ตอนที่ 3-20 มีดสั้นดำ (2)
แม้บุรุษชุดดำอยู่ห่างจากลินลี่ย์เพียง 5 – 6เมตรจะรับรู้ถึงตัวตนที่แอบซ่อนอยู่ของหนูเงา แต่ก็ต้องประหลาดใจกับความเร็วของมันใบหน้าที่เคยเรียบเฉยแสดงสีหน้าตื่นตกใจ “ความเร็วอะไรกันนี่?” บุรุษชุดดำตวัดมีดขึ้นมาป้องกันอย่างเร่งรีบ
เห็นได้ชัดว่า บุรุษชุดดำคนนี้แข็งแกร่งกว่านักฆ่าธรรมดาอย่างน้อยที่สุดเมื่อต้องเผชิญหน้ากับบีบี เขาก็ยังสามารถตั้งสติและกวัดแกว่งมีดได้อย่างรวดเร็ว
“ควับ!” บีบีเหวี่ยงกงเล็บแหลมคมของมันอย่างรุนแรง
“แคร้ง!”
เมื่อกรงเล็บของบีบีกระทบกับมีดของนักฆ่า มีดสั้นนั้นแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วกรงเล็บที่ไม่ได้รับเสียหายของบีบีก็ฟันใส่ศีรษะของนักฆ่าอย่างรุนแรงบุรุษนั้นตายทันที
“ช่องห่างระหว่างระดับ 6 กับระดับ 7 นั้นช่างใหญ่โตเสียจริง” เห็นอย่างนี้แล้วลินลี่ย์ได้แต่ทอดถอนหายใจ
บีบีคือหนูเงาที่น่าหวาดหวั่นสามารถเผชิญหน้ากับมังกรลมกรด อสูรเวทระดับ 7และบังคับให้มังกรลมกรดเป็นฝ่ายต้องหนีไปได้ ด้านพละกำลังของมันไม่ว่าจะเป็นกรงเล็บและเขี้ยวที่แหลมคมก็สามารถฆ่านักรบระดับ6 ได้อย่างสบายเหมือนกับกินข้าว
“ไปที่ชอบๆ เถอะ!” ลินลี่ย์วิ่งไปที่ศพและฉีกชุดของบุรุษชุดดำขาดฉวยเอากระเป๋าสะพายหลังของเขาไปทันที โดยมิได้ทำอะไรอย่างอื่นเขามุ่งหน้าหนีขึ้นเหนือทันที ลมหมุนรุนแรงรอบๆขาของเขาทำให้เขาเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วสง่างาม และเขาจากไปโดยแทบไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้
จากนั้นไม่นาน บุรุษชุดดำกลุ่มที่สองก็มาถึง เมื่อเห็นศีรษะของหมายเลข 2มีแผลฉกรรจ์พวกเขารีบทะยานไล่ตามในทันที
“อสูรเวทอย่างนั้นหรือ?” ภาพจินตนาการของอสูรเวทหลายชนิดผุดขึ้นในใจของพวกเขา “หนูเงาขนสีน้ำเงินระดับ6? หรือหนูเงาขนสีม่วงระดับ7? หรือหนูกินศิลาขนทองระดับ7 กันแน่?” รอยแผลลึกขนาดเล็กต้องเกิดจากอสูรเวทจำพวกหนูอย่างแน่นอน
บางคนเชื่อว่าสิ่งที่อันตรายร้ายกาจในเทือกเขาอสูรเวทก็คืออสูรเวทระดับ 8 หรือ9 แต่อีกจำพวกหนึ่งรู้ดีว่าสิ่งที่อันตรายที่สุดก็คืออสูรเวทที่อยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ในจิตใจของพวกบุรุษชุดดำ สิ่งที่เปรียบเสมือนฝันร้ายก็คือฝูงหนูกินศิลาหรือหนูเงา
หนูกินศิลามีพลังป้องกันที่ดีเยี่ยม อีกทั้งฟันและกรงเล็บที่แหลมคม
หนูเงามีความเร็วสูง เขี้ยวคมและกรงเล็บแหลมคม
เมื่อถูกโจมตีโดยฝูงหนูเงาหรือหนูกินศิลานับพัน แม้จะมาทั้งกองทัพก็ถูกกัดกินเรียบ
“ตอนนี้ เรากลับกันก่อน” หัวหน้ากลุ่มบุรุษชุดดำไม่มีลังเลใจที่จะออกคำสั่งแม้เพียงเสี้ยววินาที
……
ระหว่างทางขึ้นเขา ลินลี่ย์ยังคงวิ่งไม่หยุดจนกระทั่งถึงยอดเขา หลังจากหนีห่างออกมานับร้อยกิโลเมตรแล้วลินลี่ย์เชื่อว่าไม่ว่าใครจะไล่ตามมาก็คงไม่สามารถจับเขาได้
“เจ้านาย! เร็วเข้าเปิดกระเป๋าดูของข้างในเถอะ!” บีบีกระตุ้นเตือนทันที
หัวใจของลินลี่ย์คาดหวังอยู่เต็มเปี่ยมเช่นกันคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยเผชิญมาย่อมต้องมีแก่นเวทจำนวนมากในกระเป๋านักฆ่าธรรมดามักครอบครองแก่นเวทและอัญมณีเวทมูลค่า 15,000 เหรียญทอง แล้วนักฆ่าคนนี้ที่เป็นถึงหมายเลข 2ขององค์กรจะมีเท่าใดกัน?
เขาเปิดกระเป๋าดู
“เสื้อผ้าสะอาด 2 ชุด” ลินลี่ย์ชำเลืองมองเสื้อผ้าในกระเป๋าแล้วหยิบถุงผ้าด้านในออกมา หมายเลข 2 คนนี้อยู่บนเทือกเขาอสูรเวทมานานนับเดือนแล้วและจากความแข็งแกร่งที่นักฆ่าธรรมดาเทียบไม่ติด ถ้าว่าตามหลักแล้ว...
เมื่อเห็นว่าถุงใบนี้มีแก่นเวทจำนวนมากเพียงใด ลินลี่ย์สูดลมหายใจหนาวเหน็บอย่างช่วยไม่ได้
“มากขนาดนี้เชียวหรือ? เกือบทั้งหมดเป็นแก่นเวทระดับ 5 มีแก่นเวทระดับ 6 อยู่เล็กน้อย”หลังจากเห็นแก่นเวทมากมายเขาบอกได้ทันทีว่ามันเป็นระดับใด ลินลี่ย์นับแก่นเวทอย่างระมัดระวัง
“แก่นเวทระดับ 6 จำนวน 9 ลูก แก่นเวทระดับ 5 จำนวน 56 ลูก แก่นเวทระดับ 4จำนวน 12 ลูก อัญมณีเวท 7 เม็ด ถ้าให้ตีราคาแล้ว ทั้งหมดคงประมาณ....20,000 เหรียญทอง ถ้ารวมกับของมูลค่าประมาณ 50,000 เหรียญทองที่ข้ามีอยู่ หมายความว่าตอนนี้ข้ามีแก่นเวทมูลค่าอย่างต่ำก็70,000 เหรียญทองอยู่ในมือ”หลังจากรู้ว่ามีทรัพย์สินอยู่กับตัวเท่าใด ลินลี่ย์ได้แต่สูดหายใจลึก
70,000 เหรียญทอง!
ถ้าเขามอบเงินจำนวนมหาศาลนี้แก่บิดา บิดาของเขาคงพึงพอใจเป็นแน่
หลังจากใช้เวลาฝึกฝนบนเทือกเขาอสูรเวทนาน 51 วันแค่องค์กรนักฆ่านั่นอย่างเดียวก็ ‘บริจาค’ ให้35,000 เหรียญทองให้เขาแล้ว นี่ยังไม่นับนักฆ่าคนอื่นๆที่‘บริจาค’ ให้เขากว่า 30,000 เหรียญทอง ในขณะที่ตัวเขาเองฆ่าอสูรเวทได้แก่นเวทมูลค่าเพียง 5,000 เหรียญทองเท่านั้น
เดลิน โคเวิร์ทปรากฏตัวขึ้นจากแหวนมังกรขนดหัวเราะลั่นเมื่อเห็นสีหน้าของลินลี่ย์
“ในที่สุด ข้าเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมหลายคนในเทือกเขาอสูรเวทจึงพยายามฆ่ามนุษย์มากกว่าอสูรเวทหลังจากใช้เวลาแรมเดือนอย่างลำบาก ข้ายังทำเงินได้แค่ไม่กี่พันแต่เมื่อข้าสังหารผู้อื่น ก็เหมือนข้าเก็บเกี่ยวความสำเร็จตลอด 2 เดือนของพวกเขา”ลินลี่ย์ยัดถุงผ้าสองใบลงในกระเป๋าของเขาและโยนกระเป๋าที่เพิ่งได้มาลงบนหญ้า
“แก่นเวทมูลค่า 70,000 เหรียญทองนี้ มีเพียง 5,000 ที่มาจากอสูรเวทที่ข้าสังหาร ที่เหลือมาจากพวกนักฆ่าทั้งสิ้น” ลินลี่ย์ส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ
เดลิน โคเวิร์ทลูบเคราขาวขณะหัวเราะ “ดูเหมือนว่าความอ่อนเยาว์จะช่วยเจ้าไว้ถ้าเจ้าดูเป็นผู้ใหญ่กว่านี้มีประสบการณ์กว่านี้คงไม่มีนักฆ่าจำนวนมากมาแสวงโชคกับเจ้าหรอก”
“ฮะฮะ” ลินลี่ย์อดหัวเราะไม่ได้
“ปู่เดลิน! เมื่อสักครู่จากการฟังพวกมันคุยกันดูเหมือนว่าพวกมันจะอยู่ระหว่างภารกิจบนเทือกเขาอสูรเวท ท่านคิดว่าอย่างไร?”ลินลี่ย์ถามอย่างสงสัย
เดลิน โคเวิร์ทยิ้มเล็กน้อย “ลินลี่ย์ ในการเพาะขุมกำลังหลักบนแผ่นดินยูลานนั้นล้วนแล้วแต่มีพื้นฐานอยู่บนความสามารถในการทำสงครามเพื่อรักษาอำนาจของตนไว้แต่ความสามารถในการทำสงครามนั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการต่อสู้ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถฝึกฝนและปลูกฝังกันได้ กลุ่มอำนาจใหญ่จึงมักส่งผู้ใต้บังคับบัญชาเข้ามาฝึกฝนในเทือกเขาอสูรเวท”
ลินลี่ย์พยักหน้า
“ลินลี่ย์, ในทวีปนี้มีองค์กรมหาอำนาจมากมายที่เจ้าไม่แม้แต่จะรับรู้ถึงตัวตนของพวกมันพูดตามตรง...แม้แต่ข้าก็คงไม่รู้จัก กลุ่มอำนาจต่างๆจากยุคที่อาณาจักรพูเอนท์ยังคงรุ่งเรืองเมื่อห้าพันปีก่อนคงล่มสลายหายไปหมดแล้ว”เดลิน โคเวิร์ทกล่าว
ลินลี่ย์ไม่ได้ถามอะไรมาก ในตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกกดดันแผ่นดินยูลานนั้นช่างลึกลับซับซ้อนเกินกว่าเขาจะจินตนาการออก
หลังจากจัดเก็บสัมภาระ ลินลี่ย์สวมเสื้อก่อนออกเดินทางมุ่งตรงสู่ใจกลางหุบเขาหลีกเลี่ยงหินถล่มและปีนข้ามต้นไม้ที่หักโค่นในบางครั้ง มุ่งหน้าต่อไปแต่เมื่อก้าวขึ้นมายืนบนจุดที่สูงที่สุด...
เขาเห็นว่า ยอดเขานี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขาที่ทอดตัวยาวนับร้อยๆ กิโลเมตรมีต้นไม้ขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก เบื้องหน้าของเขาคือหน้าผา ลินลี่ย์มองเห็นหน้าผาอีกฝั่งอยู่ห่างจากจุดที่เขายืนประมาณ1 กิโลเมตร ในขณะที่กำลังตัดสินใจจะทะยานข้ามช่องว่างเบื้องหน้าเขาก็ต้องประหลาดใจ
“เป็นหุบเหวที่แปลกประหลาดเสียจริง”
ที่หุบเหวด้านหน้าเมื่อมองลงไปก็พบว่าขอบหน้าผาทั้งสองฝั่งค่อยๆชิดเขาหากันมากขึ้นเรื่อยๆ ลินลี่ย์ตัดสินใจไต่ลงไปจากขอบผายิ่งเขาลงไปลึกเท่าไรก็ยิ่งพบว่าผนังค่อยๆบีบตัวใกล้กันเท่านั้นหลังจากไต่ลงไปเป็นระยะทาง 5 – 6 กิโลเมตรก็พบว่าช่องว่างระหว่างผนังเหลือเพียง 1เมตรเท่านั้น ทำให้สามารถก้าวเหยียบระหว่างสองฝั่งได้โดยง่าย
“ด้านนี้เป็นเช่นนี้ แล้วอีกด้านจะเหมือนกันหรือไม่?”
ระยะประมาณ 1 ฟุตเบื้องล่าง เห็นเพียงช่องว่างเล็กๆระหว่างผนังทั้งสองทำให้มองดูเหมือนมันกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน
“แปลกประหลาด”
หลังจากได้เข้ามาฝึกฝนในเทือกเขาอสูรเวท ลินลี่ย์ได้พบเจออะไรมากมายแต่กลับไม่เคยพบหุบเหวที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อนเบื้องล่างนี้ปกคลุมไปด้วยหมอกสีขาวทำให้เขาไม่เห็นสิ่งอื่นใด
“ช่างลึกจริงๆ” ลินลี่ย์เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นนอกจากอยากรู้ว่ามันจะลึกแค่ไหน เขายังสงสัยอีกว่าจะมีสิ่งใดอยู่ที่ใต้หุบเหวกันแน่
เขาเคลื่อนที่ไปตามแนวของหุบเหว ลินลี่ย์คอยชำเลืองมองลงไปด้านล่างอยู่ตลอดเวลาหวังว่าจะเห็นสิ่งใดภายใต้หมอกหนาและนอกจากเรื่องความแคบแล้วดูเหมือนว่าหุบเหวนี้จะมีสิ่งประหลาดอย่างอื่นอีก
เมื่อเขาไต่ลึกตามแนวหุบเขา ก็พบว่าผนังเบื้องล่างกลับถ่างออกจากกันอีก
ยกตัวอย่างระยะห่างระหว่างหน้าผาทั้งสองด้านบนประมาณ 100 เมตรแต่เมื่อคะเนด้วยสายตา ลินลี่ย์พบว่าที่ก้นเหวกลับมีระยะห่างระหว่างผนังสองฝั่งนับพันเมตรหรือจะกล่าวคือประมาณ 10 กิโลเมตร
“หืม? นั่นมัน..”
ดวงตาของลินลี่ย์จ้องไปที่แสงสว่างดวงเล็ก เขาค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าไปหากอหญ้าน้อยภายใต้หมอกหนาและเขาก็จดจำมันได้ในทันที ดวงตาของเขาเปล่งประกาย
“หญ้าใจฟ้า เป็นหญ้าใจฟ้านั่นเอง!” ลินลี่ย์เคยเห็นภาพหญ้าใจฟ้าในห้องสมุดของสถาบันเอินส์และจำได้ดี นัยน์ตาเขาเป็นประกายหญ้าล้ำค่าที่หาได้ยากเย็นแสนเข็ญงอกอยู่บนหน้าผา มันสามารถต่อต้านผลกระทบอันตรายจากเลือดมังกรที่เข้าสู่ร่างกาย
หญ้าใจฟ้า!