ตอนที่ 67 หุ่นกลกระจอกเทศชั้นบรอนซ์
“ขยะนี่น่ะเหรอ?” หวีเป่าทำหน้าประหลาด แต่ในไม่ช้าก็เริ่มหัวเราะลั่น“ท่านขอรับ, ช่างรู้จักล้อเล่นจริงๆ! ทำไมถึงได้มีขยะในอยู่ในร้านข้าด้วยเล่า? ของเหล่านี้ พวกมันถูกขุดขึ้นมาจากซากปรักหักพังของราชวงศ์โรมันโบราณ...”
ปิงขัดจังหวะเย็นชา “ตาเฒ่าเฉาโง่มากจริงๆ ที่เอาสินค้ายุคโรมันโบราณมาขายเป็นขยะให้กับเจ้า”
หวีเป่าจ้องมองปิงอย่างโง่เขลา เจ้าผู้นี้ เป็นขุนพลวิญญาณไม่ใช่หรือ? หวีเป่าแน่ใจว่าเขาไม่เคยเห็นคุณชายผู้นี้ไม่เคยเห็นทั้งขุนพลวิญญาณสองตนนี้มาก่อน
เป็นไปได้ไหมว่ามันรู้วิธีอ่านใจได้
ไม่ว่าจะมองปิงจากมุมใดก็ตาม เขาเป็นขุนพลวิญญาณแน่ๆแต่เป็นระดับสูงขนาดไหน สำหรับขุนพลวิญญาณดวงหนึ่งจะมีระดับปัญญาสูงขนาดนั้นด้วยหรือ? หวีเป่ามักได้ยินว่าขุนพลวิญญาณเหล่านี้มีความสามารถประหลาดบางอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกขุนพลวิญญาณระดับสูงพวกนั้น พวกเขาชอบข่มขู่ เนื่องจากพวกเขามีพลังน่ากลัว แต่ความสามารถที่น่ากลัวทำให้ล้อเล่นกับมนุษย์ได้และให้ชีวิตพวกเขาเหมือนอยู่ในนรก
ใบหน้าที่ว่างเปล่าของปิงปรากฏดูชั่วร้ายและอันตรายในสายตาของหวีเป่า
เขาฝืนยิ้ม “ท่านต้องเป็นผู้ที่รู้จักแน่นอน! เมื่อท่านเป็นเพื่อของเฒ่าเฉา งั้นเราก็เป็นคนกันเอง ข้าได้ของกองนี้มาจากเฒ่าเฉามันคือชิ้นส่วนของแก่นวิญญาณระดับสี่ห้าชิ้น คุณชาย ข้าต้องทำงานอย่างหนักถึงจะได้มาถือว่าเป็นรางวัลของข้าเถิด”
ปิงขอแก่นพลังวิญญาณสิบลูกจากถังเทียนเทียนยื่นให้หวีเป่าและหันหน้าไปทางกองขยะนั้น เมื่อปิงเข้าไปในร้าน เขาได้ยินคำสนทนาของพ่อค้าร้านใกล้เคียงสองคน
ตาของหวีเป่าเป็นประกาย ใช้มือทั้งสองฉกกวาดแก่นพลังวิญญาณเข้ามาไม่มีตกหล่น
“โห, ไม่เลว” ถังเทียนมีสีหน้ายอมรับว่าหวีเป่ามีวิชาอาวุธลับที่โดดเด่น
หวีเป่าตอบอย่างถ่อมตัว “ขอบคุณที่ยอมรับข้า” เขาลอบย่ามใจขณะที่ใช้เคล็ดล่อหลอกเล็กๆ น้อยๆ กองขยะนั่นที่เขาได้รับมากจากเฒ่าเฉาเป็นแค่แก่นวิญญาณระดับหนึ่ง แต่ตอนนี้เขามีแก่นพลังวิญญาณถึงสิบลูกซึ่งก็หมายความว่าได้กำไรถึงสิบเท่า และเขาค่อนข้างพอใจ นอกจากนี้ทันทีที่แก่นพลังวิญญาณตกอยู่ในมือเขา เขาสามารถบอกได้ว่าแก่นพลังวิญญาณธาตุไม้นี้เป็นของวานรไม้เขียวซึ่งเป็นของหาได้ยาก
นอกจากแก่นพลังวิญญาณของมันแล้ว ตัววานรไม่มีส่วนอื่นๆ ที่มีค่า ภูตอสูรดวงดาวเช่นนั้นมีกล้ามเนื้อแข็งแกร่งและมีพละกำลังมากทำให้ยากจะรับมือ คนอ่อนแอไม่มีทางเอาชนะพวกมันได้ ขณะที่คนแข็งแกร่งมักจะไปล่าเอาแก่นพลังระดับห้า เนื่องจากไม่มีใครยินดีทำงานที่ไม่คุ้มค่าอย่างนั้น
แก่นพลังวิญญาณของวานรไม้เขียวเป็นวัตถุที่มีคุณภาพสูงใช้ผลิตการ์ดวิญญาณวิชาหมัดมวยระดับสี่ได้ซึ่งได้ราคาสูงกว่าแก่นพลังวิญญาณระดับสี่ทั่วไป
เป็นการค้าที่คุ้มค่า
ความสนใจของถังเทียนเปลี่ยนไปที่ปิงที่กำลังโกยกองขยะนั้น ถังเทียนเบียดตัวเข้าไปและทำกองขยะให้ดูดีขึ้นกลับกลายเป็นว่ามันเป็นกองเศษโลหะรูปร่างแปลกและมีขนาดต่างๆปรากฏเหมือนเป็นชิ้นส่วนของเครื่องกล ดูจากสี มันเป็นสีบรอนซ์ มิน่าเล่าหวีเป่าถึงไม่มั่นใจตัวเองว่ามันเป็นของเก่า เนื่องจากของสีบรอนซ์นั้นไม่มีสนิมจับแม้ว่าจะเป็นของเก่าแก่โบราณแต่กลับปรากฏดูเหมือนว่ามีอายุอย่างมากไม่เกินสิบสองปี
“ลุงปิง,ลุงได้ของดีอะไรจากที่นี่หรือ?” ถังเทียนอดถามไม่ได้
“เจ้าจะรู้ในไม่ช้า” ปิงไม่ได้เงยหน้าและถังเทียนสามารถบอกได้ว่าดูเหมือนเขาจะประกอบอะไรบางอย่างด้วยมือที่คล่องแคล่ว
ดูเหมือนว่าปิงจะต้องใช้เวลานานและถังเทียนไม่สามารถรับรู้เข้าใจอะไรได้ ดังนั้นเขาจึงเริ่มเดินดูร้านอย่างสบายๆ หวีเป่ารู้ว่าคุณชายที่อยู่ต่อหน้าเขาผู้นี้หลอกได้ยาก ดังนั้นเขาตัดสินใจเปลี่ยนพฤติกรรมและเริ่มอธิบายถึงต้นกำเนิดตามตรง
ทันใดนั้น ร่างกระเรียนในตัวถังเทียนขยับ จากชั้นบนร้านฝั่งตรงข้าม มีคลื่นพลังอ่อนที่รู้สึกได้
ถังเทียนประหลาดใจ เขาเดินไปที่ชั้นวางของและตำแหน่งที่มาของคลื่นพลังงาน
กระเรียนทองแดง ขนาดเท่าฝ่ามือทารกตั้งไว้อย่างสงบอยู่ในชั้น ถังเทียนหยิบกระเรียนทองแดงขึ้นมาดูและปัดฝุ่นที่เคลือบอยู่ที่ผิวของมันออกไป กระเรียนตัวน้อยดูสะอาดและใหม่ ดูเหมือนเป็นกระเรียนน้อยที่ทำจากบรอนซ์มีขนปีกซับซ้อน กระเรียนน้อยจะมีรูอยู่บนหัวของมัน สันนิษฐานว่าใช้ร้อยสายเพื่อเป็นเครื่องประดับชนิดหนึ่งถังเทียนคาดอย่างนั้น
กระเรียนน้อยตัวนี้ซื้อมาได้เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ราคาไม่เท่าไหร่ ข้าไม่คิดว่ามันแค่ดูดี ถ้าคุณชายชอบ ข้าให้เจ้าฟรีๆ เลย” หวีเป่าเสนอให้อย่างไม่เห็นแก่ตัว ความจริงเขาไม่ได้จ่ายแม้แต่แดงเดียวสำหรับของชิ้นนี้ และเขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่หลงกลง่ายๆ เขาเป็นคนใจกว้างและไม่ถือสาที่จะสละของราคาไม่เหรียญ เนื่องจากกระเรียนบรอนซ์น้อยตัวนี้ยังดูใหม่คงเป็นของสร้างขึ้นไม่นานและมีราคาไม่มาก ดังนั้นจึงไว้ใช้เป็นเครื่องประดับเท่านั้น
ตามคาด ถังเทียนควักแก่นพลังวิญญาณออกมาอีกสิบลูกให้หวีเป่า “ฉันต้องการของนี้”
หวีเป่ายิ้มกว้างจนมุมปากถึงรูหู เนื่องจากผู้ซื้อใจกว้างทำให้เขารู้สึกสดชื่น“ขอบคุณนายท่าน สำหรับของรางวัล”
ถังเทียนเล่นกับกระเรียนบรอนซ์นี้ ด้วยความรู้สึกว่ากระเรียนนี้อาจเกี่ยวข้องกับสำนักกระเรียน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่รู้สึกถึงร่างกระเรียนได้แน่ เมื่อกระเรียนอยู่ในมือของเขาก็ไม่มีปฏิกิริยาอื่นใดนอกจากคลื่นความเคลื่อนไหวที่เพิ่มขึ้น
“มีที่ๆ ขายการ์ดวิญญาณบ้างไหม?” ถังเทียนถามตามปกติ
หวีเป่าถามทันที “เจ้าต้องการระดับไหนชั้นไหน? ถ้าเจ้าต้องการดีๆ ร้านขายการ์ดหลินจี้ก็ไม่เลวมีของหลากหลายและราคาถูก แต่ว่าร้านของเขาส่วนใหญ่จะขายการ์ดชั้นเงิน ถ้าคุณชายอยากได้การ์ดชั้นทองระดับสูง ก็ควรไปบ้านการ์ดสมบัติดีกว่าที่นั่นเชี่ยวชาญในการขายการ์ดวิญญาณที่หายาก แต่ราคาน่าหนักใจสำหรับประชาชนคนธรรมดาอย่างข้า แน่นอน คุณชายอย่างท่านย่อมไม่มีปัญหา”
“ที่ไหนขายการ์ดวิญญาณสำหรับฝึกฝนชั้นโลหะระดับสี่บ้าง?”ถังเทียนสอบถาม
“ระดับสี่...” หวี่เป่านิ่งงัน จะเข้าเมืองสามวิญญาณได้ ก็ต้องมีปราณเที่ยงแท้ระดับสี่เป็นอย่างต่ำ ผู้ใดยังต้องการซื้อการ์ดพลังยุทธระดับสี่กันเล่า? นอกจากนี้ ฐานะของเขา รวยขนาดนั้นจะไม่มีการ์ดวิญญาณได้ยังไง? อย่างไรก็ตามพอคิดย้อนดูอีกทีบางทีพวกคุณชายก็มีงานอดิเรกสะสมของที่แปลกประหลาดก็มีเหมือนกัน หวีเป่าคิดว่าก็คงมีงานอดิเรกเป็นธรรมดาเช่นกัน
“คุณชายต้องการซื้อการ์ดวิญญาณระดับสี่ เอ่..” หวีเป่าแสร้งเป็นคิดหนักให้ถังเทียน “ข้าจำได้ว่ามีร้านอยู่ด้านทิศตะวันออกของเมืองชื่อว่าร้านขายการ์ดเซรีน ร้านของเขาเชี่ยวชาญในการรวบรวมการ์ดทุกชนิด เชี่ยวชาญในการ์ดสะสมทุกอย่าง แม้แต่การ์ดชั้นทองสำหรับวิชายุทธขั้นพื้นฐานก็ยังมีขาย”
“การ์ดชั้นทองสำหรับวิทยายุทธขั้นพื้นฐาน” ถังเทียนงง นับเป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินชื่อการ์ดทองวิชาวิทยายุทธขั้นพื้นฐาน
หวีเป่าแสดงความเห็นอกเห็นใจ “มักจะมีความผูกพันสำหรับคนที่มีรสนิยมต่างกันในโลกนี้อยู่เสมอ”
เขาประจบประแจงถังเทียนโดยไม่กระพริบตา ขณะที่ในสายตาของเขา คุณชายผู้นี้อาจมีงานอดิเรกที่คล้ายๆ กัน ถ้าไม่อย่างนั้น ทำไมจึงต้องซื้อการ์ดวิญญาณระดับสี่ด้วย?ถึงขนาดมาเมืองสามวิญญาณเพื่อซื้อการ์ดวิญญาณระดับสี่ ถ้าเป็นคนอื่น หวีเป่าคงด่าอีกฝ่ายว่าบ้าแน่นอน
“เรียบร้อย” ทันใดนั้นปิงพุ่งมาอยู่ที่ด้านหลังเขาทันที
ถังเทียนและหวีเป่าหันไปทันทีที่ได้ยินเสียงปิง และขณะที่หวีเป่าจ้องตะลึงมองดูนกระจอกเทศบรอนซ์ข้างหน้า ถังเทียนโห่ร้องอย่างตื่นเต้นและวิ่งไปดู “ลุงปิง,นี่คืออะไร?”
นกกระจอกเทศบรอนซ์สูงกว่าถังเทียนเล็กน้อยและมีลักษณะใกล้เคียงนกกระจอกเทศยกเว้นแต่มันถูกสร้างขึ้นมาจากชิ้นส่วนบรอนซ์ และขาทั้งสองแข็งแรงมากซึ่งทำให้รู้สึกหนักมาก
“นกกระจอกเทศกลชั้นบรอนซ์เป็นพาหนะภาคพื้นดินสำหรับในค่ายทหารใหม่ของกองทัพดาวกางเขนใต้”ปิงตอบอย่างอารมณ์ดี
ถังเทียนพลิกตัวขึ้นไปนั่งโดยไม่ลังเลใจ
“ใส่หินดวงดาวก้อนหนึ่งตรงนี้” ปิงเปิดหลังคอนกกระจอกเทศแสดงให้เห็นร่อง ซึ่งพอดีกับหินดวงดาว ถังเทียนใส่ไปก้อนหนึ่งโดยไม่ลังเลใจ
ครึ่กๆ ปัง
หุ่นกลนกกระจอกเทศชั้นบรอนซ์ลืมตาสีบรอนซ์และเริ่มเครื่อนที่ช้าๆ
“ทิ้งรอยประทับพลังยุทธของเจ้าไว้ตรงนี้” ปิงชี้ไปที่หลังหัวของนกกระจอกเทศ
ถังเทียนทำตามคำแนะนำของเขาอย่างรวดเร็ว และตามคาด มีการเชื่อมต่อระหว่างเขากับนกกระจอกเทศอย่างเบาบางและถังเทียนเริ่มตื่นเต้น
ครึ่ง...กึ้ง
หุ่นกลนกกระจอกเทศบรอนซ์เริ่มเดินและวิ่งไปรอบบ้าน แม้ว่ามันจะดูงุ่มง่ามมากแต่เมื่อมันเร่งความเร็ว ตอนแรกมันไม่เข้าใจสมดุลอย่างถูกต้องดังนั้นเมื่อมันวิ่งไปรอบๆ จึงยังไม่ค่อยมีความเสถียรนัก ในไม่ช้าหลังจากถังเทียนพบเคล็ดลับการใช้นกกระจอกเทศกลก็เริ่มเดินอย่างสง่างามขึ้น
“ความเร็วของนกกระจอกเทศยังไม่ถือว่ารวดเร็ว โดยเฉลี่ยแล้วจะเร็วพอๆ กับวิชาตัวเบาระดับห้า อย่างไรก็ตามข้อดีก็คือมันไม่ได้ใช้พลังปราณเที่ยงแท้ ไม่ได้ใช้พลังของผู้ขับขี่มันทำให้เหมาะกับการเดินทางระยะไกล นั่นเหตุผลที่ค่ายทหารใหม่ของกองทัพดาวกางเขนใต้ เป็นที่รู้จักกันในนามว่าค่ายนกกระจอกเทศ”
ความคุ้นเคยกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ของปิงทำให้หวีเป่ายอมรับความพ่ายแพ้และชื่นชมเขา
ร้านของหวีเป่าตั้งอยู่แถวนี้มาหลายปีแล้ว ดังนั้นเขาจึงเห็นคนและเหตุการณ์ทุกประเภท แม้ว่าจะมีบุคคลที่น่ากลัวอยู่หลายคน แต่ไม่มีใครสามารถซ่อมหุ่นกลนกกระจอกเทศจากเศษโลหะได้สำเร็จ ปกติหวีเป่าอาจเคยได้ยินหุ่นนกกระจอกเทศบรอนซ์แห่งกองทัพดาวกางเขนใต้มาบ้าง แต่เขาไม่เคยฝันมาก่อนว่า จะมีคนเป็นๆที่สามารถซ่อมนกกระจอกเทศในตำนานให้กลับมาใช้งานเต็มที่ได้
เขายิ่งมีความเชื่อว่าถังเทียนมีพื้นหลังที่น่ากลัว
ขุนพลวิญญาณที่มีความรู้ลึกซึ้งอย่างนั้นจะมีอยู่ก็แต่ในตระกูลที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และกองทัพดาวกางเขนใต้เมื่อก่อนนี้เป็นหนึ่งในสามกองทัพใหญ่ของราชวงศ์สกอร์เปียน ประวัติศาสตร์ย้อนหลังไปยาวนาน และคนรุ่นหลังไม่กี่คนที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้
หวีเป่าแทบจะนึกภาพความบ้าคลั่งของเมืองสามวิญญาณ เมื่อหุ่นนกกระจอกเทศบรอนซ์ปรากฏอยู่ในท้องถนน
และด้วยไหวพริบที่รวดเร็ว หวีเป่านึกถึงจุดขายพร้อมกับคำขวัญโฆษณาในใจเขา
“หุ่นกลนกกระจอกเทศบรอนซ์ ฟื้นคืนชีพจากขยะ ผลงานชิ้นโบว์แดงจากยุคสามกองทัพใหญ่”
“ตราบเท่าที่ท่านมีสายตาที่ดี เจ้าจะได้รับทองคำจากก้อนกรวด”
“มาแสวงหาโชคกัน วี่จี้ร้านถนัดของที่ยังไม่ประเมินคุณค่า สำหรับการเสี่ยงโชค”
วี่จี้ร้านขายของที่ยังไม่ประเมินคุณค่า ชื่อนี้ใช้ได้เลย
ใช้นกกระจอกเทศประชาสัมพันธ์ ตอนนี้เขาเป็นพ่อค้าถนัดขายของขยะแล้ว ตราบเท่าที่ยังรักษาระดับราคาต่ำเอาไว้ก็จะมีขอบเขตให้คนมาเสี่ยงโชคลองดู ตอนนี้เขาสามารถเปิดธุรกิจจากของขยะได้แล้ว! หึหึเขาช่างมีความคิดที่บรรเจิดจริงๆ
เหมือนกับว่าหวีเป่ามองเห็นเส้นทางสายทองคำแล้ว
ถังเทียนเร่งความเร็วขึ้น ขณะที่ควบคุมนกกระจอกเทศได้ง่ายด้วยการประทับจิตวิญญาณพลังยุทธเท่านั้น มันก็วิ่งเหมือนลมพัด
กลุ่มคนที่ผ่านมาทางร้าน มีสุภาพสตรีคนหนึ่งชายตามองมาภายในร้านและหยุดชะงักฝีเท้าทันที ต่อมาเธอฟื้นจากความงุนงงและอุทานว่า “หุ่นกลกระจอกเทศบรอนซ์”
คนอื่นๆ หยุดเพราะเสียงอุทานของเธอ และทุกคนต่างมองเข้ามาในร้าน
“เป็นหุ่นกลกระจอกเทศบรอนซ์จริงๆ ด้วย”
“โห, พาหนะโบราณของกองทัพดาวกางเขนใต้”
“เยี่ยมมาก”
เด็กหนุ่มสองสามคนพากันตื่นเต้นและนัยน์ตาเป็นประกาย ในพริบตาพวกเขาทุกคนก็กรูกันเข้ามาในร้าน
สีหน้าของหวีเป่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อได้เห็นภาพข้างหน้าแย่แล้ว,ทำไมเจ้าพวกนี้ถึงมาอยู่ที่นี่?