ตอนที่ 70 อุปกรณ์ทดสอบของเซรีน
“การ์ดวิญญาณฝึกฝนพลังภายในระดับสี่” ถังเทียนยกมือ “เจ้ามีการ์ดฝึกฝนพลังภายในพิเศษอะไรบ้างไหม?”
“ระดับสี่.... เหมาะแล้วที่มาร้านข้า ตามคาด” เซรีนรู้ แต่ก็ยังงงอยู่ดี “เจ้านี่ช่างแปลกจริงๆ เที่ยวเดินทางอยู่ในเมืองสามวิญญาณเพื่อซื้อการ์ดวิญญาณระดับสี่ ดูเหมือนว่าเจ้าจะซื้อไปใช้เองเสียด้วยเจ้าถึงระดับสามจากการฝึกอะไร?”
“คัมภีร์ปราณกระเรียน” ถังเทียนตอบตามตรง
“คัมภีร์ปราณกระเรียน” สีหน้าเซรีนเปลี่ยนไปทันที นัยน์ตาสีฟ้าของเธอฉายแววประหลาดใจ และประเมินเขา “ข้าไม่อาจบอกได้เลย พ่อหนุ่มเจ้ามีฝีมืออยู่บ้าง แต่คัมภีร์ปราณกระเรียนเป็นที่รู้จักกันดีถึงความยากในการฝึก”
ถังเทียนเท้าวสะเอวด้วยสีหน้าที่หยิ่งภาคภูมิใจ “ฮ่าฮ่า, นั่นก็จริง แต่ข้าคือหนุ่มน้อยชาวฟ้านะ แสดงมาเลยว่าเจ้ามีการ์ดไหนที่น่ากลัวบ้าง”
“เป็นคนหนุ่มที่มั่นใจมากนักนะ” ริมฝีปากสีแดงเย้ายวนใจของเซรีนโค้งขึ้น
“ก็ข้าเป็นยอดฝีมือต่อสู้ระยะประชิดนี่นา” ถังเทียนไม่ต้องการจะถ่อมตัวแม้แต่น้อย “ข้าน่ากลัวจริงๆ นะ”
“ยอดฝีมือต่อสู้ระยะประชิด...” เซรีนอึ้ง, “อย่างนั้นข้าชักข้องใจขึ้นมาบ้างแล้ว”
เธอผลักเปิดประตูเข้าโกดังสินค้า “เข้ามาเลย พ่อหนุ่ม, ขอดูซิว่าเจ้ามีความสามารถมากแค่ไหน”
ถังเทียนตื่นจากภวังค์ “เจ้าจะซ้อมมือกับข้าเหรอ?”
“ซ้อมกับเจ้า?” เซรีนหัวเราะ “ข้าไม่ตั้งใจจะสู้กับยอดฝีมือต่อสู้ระยะประชิดด้วยตัวเองแน่”
ห้องเก็บสินค้าที่ด้านหลังใหญ่กว่าที่คาดไว้ ยาวมากกว่าสองร้อยเมตร กว้างกว่าลานฝึกซ้อมของสถาบันคาราเมล มีเครื่องจักรและอุปกรณ์แปลกประหลาดมากมาย ตอนนี้ถังเทียนเข้าใจขึ้นมาบ้างว่าทำไมเซรีนถึงชอบนกกระจอกเทศนัก
เซลีนเดินตรงไปที่หุ่นเหล็กสีดำ “เข้ามาเลยพ่อหนุ่ม ขอดูหน่อยว่าเจ้ามีดีแค่ไหน?”
ถังเทียนเข้าไปใกล้อย่างสงสัย “นี่คืออะไร?”
“อุปกรณ์ทดสอบของเซรีน” ใบหน้างดงามของเซรีนตอนนี้จริงจังและภูมิใจ “นี่คือผลงานสร้างที่ประสบความสำเร็จของข้าข้ามักกระตือรือร้นในการเก็บรวบรวมการ์ดวิญญาณระดับต่ำทุกประเภทไว้และทำการค้นคว้าวิจัยการ์ดวิญญาณ ดังนั้นข้าจึงได้ค้นพบอะไรได้อีกมากมาย การ์ดวิญญาณคือวิธีการจัดหาพลังงาน ขณะที่หินดวงดาวคือแหล่งที่มาของพลังงาน ถ้าสองประการนี้รวมกันได้จะมิเป็นระบบที่สมบูรณ์แบบหรอกหรือ? อย่างไรก็ตาม ข้าเสียเวลาไปมากโดยไม่มีผลสำเร็จอะไร จนกระทั่งปีล่าสุด เมื่อข้าตระหนักถึงสิ่งที่สำคัญที่สุด กุญแจความคิดข้าที่หายไปนั่นก็คือสมบัติดวงดาว”
ถังเทียนเคลิบเคลิ้มกับคำพูดล้ำลึกของเซรีน และโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว“สมบัติดวงดาว?”
เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินคนอธิบายเรื่องการ์ดวิญญาณในลักษณะดังกล่าว แต่ยิ่งได้ฟังรายละเอียดมาก ก็ยิ่งได้รู้มากใช้การ์ดวิญญาณเพื่ออธิบายวิชาการต่อสู้และวิชาการต่อสู้ก็มาจากการประยุกต์ใช้พลังงาน
“จนถึงตอนนี้ สำหรับวิธีที่สมบัติดวงดาวก่อเกิด ยังไม่มีคำอธิบายที่ถูกต้อง สมบัติดวงดาวของกลุ่มดาวเดียวกันมักจะมีความคล้ายคลึงกันบางอย่าง นั่นคือเหตุผลที่พวกมนุษย์เรียกชื่อพวกมันตามกลุ่มดาวของพวกมัน จุดที่แปลกที่สุดของสมบัติดวงดาวก็คือพวกมันมีพลังยุทธบรรจุไว้ สมบัติดวงดาวที่มีระดับสูงกว่า พลังยุทธของพวกมันจะใกล้เคียงมนุษย์มาก พวกมันสามารถฝึกฝนวิวัฒนาการตนเองดูดซับและฝึกจากพลังงานที่ล้อมรอบ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ขุนพลวิญญาณทำได้เช่นนั้น”
เสียงของเซรีนยังคงก้องสะท้อนอยู่ในคลังเก็บสินค้า
พอได้ยินเช่นนี้ พอได้ยินเช่นนี้ถังเทียนต้องการจะคัดค้าน เพราะลุงปิงก็สามารถฝึกด้วยตนเองเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเขาหลงใหลกับคำพูดที่เซรีนกล่าวต่อไปทันที
“ข้าตระหนักได้ทันทีว่า นี่เป็นสิ่งที่คล้ายกับมนุษย์!แม้ว่าเราจะมีเส้นทางเดินปราณ, พลังเที่ยงแท้และตันเถียน สิ่งที่ควบคุมสิ่งเหล่านี้ก็คือสมองของเราในระบบของการ์ดวิญญาณและหินดวงดาวไม่มีสมอง และพูดให้ถูกสมบัติดวงดาวชดเชยข้อบกพร่องนี้ได้สมบูรณ์แบบ เมื่อข้าเริ่มเพิ่มสมบัติดวงดาวลงไปในระบบข้าก็ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว
ถังเทียนฟังอย่างตั้งใจ
“เพราะพลังที่พวกมันมี ทุกคนจึงใช้สมบัติดวงดาวในฐานะเป็นอาวุธ แต่นี่เป็นการกระทำที่ฟุ่มเฟือย สำหรับจิตวิญญาณพลังยุทธในสมบัติถือว่าเป็นความสูญเปล่าสิ้นเชิง มนุษย์สนใจแต่พลังงานของมัน แต่ไม่มีผู้ใดใส่ใจถึงจิตวิญญาณของพลังยุทธเลย เฉพาะสมบัติดวงดาวระดับสูงเหล่านั้น จิตวิญญาณพลังยุทธของพวกมันสามารถฝึกตนเองและแข็งแกร่งด้วยตนเองได้และได้รับความโปรดปรานจากมนุษย์ พวกมนุษย์สายตาสั้นอย่างนั้นแหละ”
“และจากนั้นเล่า, จากนั้นเล่า?” ถังเทียนไม่อาจเป็นตัวของตัวเองได้
“และจากนั้นข้าจึงสร้างอุปกรณ์ทดสอบของเซรีนนี้ได้สำเร็จไง” เซรีนตอบอย่างไม่ใส่ใจ
ความสนใจของถังเทียนมุ่งไปอยู่ที่อุปกรณ์นั้น มันดูคล้ายมนุษย์ แต่มีสีดำมีขนาดเท่ากับรูปปั้นมนุษย์และมีโครงสร้างร่างกายที่ชัดเจนมาก สมองและแม้กระทั่งคุณลักษณะ สามารถจำแนกได้ง่ายและข้อต่อแขนและขาดูซับซ้อนมาก
“ในตอนแรกชั้นบรอนซ์จะดีที่สุด แต่สูตรการสร้างชั้นบรอนซ์โบราณหายไปนานแล้ว ข้าพยายามอยู่หลายครั้งแล้ว แต่การนำพลังงานมาใช้นั้นไม่ดี ในที่สุด ข้าได้แต่เลือกใช้เหล็กดำ ใช่แล้วเหล็กดำมันราคาถูกด้วยเช่นกัน” เซรีนพูดต่อทันที “สมบัติภายในก็คือชิ้นส่วนสมบัติชั้นบรอนซ์ ของถูกที่ข้าได้มา ฮืม..เนื่องจากเจ้าเป็นจอมยุทธด้านสู้ประชิดตัวอย่างนั้นข้าจะเลือกการ์ดสองสามใบอย่างระมัดระวัง”
หลังจากที่เซรีนเลือกการ์ดมาห้าใบแล้ว ก็เปิดหลังของอุปกรณ์ตรวจสอบและใส่การ์ดทั้งหมดห้าใบ
“ยินดีต้อนรับและเป็นพยานของการฝึกซ้อมฝีมือครั้งแรกของอุปกรณ์ตรวจสอบของเซรีน” เซรีนชี้มาที่ถังเทียนอย่างกระตือรือร้น “ไปเลย! เครื่องตรวจสอบของเซรีน”
หุ่นดำเคลื่อนไหวทันที
ถังเทียนสะดุ้ง หุ่นนั่นไวมาก
โดยไม่พูดอะไร เขากระโดดหลบด้านข้างและปล่อยหมัดจากด้านข้าง
ปัง!
หมัดของถังเทียนปะทะกับหมัดเหล็กของฝ่ายตรงข้าม
ถังเทียนเซถอยหลัง ทรงพลังขนาดนั้น เคล็ดก็คือพลังหมัดของหุ่นดำนั้นแปลกมาก มันคล้ายกับสว่านที่ต้องการเจาะเข้าไปในหมัดของถังเทียน
หุ่นดำกระทืบเท้าอย่างแรงและร่างของมันพุ่งเข้ามาราวกับลูกธนูตรงเข้าหาถังเทียน
พร้อมกับการสั่นฝ่ามือของถังเทียนฝ่ามือสลายเงาก็ระเบิดพลังออกมา
หุ่นยนต์ดำวาดฝ่ามือเป็นวงกลมในอากาศด้วยฝ่ามือซ้ายและฝ่ามือสลายเงาก็หายไป ขณะที่กำปั้นขวาคล้ายลูกธนู อีกด้านที่เหลือเป็นคันธนูกำลังเล็งตรงมา
ถังเทียนก้าวหลบไปด้านข้างและหลบหมัดได้ พลังความเย็นเสียดผิวเฉียดผ่านหน้าถังเทียน นิ้วของถังเทียนงอและคว้าจับข้อมืออีกฝ่ายไว้
เช่นกัน หุ่นดำก็คว้าจับหลังมือเขาไว้ในขณะเดียวกัน
ถังเทียนตอบสนองได้ไวราวสายฟ้า เขาฉวยโอกาสและฉุดอย่างแรงและเตะระยะใกล้
ปัง
หุ่นดำแก้ลำโดยเตะเข่าในทำนองเดียวกัน
ปัง ปัง ปัง
ทั้งคู่แลกหมัดด้วยความรวดเร็วในพื้นที่แคบๆ จนผู้ชมตาลาย
เซรีนชักกังวล ขณะที่ปิงมองดูใจเย็น
เนื่องจากเขาเคยตื่นเต้นที่ความเคลื่อนไหวของถังเทียนจะรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ เป็นครั้งแรกในขณะที่ถังเทียนซ้อมมืออย่างสบายใจ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาคู่หูเหมาะสมมาซ้อมมือด้วย มีวิชาสองสามวิชาที่ใช้ออกโดยหุ่นดำนั้นแปลกประหลาดมาก และเป็นกลยุทธที่ถังเทียนไม่เคยรู้จักชื่อ
แต่ถังเทียนไม่ได้แสดงสัญญาณใดๆว่ากลัวขณะที่การโต้ตอบของเขาเพิ่มความว่องไวขึ้น วิชาทุกชนิดถูกนำมาใช้ประโยชน์ วิชาทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เขาชำนาญ จากระดับความสามารถ ถังเทียนทำได้ดีที่สุดแล้ว นี่คือระดับที่สมบูรณ์แล้วในทางทฤษฎีและในระดับสูงกว่าในระดับปรมาจารย์ นั่นเป็นสิ่งที่หามาได้ ถ้ามีคนเข้าใจวิทยายุทธอย่างนั้นได้ลึกขึ้น
ระดับปรมาจารย์สามารถทำลายข้อผูกมัดของระดับเดียวกัน
เป็นครั้งแรกที่ถังเทียนพบต่อสู้ที่มีปฏิริยาตอบสนองคล้ายกับเขา ศัตรูในอดีตอาจมีเคล็ดวิชาเหนือล้ำกว่าเขา แต่เขาก็มีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็ว นอกจากนี้นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผู้เฒ่าเว่ยแนะนำให้เขาเป็นจอมยุทธผู้ชำนาญการสู้ระยะประชิด ขณะที่ถังเทียนก็มีปฏิกิริยาตอบสนองเหนือกว่าคนอื่น
เงาและท่วงท่าของทั้งคู่เพิ่มความเร็วขึ้น และเซรีนยิ่งกังวลมากขึ้น เนื่องจากเธอไม่สามารถมองเห็นพวกเขาได้ชัด
ในสายตาของเธอ ทั้งสองฝ่ายเป็นร่างเลือนลางมองไม่ชัด
ในตาของถังเทียนปรากฏเหมือนแดงเป็นเปลวไฟ คนที่คุ้นเคยกับเขาจะรู้ว่าอาการนี่จะเกิดเมื่อการฝึกซ้อมของเขาเริ่มร้อนแรง แต่ไม่มีผู้ใดรู้ว่าถังเทียนตอนนี้หัวใจเย็นเฉียบเหมือนน้ำแข็ง
สัญชาตญาณของเขาคล้ายกับกระจกที่เรียบลื่น สะท้อนรายละเอียดรอบด้านได้ชัดเจน
การจู่โจมและเคล็ดความเปลี่ยนแปลงของเขา เร็วมากขึ้นและเหมาะสมยิ่งขึ้น
ในตอนแรกถังเทียนยังคงมีท่าทางขัดเขินวุ่นวายไม่ต่อเนื่อง แม้ว่าแต่ละวิชา เขาจะมีความก้าวหน้าสมบูรณ์แบบอยู่ก่อนแล้วก็ตาม แต่เขาไม่เคยเอาวิชาเหล่านั้นมาผสมผสานอย่างกลมกลืน แต่ตอนนี้ ส่วนที่ขาดๆ เกินๆเริ่มถูกเติมเต็มอย่างสมบูรณ์ กระบวนท่าของถังเทียนสอดคล้องกันมากขึ้นและเขาสามารถใช้กระบวนวิชาเหล่านั้นได้ตามใจชอบ
ความก้าวหน้าของถังเทียน ทำให้หุ่นดำรู้สึกกดดันทันที
ดวงตาสีแดงของหุ่นดำกระพริบอย่างน่าขนลุก และการโจมตีของมันยิ่งเพิ่มระดับขึ้นอย่างมาก
สีหน้าของเซรีนที่ชมอยู่ด้านข้างเปลี่ยนแปร เนื่องจากเธอทราบว่าหมายความว่ายังไง นี่หมายความว่าเครื่องทดสอบรู้สึกว่าวิธีโจมตีธรรมดาไม่อาจคุกคามถังเทียนได้และระบบทำงานเต็มกำลังจะถูกเปิด ภายในคำสั่งระบบนี้หินดวงดาวจะสิ้นเปลืองพลังเป็นสองเท่าและการ์ดวิญญาณของมันอาจจะถูกเผาและทำลายก็ได้
ถังเทียนติดอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้ทันที เนื่องจากจู่ๆการโจมตีของหุ่นดำเปลี่ยนเป็นดุจพายุฝนฟ้าคะนอง
เขาเหมือนพลัดตกลงมาจากปลายไม้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ถังเทียนไม่หวั่นไหวและเขาไม่กังวล แต่วิญญาณนักสู้กลับลุกโชนสร้างความหลงใหลลึกลงไปในใจของเขาอีกด้วย ใจของเขายังเย็นดุจน้ำแข็ง เรียบรื่นเหมือนกระจก
ครึ่งนาทีต่อมา
ภายในครึ่งนาทีหลังจากโหมดเต็มกำลังเริ่มทำงานแล้ว ถังเทียนถูกข่มอย่างสิ้นเชิงและตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบ เขาทำได้เพียงตั้งท่าป้องกันอย่างอาจหาญ ไหล่ ต้นขาและพื้นที่อื่นๆต้องเจ็บตัวจากพลังโจมตีสองสามครั้ง
แต่ในวินาทีที่สี่สิบ ถังเทียนเริ่มปรับสถานการณ์ได้ ความถี่ในการโจมตีของเขาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และความเชื่อมโยงระหว่างวิชาของเขาก็เพิ่มมากขึ้น
ความสนใจของถังเทียนมุ่งเน้นยิ่งกว่าเก่าและวิชาเคล็ดต่อสู้ต่างกลายเป็นเลือนลางอยู่ในใจของเขา
ปัง ปัง ปัง
หมัดและแข้งทั้งสองฝ่ายปะทะกันถี่ยิบ
สถานการณ์ของถังเทียนมั่นคงยิ่งขึ้น และไม่มั่นใจว่าเป็นเพราะการตั้งสมาธิอย่างสูงหรือไม่ แต่การระดมโจมตีเป็นพายุฝนของหุ่นดำไม่น่ากลัวในสายตาของเขาอีกต่อไป
เซรีนรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงอย่างอธิบายไม่ได้ ความถี่ของพลังโจมตีของถังเทียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เธอตระหนักว่าเธอได้พบตัวประหลาดโดยไม่รู้ตัว
ทันใดนั้น ประกายตาเยียบเย็นวูบขึ้นในดวงตาถังเทียน
มีจุดอ่อนที่ไหล่ขวาของหุ่นดำ
เขาแทบจะไม่รู้ตัวเมื่อเขาใช้ฝ่ามือของเขาป้องกันหมัดของหุ่นและถังเทียนรั้งไหล่และสะบัดไหล่ของเขาอย่างประหลาด
ท่าทางของหุ่นดำกลายเป็นสับสนทันที และพยายามป้องกันการโจมตีด้วยศอกขวาของมัน
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนถังเทียนคาดการณ์แล้วว่ามันจะเคลื่อนไหวอย่างนี้ เขาใช้ฝ่ามือของเขาขัดขวางการเคลื่อนไหวของมัน เขาเลื่อนฝ่ามือไปที่ข้อต่อศอกแล้วล็อค ขณะเดียวกัน เขางอศอกเป็นมุมแหลมกระแทกเข้าใส่อกของหุ่นเต็มกำลัง
ข้อศอกกระแทกเข้าที่ศูนย์กลางตรงอกของหุ่นและพลังร่างกระเรียนก็โคจรอย่างรวดเร็ว
ร่างของหุ่นหยุดการทำงานและแข็งทันที
ฟู่... เปลวไฟปรากฏที่อกของมัน ในชั่วครู่ ไฟก็ลุกลามเพิ่ม ถังเทียนตกใจรู้สึกตัวว่ากำลังฝึกซ้อมฝีมืออยู่และรีบหลบไปด้านข้าง
เซรีตะลึงงันอยู่ด้านข้าง