ตอนที่ 71 การ์ดใบใหม่
“เอ๋,อะไรไหม้เหรอ?” ถังเทียนถามอย่างไร้เดียงสา
เซรีนตะลึงอึ้งค้างไปชั่วขณะ ก่อนที่จะฝืนยิ้มทันที“ไม่ใช่ปัญหาของเจ้าหรอก ดูเหมือนจะยังมีข้อบกพร่องบางอย่างในการจัดทำอุปกรณ์นี้”
ถังเทียนส่ายศีรษะกล่าวแสดงความคิดว่า“ข้ารู้สึกว่า แม้ว่าสมบัติดวงดาวจะมีจิตวิญญาณพลังยุทธและฉลาด แต่ก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะเทียบกับมนุษย์ได้ ถ้าไม่อย่างนั้นทำไมท่านถึงไม่ออกแบบให้พวกมันเป็นอุปกรณ์ช่วยต่อสู้ในสงครามเล่า?วิธีนี้ อาจเป็นวิธีที่มีอานุภาพมากมาย มันอาจช่วยให้มนุษย์ให้ต่อสู้ได้ พวกมันฉลาด และถ้าข้ามีอาวุธหรือเครื่องมือเช่นนี้ที่สามารถใช้วิชาต่อสู้ได้ถึงห้ารูปแบบ อย่างนั้นก็หมายความว่าข้าจะมีวิชาต่อสู้ที่แตกต่างกันถึงสิบวิชา และไม่มีใครสามารถจะเอาชนะข้าได้”
เซรีนรู้สึกว่าสมองของเธอเหมือนถูกไฟฟ้ากระตุ้น ยืนตะลึงเหมือนไก่ไม้
ทำไมเราถึงไม่คิดเช่นนั้น
ใช่แล้วว่าจิตวิญญาณพลังยุทธฉลาด แต่ก็ไม่อาจเทียบได้กับมนุษย์ และเพราะพวกมันต้องขับเคี่ยวต่อสู้กับนักสู้ ตัวมันเองก็อาจทำข้อผิดพลาดก็ได้ แต่ถ้าระบบนี้ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยนักสู้ในการต่อสู้ นั่นจะสร้างความแข็งแกร่งให้อย่างมากมาย
ไม่มีความจำเป็นต้องฝึก ตราบเท่าที่นักสู้สามารถใช้วิชาต่อสู้ใหม่ๆเซรีนตระหนักถึงคุณค่าตรงนี้ได้ทันที
ในช่วงนี้เองเกิดแรงบันดาลใจขึ้นมากมายในหัวของเธอ และเธอมีความคิดที่ดีหลายอย่าง ทันใดนั้นเธอมีความรู้สึกนี้ว่า งานสร้างสรรค์ของเธอมีโอกาสเปลี่ยนแปลงโลกได้ ความคิดไร้สาระนี้พร่างพรูออกมาจากหัวของเธอ แต่เธอกลับจริงจังและตื่นเต้นมาก
เธอยืนเหม่ออยู่ตรงนั้นขณะที่ความคิดนับไม่ถ้วนในหัวของเธอหลั่งไหลตามมาเหมือนสายฝน
ถังเทียนเห็นว่าเซรีนไม่ต้องการให้รบกวนจึงไม่เรียกเธอ และเริ่มสนทนากับปิงอย่างสบายใจพลางเต้นแร้งเต้นกาอย่างร่าเริง “ลุงปิง! ตอนนี้ฉันรู้สึกว่า ตอนนี้ฉันก้าวหน้าขึ้น”
ปิงไม่มีอาการตอบสนองแต่มองถังเทียนแทน “ตอนนี้เจ้ามีความคิดว่าไงบ้าง?”
“ความคิดตอนนี้น่ะหรือ?” ถังเทียนประหลาดใจ “โอว, ฉันแค่สุ่มนึกถึงมันอย่าบอกนะว่าไม่ควรเป็นเช่นนั้น? ลุงปิงไม่ได้คิดอย่างเดียวกันเหรอ?”
ปิงไม่พูดอะไรสักคำ ได้แต่จ้องดูถังเทียน เขามีประสบการณ์ในสู้รบมากกว่าถังเทียนเยอะแต่การต่อสู้ทดสอบระหว่างถังเทียนกับเซรีนเขามิได้ประหลาดใจแต่อย่างใด ในกองทัพดาวกางเขนใต้ในอดีต พวกเขาก็เอาตัวรอดอย่างนั้น สุดยอดจักรกลในยุคโบราณ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักรกลหรือจิตวิญญาณพลังยุทธ ทั้งสองวิธีมีอบรมในทหารใหม่ทั้งนั้น ปิงคุ้นเคยมากอยู่แล้ว ทหารฝึกใหม่จะต้องเผชิญกับการต่อสู้จำลองดังกล่าวตั้งแต่พวกเขาเริ่มฝึก ต้องฝึกหลบหลีกการทุบตี แต่หลังจากผ่านประสบการณ์มามากขึ้น ทหารฝึกใหม่บางคนก็จะมีคุณสมบัติสามารถเอาชนะการสู้รบจำลองได้ซึ่งมันแข็งแกร่งกว่าพวกเขา
มนุษย์มักเป็นพวกฉลาดมากที่สุด
แม้ว่าเครื่องทดสอบของเซรีนจะดูพิถีพิถันมาก แต่ปิงก็มิได้ประหลาดใจมากนัก ในยุคของพวกเขามีหุ่นกลเป็นคู่ฝึกฝนแม้ว่าจะดูหยาบกร้านแต่พลังทำลายของมันแข็งแกร่งกว่ามากเมื่อเทียบกับของเล่นที่น่าทึ่งของเซรีน
ปิงยังคงเงียบ แม้แต่ชัยชนะของถังเทียน เขาก็มิได้แปลกใจ จากแนวทางที่เขาเห็น ถังเทียนนั้นเป็นทหารที่โดดเด่น ดังนั้นเขาจึงน่าจะมีพื้นฐานคุณสมบัติที่ดีมิได้ตัดมุมใดในการอบรม ไม่เพียงแต่เขามิได้ตัดส่วนใดออกเท่านั้น เขายังมีแนวความคิดที่เกินกว่าการฝึกฝนของคนธรรมดาทั่วไป และในขณะสู้นี้ ก็ไม่มีสภาวะที่น่ากลัว เขาเป็นแบบอย่างพื้นฐานของนักสู้อัจฉริยะ เป็นคนบ้าในการต่อสู้แท้จริง
เขาไม่สามารถนึกภาพได้ว่าคนแบบนี้ถูกละเลยมาหนึ่งปีเต็มๆ ได้อย่างไร
ปิงไม่มีความเชื่อแม้แต่น้อยว่าอุปกรณ์ทดสอบฝีมือของเซรีนจะสามารถเอาชนะถังเทียนได้
ผลก็เป็นไปตามที่เขาคาด ถังเทียนได้รับชัยชนะ แต่กลับเป็นคำพูดของถังเทียนที่มำให้ปิงทึ่ง ประสบการณ์การรบของปิงมีอยู่มากมายและทันใดนั้นเขาตระหนักได้ถึงคุณค่าที่อัศจรรย์น่าทึ่งของคำพูดถังเทียน
เจ้าเด็กนี่...มักมีเรื่องให้ทึ่งได้เสมอ...
สภาพจิตใจของปิงยังคงหมกมุ่นอยู่ต่างจากสีหน้าสงบในภายนอกของเขา ในสายตาของเขา ถังเทียนมักเป็นเด็กหนุ่มที่ไม่มีสมอง เป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่ไม่อาจใช้นิ้วนับหนึ่งถึงร้อยได้ จู่ๆ เขาก็ทิ้งคำพูดเสนอแนวคิดสะท้านฟ้าสะเทือนดินไว้ทำให้ปิงถึงกับอึ้ง
เป็นไปได้ว่าเรามักจะดูแคลนเจ้าเด็กนี่อยู่เสมอ แต่ความจริงแล้วเขามีสติปัญญา
ปิงเริ่มจมอยู่กับความสงสัย
ดูเหมือนถังเทียนใช้คำพูดเรียกเขาว่าลุงปิงจะทำให้เขาพอใจขึ้นมาบ้างแล้วในตอนนี้ ทันใดนั้นบรรยากาศตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นน่าพึงพอใจ “อ่าฮะ สมองของหนุ่มน้อยชาวฟ้าผู้นี้กว้างขวางดุจทะเลจริงๆ”
มันเป็นน้ำทั้งหมดแม้ว่า..
ปิงรำพึงในใจ เขาตัดสินใจทิ้งความสงสัยนี้ลงทะเลเห็นได้ชัดเจนว่าถังเทียนมีโชคล้วนๆ คนเริ่มต้นอย่างเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการรบแน่
“ฮะฮะ! เป็นตามที่หนุ่มชาวฟ้าคาด ช่วยข้าแก้ปัญหาใหญ่ให้ข้าได้เชียวล่ะ” เสียงของเซรีนดังมาจากข้างหลังดวงตาที่ทรงเสน่ห์ มีชีวิตชีวาในตอนนี้ เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในถังเทียน เธอยิ้มให้ถังเทียน “ข้าตัดสินใจแล้วจะมอบการ์ดสองใบนี้ให้เจ้าฟรีๆ”
ถังเทียนยิ่งยินดีมากขึ้นแต่ความสนใจของเขามุ่งไปที่การ์ดวิญญาณทันที “นี่ต้องเป็นการ์ดที่ทรงพลังแน่นอน”
“ฮะฮะ!” เซรีนหัวเราะลั่น “โอว โอวโอว ก็ต้องทรงพลังมากพอ เหมาะกับหนุ่มน้อยชาวฟ้าแน่นอน”
มือของเธอถือการ์ดชั้นเงินที่ขาวกว่าหิมะอยู่ใบหนึ่ง “ตอนแรกเริ่มเจ้าบอกว่าต้องการการ์ดฝึกพลังภายในระดับสี่ที่เข้ากันได้กับปราณคัมภีร์กระเรียน นี่เป็นของดั้งเดิมวิชาฝึกพลังภายในที่ตกทอดมาจากหมู่ดาวมังกร ครั้งหนึ่งหมู่ดาวมังกรเคยมีชื่อเสียงโด่งดังมากแต่ว่าตกต่ำลงค่อนข้างรวดเร็ว เกือบคล้ายกับหมู่ดาวกระเรียนฟ้า ข้าสามารถบอกได้เลยว่าเจ้าฝึกฝนร่างกระเรียนได้แล้วแก่นสำคัญของปราณกระเรียนก็อยู่ตรงนั้น เมื่อกระเรียนแปลงเป็นพลังงานจนถึงระดับที่ห้า มันจะแสดงพลังที่น่ากลัวออกมาระดับหนึ่ง แต่ทันทีที่เจ้าเข้าสู่ระดับหก นอกจากเจ้าฝึกพลังภายในระดับสูงจากสำนักกระเรียน พลังของร่างกระเรียนที่ปลดปล่อยออกมาในเวลานั้นจะเล็กน้อยมาก วิชาสี่มังกรฟ้าเป็นเพียงวิชาระดับสี่ แต่วิชาฝึกฝนพลังภายในของหมู่ดาวมังกรเป็นวิชาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นอย่างมากตั้งแต่หนึ่งมังกรฟ้าไปจนถึงเจ็ดมังกรฟ้าฝึกได้จนกระทั่งถึงระดับที่แปด เมื่อถึงตอนนั้นก็จะตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง เรียกว่าแปดมังกรฟ้าส่วนที่ทรงพลังกว่าส่วนอื่นทั้งหมดของวิชาฝึกฝนพลังภายในวิชานี้ก็คือพลังงานมังกรฟ้า”
ถังเทียนฟังอย่างระมัดระวัง ปากของเขาทวนคำ “พลังมังกรฟ้า...”
“ถูกแล้ว พลังกระเรียนหลักแหลมเฉียบคม ขณะที่พลังมังกรแกร่งกร้าวและรุนแรง ถ้าเจ้าเข้าถึงพลังมังกรฟ้าได้อย่างแจ่มแจ้งรู้ชัด ทุกๆท่วงท่าของเจ้าก็จะมีพลังเพิ่มเป็นสองเท่าแน่นอน รูปแบบการต่อสู้ในปัจจุบันของเจ้ามีคุณลักษณะในแนวรุกอยู่แล้ว ถ้าเจ้าเพิ่มพลังมังกรฟ้าลงไปอีกพลังก็จะแข็งแกร่งมายิ่งขึ้น อย่างใดอย่างหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงระหว่างพลังกระเรียนและพลังมังกรฟ้าก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้มาก แม้ว่าพลังมังกรฟ้าจะฝึกได้ยาก แต่เจ้าก็ยังฝึกพลังปราณกระเรียนมาแล้ว หนุ่มน้อยชาวฟ้า, ข้าเชื่อศักยภาพของเจ้า”
เซรีนกระพริบตาให้ถังเทียน
ถังเทียนไม่พิรี้พิไรแม้แต่น้อย เขายอมรับการ์ดวิญญาณมาอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม “ข้าสามารถฝึกวิชามังกรฟ้าได้อย่างแน่นอน”
เซรียนก็ไม่ปิดบังความชื่นชมของเธอแม้แต่น้อย พร้อมกันนั้นเองการ์ดอีกใบก็ปรากฏในระหว่างนิ้วของเธอ “เจ้าเป็นอัจฉริยะสู้ระยะประชิดแน่นอนแต่ข้ารู้ว่าเจ้ามีจุดอ่อนอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือการใช้พลังขา วิชาเท้าเมื่อเทียบกับการใช้มือของเจ้านับว่ายังอ่อนกว่ามาก นี่คือท่าเท้าเตะคู่ต่อเนื่อง เหมาะกับต่อสู้ระยะประชิด มันน่ากลัวมากตรงที่อาศัยแรงเฉื่อยใช้ในการโจมตีอย่างต่อเนื่อง และพลังที่ปลดปล่อยออกมาจะมีขนาดใหญ่มากคล้ายกับประทัด เมื่อได้เต็มที่จะมีประโยชน์มาก ถ้าเจ้าสามารถฝึกพลังมังกรฟ้าได้อีก ก็จะเพิ่มพลังขาให้เจ้าได้อย่างสมบูรณ์ พลังของเจ้าจะเพิ่มขึ้นอีกมาก”
“ฟังดูน่าสนุก!” ถังเทียนทำตาโต การ์ดสองใบนี้เรียกความสนใจเขาได้มากทีเดียว
ถังเทียนเอียงศีรษะทันทีและมองดูอุปกรณ์ทดสอบของเซรีนซึ่งไหม้เหลือแต่ซากแล้วจากนั้นหันไปถามเธอ “เซรีน เจ้าจะสร้างอุปกรณ์ทดสอบใหม่อีกหรือเปล่า?”
เซรีนผายมือทั้งสองของเธอ“เป็นครั้งแรกที่ข้ามีความคิดที่สมบูรณ์แบบ หุ่นเหล็กนี้เหมาะจะสร้างได้ แต่สมบัติดวงดาวหาไม่ได้ง่ายๆ สมบัติดวงดาวนี้ข้าต้องใช้จ่ายไปมากกว่าจะทำความสะอาดมันได้ ตอนนี้ข้าเล่นได้แต่กับการ์ดระดับต่ำๆ แต่คราวนี้เมื่อได้รับการ์ดระดับสูง ก็ยังต้องการสมบัติระดับสูงอีกด้วย มันต้องใช้เงินมาก และข้าต้องเก็บรวบรวมทรัพย์ก่อนค่อยพิจารณาอีกครั้ง”
ถังเทียนคิดเล็กน้อยและกระบี่เล่มหนึ่งปรากฏอยู่ในมือของเขา เขาส่งมอบให้เซรีน “สมบัตินี้ข้าให้ท่าน ข้าไม่ใช้กระบี่ ดังนั้นมันไม่มีประโยชน์เมื่ออยู่ในเงื้อมมือข้า คงจะดีต่อท่านนะที่จะได้ไว้สร้างอุปกรณ์ทดสอบอีกเครื่องหนึ่งได้”
เซรีนไม่ได้รู้สึกอะไรและรับกระบี่มาอย่างใจเย็น และยิ้มหยอกเย้า “จุ๊ จุ๊พ่อหนุ่ม เจ้ามีทองเยอะจริงๆ เมื่อเจ้าแบมือออก ก็เป็นสมบัติดวงดาวเสียแล้ว ช่างฟุ่มเฟือยมากจริงนะเจ้าทำให้พี่สาวคนนี้หวั่นไหวใจเสียแล้ว พี่คนนี้บูชาเงินเป็นที่สุดและโดยเฉพาะอย่างยิ่งชอบผู้ชายรวย แม้ว่าเจ้าจะอ่อนเยาว์กว่าข้าอยู่บ้าง ทำไมเจ้าไม่คบหากับพี่เล่า?พี่จะดูแลปรนนิบัติเจ้าอย่างดี รักและเอาใจใส่...”
ขณะที่เธอรับกระบี่มาตรวจสอบดูอย่างระวัง เธอถึงกับประหลาดใจอย่างช่วยไม่ได้ “เฮ้, นี่มันกระบี่กระต่ายไหมแห่งหมู่ดาวกระต่ายป่านี่นาเป็นสมบัติชั้นบรอนซ์ นี่ข้าเพิ่งได้เห็นเป็นครั้งแรกเลยนะ”
“ข้าเพิ่งได้รับมาจากการเอาชนะคนสองสามคน พวกเขาไถ่ถอนตัวเองด้วยสมบัติเหล่านี้และมีเด็กสาวคนหนึ่งไม่ได้เอาแก่นพลังวิญญาณมาด้วย ดังนั้นข้าเลยริบกระบี่นี้ไว้” ถังเทียนตอบอย่างไม่ใส่ใจ
เซรีนมองอย่างพลุกพล่านและตระหนักได้ไม่นานว่า “ข้ารู้ว่ามันเป็นใครแล้ว หึหึ พ่อหนุ่ม,ทำไมไม่คว้าโอกาสอีกที ปล้นมาจากพวกเขาเลยล่ะ? พวกเขามีของดีๆ มากเลยนะ”
ตาของเซรีนเป็นประกายเหมือนกับมีดาวนับไม่ถ้วนลอยอยู่ ถังเทียนรู้สึกหนาวสะท้าน แต่รีบส่ายหัวทันที “เราตกลงจบเรื่องราวกันไปแล้วเว้นแต่พวกเขาจะมาระรานข้าอีก ข้าไม่ได้ตั้งใจจะไปทำเรื่องเลวร้ายอย่างนั้น”
หน้าของเซรีนเต็มไปด้วยความรู้สึกเสียดาย
ปิงพูดขึ้นทันที “มีหนังสือประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเมืองสามวิญญาณหรือเปล่า?”
“ท่านสนใจเมืองสามวิญญาณด้วยเหรอ?” เซรีนประหลาดใจ “เมืองสามวิญญาณถูกมองว่าไม่ใช่เมืองใหญ่เป็นเขตพื้นที่เต็มไปด้วยวิญญาณ ประวัติศาสตร์ของมันไม่น่าจะเกิดพันปี”
“ภูมิภาควิญญาณ?” ปิงสะดุดกับคำๆ นี้อย่างรวดเร็ว
“พวกเจ้าไม่รู้ว่าภูมิภาควิญญาณคืออะไรเหรอ? นี่พวกเจ้ามาจากไหนกันแน่?” เซรีนมองด้วยสายตาแปลกๆ แต่เธอเลิกคิ้วอย่างรวดเร็วและคิดพลางกล่าวว่า“พวกเจ้าเดินทางไปทิศตะวันตก จะมีหอสมุดเล็ก ภายในนั้นมีหนังสือที่เกี่ยวข้องมากมาย บทนำภายในหนังสือจะมีรายละเอียดอยู่มาก ความจริงข้าสนใจแต่เพียงหุ่นโบราณเท่านั้น”
“ขอบคุณ” ปิงหมุนตัวจากไป
ถังเทียนก็เตรียมจะจากไปเช่นกัน ขณะนั้นเขาได้ยินเสียงของเซรีนดังไล่หลังมา “เฮ้,หนุ่มชาวฟ้า ในอีกไม่กี่เดือนมาพบข้า จำไว้ให้ดี มาดูผลงานใหม่ของข้า”
ถังเทียนรู้สึกใจฟูเมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาตะโกนกลับไป “อย่างนั้น นั่นถือเป็นสัญญา แม่หญิงชาวฟ้า! พยายามให้ดีที่สุด” เป็นการคาดหวังที่คุ้มค่ากับการมองไปข้างหน้าจะเป็นของแปลกชนิดใดที่เซรีนสร้างขึ้นมากันแน่
พอพูดจบถังเทียนโบกมือให้เซรีนและโดดขึ้นหุ่นกลนกกระจอกเทศบรอนซ์และจากไป
“แม่หญิงชาวฟ้าเหรอ...” เซรีนเหม่อมองรอยยิ้มปรากฏอยู่ที่ริมฝีปากเธอ “เป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ โอว..ดูเหมือนเขาจะค่อนข้างรวยด้วย และเนื่องจากเราหาสามีรวยๆ ไม่ได้ อย่างนั้นเราจะให้เจ้าผู้นี้เป็นผู้สนับสนุน...ผู้สนับสนุนของเซรีน..หวา, ฟังดูเข้าท่าจริงๆ”