ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 113 ไข่มุกน้ำค้าง
ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 113 ไข่มุกน้ำค้าง
แปลโดย iPAT
หลี่ฉิงซานเข้าไปในห้องของเขาและกินเม็ดยารวบรวมพลังปราณที่เหลือ อย่างไรก็ตามการบ่มเพาะขั้นต่อๆไปเริ่มยากขึ้น ดังนั้นความก้าวหน้าของเขาจึงเริ่มช้าลง แม้เขาจะกินเม็ดยารวบรวมพลังปราณทั้งสองเม็ดแต่มันยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนนัก
เฉียนหรงจื่อมาถึงห้องโถงลงทะเบียนหลังจากหลี่ฉิงซานจากไปแล้ว นางก้มศีรษะลงทันทีที่เห็นเตียวเฟยและซ่อนความไม่พอใจในดวงตาเอาไว้ นางคิดว่าเตียวเฟยเป็นคนสังหารเฉียนหรงหมิง ท้ายที่สุดคนที่สามารถสังหารจอมยุทธ์พลังปราณก็มีเพยงจอมยุทธ์พลังปราณที่แข็งแกร่งกว่าเท่านั้น
เตียวเฟยรู้สึกเสียใจแต่เขาก็ไม่พยายามอธิบายสิ่งใด หากเขาทำ มันจะดูเหมือนเขากลัวนาง
ในยามเที่ยง หลี่ฉิงซานเดินทางมายังห้องโถงด้านหลังเพื่อทานอาหาร มันเป็นห้องที่หรูหรา กลิ่นดอกไม้ลอยอบอวลไปทั่ว หน้าต่างถูกเปิดออกทั้งหมดและเผยให้เห็นทัศนียภาพอันงดงามของสวนด้านนอก
อาหารเลิศรสถูกนำออกมาทีละจานจนเต็มโต๊ะยาวและปล่อยให้พวกเขาจัดการกันเอง กล่าวได้ว่ามันคล้ายอาหารบุฟเฟ่ต์ในชีวิตก่อนหน้าของเขา คุณภาพของอาหารทำให้มันคล้ายงานเลี้ยงของจักรพรรดิในตำนาน ตั้งแต่ออกเดินทาง หลี่ฉิงซานได้ทานอาหารเลิศรสที่ทำโดยพ่อครัวฝีมือดีมามากมาย อย่างไรก็ตามพวกมันเหมือนอาหารของเด็กฝึกหัดเมื่อเทียบกับอาหารจากพ่อครัวของกองกำลังผู้พิทักษ์หมาป่าอินทรีย์
หลี่ฉิงซานดึงดูดสายตาของผู้คนจำนวนมาก แม้เขาจะพยายามควบคุมความอยากอาหารและกินอาหารเหมือนคนทั่วไปแต่หลายคนยังลอบหัวเราะและเรียกเขาว่าผีที่หิวโหย
ขณะที่หลี่ฉิงซานกำลังกินเนื้อปลา เตียวเฟยก็นั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามเขาและเปิดปากกล่าว “ทักษะการเก็บซ่อนพลังของเจ้าน่าประทับใจมาก ข้าไม่พบสิ่งใดเลยในครั้งแรกที่เราพบกัน”
หลี่ฉิงซานยิ้ม “อาจเป็นเพราะข้าอ่อนแอเกินไป”
มุมปากของเตียวเฟยกระตุก ‘เจ้าอ่อนแองั้นหรือ? หลังจากสังหารจอมยุทธ์ขั้นสองอย่างเงียบๆและทำให้เขาเหลือเพียงกระดูกนั่นน่ะหรือ?’ เขาสงสัยว่าหลี่ฉิงซานอาจบ่มเพาะทักษะปีศาจซึ่งเป็นเหตุผลที่เขาต้องปกปิดตนเอง เฉียนหรงหมิงโชคร้ายที่ปฏิบัติต่อหลี่ฉิงซานเหมือนเป้าหมายง่ายๆซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเสียชีวิต
หลี่ฉิงซานกล่าว “ดูเหมือนนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกของเจ้า”
เตียวเฟยกล่าว “ถูกต้อง นี่เป็นครั้งที่สองของข้า”
จากนั้นก็มีเพียงความเงียบ
หลังจากชั่วครู่หลี่ฉิงซานก็เปิดปากถาม “เจ้ามีเม็ดยารวบรวมพลังปราณหรือไม่?”
เตียวเฟยตอบ “แน่นอน เจ้าต้องการมันงั้นหรือ?” เม็ดยารวบรวมพลังปราณเป็นยาทั่วไปสำหรับจอมยุทธ์
หลี่ฉิงซานเช็ดปากและวางช้อนส้อมลง “ขายให้ข้าได้หรือไม่?”
เตียวเฟยกล่าว “หากเจ้าต้องการจ่ายด้วยเงินก็ลืมมันไปซะ”
เป็นไปตามความคาดหมายของหลี่ฉิงซาน สำหรับจอมยุทธ์พลังปราณ เงินไม่มีความหมายสำหรับพวกเขา
หลี่ฉิงซานกล่าว “แน่นอนว่าไม่ใช่เงินแต่เป็นยันต์”
“กระไรนะ!?” เตียวเฟยตกใจมาก ไม่มีจอมยุทธ์พลังปราณคนใดที่ไม่พกยันต์ติดตัวในการแข่งขันครั้งนี้ ทุกคนล้วนเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ยันต์คือไพ่ตายหรืออาจเรียกว่าเป็นชีวิตที่สองของพวกเขา การขายยันต์ก่อนการแข่งขันก็เหมือนกับการขายอาวุธก่อนเข้าสู่สนามรบ โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นไปไม่ได้
หลี่ฉิงซานนำยันต์ทั้งหมดออกจากกระเป๋าร้อยสมบัติและวางลงบนโต๊ะ เขามั่นใจมากในการรักษาความปลอดภัยของกองกำลังผู้พิทักษ์หมาป่าอินทรีย์ “เป็นอย่างไรบ้าง?”
สิ่งนี้ดึงดูดสายตาของทุกคนทันที
เตียวเฟยหยุดหายใจชั่วขณะ นอกเหนือจากยันต์คุณภาพต่ำสองใบ ส่วนที่เหลือล้วนไม่ธรรมดา มันมีกระทั่งยันต์สายฟ้าฟาด นั่นคือสมบัติที่สามารถพลิกสถานการณ์ในช่วงเวลาสำคัญ กระทั่งจอมยุทธ์ขั้นสามก็อาจได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตหากประมาท
“ยารวบรวมพลังปราณหนึ่งเม็ดต่อยันต์หนึ่งใบ” เตียวเฟยยื่นมือออกไปทันที ตราบเท่าที่เขาได้รับพวกมัน เขาสามารถรับประกันชัยชนะ
หลี่ฉิงซานเก็บยันต์ทั้งหมดและยิ้ม “นั่นค่อนข้างน้อยเกินไป”
“ข้าเสนอเม็ดยารวบรวมพลังปราณสิบห้าเม็ดแลกกับยันต์ทั้งหมดของเจ้า” จอมยุทธ์ชุดดำที่อยู่ด้านข้างกล่าวออกมาอย่างกะทันหัน เขาสวมเสื้อผ้าที่หรูหรา เห็นได้ชัดว่าเขามาจากตระกูลขุนนาง
หลี่ฉิงซานกล่าวกับเตียวเฟย “ดูสิ ราคาขึ้นแล้ว” เขาพยายามดึงดูดสายตาของผู้คนตั้งแต่แรกเพราะเขาไม่รู้ราคาที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะกล่าวจบ บางคนก็เสนอราคาอีกครั้ง “ข้าจะมอบเม็ดยารวบรวมพลังปราณสิบห้าเม็ดให้เจ้าแลกกับยันต์เพียงใบเดียว”
หลี่ฉิงซานรู้สึกประหลาดใจ เขาไม่เคยคิดว่ายันต์ของเขาจะมีค่าถึงเพียงนี้
จอมยุทธ์หลายคนเริ่มมารวมตัวกันด้วยดวงตาส่องประกาย กระทั่งคนที่เคยล้อเลียนหลี่ฉิงซานก็ยังมารวมตัวกันอย่างไร้ยางอาย หลี่ฉิงซานเชื่อว่าหากเขาไม่ได้อยู่ในเขตของผู้พิทักษ์หมาป่าอินทรีย์ เขาคงถูกโจมตีไปแล้ว
จอมยุทธ์ที่เสนอราคาสบถด่าอยู่ในใจว่า ‘งี่เง่า หากปราศจากยันต์เหล่านี้ ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะตายอย่างไร’
แต่พวกเขาไม่รู้แผนการของหลี่ฉิงซาน เขาไม่ได้วางแผนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันตั้งแต่แรก ด้วยการรับรองจากหวังฝูซื่อ เขาคงเสียสติไปแล้วหากไม่ใช้มัน นอกจากนั้นเขาก็มีไพ่ตายของตน ยันต์เหล่านี้ไม่ถือเป็นสิ่งใดสำหรับเขา ท้ายที่สุดการเปลี่ยนพวกมันให้เป็นเม็ดยารวบรวมพลังปราณเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเองก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุด
หลี่ฉิงซานยืนขึ้นและกล่าวเสียงดัง “ทุกคน โปรดเงียบลงก่อน ข้าจะขายยันต์ทั้งหมดแต่ข้าจะแลกเปลี่ยนกับผู้ที่เสนอราคาสูงที่สุดเท่านั้น เราจะแลกเปลี่ยนในเวลาเดียวกันเพื่อความเป็นธรรม อันดับแรก ยันต์เคลื่อนวายุ...” เขาเริ่มการประมูลทันที
ทูตชุดดำในห้องโถงมองหน้ากันแต่ไม่มีผู้ใดขัดขวาง อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่เคยเห็นผู้ใดขายยันต์ที่นี่มาก่อน
“ข้าจะแลกมันด้วยเม็ดยารวบรวมพลังปราณหนึ่งเม็ด” บางคนเสนอราคาอย่างรวดเร็ว
“สองเม็ด!”
หลี่ฉิงซานกล่าว “มีข้อเสนอสูงกว่านี้หรือไม่?” บางคนเสนอสามเม็ด หลังจากนั้นก็ไม่มีผู้ใดเสนอราคาอีก
การครอบครองเม็ดยารวบรวมพลังปราณในเวลานี้ไม่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้ทันที ในทางตรงข้าม ยันต์สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพวกเขาได้เล็กน้อยและมันจะทำให้พวกเขามีความมั่นใจมากขึ้น หากพวกเขาไม่ซื้อ คู่แข่งของพวกเขาก็จะได้รับไปและกลายเป็นเครื่องมือในการเอาชนะหรือสังหาร กระทั่งยันต์ระดับต่ำที่สุดก็อาจกลายเป็นหญ้าที่ตัดหลังอูฐ
ด้านหนึ่งคืออนาคตที่สดใสในฐานะผู้พิทักษ์หมาป่าอินทรีย์ อีกด้านหนึ่งคือชะตากรรมที่น่าสังเวชของความพ่ายแพ้หรือความตาย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากพยายามประมูลพวกมัน
ยิ่งหลี่ฉิงซานนำยันต์ระดับสูงขึ้นออกมาประมูลมากเท่าใด บรรยากาศก็ยิ่งคึกคักมากขึ้นเท่านั้น ก่อนที่หลี่ฉิงซานจะนำยันต์สายฟ้าฟาดออกมา เขาก็ได้รับเม็ดยารวบรวมพลังปราณเกือบห้าสิบเม็ดแล้ว
เมื่อเขานำยันต์ระดับกลางออกมา ดวงตาของทุกคนก็สว่างไสวขึ้น
“เม็ดยารวบรวมพลังปราณสิบเม็ด!”
“ยี่สิบเม็ด!”
“ยี่สิบห้า!”
นี่เป็นยันต์ที่สามารถพลิกสถานการณ์ เดิมทีเฉียนหรงหมิงตั้งใจใช้มันเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ขั้นสาม มันจะช่วยเพิ่มโอกาสให้พวกเขาอย่างน้อยสามสิบส่วน ดังนั้นจอมยุทธ์หลายคนจึงตั้งใจแน่วแน่ที่จะประมูลมัน
หลี่ฉิงซานยิ้มกว้างไปถึงใบหู ด้วยเม็ดยาเหล่านี้ เขาจะสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นที่สามของเคล็ดวิชาบ่มเพาะพลังปราณเบื้องต้น
ทันใดนั้นเขาพลันมองเห็นเฉียนหรงจื่อยืนอยู่ที่ประตูและมองมาที่เขาด้วยสายตาขุ่นเคือง เห็นได้ชัดว่านางรู้ว่ามันเป็นยันต์ของเฉียนหรงหมิง
หลี่ฉิงซานเย้ยหยันเล็กน้อย ท้ายที่สุดเฉียนหรงหมิงก็เป็นคนที่สมควรตายแล้ว หากหญิงผู้นี้ไร้เหตุผล เขาก็ยินดีส่งนางลงนรกตามเฉียนหรงหมิงไป
“ข้าจะแลกมันกับสิ่งนี้!” เตียวเฟยเปิดปากกล่าวหลังจากเงียบไปนาน ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจมากที่เขาไม่ทำข้อตกลงกับหลี่ฉิงซานตั้งแต่แรก
ทุกคนมองเตียวเฟย จอมยุทธ์ที่เสนอราคาสูงสุดกล่าวเสียงเย็น “เจ้าจะแข่งกับข้าด้วยสิ่งใด?”
เตียวเฟยหยิบขวดเล็กๆใบหนึ่งออกมาอย่างไม่เต็มใจ “ข้าจะใช้ไข่มุกน้ำค้างในการแลกเปลี่ยน!”
“อันใด!? ไข่มุกน้ำค้าง!” ทุกคนตกสู่ความโกลาหล ดูเหมือนไข่มุกน้ำค้างจะไม่ธรรมดา หลี่ฉิงซานเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือไข่มุกน้ำค้างมีค่ามากกว่ายันต์สายฟ้าฟาด
เม็ดยารวบรวมพลังปราณไม่ใช่ยาที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน เหตุผลเดียวที่ทำให้มันได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเพราะมันหาง่ายและไม่มีผลข้างเคียง
ยาที่มีคุณภาพสูงหาได้ยาก นอกจากวัตถุดิบในการหลอมรวมจะหายาก นักปรุงยายังต้องมีทักษะที่ยอดเยี่ยม เม็ดยาระดับสูงหนึ่งเม็ดอาจเทียบเท่ากับเม็ดยารวบรวมพลังปราณหลายสิบเม็ด