกวิทยายุทธใดๆ ได้เลย อย่างไรก็ตาม คนเหล่านี้กลับมีพรสวรรค์ในด้านอื่นๆ”
“เป็นไปได้หรือเปล่าที่ข้าจะเป็นคนเช่นนั้น” ถังเทียนชี้จมูกตนเอง
“เจ้าไม่ใช่แน่” ปิงอธิบาย “ร่างกายเจ้าไม่ปฏิเสธพลังเที่ยงแท้ พรสวรรค์ของเจ้าแย่เพราะเจ้าได้สัดส่วนและมีสมดุลมากเกินไป บอกตามตรงแม้ข้าเองก็ยังข้องใจวิทยายุทธของเจ้า เนื่องจากในยุคของข้าคนอย่างเจ้าถือว่าเป็นผู้สมัครทหารที่ดีที่สุด เราคิดว่าถ้าผู้สมัครมาได้สัดส่วนดีเกินไป พวกเขาก็จะไม่ยอมถูกควบคุมได้ง่ายๆ”
“อย่างนั้นเหรอ? งั้นข้าก็ทรงพลังแข็งแกร่งจริงๆ สิ” นัยน์ตาถังเทียนเป็นประกาย
“ข้ามีความเข้าใจวิทยายุทธปัจจุบันอย่างจำกัด ไม่อาจอธิบายให้เจ้าเข้าใจได้แต่อย่างใด” ปิงพูดตามตรง “เจ้าไม่จำเป็นต้องอาบแสง ร่างกายของเจ้าใกล้ชิดกับพลังงานมากอยู่แล้ว”
ถังเทียนผิดหวัง “โอว, ข้าจำได้แล้ว รอยแยกพลังงานสามารถใช้ฝึกพลังจิตวิญญาณได้เช่นกัน” จู่ๆปิงก็นึกขึ้นได้กระทันหัน