ตอนที่ 62 เกราะนกยูงคราม
ถุงมือดาวเตาหลอมชั้นบรอนซ์
เพลิงเขียวความจริงมีร่องรอยของแก่นรัศมีเยือกเย็นอยู่ภายในร่าง ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นเพราะการปรับแต่งของถังเทียนเองหรือไม่ แต่พลังยุทธของถุงมือชั้นบรอนซ์จะเชื่อมกับจิตของถังเทียน ถังเทียนมั่นใจมากยิ่งขึ้นมีความสุขมากยิ่งขึ้น จู่ๆ เขาก็ตะโกนว่า “เพลิงเตาหลอม”
พรึ่บ!
เปลวเพลิงเขียวเจิดจ้าลามไปทั้งแขนของเขา ในพริบตาก็หุ้มทั้งแขนของถังเทียน
พริบตานั้นถังเทียนเตะปบกรงเล็บขวาออกเหมือนกับสายฟ้า ความรู้สึกที่คลุมเครือและอธิบายไม่ได้แล่นผ่านไปตามข้อมือไม่มีการชะงักและเบาเหมือนไม่มีอะไร
ประกายแสงเขียววาบผ่านอากาศ
กรงเล็บถังเทียนรวดเร็วเมื่อเทียบกับสายฟ้าสังหาร ย่อมไม่ด้อยกว่าแน่นอน
ถังเทียนดีใจเหลือล้น สายฟ้าสังหารเป็นพลังโจมตีที่เร็วที่สุดของเขาแต่ยังมีพลังอ่อนเกินสำหรับถังเทียน เดิมทีกรงเล็บอินทรีของถังเทียนก็น่าทึ่งแล้ว แต่ตอนนี้ กลับน่ากลัวขึ้นมากกว่าเดิม
กรงเล็บลูกโซ่
ในอากาศรัศมีของสายฟ้าสีเขียวสะดุดตาพุ่งวาบตัดอากาศ
ปัง ปัง ปัง
ประกายไฟปรากฏไปทั่ว ขุนพลวิญญาณถอยออกมาจากการตกอยู่ใต้พลังจู่โจมที่ดุดันของถังเทียน
แต่วิชากรงเล็บระดับปรมาจารย์ก็สามารถสร้างพลังให้ตัวเองได้ แม้ว่าขุนพลวิญญาณจะเสียเปรียบ และระมัดระวังตัวแจ แต่การโจมตีที่ทรงพลังและรุนแรงของถังเทียนก็ยังไม่สามารถจู่โจมได้ถูกและสร้างความเสียหายได้
ช่างเป็นกรงเล็บที่ดุดันเสียจริง
โดยไม่รู้ตัว ถังเทียนคิดถึงจิตวิญญาณพลังยุทธหอกพรากวิญญาณ หลังปะทะฝีมือกับโจวเผิง ถังเทียนเน้นและเรียนรู้จากหยางหวินเป็นพิเศษเพราะเขาเป็นยอดฝีมือหอก โชคดีที่การ์ดขุนพลวิญญาณนั้นสร้างด้วยพลังยุทธหอกพรากวิญญาณเมื่อตอนเขายังอายุเยาว์ ในตอนนั้นวิชาหอกพรากวิญญาณก็มีชื่อเสียงบ้างแล้ว และวิชาหอกก็ยังอยู่ในระดับเริ่มต้น
แต่ในดวงตาของขุนพลวิญญาณ แม้ว่าระดับยังไม่สูง แต่กรงเล็บนั้นหนักหน่วงและทรงพลังมากกว่าหอกพรากวิญญาณแน่นอนอย่างมิต้องสงสัย
ทั้งสองหักหาญกันอย่างรวดเร็วประกายไฟระเบิดกระจายไปทั่ว
ถ้าไม่มีถุงมือดาวเตาหลอมชั้นบรอนซ์,ร่างกระเรียน หรือกรงเล็บอินทรีล้วนๆ ฝีมือของถังเทียนยังคงห่างไกลนัก กรงเล็บเพลิงเตาหลอมจากขุนพลวิญญาณทำให้ถังเทียนปากอ้าค้างตะลึง
แต่นี่แค่จุดประกายความปรารถนาต้องการชนะของถังเทียน
เสียงหวีดหวิวหายไปในอากาศเงากรงเล็บเขียวถอยกลับไปและเปลี่ยนเป็นเสียงฟู่เหมือนกับอสรพิษ
ฟู่!
ปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง
เงากรงเล็บเขียวเหมือนฟ้าผ่าดูน่ากลัว แม้ว่าขุนพลวิญญาณจะหลบพ้นจากการโจมตีของถังเทียนได้ แต่พลังงานที่ถูกส่งมายังร่างของมันกลับลดน้อยถอยลง
ทันใดนั้นถังเทียนสังเกตเห็นรายละเอียดเล็กน้อยนี้ เหมือนกับว่าเขาได้เข้าใจบางอย่าง ปกติพวกที่ฝึกกรงเล็บอินทรีจะเป็นที่รู้จักไม่ใช่เพราะพลังของพวกเขา แต่เพราะนิ้ว, ข้อมือของพวกเขาและพวกเขาไม่ค่อยได้ใช้พลังจากร่างกาย แต่ร่างกายของถังเทียนมีคุณสมบัติที่โดดเด่น ว่ากันที่พลังล้วนๆเขาอาจจะด้อยกว่าอาโมรี่ แต่ถังเทียนมีเคล็ดฝึกที่สมบูรณ์จนระเบิดพลังออกมาได้ พลังของเขาบริสุทธิ์และเที่ยงตรง พลังพื้นฐานที่สมบูรณ์สามารถระเบิดพลังต่างๆออกมาได้
จะเป็นยังไงถ้าใช้พลังทั้งหมดในร่างกายเขาทุ่มใส่พลังกรงเล็บอินทรีย์?
พอคิดเช่นนั้นมือของถังเทียนเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเงียบๆ
รูปแบบกรงเล็บอินทรีของถังเทียนเริ่มเปลี่ยนประตูแห่งความเปลี่ยนแปลงเปิดกว้างปราณที่หมองก็จางหายไป กลับได้ความรู้สึกที่เป็นสดชื่นเพิ่มขึ้น
เสียงของฝ่ามือและนิ้วมือที่ปะทะกันเปลี่ยนไป
นิ้วและฝ่ามือของถังเทียนเป็นเหมือนค้อนเขาใช้ประโยชน์จากความหนักเพื่อทำลายความเบา เดิมที ขุนพลวิญญาณก็เสียเปรียบตอนเผชิญกับถังเทียนที่ยังไม่มีกลยุทธ์โจมตีอยู่แล้ว ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพที่กดดันหนักขึ้น
ถังเทียนใช้งานพลังกรงเล็บอินทรีแบบใหม่ได้สมบูรณ์ เขาทุ่มพลังงานทั้งร่างไปสะสมอยู่ในกรงเล็บของเขาอย่างต่อเนื่อง เสียงดังแหลมของกรงเล็บแหวกอากาศตอนนี้เปลี่ยนเป็นลึกและแห้ง กรงเล็บอินทรีใหม่มีพลังที่หนักหน่วงกว่าเดิม แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงจะน้อยมากแต่ก็มีพลังเพิ่มขึ้นมากมาย
ถังเทียนยังค้นพบอย่างรวดเร็วว่าเขาเหนือกว่าขุนพลวิญญาณสิ้นเชิง แต่เพื่อทำลายแนวต้านของขุนพลวิญญาณ ก็ยังคงเป็นงานที่ยากอยู่มาก
ทันใดนั้นถังเทียนคิดถึงความเปลี่ยนแปลงของความเร็วในความถี่การโจมตีของขุนพลวิญญาณ การโจมตีของขุนพลวิญญาณเดี๋ยวเบาเดี๋ยวหนักเป็นบางครา สลับกันไปมาทำให้เขาปวดหัว ถังเทียนเริ่มเลียนแบบขุนพลวิญญาณบ้าง การโจมตีของเขาเบา จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นหนักหน่วง บัดเดี๋ยวเร็วบัดเดี๋ยวช้า ตอนนี้ขุนพลวิญญาณยิ่งหมดพลังมากกว่าเดิม การโจมตีของเขาซึ่งแต่เดิมหนาแน่นไม่มีข้อบกพร่อง เริ่มปรากฏช่องว่างทันที
ดูเหมือนกับว่าขุนพลวิญญาณอาจจะพ่ายแพ้ เมื่อเป็นเรื่องที่เกินคาด ผนึกสีน้ำเงินเป็นประกายในดวงตาของขุนพลวิญญาณพลันสว่างวาบ
หัวใจของถังเทียนเต้นผาง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป
เขาถอยออกมาโดยไม่ลังเลใจเลย
ประกายแสงสว่างห้าสายพลันสว่างวาบต่อหน้าถังเทียน
ขุนพลวิญญาณใช้นิ้วทั้งห้าพุ่งฝ่าอากาศเข้ามาด้วยความเร็วสูง เล็บเหล่านี้เสียดสีอากาศจนเป็นประกายไฟออกมา
นี่คือเคล็ดสังหาร
อันตรายที่ไม่รู้จักตอนนี้ครอบคลุมถังเทียนแล้ว ถังเทียนที่ถอยออกมาอยู่ถึงกับหลั่งเหงื่อแทบบ้า ผมของเขาตั้งชัน ถังเทียนกู่ตะโกนลั่น แสงในดวงตาเขาสว่างวาบขณะที่เขาโคจรปราณเที่ยงแท้ในระดับสูงสุดเขายกกรงเล็บข้างขวาขึ้นบังนิ้วทั้งหมด เหมือนกับว่าเป็นจะงอยปากของนกและจิกอย่างบ้าคลั่ง
อินทรีจู่โจม!
ผสานกับพลังร่างกระเรียนและเคล็ดสังหารระเบิดพลังออกมาทันที ชั่วเวลาที่พลังระเบิดออกมากรงเล็บที่มีเพลิงเขียวลุกโชนฝ่าอากาศออกมาโดยไม่มีพลังอะไรจะหยุดยั้งได้และโจมตีใส่ขุนพลวิญญาณอย่างแม่นยำทำให้กรงเล็บเหล็กมีประกายไฟ
ปัง!
ขุนพลวิญญาณเหมือนถูกไฟฟ้าดูด เขาได้ใช้พลังปราณเที่ยงแท้ไปจำนวนมหาศาล ขณะที่ท่าอินทรีจู่โจมที่แหลมคม,รุนแรงและทรงพลังของถังเทียนระเบิดใส่อย่างรุนแรง
ขุนพลวิญญาณระเบิดต่อหน้าต่อตาถังเทียนและเศษเสี้ยวพลังยุทธนับไม่ถ้วนลอยไปตามลมเหมือนกับปุยนุ่น กระจัดกระจายไปทั่วทางเดิน ความเร็วของการหายไปของชิ้นส่วนพลังยุทธ์สลายไปโดยมองได้ด้วยตาเปล่า
ถังเทียนเหม่อมองทางเดินที่ว่างเปล่าไม่มีผู้ใดอยู่ตรงนั้น ในเวลานั้นเขารู้สึกได้ถึงความเศร้า แสงจากขุนพลวิญญาณทำให้เขาเห็นได้ว่า วิชากรงเล็บของผู้อาวุโสท่านนี้แข็งแกร่งมาก หลังจากคนตายแล้วจิตวิญญาณวิทยายุทธก็จะหายไปด้วยและตั้งแต่พลังยุทธของผู้อาวุโสนี้เปลี่ยนสภาพเป็นขุนพลวิญญาณแล้วก็ปกป้องสถานที่นี้ คงมีปณิธานบางอย่างที่ทำไม่สำเร็จแน่
ถังเทียนรำพึงกับตัวเอง“ผู้อาวุโส, โปรดสบายใจได้ ฉันจะไม่สร้างความอัปยศให้กับวิทยายุทธและสมบัติของท่าน”
เขาไม่รู้ว่าเป็นปณิธานใดแน่จึงได้แต่ใช้วิธีแสดงความเคารพผู้อาวุโส คำพูดของถังเทียนจริงจังและให้เกียรติ เขาก้าวไปข้างหน้าต่อ เลี้ยวและเดินไปตามทางเดิน
หลังจากเดินมาได้ราวห้าร้อยเมตร มีถ้ำแห่งหนึ่งปรากฏอยู่หน้าถังเทียน
พอเข้าไปในถ้ำ สายตาถังเทียนก็ถูกของที่อยู่กลางถ้ำดึงดูดและไม่อาจละความสนใจไปที่อื่นได้
เกราะชั้นบรอนซ์ตั้งอยู่ข้างหน้าเขาอย่างเงียบสงบ แม้จะผ่านกาลเวลามานาน แต่ยังดูสะอาดและใหม่ไม่มีฝุ่นเกาะเลยสักนิด ถังเทียนสามารถรู้สึกได้ถึงพลังที่แผ่ออกมาจากมัน และนี่เป็นครั้งแรกที่ถังเทียนเห็นเกราะชั้นทองแดง
“นี่คือเกราะชั้นทองแดงจากหมู่ดาวนกยูง มีชื่อว่า นกยูงคราม” มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นเบื้องหลังถังเทียน
ถังเทียนสั่นและหันศีรษะไปทันทีเป็นจิ่งหาวนั่นเอง
จิ่งหาวมองดูเกราะชั้นบรอนซ์อย่างสงบและพูดทันทีว่า “แม้ว่าหมู่ดาวนกยูงจะไม่ใหญ่มาก แต่เกราะชุดนี้เป็นเกราะชั้นบรอนซ์คุณภาพดี คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาอยู่ในมือของผู้อาวุโสหนง”
เขาสังเกตเห็นท่าทางระมัดระวังของถังเทียนจึงกล่าว“สบายใจได้ ฉันไม่ชิงไปจากแกแน่”
“ทำไมล่ะ?” ถังเทียนถาม
จิ่งหาวตอบเสียงเย็นชา“ฉันมีเกราะของตัวเองแล้ว”
ถังเทียนที่หน้านิ่วตอนแรกกลับมายิ้มทันที“อ่าฮะ, อย่างนั้นก็เยี่ยมจริงๆ” พูดจบเขาวิ่งตรงไปที่นกยูงคราม
จิ่งหาวไม่ได้ขยับจากที่ แต่รำพึงกับตัวเอง “เกราะจะแตกต่างจากสมบัติชนิดอื่นมันจะสะสมพลังมากกว่าปกติ และจะให้มันเชื่องนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย..”
ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค เขาจ้องมองถังเทียนที่กุลีกุจอสวมเกราะนกยูงครามอย่างว่างเปล่า
ทำไมมันเป็นอย่างนั้นไปได้...
ทำไมเกราะถึงยอมสงบได้ง่ายนัก...
ทำไมเกราะถึงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ
จิ่งหาวเหม่อมองถังเทียนด้วยสีหน้าประหลาด เกราะเป็นหนึ่งในสมบัติที่มีรูปแบบซับซ้อนที่สุด เนื่องจากหมู่ดาวที่แข็งแกร่งเพียงพอจึงจะให้กำเนิดเกราะอย่างนั้นได้ แน่นอนว่าพลังของเกราะจะแข็งแกร่งมาก แต่เกราะนั้นยากที่จะปราบมันลงได้
จิ่งหาวจำได้ชัดเมื่อเขาปราบเกราะของตนเองได้ในที่สุด เขาใช้เวลาถึงหนึ่งเดือนเต็ม
แต่เจ้าเด็กนี่...
นี่เป็นครั้งแรกที่จิ่งหาวรู้สึกอิจฉาในใจ
“ว้าว... เป็นไปตามคาด มันแข็งแกร่งมาก ฉันรู้สึกได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้น” ถังเทียนเองก็แสดงความประหลาดใจออกมา
เมื่อได้ยินถังเทียนพูด จิ่งหาวเงยหน้าขึ้น สีหน้าของเขาชะงักค้างทันที
ใต้เท้าของถังเทียนมีแสงรัศมีนับไม่ถ้วนฉายออกมาทันที
ถังเทียนหลับตาและลองใช้อย่างระมัดระวัง
ในท่ามกลางแสงลักษณะของเกราะบรอนซ์เริ่มเปลี่ยนรูปทันที
นี่ นี่ นี่..มัน..
จิ่งหาวปากอ้าตาค้าง ขณะที่เขาตะลึงจ้องมองภาพประจักษ์ข้างหน้า
ลักษณะเกราะที่ตามมาเหมือนการเปลี่ยนแปลงของเทียนขณะละลายลักษณะแบบใหม่ค่อยๆ ปรากฏเป็นพื้นที่ว่างเปล่าสะอาดอยู่บนเกราะชั้นบรอนซ์มีการออกแบบและตกแต่งซับซ้อนเพิ่มขึ้น เหลี่ยมมุมแต่เดิมที่แข็งกระด้างก็เปลี่ยนลักษณะไปอย่างรวดเร็วกลายมุมมนโค้งสง่างาม
เกราะนกยูงครามรูปลักษณ์ใหม่ปรากฏอยู่ต่อหน้าต่อตาเขาเอง
เกราะใหญ่เทอะทะแต่เดิมกลายเป็นมีขนาดกระชับขึ้น ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นที่ละเอียดอ่อน และการออกแบบในรูปลักษณ์สีน้ำเงินช่างเหมือนกับปีกขนนกยูงซ้อนกันเป็นชั้นหนาเหมือนกับเป็นงานศิลปะที่สมบูรณ์ พื้นที่ไหล่จะมีความโค้งมนไม่ส่งผลต่อความเคลื่อนไหวของถังเทียนแม้แต่น้อย ทุกๆความเคลื่อนไหวของถังเทียนราบรื่นเหมือนน้ำไหลและเพิ่มการออกแบบชิ้นส่วนสีน้ำเงินที่ซับซ้อน ทำให้เขามองดูหล่อสง่างาม
ถังเทียนรู้สึกสงสัยมาก เขาสามารถรู้สึกได้ชัดถึงพลังของเกราะที่สะสมอยู่ภายในมันแข็งแกร่งจริงๆ
ช่างเป็นพลังยุทธที่แข็งแกร่งนัก
ถังเทียนสามารถรู้สึกได้ว่าพลังยุทธที่อยู่ภายในเกราะแข็งแกร่งมากและยังแข็งแกร่งยิ่งกว่าพลังยุทธของถุงมือเสียอีก
“พลังยุทธกำลังตื่น...”
จิ่งหาวรู้สึกตัวทันทีร่างของเขาสะท้านทันที หลังจากได้สติจากการเพ่งมองและอุทาน “ฉันเข้าใจแล้ว ผู้อาวุโสหนงยอมรับแก”
เสียงของเขาแฝงแววประหลาดใจ,อิจฉาและเหลือเชื่อ จิ่งหาวรู้ล่วงหน้าแล้วเหตุผลที่เขาไม่ได้เข้ามาในอดีตที่ผ่านมา เพราะเขาฝึกเพลงกระบี่และไม่สนใจวิชากรงเล็บเลยแม้แต่น้อย แต่พอเห็นถังเทียนได้ชุดเกราะนกยูงครามใหม่ เขารู้สึกเสียใจทันที
“อ๋า, ผู้อาวุโสหนงยอมรับฉันด้วยเหรอ?” ถังเทียนหัวเราะลั่น “ฮ่าฮ่าฮ่า เป็นไปตามคาดผู้อาวุโสแข็งแกร่งทรงพลังจริงๆ เขาตาถึงมากบอกได้ด้วยการมองครั้งเดียวว่าฉัน เป็นหนุ่มน้อยที่คู่ควร และเชื่อถือได้!ฮ่าฮ่าฮ่า”
สีหน้าของจิ่งหาวชะงักค้างเด็กแบบนี้น่ะเหรอ ที่ทำให้ผู้อาวุโสหนงยอมรับได้จริงๆ...
ทันใดนั้นจิ่งหาวรู้สึกว่าโลกนี้ช่างน่าขันเกินไปแล้วถังเทียนกำลังพอใจจู่ๆ ก็หยุดยิ้มทันที เขานึกถึงความประหลาดใจของจิ่งหาว และถามด้วยความสงสัย “โอว,จริงสิ การตื่นขึ้นของพลังยุทธ์เป็นยังไงเหรอ?”