ตอนที่ 2 ซอมบี้?
ตอนที่ 2 ซอมบี้?
ลู่เซิงปิดประตูและถอนหายใจด้วยความโล่งอก มีเพียงห้องของเขาเท่านั้นที่ทำให้รู้สึกสบายใจ
ห้องนี้ไม่ได้กว้างมากมีเพียงเตียงเดี่ยวและโต๊ะทำงานอยู่ที่มุมห้อง ตรงกลางเป็นเสื่อโยคะสีดำขนาด 2x1.5 เมตรที่ล้อมรอบด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกาย เช่น ดัมเบล กริปเปอร์บีบมือ กระสอบทรายและอื่นๆ นี่คือห้องสำหรับฝึกฝนศิลปะการต่อสู้และพักผ่อนของลู่เซิง
ลู่เซิงวางกระเป๋านักเรียนลง ถอดเสื้อนอกและกางเกงออกแล้วนั่งบนเสื่อโยคะ
อันที่จริง เขารีบกลับบ้านเพราะว่าเขาต้องการฝึกอย่างหนักเพื่อชดเชยปราณโลหิตที่เสียไปเพราะฝันร้ายในช่วงสองวันที่ผ่านมาโดยเร็วที่สุด
ในวัยของเขา ทุกส่วนของร่างกายกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งควรเป็นช่วงที่ค่าปราณโลหิตของเขาพุ่งสูงขึ้น เว้นแต่จะเกิดบาดเจ็บสาหัส แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ค่าปราณโลหิตจะลดลง
ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นกับลู่เซิงจึงเป็นเรื่องร้ายแรงมากและต้องรีบแก้ไขให้ทันเวลา
ลู่เซิงหายใจเข้าลึกๆ ข่มความรู้สึกว้าวุ่นในใจและพูดอย่างเงียบๆ "ยิมนาสติก 13 เริ่มได้!"
หลังจากนั้น ลู่เซิงเริ่มขยับร่างกายไปในท่วงท่าต่างๆ ท่วงท่าเหล่านี้ค่อนข้างคล้ายกับโยคะแต่ก็แตกต่างไม่มากก็น้อย ดังนั้น ยิมนาสติกจึงเป็นคำอธิบายที่ค่อนข้างเหมาะสม
"..ขั้นตอนการฝึกกายมีทั้งหมด 24 ท่าซึ่งทั้งหมดถูกสร้างโดยผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ของสมาคมจอมยุทธ์และยังได้รับการยอมรับจากสมาคมจอมยุทธ์ทั่วโลก กล่าวกันว่ามีพื้นฐานมาจากยิวยิตสู โยคะและศิลปะการต่อสู้สมัยโบราณ เหมาะสมที่สุดในการวางรากฐานสำหรับผู้เริ่มต้นฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ ที่ฉันกำลังฝึกอยู่ตอนนี้เป็นรุ่นที่ 13 แล้วหลังจากผ่านการปรับปรุงมากมาย ผลลัพธ์ของมันดีกว่ารุ่นแรกหลายเท่า.."
ในอดีต 300 ปีก่อน โลกเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ รอยแยกปรากฏขึ้นทั่วท้องฟ้าและพื้นดิน จากนั้นสัตว์ประหลาดที่น่าเกียจน่ากลัวจำนวนมากก็พุ่งพรวดออกมาทำให้วิถีของโลกนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
เมื่อพบว่าอาวุธร้อนส่วนใหญ่ใช้การไม่ได้กับสัตว์ประหลาดอีกต่อไป มนุษยชาติก็เริ่มค้นหาและพัฒนาวิธีการต่างๆในการตอบโต้
บางทีอาจเป็นเพราะเผชิญหน้ากับแรงกดดันมหาศาลและวิกฤตสูญพันธุ์ โซ่ตรวนของยีนในร่างกายมนุษย์จึงถูกทำลาย และมันทำให้ความแข็งแกร่งของแต่ละคนพุ่งทะยานสู่จุดที่ไม่มีทางเป็นไปได้มาก่อนในอดีตอย่างง่ายดาย
ดังนั้นศิลปะการต่อสู้จึงเริ่มเปล่งประกายและถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วผ่านการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวัน
กระทั่งในปัจจุบัน ทุกคนฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อย่างอุตสาหะจนกลายเป็นเทรนด์ไปแล้ว
แต่ถึงกระนั้นมนุษย์ก็ยังพบกับความสูญเสียระหว่างสู้รบกับเหล่าสัตว์ประหลาด ข่าวเมืองล่มสลายมีมาเกือบทุกวันทำให้ประชากรมนุษย์ลดลงอย่างรวดเร็ว
และนี่คือสิ่งที่ครูบอกกับลู่เซิงและคนอื่นบ่อยๆ
“เราเกิดในยุคที่โกลาหลวุ่นวาย ฉะนั้นเราต้องแบกรับความรับผิดชอบของยุคนี้ เรากำลังฝึกฝนศิลปะการต่อสู้เพื่อความหวังของมนุษยชาติเพราะเราแต่ละคนล้วนคือเมล็ดพันธุ์ของศิลปะการต่อสู้ที่จะต่อยอดมันต่อไป..”
....
“ฮ้ะ ฮ้ะ——”
ลู่เซิงหยุดลงและนั่งบนเสื่อโยคะเพื่อปรับลมหายใจอย่างช้าๆ
เขาฝึกกาย 24 ท่าสามครั้งในหนึ่งลมหายใจ ชั้นเหงื่อบางๆ ไหลออกมาตามร่างกายของเขา ใบหน้าที่ซีดเซียวในตอนแรกเริ่มแดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อย
“หนึ่งสัปดาห์ต่อมาหากฉันไม่ฝันร้ายอีก มันน่าจะชดเชยปราณโลหิตที่สูญเสียไปได้...” ลู่เซิงครุ่นคิดอย่างเงียบๆ
กระทั่งตอนนี้ ลู่เซิงก็ยังไม่พบสาเหตุที่เขาฝันร้าย
เขาเพิ่งตรวจสอบข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตด้วยโทรศัพท์ของเขา สาเหตุของการเกิดฝันร้ายโดยทั่วไปมี 4 อย่างด้วยกัน:ตำแหน่งการนอนหลับ,อาหารการกิน, โรคและปัญหาจิตใจ
3 อย่างแรกสามารถตัดออกไปได้ อย่างที่ 4 อาจเป็นเพราะใกล้สอบเข้ามหาลัยจึงเกิดแรงกดดันต่อจิตใจ?
ลู่เซิงไม่สามารถหาคำตอบได้
เหตุผลก็คือคนอย่างเขาที่มีประสบการณ์สอบเข้ามหาลัยมาแล้วครั้งนึง ความอดทนทางจิตใจควรจะดีกว่าคนทั่วไปมากไม่ใช่หรือ
ในขณะที่กำลังพักผ่อน ลู่เซิงครุ่นคิดอย่างบ้าคลั่ง
แต่เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ความง่วงก็ค่อยๆ ถาโถมเข้ามาราวกับถูกคลื่นซัด ลู่เซิงหาวโดยไม่รู้ตัว เปลือกตาค่อยๆหย่อนลง แล้วเขาก็ล้มตัวนอนลงอย่างช้าๆ และผลอยหลับไป....
...
ท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งกับแผ่นดินสีดำสนิท หมอกสีเทาลอยล่องอยู่ทั่วทุกที่ หดหู่ สิ้นหวัง อ้างว้าง...
สิ่งแรกที่ลู่เซิงเห็นเมื่อเขาตื่นขึ้นคือฉากตรงหน้า
“ฝันร้ายอีกแล้ว...” ลู่เซิงหมดหนทางอย่างสมบูรณ์
“ตื่นสิ ตื่นสิ ตื่นสักที...” ลู่เซิงตบหน้าตัวเองอย่างแรง พยายามปลุกตัวเองจากฝันร้ายนี้ แต่ก็ไร้ประโยชน์
เขาไม่ต้องการอยู่ที่นี่สักวินาทีเดียว มิฉะนั้นเขาจะตกอยู่ในฝันร้ายนี้ตลอดไป
"ฮึ่มม~" มีเสียงแปลกๆ ดังขึ้นพร้อมกับเสียงอะไรสักอย่างถูไถ่กับพื้น
“มาแล้ว...” ลู่เซิงคร่ำครวญในใจ
ในไม่ช้า หมอกสีเทาที่อยู่ไม่ไกลทางซ้ายของเขาก็สลายไป ร่างคล้ายคนที่ดูไม่ปกติปรากฏตัวขึ้น
สีผิวของอีกฝ่ายเป็นสีเทา เบ้าตาเป็นรูโบ๋และไม่มีลูกตา มีปากแผลลากยาวบนใบหน้าจนสามารถมองเห็นกระดูกผ่านเนื้อสีดำได้อย่างชัดเจน
ร่างนั้นเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า สวมชุดบอดี้สูทที่มีคราบสกปรกติดอยู่ทั้งชุด มันเกือบจะเหมือนกับซอมบี้ที่ลู่เซิงเคยเห็นในหนังในชาติที่แล้วของเขา