ตอนที่ 3-21 หุบเหวสายหมอก (1)
หากผู้ใดมีความต้องการจะฝึกฝน ‘คัมภีร์ลับเลือดมังกร’ผู้นั้นจะต้องผ่านการปลุกเลือดมังกรที่อยู่ในสายเลือดเสียก่อนแต่การจะทำเช่นนั้นได้มีอยู่ 2 วิธี วิธีแรกคือผู้นั้นจะต้องมีความเข้มข้นของเลือดมังกรมากกว่าหรือเท่ากับเกณฑ์ขั้นต่ำ วิธีที่สองคือดื่มเลือดมังกรสดๆ
แต่การดื่มเลือดมังกรที่ยังมีชีวิตเป็นเรื่องอันตรายมาก
เลือดมังกร แม้ดื่มเข้าไปเพียงเล็กน้อยก็สร้างความเจ็บปวดแสนสาหัส กล่าวได้ว่าไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถดื่มได้แม้เพียงเล็กน้อยแต่ทุกสิ่งบนโลกนี้ย่อมมีคู่ปรับที่ทัดเทียมกัน หญ้าใจฟ้าเมื่อนำมาผสมกับเลือดมังกรจะทำให้ผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายหายไปหญ้าใจฟ้าถือเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง ลินลี่ย์สามารถจินตนาการถึงราคาของมันได้เลย
หญ้าใจฟ้าแค่เพียงหยิบมือมีราคาสูงถึงหมื่นเหรียญทองยิ่งกว่านั้นยังเป็นของหายากที่แม้มีเงินก็หาซื้อไม่ได้ เดลิน โคเวิร์ทเคยกล่าวไว้“เลือดของมังกรเป็นๆนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังมหาศาลตามปกติจะใช้หญ้าใจฟ้าหยิบมือหนึ่งในการผสมแต่ถ้าเจ้าอยากดื่มเลือดมังกรในปริมาณมากก็ย่อมต้องใช้หญ้าใจฟ้าในปริมาณมากขึ้นตามไปด้วย”
หญ้าใจฟ้าหยิบมือหนึ่งนั้นมีราคามหาศาล ลินลี่ย์จะจ่ายเงินซื้อได้อย่างไร? ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถทำเงิน 70,000 เหรียญทองได้ในแต่ละเดือนก็ยังไม่สามารถซื้อได้แม้แต่หยิบมือ
“หญ้าใจฟ้า, หญ้าใจฟ้า! สวรรค์ปราณีข้าแล้ว” ลินลี่ย์ปลาบปลื้มจนพูดไม่ออก
ลินลี่ย์ไต่ลงไปอย่างกระตือรือร้น เมื่อห่างจากโขดหินที่มีหญ้าใจฟ้าขึ้นอยู่ไม่กี่สิบเมตรเขาก็เริ่มร่ายเวท ในเวลาไม่นาน รอบกายของลินลี่ย์ก็ห้อมล้อมไปด้วยธาตุอากาศบริสุทธิ์
เวทลมระดับห้า – เคล็ดลอยตัว
ในระดับปัจจุบันของเขา ลินลี่ย์ทำได้แค่เพียงให้ร่างกายของเขาลอยได้เท่านั้นไม่อาจโบยบินได้อย่างทั่วไปโดยการลอยตัวจะทำให้สามารถเคลื่อนที่ขึ้นลงในแนวดิ่งได้ จากนั้นลินลี่ย์ที่ยืนอยู่กลางอากาศก็ค่อยๆเคลื่อนที่ลึกลงไปในหุบเหวสายหมอกโดยมีบีบียืนเกร็งอยู่บนบ่า แม้ว่าบีบีจะมีฤทธิ์เดชมากแต่ก็ไม่เคยบินมาก่อน อสูรเวทที่ไม่ใช่จำพวกสัตว์ปีกจะไม่สามารถบินได้จนกว่าจะบรรลุระดับเซียน
หุบเหวนี้ปกคลุมไปด้วยหมอกขาว ยิ่งลินลี่ย์ลงไปลึกเท่าไร ก็ยิ่งรู้สึกว่าผนังแคบลงเท่านั้นไม่นานลินลี่ย์ก็มาอยู่เบื้องหน้าหญ้าใจฟ้า
“หญ้าใจฟ้านี้ทั้งๆที่มีสีเขียวแก่แต่กลับเปล่งแสงสีฟ้าอ่อนช่างเข้าใจได้ยากยิ่ง และเมื่อใบหญ้าถูกเด็ดออกจากต้นจะมีน้ำสีเขียวเข้มไหลออกมาซึ่งมีรสเลิศเมื่อได้ดื่มลงไป”ลินลีย์จำได้ดีเรื่องของหญ้าใจฟ้าได้มาจากหอสมุดของสถาบันเอินส์
พอเห็นหญ้าใจฟ้าที่งอกอยู่บนโขดหิน มันเปล่งเสียงเบาๆเมื่อต้องลม ลินลี่ย์สูดหายใจลึกแล้วถอนหญ้าใจฟ้าอย่างระมัดระวัง
“เย็นจริงๆ” เมื่อสัมผัสหญ้าใจฟ้า เขารู้สึกเหมือนจับก้อนน้ำแข็งเขานำมันใส่กระเป๋าในทันทีและมองดูรอบๆ“ข้าสงสัยว่าที่นี่จะมีหญ้าใจฟ้ามากกว่านี้!”
สถานที่ที่สามารถทำให้หญ้าใจฟ้าต้นแรกงอกเงยได้ย่อมสามารถทำให้ต้นที่สองงอกเงยได้เช่นกัน
ลินลี่ย์ใช้เทคนิคลอยตัวเคลื่อนที่ลงผ่านหมอกทึบในขณะเดียวกันก็สอดส่ายสายตาไปรอบตัวแม้ว่าหมอกจะทำให้เห็นสิ่งใดๆไม่ชัดเจนนัก แต่ก็ยังพอมองเห็นเถาวัลย์ที่เกาะบนโขดหิน
“นั่นไง ใหญ่โตจริง”
ลึกลงไปในหุบเหวลึก ลินลี่ย์สัมผัสได้ถึงความใหญ่โตโอฬารของสถานที่นี้ บัดนี้ผนังผาทั้งสองมีระยะห่างกันราวสองพันเมตรด้วยความเร็วในการบินของเขาและมุมระหว่างตัวเขากับผนังหิน ทำให้พอกะระยะได้บ้าง
“โฮกกก...”
“กรรรร....”
เสียงคำรามต่ำจากเบื้อล่างดังก้องหุบเหว เสียงเหล่านั้นเหมือนดังออกมาจากทั่วทุกที่เบื้องล่างเขาคงมีอสูรเวทอยู่นับร้อย ลินลี่ย์อกสั่นขวัญแขวน “อสูรเวท! มีอสรูเวทจำนวนมากอยู่ด้างล่าง!”
ลินลี่ย์แนบตัวกับผนังผาขณะที่มือคว้าเถาวัลย์ขณะที่เขาโรยตัวลงมาอย่างระมัดระวัง
“เจ้านาย, ข้ารู้สึกได้ว่าข้างล่างมีอันตรายใหญ่หลวงรออยู่” จู่ๆบีบีก็พูดกับลินลี่ย์ผ่านการเชื่อมโยงทางจิต
ลินลี่ย์ก็รู้สึกกดดันในใจเช่นกัน ยิ่งลึกลงไปเท่าใดเสียงขู่คำรามก็ดังก้องเท่านั้น เสียงคำรามโทนต่ำมาจากอสูรเวทขนาดยักษ์ แม้ว่าอสูรเวทที่ทรงพลังไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่แต่อสูรเวทขนาดใหญ่มักจะทรงพลัง
“หญ้าใจฟ้า!”
ลินลี่ย์มองเห็นหญ้าใจฟ้าอีกกอหนึ่งอยู่เบื้องล่างรอบๆเต็มไปด้วยเถาวัลย์สีเขียวและพุ่มไม้จำนวนมาก แม้จะรู้ว่าใต้หุบเหวมีอสูรเวทจำนวนมากแต่เดิมทีลินลี่ย์ก็ไม่ใช่คนขี้ขลาดยิ่งเมื่อเห็นหญ้าใจฟ้าอยู่ใกล้ๆ ลินลี่ย์ก็เริ่มลอยตัวลงไปในขณะที่มือยังคว้าเถาวัลย์ไว้
แต่ในเวลานี้ ลินลี่ย์ไม่สนใจสิ่งใดอื่นแล้ว
ท่ามกลางเถาวัลย์สีเขียวรอบๆหญ้าใจฟ้ามีงูเขียวยักษ์ตัวหนึ่ง ความยาวอย่างต่ำ20 เมตรและหนาราว 2 คนโอบ งูยักษ์มีตัวสีเขียวสดและกำลังนอนขดตัวจนดูเหมือนเถาวัลย์โบราณยิ่งถูกพรางด้วยหมอกหนา ทำให้ลินลี่ย์ไม่สังเกตแม้แต่น้อย
เมื่อลงไปอยู่ระดับเดียวกัน ลินลี่ย์เอื้อมมือเข้าใกล้หญ้าใจฟ้าขึ้นเรื่อยๆ
“เจ้านาย, ระวัง! นั่นงูยักษ์!” ทันใดนั้นบีบีพูดกับลินลี่ย์ผ่านทางจิตอย่างตื่นเต้น
“งูยักษ์เหรอ?” ลินลี่ย์ตะลึง
สิ่งมีชีวิตอย่างงูยักษ์เป็นอสูรเวทที่ทรงพลังอย่างยิ่ง ต่อให้เป็นชนิดอ่อนแอที่สุดอย่างงูสามเขาก็เป็นถึงอสูรเวทระดับ6 ลินลี่ย์ตรวจสอบรอบตัวเองทันทีตอนนี้เขาอยู่ห่างจากงูยักษ์เพียงร้อยเมตรเท่านั้น
“โอ้โฮ..” ลินลี่ย์สูดลมหายใจลึก
งูยักษ์ยาว 30 เมตร หนาพอๆกับถังบรรจุน้ำทำให้หัวใจลินลี่ย์เต้นถี่ “งูเขียวยักษ์อสูรเวทระดับ 7” ข้อมูลเรื่องชนิดของงูยักษ์ผุดขึ้นมาในใจ
ตอนนี้ ลินลี่ย์ตระหนักถึงสาเหตุที่หุบเหวนี้มีหมอกจัดมาก
“เวทสายหมอก เป็นเวทธาตุน้ำระดับ 1 ถึงจะเป็นงูเขียวยักษ์ระดับ 7แต่การสร้างหมอกได้มากมายราวกับไม่มีที่สิ้นสุด แม้ว่าหุบเหวจะมีความชื้นสูงก็ตามจะต้องมีงูเขียวยักษ์มากกว่า 1 ตัวเป็นแน่”
ลินลี่ย์รู้ตัวได้ทันที
เหวนี้มีความลึกและความกว้างประมาณ 10 กิโลเมตรสำหรับความใหญ่โตของมันการจะสร้างหมอกขาวปกคลุมทั้งหุบเหวไม่ต้องจินตนาการถึงจำนวนงูยักษ์มากมายที่นี่ งูเขียวยักษ์ที่ขดท่ามกลางเถาวัลย์ขยับตัวอย่างรวดเร็วหัวขนาดใหญ่หันมาจ้องลินลี่ย์ด้วยดวงตาเพชฌฆาต
“กรรร....”
เสียงครืนครันน่าขนลุกดังจากปากของงูเขียวยักษ์พร้อมพุ่งเข้าหาลินลี่ย์ด้วยความเร็วสูง
“กรรร” “ซี่...” “กรรร” ทั่วทั้งหุบเหวเริ่มเต็มไปด้วยเสียงร้องของอสูรชนิดต่างๆ ขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวที่ดังสนั่นหวั่นไหว เหลือบมองด้านล่าง ลินลี่ย์เห็นสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์มากกว่าสิบตัวกำลังพุ่งเข้าหาเขาลินลี่ย์บอกได้เลยว่าพวกนี้ยังถือเป็นส่วนน้อยของอสูรเวทใต้หุบเหวนี้
“หนี!”
เมื่อเผชิญหน้ากับงูเขียวยักษ์ ลินลี่ย์บินพุ่งขึ้นด้านบนด้วยความเร็วสูงสุดการความคุมพลังสายลมทำให้ร่างของเขาเสมือนไร้น้ำหนักเขาพุ่งด้วยความเร็วที่น่าพิศวงราวกับจรวด เมื่อบินขึ้นไปจึงเห็นว่าแรงกัดของงูเขียวยักษ์ทำให้ผนังหินที่เขาเคยเกาะถึงพังทลายสายตาเย็นเยียบจ้องมองมายังลินลี่ย์อย่างหมายมั่นฆ่าให้ตายเสียงขู่ของมันดังไม่หยุด
แกว้ก....! แกว้ก.....!”
เสียงคำรามสูงๆของนกดังขึ้นในอากาศ และเบื้องล่างนกยักษ์สิบกว่าตัวก็พุ่งขึ้นมาไลล่าลินลี่ย์
“เหยี่ยวมังกร! อสูรพวกนั้นคือเหยี่ยวมังกร!” ลินลี่ย์หน้าซีดเผือดทันที