ตอนที่แล้วตอนที่ 3-26 สีม่วงในสายลมยามราตรี (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่  4-2 กลับบ้าน (2)

ตอนที่  4-1  กลับบ้าน (1)


กำแพงที่ล้อมรอบบ้านของอลิซไม่ได้สูงมากนัก ลินลี่ย์กระโดดเพียงครั้งเดียวก็สามารถขึ้นไปยืนบนกำแพงสูง2 เมตรนั่นอย่างง่ายดาย เขาค่อยๆโรยตัวลงมาต่อหน้าอลิซและเดินไปหานาง

“เร็วเข้า หมอบลง” อลิซดึงลินลี่ย์ให้ก้มลงอย่างรวดเร็ว

ลินลี่ย์สงสัย แต่ก็นั่งลงอย่างว่าง่าย

“ชู่ววว์” อลิซมองดูรอบๆ อย่างระมัดระวังก่อนถอนหายใจในที่สุดเมื่อหันมาหาลินลี่ย์“โชคดีที่ทุกคนกำลังหลับอยู่ หากมีใครเห็นเข้า ข้าเกรงว่าจะเกิดปัญหาเป็นแน่”

ลินลี่ย์ค่อยเข้าใจทันที

“นั่งลงเถอะ หากเรานั่งคุยกัน กำแพงจะบังไม่ให้มีใครเห็นพวกเรา” อลิซยิ้มซุกซนทำให้นางดูเหมือนจิ้งจอกตัวน้อยๆนางใช้เศษผ้าที่อยู่ใกล้ๆปัดพื้นบริเวณนั้นแล้วนั่งลงข้างลินลี่ย์

ลินลี่ย์รู้สึกยินดีจนแทบอยากโผเข้าหาอลิซเลยทีเดียว

“พี่ลินลี่ย์ ท่านมาทำอะไรบนถนนเส้นนี้ยามดึกดื่นป่านนี้เล่า? ท่านกล่าวว่าตนเองเป็นนักเรียนของสถาบันเอินส์ไม่ใช่หรือ? ท่านมาทำอะไรที่เมืองเฟนไลกัน?” อลิซถามหลายคำถามรวดเดียว

ทำไมเขาอยู่ในเมืองเฟนไล?

ลินลี่ย์รู้สึกประหม่า เขาไม่ควรตอบว่า ‘ข้ามาเที่ยวที่สวรรค์น้ำหยกกับพี่น้องทั้ง3’ หรอกใช่หรือไม่?

“ข้ามาเที่ยวในเมืองกับเหล่าสหายสนิท พอตกดึกก็พลันรู้สึกอึดอัดจึงออกมาเดินเล่น” ลินลี่ย์จงใจไม่ตอบให้กระจ่างทั้งหมด

อลิซพยักหน้า

“อลิซ! เหตุใดดึกป่านนี้แล้วเจ้ายังไม่นอนอีกเล่า?” ลินลี่ย์ถาม

อลิซขบริมฝีปากตัวเองเล็กน้อยอย่างทำตัวไม่ถูก “วันนี้ข้านอนแต่หัวค่ำแต่ระหว่างที่ข้ากำลังฝันดีอยู่นั้น ก็ถูกปลุกโดยเสียงเอะอะของพ่อข้าเองท่านคงไม่รู้หรอกว่าพ่อข้านั้นแย่แค่ไหน เขาออกไปพนันและดื่มสุราทุกวันกลับจากดื่มก็มาทำลายข้าวของ ช่างน่ารำคาญยิ่งนัก!”

“มีพ่อเช่นนี้พูดได้เพียงว่าเป็นโชคร้ายของข้าเอง แล้วท่านเล่า ลินลี่ย์? พ่อของท่านเป็นเช่นไร?” อลิซจ้องมองลินลี่ย์ที่นั่งตรงข้ามกับนาง

“ท่านพ่อข้าน่ะหรือ?”  ลินลี่ย์คิดไปถึงบิดาของตน“ท่านพ่อของข้าไม่เล่นการพนัน อาจมีดื่มบ้างเป็นบางคราแต่ก็ไม่เคยเมามายถึงกระนั้นท่านพ่อก็เป็นคนที่เข้มงวดมาก ท่านเข้มงวดกับข้าตั้งแต่เด็กๆ”

อลิซถอนหายใจอย่างอิจฉา “พี่ลินลี่ย์ ท่านช่างโชคดีนัก ไม่เหมือนกับข้า...”

ท่ามกลางแสงจันทร์ชายหนุ่มและหญิงสาวต่างพูดคุยกันอย่างมีความสุขบนระเบียงบ้าน ถัดจากเรื่องของบิดาพวกเขาพูดคุยกันเรื่องการเรียน เรื่องสถาบันของพวกเขา และเรื่องเพื่อนแต่ละคนแม้กระทั่งว่าวันหนึ่งพวกเขาทำอะไรกับเพื่อนบ้าง...

ลินลี่ย์มีความสุขมากยามได้พูดคุยกับนาง ยิ่งได้พูดคุยกันมากเท่าใด ลินลี่ย์ยิ่งรู้สึกเหมือนได้เข้าใจชีวิตของอลิซมากขึ้น

ค่ำคืนผ่านไปอย่างเชื่องช้าจนกระทั่งแสงแรกของตะวันโผล่พ้นจากยอดเขาทางทิศตะวันออก พื้นดินเริ่มปกคลุมไปด้วยมวลอากาศสดชื่นของยามเช้าแต่ลินลี่ย์และอลิซยังคงสนทนากันอย่างมีความสุขไม่ได้รู้สึกถึงเวลาที่ผ่านไปแม้แต่น้อยจนกระทั่งท้องฟ้าสว่างโล่งพวกเขาจึงรู้สึกตัว

“โอว! เช้าแล้วหรือนี่” ตอนนี้ลินลี่ย์เริ่มรู้สึกตัว

อลิซก็เพิ่งรู้สึกตัวเช่นกัน “ช่างน่าขายหน้าจริง พี่ลินลี่ย์เป็นข้าที่รบกวนท่านตลอดคืนแล้ว”

ทันใดนั้นบทสนทนาก็หยุดลง ทั้งสองรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

“ข้าว่าข้าควรกลับได้แล้ว” ลินลี่ย์รู้สึกว่าบรรยากาศเริ่มไม่เป็นใจเขาลุกขึ้นยืนอย่างประหม่า

“พี่ลินลี่ย์ วันหน้าท่านยังจะมาที่เมืองเฟนไลอีกหรือไม่?” อลิซเอ่ยถาม

“แน่นอน หากมีเวลาว่างเมื่อไรข้าจะมา” กล่าวพลางเอามือจับกำแพงดันตัวเองขึ้นไปเขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะกระโดดลงมายืนบนถนน เป็นระยะราว 10 เมตรจากกำแพง

ลินลี่ย์โบกมือลาโดยไม่ได้หันกลับไปมอง

อลิซมองแผ่นหลังของลินลี่ย์ที่กำลังเดินจากไปเมื่อเห็นร่างนั้นเดินลับตาไปแล้วจึงค่อยกลับเขาห้องของนาง

….

ดวงอาทิตย์ในช่วงฤดูร้อนเดือนสิงหาคมไม่ต่างอะไรกับลูกไฟยักษ์ที่แผดเผาผืนดินหลังจากทานอาหารกลางวันกับพี่น้องทั้ง 3 ลินลี่ย์ก็มุ่งหน้ากลับบ้านเกิด เมืองอู่ซันเขาสะพายกระเป๋าซึ่งบรรจุแก่นเวทมูลค่า 70,000 เหรียญทองไว้ด้านหลัง

“จี๊ด จี๊ด” บีบีที่เกาะหลังลินลี่ย์อยู่ก็ตื่นเต้นเช่นกัน

ลินลี่ย์มองดูบีบีแล้วหัวเราะ เขาสื่อสารผ่านทางจิต “บีบี ดูเหมือนว่าเจ้าจะตื่นเต้นน่าดูที่จะได้กลับไปยังเมืองอูซันเอ? ใช่สิ ข้าไม่เคยถามเจ้าเลยว่าทำไมตอนนั้นเจ้าถึงไปอยู่ในสวนหลังคฤหาสน์ของตระกูลข้าได้?”

“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน” บีบีส่ายหัวอย่างจนใจ “ตั้งแต่จำความได้ข้าก็อยู่ในสวนของเจ้านายแล้ว ข้าไม่เคยเห็นแม้แต่พ่อแม่หรือหนูตัวอื่นๆแต่ข้าจำได้ว่ามีเสียงหนึ่งที่คอยกล่าวว่า ‘จงอยู่ที่นี่ อย่าหนีไปไหน’”

“จงอยู่ที่นี่ อย่าหนีไปไหน?” หัวใจของลินลี่ย์เต้นรัว

เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะเป็นเสียงของพ่อหรือแม่ของบีบี?

“เดิมทีข้านั้นได้กินเพียงก้อนหินและเชื่อฟังเสียงนั้นอยู่ตลอดข้าจึงไม่เคยออกจากสวนของตระกูลเจ้านายเลย แต่หลังจากนั้นเจ้านายก็เจอข้าและเอาเนื้อให้ข้ากินที่นั่นในโลกนี้ไม่มีใครจะดีกับข้าเท่ากับท่านอีกแล้ว เจ้านาย ข้าอยากอยู่กับท่านตลอดไป!”บีบีย่นจมูกเล็กๆของมัน

ลินลี่ย์เองก็นึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้น

ยามนั้น บีบียังลังเลที่จะออกจากเมืองอู่ซัน แต่ท้ายที่สุด เมื่อเห็นว่าลินลี่ย์กำลังจะจากไปจริงๆหนูเงาน้อยจึงตัดสินใจพุ่งเข้ามากัดลินลี่ย์เพื่อเริ่มต้นพันธสัญญาที่เชื่อมดวงวิญญาณทั้งสองไว้ด้วยกัน

“แน่นอน บีบี พวกเราจะอยู่ด้วยกัน ดีหรือไม่?” ลินลี่ย์ลูบหัวน้อยๆของบีบีอย่างรักใคร่และบีบีก็หลับตาช้าๆอย่างพึงพอใจ

ลินลี่ย์ไม่ได้เดินเร็วนัก เขาเดินทางด้วยอัตราราว 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อเดินทางมาถึงชายแดนเมืองอู่ซันก็เป็นเวลาค่ำพอดี ระหว่างมุ่งหน้ากลับบ้านเขาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย....

“พวกเจ้าทุกคน หลังตรงและยกเอวขึ้น! อย่าหลังโกง! หากสะโพกของพวกเจ้าคนใดแตะกิ่งไม้นั่นและมีสีติดคนนั้นจะถือว่าทำผิดกฎและต้องฝึกเพิ่มเป็น 2 เท่า!”เสียงของฮิลแมนได้ยินชัดจากระยะไกล

ลินลี่ย์จ้องดูเขา

พื้นที่ที่คุ้นเคย ลานว่างทางตะวันออกของตัวเมืองอู่ซันถัดจากแนวต้นไม้คือกลุ่มเด็กอายุ 6 – 7 ปีกำลังยืนแบ่งออกเป็น 3 แถวพวกเขากำลังอยู่ระหว่างการฝึกฝนที่ยากลำบาก ภายใต้การดูแลที่เข้มงวดของฮิลแมนและครูฝึกอีก2 คน เสื้อผ้าของเด็กเหล่านั้นล้วนเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

“ย้อนกลับไปเมื่อตอนนั้น ข้าก็ได้ฝึกเช่นเดียวกันกับพวกเขา”เมื่อเห็นดังนั้นลินลี่ย์จึงเดินเข้าไป

“ลินลี่ย์?” ฮิลแมนเห็นลินลี่ย์จากระยะไกลหลังจากมอบหมายการฝึกให้โรเจอร์และลอร์รี่แล้ว เขารีบวิ่งมาหาลินลี่ย์และโอบกอดเขาเต็มอ้อมแขน

“ลุงฮิลแมน ไม่เจอกันนานเลย!” ลินลี่ย์ก็มีความสุขเช่นกัน

“ฮ่าฮ่า ไป! กลับบ้านก่อน ท่านลอร์ดฮ็อกคงดีใจที่เห็นเจ้า”ฮิลแมนพูดพลางหัวเราะร่วน และนำลินลี่ย์เข้าไปในเมืองอู่ซัน

“คุณชายลินลี่ย์” โรเจอร์และลอร์รี่ทักทายลินลี่ย์อย่างอบอุ่นแต่ไกล

“ลุงโรเจอร์ ลุงลอร์รี่” ลินลี่ย์ก็โบกมือให้อย่างมีความสุขเช่นกัน จากนั้นจึงตามฮิลแมนมาถึงที่พัก

“ลินลี่ย์ เจ้ามีสัมภาระมาด้วยอย่างนั้นหรือ? ดูเหมือนว่าจะหนักเอาการอยู่นะ มีอะไรอยู่ข้างในหรือ?” ฮิลแมนสังเกตเห็นกระเป๋าบนหลังของลินลี่ย์และถามกลั้วเสียงหัวเราะ

ลินลี่ย์ยิ้มพรายอย่างลึกลับ “ของขวัญ ของขวัญสำหรับท่านพ่อของข้า!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด