ตอนที่ 63 กรงเล็บปีศาจเคียวเพลิง
จิ่งหาวประหลาดใจ แม้ว่าถังเทียนจะเป็นคนใหม่ในฐานะที่เป็นสมาชิกใหม่ของสมาพันธ์เกียรติยศชาวยุทธ เขายังสงสัยกระทั่งการตื่นขึ้นของจิตวิญญาณพลังยุทธได้ยังไง?
“จิตวิญญาณพลังยุทธ์ของสมบัติดวงดาว เมื่อพวกมันเริ่มตื่นขึ้น ตามที่ฉันรู้ มันจะกลายเป็นเหมือนกับคนและมีนิสัยฝึกฝนด้วยตัวมันเอง การตื่นขึ้นของจิตวิญญาณพลังยุทธ มีแต่จะทำให้มันแข็งแกร่งขึ้น จนกว่าจะถึงขีดจำกัดของมัน”
“ฟังดูแล้วทรงพลัง” นัยน์ตาถังเทียนวาววับเป็นประกาย“อย่างนั้นเราจะทำยังไงกับจิตวิญญาณพลังยุทธที่ตื่นแล้ว?”
“ฉันไม่แน่ใจนัก” จิ่งหาวส่ายศีรษะ
“ของดีอย่างนั้น, ถ้าเราเพียงแต่ให้มันทำงานซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็อาจจะทรงพลังมากมายก็ได้” หน้าของถังเทียนแสดงความรู้สึกเสียดาย เมื่อได้ฟังเช่นนี้เขารู้สึกเหมือนเป็นเหตุการณ์ระดับสูงมากและเมื่อเขาคิดฝึกเผื่อแผ่ไปถึงจิตวิญญาณพลังยุทธในถุงมือของเขาและรองเท้าม้าบิน ถังเทียนถึงกับน้ำลายหกทันที
จิ่งหาวมองดูเขาและพูดทันที “อย่าแม้แต่จะฝันถึงเลย”
ถังเทียนไม่ได้กวนใจเขา “เราต้องเติมเต็มฝัน” เมื่อเขาพูดเช่นนั้นถังเทียนเริ่มมองไปรอบๆ เพื่อหาของสิ่งอื่น
“อย่าไปมองหาเลยที่นี่ไม่มีอะไรอีกแล้ว” จิ่งหาวพูด“แกควรจะรู้ เมื่อจิตวิญญาณพลังยุทธถูกเรียกออกมา พวกมันจะมีขีดคั่นกำหนดเวลา จิตวิญญาณพลังยุทธของผู้อาวุโสหนงปกป้องสถานที่นี้อยู่ เป็นธรรมดาที่ต้องทุ่มเทคุณค่ามหาศาลลงไปด้วย”
“นั่นก็จริง” ถังเทียนเกาศีรษะ
นอกจากจิตวิญญาณพลังยุทธพิเศษแล้ว กล่าวโดยทั่วไป ขุนพลวิญญาณที่เรียกออกมาจากการ์ด แตกต่างกันในเรื่องระดับและแตกต่างในเรื่องระยะเวลา ขุนพลวิญญาณชั้นบรอนซ์คงอยู่ได้หนึ่งเดือน ขุนพลวิญญาณชั้นเงินคงอยู่ได้หนึ่งปี ขณะที่ขุนพลวิญญาณชั้นทองคงอยู่ได้สิบปี
“ถ้าไม่ใช่เพราะระยะเวลาที่นานเกินไปซึ่งทำให้พลังของขุนพลวิญญาณของผู้อาวุโสลดลง บวกกับพลังของแก ก็คงไม่มีพลังพอได้รับของขวัญจากผู้อาวุโสหนงได้แน่” จิ่งหาวพูดราบเรียบ
“ท่านเข้าใจได้เยอะจริงๆ” ถังเทียนประหลาดใจ “รู้เยอะขนาดนี้ได้ยังไง?”
จิ่งหาวตอบเฉื่อยชา “ผู้อาวุโสหนงและผู้อาวุโสของฉันมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน”
ถังเทียนเข้าใจเหตุผลทันที
“อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เท่าที่ฉันเห็น ฉันยังคงประมาทผู้อาวุโสหนงอยู่” จิ่งหาวมองดูเกราะนกยูงครามบนร่างของถังเทียน และกล่าวว่า“ลองเรียกพลังยุทธของนกยูงครามออกมาดูสิ”
ถังเทียนหลับตา เหมือนกำลังขบคิดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นเขาลืมตาขึ้น และสีหน้าเขาจริงจัง ถังเทียนตะโกนทันที“นกยูงคราม”
เกราะนกยูงครามพลันสว่างด้วยแสงสีน้ำเงินและนกยูงครามค่อยๆออกมาจากเกราะและเกาะอยู่บนไหล่ถังเทียนอย่างเงียบงัน
นกยูงครามมีขนสีน้ำเงินทองห้อยลงเหมือนชุดเครื่องประดับ กับขนสีแดงที่อยู่บนหัวมันสั่นเล็กน้อย มันดูแสนรู้และเกาะอยู่บนไหล่ของถังเทียนเงียบๆ สง่างามและดูเยือกเย็น
“ตามที่ฉันคาดจริงๆ” จิ่งหาวมองดูนกยูงและพูด “ก่อนผู้อาวุโสหนงตายเขาแบ่งจิตวิญญาณพลังยุทธออกเป็นสอง ส่วนหนึ่งใส่ไว้ในเกราะนกยูงคราม อีกส่วนหนึ่งกลายเป็นวิญญาณขุนพลคอยปกป้องเกราะ ถ้าแกต้องการฝึกวิชากรงเล็บแกต้องพูดคุยกับนกยูงตัวนี้ นกยูงครามดูดกลืนปราณยุทธของผู้อาวุโสไว้แล้วนั่นคือเหตุผลที่มันตื่น”
“ท่านบอกว่านกยูงรู้วิชากรงเล็บของผู้อาวุโสเหรอ?” ถังเทียนนัยน์ตาเบิกกว้างสีหน้ามีความสุขและประหลาดใจ
“ผู้อาวุโสหนงทุกข์ลำบากมามาก เกรงว่าไม่ยินดียอมให้วิชาของเขาถูกทำลาย” จิ่งหาวพูดเต็มไปด้วยความรู้สึกเสียใจ แต่กลับคืนสู่ความสงบโดยเร็ว “วิชาที่สร้างชื่อให้ผู้อาวุโสหนงมากที่สุดก็คือกรงเล็บปีศาจเคียวเพลิงซึ่งแกเพิ่งจะเจอมา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แกเพิ่งสู้มา ยังไม่ถึงหนึ่งในสิบของพลังแท้จริงของผู้อาวุโส กรงเล็บปีศาจเคียวเพลิงเหนือกว่าวิชากรงเล็บระดับห้าทั้งปวง มันเป็นวิชาระดับสาม ผู้อาวุโสไม่มีเวลาเท่าใดนัก ขณะที่เขาถูกตัดสินให้มาที่แห่งนี้และเริ่มเพิ่มพลังของกรงเล็บปีศาจเคียวเพลิงของเขา ฉันไม่แน่ใจว่าเป็นระดับใดกันแน่ที่เขาบรรลุในท้ายที่สุด”
“วิชากรงเล็บระดับห้า?”ถังเทียนเกาหัว หน้าของเขามีท่าทีมึนงง “แต่ฉันรู้จักแต่เพียงวิชากรงเล็บระดับสามเท่านั้นเอง”
“วิชากรงเล็บระดับสาม...” สีหน้าของจิ่งหาวดูประหลาด เมื่อถังเทียนและเจ้าโล้นสู้กัน เขาแอบดูอยู่ในมุมมืด ตลอดทั้งร่างของถังเทียนเปล่งประกายพลังประหลาด เห็นได้ชัดว่าเป็นปราณเที่ยงแท้ระดับสาม แต่มันเพียงพอจะประสบผลสำเร็จเหนือพลังยุทธระดับสี่ของเจ้าโล้นและขุนพลวิญญาณได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชัยชนะของถังเทียนต่อขุนพลวิญญาณของผู้อาวุโสหนง
แม้ว่าขุนพลวิญญาณของผู้อาวุโสหนงจะมีพลังอ่อนลงไปตามกระแสเวลามากแล้วและยังมีปราณเที่ยงแท้ระดับสี่ แต่วิชากรงเล็บปีศาจเคียวเพลิงระดับฝีมือของปรมาจารย์ก็ยังแข็งแกร่งน่าทึ่งต่อให้จิ่งหาวลงมือด้วยตนเอง ก็คงต้องหมดพลังไปมาก
แต่ถังเทียนกลับชนะได้อย่างง่ายดาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต่อสู้ช่วงสุดท้าย เมื่อกรงเล็บอินทรีของถังเทียนบรรลุถึงขั้นระดับสูง
กรงเล็บอินทรีที่ทรงพลังถึงขนาดนั้นนับเป็นครั้งแรกที่จิ่งหาวได้เห็นประจักษ์ ตอนนี้พอได้ยินถังเทียนบอกว่าเขามีแค่เพียงวิชาระดับสามคงไม่น่าแปลกที่ใจของเขาเบื่อต่อความรู้สึกเหยียดหยาม
เขาเป็นคนที่ไม่มีใครสามารถมองออก
แต่เขาก็ยังถูกตัดสินให้มาอยู่ที่นี่จริงๆ....
พอคิดถึงเรื่องเกี่ยวกับที่นี่แล้ว จิ่งหาวถอนหายใจเบาๆ เขาเริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจถังเทียนขึ้นมาบ้าง“ฉันมีการ์ดเก็บไว้สองสามใบ แกไปดูได้นะถ้าเห็นว่าเหมาะกับแก”
“โอว.. นั่นสุดยอดเลย!” ถังเทียนชูมืออย่างร่าเริง “ท่านเป็นคนดีจริงๆ”
“คนดี?” จิ่งหาวหัวเราะเย็นชา “ฉันแค่ไม่ต้องการเห็นวิชากรงเล็บปีศาจเคียวเพลิงที่ผู้อาวุโสหนงบัญญัติขึ้นมาด้วยเลือดหยาดเหงื่อและน้ำตาต้องสาบสูญไปเท่านั้น”
พอพูดจบประโยค จิ่งหาวหมุนตัวเดินออกไปทันที
“คำพูดที่ว่างเปล่า” ถังเทียนพึมพำ แต่ทันใดนั้นเขาก็เริ่มยิ้มแล้วลูบนกยูงครามบนตัวเขาอย่างรักใคร่และเดินออกมาตามทางเดินอย่างอิ่มอกอิ่มใจ
เจ้าโล้นเปียวเกอและกลุ่มของเขาเห็นเกราะนกยูงครามบนตัวของถังเทียน ถังกับตะลึงค้างไปครึ่งค่อนวัน
ถังเทียนปล่อยตัวทุกคนที่ถูกมัดอย่างไม่สนใจ
“ห้องพักฉันอยู่ไหน? ฉันจะพักแล้ว”
จอมเกเรถังเสียอย่าง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะได้พักห้องที่ดีที่สุด
E※※※※※※※※
ถังเทียนเหม่อมองขุนพลวิญญาณที่อยู่ข้างๆปิง หลังจากเวลาผ่านไป เขาขยี้ตาอีกครั้งหนึ่ง เขามองอะไรอยู่นี่?
ขุนพลวิญญาณที่ลอยตัวอยู่ข้างปิงความจริงก็คือขุนพลวิญญาณของผู้อาวุโสหนงซึ่งเขาได้เผชิญในเส้นทางที่ผ่านมา
“ปิง...ลุงปิง, กะ...เกิดอะไรขึ้นกันนี่?” ถังเทียนตะกุกตะกักถาม
“ข้าบอกเจ้าไปแล้ว อย่ามาเรียกข้าว่าลุง” เส้นสีดำบนหน้าผากของปิงเต้นและจากนั้นเขาพูดอย่างราบเรียบต่อไป “หลักสูตรทหารใหม่ความสามารถเฉพาะตัวและนั่นก็คือ แผนการจิตวิญญาณพลังยุทธ”
“แผนการจิตวิญญาณพลังยุทธ?” นับเป็นครั้งแรกที่ถังเทียนได้ยินชื่อนั้น
“ตราบใดที่ยังมีจิตวิญญาณพลังยุทธเหลืออยู่เล็กน้อย ค่ายฝึกทหารก็สามารถทำให้มันฉายภาพออกมาได้อย่างสมบูรณ์ จากตั้งแต่แรก เราวางแผนจะใช้มันสร้างผู้สอนและขุมกำลังคนที่ขาดแคลนของเรา แต่ต่อมา เราตระหนักได้ว่ามันใช้ได้ไม่จำกัดแค่นั้น” ไม่มีอารมณ์ใดๆ ปรากฏบนสีหน้าที่ว่างเปล่านั้น แม้แต่เสียงของเขาก็เป็นเหมือนกระดานขาวว่างเปล่า ราบเรียบ
ขณะที่ถังเทียนคาดหวังและตั้งใจฟัง ลุงปิงก็เปลี่ยนหัวข้อ
“แต่นั่นยังไม่ใช่เรื่องที่เจ้าต้องกังวลตอนนี้”ปิงพูดชัดเจน “แม้แต่วิชากรงเล็บปีศาจเคียวเพลิงในตอนนี้เจ้ายังไม่สามารถฝึกมันได้ ข้าได้เห็นมันมาก่อนแล้ว เป็นวิชากรงเล็บที่น่ากลัว มีความแม่นยำในการสังหารและสร้างบาดแผลสาหัสได้”
ยังไม่สามารถเรียนกรงเล็บปีศาจเคียวเพลิง ถังเทียนเตรียมใจสำหรับเรื่องนั้นไว้แล้ว ดังนั้นเขาถามต่อ “งั้นตอนนี้เราจะเรียนอะไรกันดี?”
“เจ้าต้องสังเกตร่างกระเรียนของเจ้า” ปิงกล่าว “ร่างกระเรียนของเจ้าดูดกลืนคลื่นพลังงานเกินกว่าร้อยระลอก ถ้าเจ้าไม่อาจย่อยสลายมันภายในสิบชั่วโมงหรือราวๆ นั้น มันจะระเบิดอยู่ภายในตัวเจ้า เจ้าก็จะกลายเป็นเหมือนผลทับทิมแก่ที่ระเบิดปริแตกออกมา
ถังเทียนหน้าซีดด้วยความกลัว “เรื่องสำคัญขนาดนั้น ทำไมนายไม่เตือนฉัน”
“นั่นคือสามัญสำนึก” ปิงตอบแข็งๆ“ข้าไม่คาดว่าเจ้าจะใช้วิธีอันตรายอย่างนั้นเพื่อกระตุ้นร่างกระเรียนของเจ้า”
“งั้นตอนนี้ก็ทำอะไรสักอย่างเพื่อย่อยสลายมันได้ไหม?” ถังเทียนถามทันที
“ทุบตีเจ้า ซ้ำแล้วซ้ำเล่า” ปิงพูดเย็นชา
หลังจากนั้นถังเทียนมองเห็นทะเลบอลแสงซ่อนอยู่ในท้องฟ้าครอบคลุมพื้นดิน เสียงหวีดหวิวดังขึ้นขณะที่มันถาโถมพุ่งเข้าใส่เขา
โอว..ซวยแล้ว, ไม่นะ!
ความเศร้าและเสียงร้องโหยหวนของถังเทียนถูกกลบไปทันทีด้วยเสียงดังปัง ปัง ปัง อย่างเข้มข้น
※※※※※※※※※※※※
สามชั่วโมงต่อมาถังเทียนอยู่ในสภาพตัวบวมปูดเหมือนขนมปัง จ้องมองปิงอย่างไม่พอใจ
“พลังงานที่ร่างกระเรียนดูดซับมากระจายไปหมดแล้ว” ท่าทางการพูดของปิงเหมือนพ่อครัวผู้ควบคุมความร้อนในการปรุงอาหารประเภทสเต็กเนื้อ
“เอาไออ่อ (เอาไงต่อ?)” ถังเทียนพูดเป็นคำไม่ชัดขณะถาม หน้าของเขาโดยทุบจนบวมปูด จนไม่อาจพูดออกมาเป็นคำชัดๆ ได้
“เอายังไงน่ะเหรอ? นั่นถือเป็นการช่วยเจ้าครั้งใหญ่เลยนะ”ปิงกล่าวจริงจัง “พลังงานทั้งหมดนั่นเข้มข้น มั่นคง มันเกินไปกว่ามาตรฐานปราณเที่ยงแท้ระดับสี่ไปมาก โดยทั่วไป พลังงานชนิดนี้ยากต่อการดูดซับมากและพลังทำลายของมันประหลาดมาก แต่ตอนนี้หลังจากโดนนวดไปกว่าเจ็ดแสนนัดมันโดนบดทำลายไปหมดแล้ว
พอได้ยินว่าเกินกว่าเจ็ดแสนนัดถังเทียนถึงกับตาเขียว
“ตอนนี้ปราณเที่ยงแท้ที่ถูกบดขยี้ไปแล้ว สำหรับเจ้าจะกลายเป็นยาอายุวัฒนะชั้นดี”ปิงพูดจริงจัง “ปัญหาตอนนี้ก็คือมันเข้มข้นเกินไป”
“อะไออ๊ะ อีกอีอิ๊? (อะไรนะ อีกทีซิ?)” ถังเทียนใช้คำพูดกำกวมของเขาถามซ้ำ
“ถูกแล้ว มันเข้มข้นเกินไป” ปิงพูดจริงจัง“ตอนนี้เจ้าต้องใช้ร่างกระเรียนของเจ้าอย่างสม่ำเสมอ และดูดซับปราณเที่ยงแท้เข้มข้นบริสุทธิ์นี้ทั้งหมด นี่น่าจะใช้เวลาประมาณสิบวัน”
“นานขนาดนั้นเชียว? (พูดไม่ถนัด)” ถังเทียนออกเสียงคลุมเครือและไม่ถนัด
“ตามคาดก็นานขนาดนั้น” ปิงอธิบาย “แม้ว่าปราณเที่ยงแท้ของเจ้าเมื่อเทียบกับปราณเที่ยงแท้ระดับสามอื่นๆ ก็ยังแข็งแกร่งและบริสุทธิ์กว่ามากแต่ระดับการดูดซับพลังปราณเที่ยงแท้ของเจ้ายังช้ามากและแก่นยาอายุวัฒนะนั้นเทียบเท่ากับปราณระดับที่เจ็ด”
“ระ..ระดับที่เจ็ด” ถังเทียนตกใจกลัวนี่เขาเอาชนะขุนพลวิญญาณระดับเจ็ดมาหรือนี่? ล้อเล่นแน่ๆ
“ปราณเที่ยงแท้ของคนผู้นั้น เมื่อยังมีชีวิตก็อยู่ที่ระดับเจ็ดแล้ว” น้ำเสียงของปิงยืนยันได้โดยมิต้องสงสัย เหมือนเขามั่นใจในคำพูดของเขาเอง “เจ้าสามารถเอาชนะขุนพลวิญญาณได้เพราะพลังของมันลดลงไปมากแล้ว แต่พลังงานภายในของมันยังมีร่องรอยของพลังปราณเที่ยงแท้ระดับเจ็ดที่เบาบางอยู่มาก”
ระดับเจ็ด...
สำหรับใครบางคนที่มุ่งมั่นไต่ชั้นขึ้นไปถึงระดับสี่ ระดับเจ็ดเป็นความสูงพอๆ กับยอดเขา
“และที่ถูกต้องวิชากรงเล็บปีศาจเคียวเพลิงไม่ใช่วิชาระดับห้า แต่เป็นระดับเจ็ด เป็นวิทยายุทธระดับเจ็ดที่พิเศษ”
ถังเทียนจิตใจสะท้านหวั่นไหวอีกครั้ง
ถ้ากรงเล็บปีศาจเคียวเพลิงเป็นวิทยายุทธระดับห้า อย่างนั้นเขาก็คงมีความหวังอยู่บ้างแต่เมื่อเป็นวิชาระดับเจ็ด พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเขาจะต้องฝึกหนักอีกกี่เท่า...
เขาผ่านความยากลำบากมานานัปประการเพื่อวิชานี้แน่นอน แต่จู่ๆ ก็ต้องตัดใจเพราะวิชานี้สูงส่งมากกว่าที่เขาคิด แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่อยู่ในปากเขาเรียบร้อยพร้อมจะกลืนกินแล้ว แต่จู่ๆ ก็มีคนมาบอกว่าสิ่งนี้จะกินได้ในปีต่อไป
หน้าที่บวมปูดเหมือนขนมปังของถังเทียนเต็มไปด้วยความเศร้าโศก
“ช่วงสองสามวันนี้ เจ้ายังไม่สามารถฝึกได้” จู่ๆ ปิงก็พูดขึ้น“เจ้าต้องรีบดูดซับพลังปราณเที่ยงแท้ที่กระจัดกระจาย ถ้าในช่วงสิบวัน เจ้าไม่สามารถดูดซับได้อย่างสิ้นเชิงปราณเที่ยงแท้ทั้งหมดจะกลายเป็นเหมือนยาพิษ และเริ่มกัดกร่อนแอ่งตันเถียนของเจ้า”
ถังเทียนถามด้วยความรู้สึกเศร้าทันที “ทำยังไงฉันจะดูดซับปราณได้เร็วระดับนั้นได้?”
“เจ้าต้องก็ต้องสู้ศึกในระดับสูงน่ะสิ” ปิงให้คำแนะนำของตัวเขาเอง
“เข้าใจแล้ว” ถังเทียนพยักหน้าจริงจังกล่าวว่า “งั้นก็สู้กัน”