ตอนที่แล้วตอนที่  4-2 กลับบ้าน (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 4-4 มูลค่ารูปสลัก 

ตอนที่  4-3 ฮ็อก


เช้าวันต่อมาระหว่างนั่งรับประทานอาหารเช้าในห้องอาหาร ลินลี่ย์ก็ต้องแปลกใจที่ว่าบิดาของเขาดูสดใสและเปี่ยมไปด้วยพลังกว่าทุกวันลินลี่ย์ไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน

หลังจากวางมีดและซ่อมฮ็อกยิ้มแย้มแล้วกล่าวกับลินลี่ย์ “ลินลี่ย์ครั้งนี้เจ้าอยู่บ้านให้นานขึ้นหน่อยได้หรือไม่? นานแล้วที่ข้าไม่ได้เจอหน้าเจ้าพวกเราสองพ่อลูกจะได้ใช้เวลาร่วมกันนานขึ้น”

นี่บิดาของเขากำลังขอให้เขาอยู่บ้านให้นานขึ้นอย่างนั้นหรือ?

ลินลี่ย์รู้สึกประหลาดใจหลายปีมานี้บิดาของเขาไม่เคยกล่าวเช่นนี้มาก่อน เดิมทีลินลี่ย์วางแผนจะเดินทางไปเที่ยวเล่นในเมืองเฟนไลและถ้าโชคดีอาจได้เจออลิซบ้าง แต่หลังจากได้ยินบิดากล่าวดังนั้นเขาก็ตัดสินใจค่อยไปเยี่ยมนางในภายหลัง

“ขอรับท่านพ่อ” ลินลี่ย์พยักหน้ายินดี

ฮ็อกพยักหน้าอย่างมีความสุขเช่นกันแต่ในประกายตาของเขากลับแอบเก็บซ่อนความนัยบางอย่างไว้

….

ครั้งนี้ลินลี่ย์กลับมาเยี่ยมเมืองอู่ซันกว่า10 วันเต็ม แม้จะล่วงเลยมาจนถึงวันแรกในการเปิดภาคเรียนของสถาบันเอินส์เขาก็ยังคงไม่เดินทางกลับ และฮ็อกก็ไม่ได้เร่งเร้าอันใด

เหนือยอดเขาสูงในเมืองอูซันเมฆฝนครึ้มค่อยๆเคลื่อนตัวมาปกคลุมโดยรอบ ลินลี่ย์กำลังนั่งทำสมาธิและกลั่นกรองพลังธาตุของตนเอง

อณูธาตุดินและธาตุลมต่างหมุนเวียนรอบตัวลินลี่ย์อย่างหนาแน่นแทรกซึมเข้ามาในร่างกายจากทุกทิศทางและถูกดูดซึมโดยกล้ามเนื้อ กระดูกและเส้นเลือดของเขา เป็นการพัฒนาร่างกายเพื่อรองรับพลังขั้นต่อไปส่วนที่เหลือจากที่ร่างกายการดูดซึมจะถูกแปลงเป็นพลังธาตุและสะสมไว้ที่จุดตันเถียนบริเวณทรวงอก

เหมือนกับมหาสมุทรที่หล่อเลี้ยงแม่น้ำนับร้อยสายการไหลเวียนพลังธาตุในร่างกายเขาย่อมมีจุดจบที่บริเวณนี้

ลินลี่ย์นั่งทำสมาธิเช่นนี้ราวครึ่งวันเมื่อถึงคราลืมตา ดวงอาทิตย์ก็ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว

“ถึงเวลากลับสถาบันแล้ว” ลินลี่ย์สาวเท้าก้าวเดินและสูดลมหายใจลึก“หลังจากที่ข้ามอบแก่นเวทเหล่านั้นให้ ดูเหมือนท่านพ่อจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นและพวกเราก็คล้ายจะสนิทสนมกันมากขึ้นด้วย”

สิบวันที่ผ่านมานับว่าเป็นสิบวันที่เขาได้ใกล้ชิดกับบิดามากที่สุดในชีวิต

“เหตุใดท่าทีของท่านพ่อจึงแปลกไปเช่นนี้? เป็นเพราะแก่นเวท?ข้าไม่คิดว่าท่านจะเปลี่ยนไปเพราะเงิน...บางที่อาจเป็นร่องรอยแผลเป็นบนร่างกายของข้า?”ลินลี่ย์คาดเดา แต่สุดท้ายก็ไม่อาจเข้าใจสาเหตุที่ทำให้ท่าทีของบิดาต่อเขาเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนี้

‘เอ่ยถามเมื่อยามหนาว ห่วงหาเมื่อยามร้อน’เป็นวลีที่อธิบายความเป็นห่วงและใส่ใจที่ฮ็อกมีให้ลินลี่ย์ได้เป็นอย่างดี

เมื่อเดินเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลบาลุคลินลี่ย์ก็พลันเห็นว่าในมือของบิดาถือหนังสือเล่มหนึ่ง “ท่านพ่อ นี่ก็ดึกมาแล้วทำไมท่านไม่เก็บหนังสือไว้อ่านต่อพรุ่งนี้เล่า?”

“โอ้ ลินลี่ย์ เจ้ากลับมาแล้ว”ฮ็อกหัวเราะพลางปิดหนังสือ “คำพูดของเจ้ามีเหตุผล ข้าจะอ่านต่อพรุ่งนี้แล้วกัน”

“ลินลี่ย์ หลังจากฝึกฝนเป็นเวลานานเจอคงกระหายน้ำมาก” ฮ็อกรินน้ำชาร้อนใส่แก้วเปล่าและวางไว้ด้านข้าง“มาดื่มให้ชุ่มคอก่อนเถิด น้ำชานี่อุ่นกำลังดี ไม่ร้อนเกินไป ไม่เย็นเกินไป”

“ขอบคุณท่านพ่อ” หัวใจลินลี่ย์รู้สึกอบอุ่น

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ฮ็อกปฏิบัติกับลินลี่ย์ตลอดสิบวันช่างใส่ใจอย่างยิ่ง ในอดีต ฮ็อกมักเข้มงวดและจริงจังอยู่เสมอน้อยครั้งที่จะแสดงด้านอ่อนโยนให้เห็น

ระหว่างจิบชา ลินลี่ย์ก็เอ่ย“ท่านพ่อ ข้ากลับมาอยู่บ้านสักพักหนึ่งแล้วกำลังวางแผนเดินทางกลับสถาบันในวันพรุ่งนี้”

“พรุ่งนี้?” ฮ็อกชะงักไปพักหนึ่งก่อนพยักหน้า“ได้สิ สิ้นปีนี้ค่อยกลับมาเยี่ยมให้เร็วขึ้นหน่อยได้หรือไม่?”

“แน่นอนขอรับ” ลินลี่ย์กล่าวรับคำ

ฮ็อกพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล“ลินลี่ย์ พ่อของเจ้าช่างไร้ความสามารถนัก ตระกูลของเราขึ้นอยู่กับเจ้าแล้วด้วยแก่นเวทเหล่านี้ การเรียนของน้องชายเจ้าคงสำเร็จไปได้ด้วยดีเพียงเท่านี้ข้าก็พอใจแล้ว แต่ข้าก็อดคิดถึงความภาคภูมิใจของตระกูลเราไม่ได้ข้าหวังว่าเจ้าจะนำมรดกของเรากลับมาอยู่ภายใต้การดูและของตระกูลเราอีกครั้ง”

ลินลี่ย์สัมผัสได้ถึงความเชื่อมั่นที่บิดามีต่อเขาลินลี่ย์สูดหายใจลึกครั้งหนึ่งแล้วพยักหน้าอย่างมุ่งมั่น

“บัดนี้ข้าไม่หลงเหลือความปรารถนาอื่นใดนอกจากได้เห็นดาบศึก ‘เพชฌฆาตประหารหมู่’ กับตาสักครั้งก่อนสิ้นใจ”น้ำเสียงของฮ็อกพลันเปลี่ยนทุ้มต่ำ

ลินลี่ย์สามารถสัมผัสความขมขื่นของบิดาได้จากน้ำเสียงเขารีบกล่าว “ท่านพ่อ อย่าเศร้าโศกไปเลย ท่านเพิ่งอายุ 40 ในปีนี้ยังมีเวลาอีกมากนัก ข้ามีความมั่นใจว่าภายใน 10 ปีนี้จะสามารถนำดาบของเรา‘เพชฌฆาตประหารหมู่’ กลับมาเป็นที่เคารพบูชาในหอบรรพชนของเราอีกครั้งได้อย่างแน่นอน”

“สิบปีอย่างนั้นหรือ ดี...ช่างดียิ่ง”ฮ็อกพยักหน้าอย่างยินดี

….

วันต่อมาหลังรับประทานอาหารร่วมกับบิดาเสร็จ ลินลี่ย์ก็เดินทางออกจากเมืองอู่ซัน ในคืนนั้นที่คฤหาสน์ตระกูลบารุค มีบุรุษ 2 คนกำลังสนทนากันบนโต๊ะใหญ่ในห้องอาหารที่ปิดสนิทพลางชำเลืองมองแก่นเวทถุงใหญ่ เป็นฮ็อกกับฮิลแมนนั่นเอง

ฮิลแมนตกใจอย่างหนักเมื่อรู้เรื่องแก่นเวทฮ็อกจึงกล่าว “ฮิลแมนข้าวางแผนที่จะขายแก่นเวททั้งหมดและอยากให้เจ้าเก็บรักษาเงินก้อนนี้ไว้”

ฮิลแมนรู้สึกตัวและรีบกล่าว“ท่านลอร์ดฮ็อก ข้าว่าไม่สมควร เหตุใดท่านจึงมอบเงินให้ข้าดูแลเล่า? ท่านควรทำเสียเองจะดีกว่า”

“ฮิลแมน อย่าเรียกข้าว่าลอร์ดฮ็อกเลยข้าอยากให้เจ้าเรียกว่า ‘พี่ใหญ่ฮ็อก’ อีกครั้งมากกว่า” ฮ็อกหัวเราะอย่างอบอุ่น

จู่ๆฮ็อกก็ยืนขึ้นและหันหน้าไปทางตะวันออก“ให้ข้าเก็บเอาไว้เองอย่างนั้นหรือ? ฮ่าฮ่า... ฮิลแมนอันที่จริงนอกจากเจ้าแล้วก็ไม่มีใครที่รู้เรื่องความขัดแย้งของตระกูลบาลุคดีไปมากกว่าเจ้า...และข้า”

ฮิลแมนชะงัก เขาไม่รู้ว่าฮ็อกจะกล่าวประโยคข้างต้นนี้เพื่อสิ่งใด

“เรื่องราวครั้งนั้นรบกวนส่วนลึกของจิตใจข้าเป็นเวลายาวนานถึง11 ปี เป็นเวลา 11 ปีที่หัวใจของข้ารู้สึกคันยิบเหมือนถูกฝูงมดกัดข้าต้องกล้ำกลืนฝืนทนอยู่ตลอดเวลา กล้ำกลืนให้ผ่านไปอีกหนึ่งวัน อีกหนึ่งปี...และเพียงพริบตาเดียว 11 ปีก็ผ่านพ้นไป”

ร่างทั้งร่างของฮ็อกสั่นเทิ้ม

ใบหน้าของฮิลแมนพลันเปลี่ยนสีเขายืนขึ้นและกล่าวอย่างตระหนก “ท่านลอร์ดฮ็อก หรือท่านกำลังจะ...?!”

“ถูกต้อง! ข้าจะสืบสวนว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้นข้าต้องการแก้แค้นให้กับลีน่า!” ใบหน้าของฮ็อกฉาบไปด้วยแววอำมหิตบรรยากาศชั่วร้ายปกคลุมไปทั่ว

“ท่านลอร์ดฮ็อก” ฮิลแมนกล่าวอย่างรวดเร็ว“ไม่ใช่ว่าเราทำการสืบสวนตั้งแต่วันนั้นแล้วหรอกหรือ? อีกฝ่ายเป็นผู้มีพลังอำนาจมหาศาลเพียงแค่หางเล็กๆที่เราเจอก็น่าหวาดหวั่นเพียงพอแล้วหากทำการสืบสวนต่อไปอาจหมายถึงความตายของท่านแน่”

ฮ็อกคำรามเสียงต่ำ“ตาย? เจ้าคิดว่าข้าเกรงกลัวต่อความตายอย่างนั้นหรือ? ฮิลแมนเจ้าไม่รู้ว่าข้าต้องทนอยู่กับความปวดร้าวเพียงใดตลอด 11 ปีมานี้ ความขมขื่นที่ผ่านมาก็เพียงพอสำหรับข้าแล้วแก่นเวทนี้มีมูลค่าประมาณ 80,000 เหรียญทองมากพอจะเป็นค่าเล่าเรียนให้กับวอร์ตัน ด้วยเงินจำนวนนี้ข้าก็ไม่จำต้องห่วงอะไรอีก”

“ตลอดหลายปีมานี้ที่ข้าทนอยู่ก็เพราะบุตรชายทั้งสองของข้า แต่บัดนี้ลินลี่ย์เติบใหญ่จนยืนได้ด้วยลำแข้งตนเองแล้ววอร์ตันเองก็ไปถึงจักรวรรดิโอเบรียนแล้ว ไม่มีสิ่งใดให้ต้องกังวลอีก”

ฮ็อกบีบบ่าทั้งสองข้างของฮิลแมนแน่นจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย “ฮิลแมนตลอดเวลาที่เจ้าติดตามรับใช้ข้าในฐานะลอร์ดฮ็อก ตลอดหลายปีมานี้เราก็ได้พัฒนาสายสัมพันธ์พี่น้องอย่างแน่นแฟ้นในฐานะพี่ชาย ข้าอยากให้เจ้าช่วยเหลือข้าสักครา”

“ฮ็อก ท่าน...” ฮิลแมนทำตัวไม่ถูก

เขารู้ดีว่าฮ็อกต้องการสืบสวนเหตุการณ์ในครานั้นมากเพียงใดเหตุการณ์ที่ทำให้อีกฝ่ายสูญเสียภรรยาผู้เป็นที่รักไปตลอดกาล

“ข้าตั้งใจไว้แล้ว ฮิลแมน เจ้าต้องเข้าใจว่าชีวิตนี้การอยู่อย่างขมขื่นนั้นทรมานกว่าการตายมากนัก” ดวงตาของฮ็อกพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงเห็นเช่นนี้ฮิลแมนได้แต่รู้สึกสิ้นหวัง เขาเข้าใจความรู้สึกของฮ็อกดี

ว่าทำไมตลอดหลายปีมานี้ฮ็อกจึงกลายเป็นคนเข้มงวดและเย็นชา

หลายคนอาจไม่รู้แต่ฮิลแมนรู้ดี ก่อนที่มารดาของลินลี่ย์และวอร์ตัน ลีน่าจะเสียชีวิตฮ็อกเป็นเพียงชายหนุ่มที่เป็นมิตรและเข้ากับผู้อื่นได้ง่าย แต่หลังการตายของลีน่านิสัยของฮ็อกก็เปลี่ยนไป

แม้ว่าตลอดเวลาฮ็อกจะบอกผู้อื่นว่าลีน่าตายจากการคลอดบุตร มีเพียงฮิลแมนกับพ่อบ้านแอชลี่ย์ที่รู้ความจริง

“ฮิลแมน อย่าพยายามเปลี่ยนใจข้าเลยข้าแค่อยากถามเจ้า – เจ้าจะช่วยข้าหรือไม่?” ฮ็อกจ้องเขม็งไปที่ฮิลแมนเมื่อเห็นดังนั้นในที่สุดฮิลแมนก็ถอนหายใจยาว “ก็ได้ ข้าจะช่วยท่าน”ใบหน้าของฮ็อกพลางปรากฏรอยยิ้มกว้าง ...รอยยิ้มแห่งอิสระและการปลดปล่อย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด