ตอนที่แล้วตอนที่ 3-15 ความอำมหิต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3-17 เดชบีบี (1) 

ตอนที่ 3-16 ความอำมหิต (2)


“ลินลี่ย์,  เป็นเจ้าจริงๆ ด้วย!  ดีจริงๆ” น้ำเสียงดีใจดังขึ้น และบุรุษร่างผอมคนหนึ่งวิ่งตรงมาทางพวกเขาอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มคนนี้คือนักรบผอมที่ลินลี่ย์พบตอนเดินทางเข้าเทือกเขาอสูรเวทใหม่ๆ  อีกสองคนที่เขาได้พบก็คือเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเขาเดลซาร์ตและคาฟผู้มีร่างกายกำยำได้ตายไปแล้วทั้งคู่

ตอนนั้น เมื่อเผชิญกับขมังธนูจอมเวทธาตุลม ลินลี่ย์ใช้เวทพยุหะหอกดินสู้ แม็ทนักรบผอมระดับห้าฉวยโอกาสหนีทันที แต่ลินลี่ย์ไม่ได้สนใจเรื่องที่เขาหนีไป ที่สำคัญเขากับแม็ทไม่มีความเกี่ยวข้องเป็นพิเศษ

พูดตามตรง ทั้งสามคนที่เขาได้เจอ เพียงคนเดียวที่ลินลี่ย์รู้สึกเป็นมิตร ก็คือเดลซาร์ต   ส่วนคาฟคนตัวใหญ่ ให้ความรู้สึกที่ดีกับลินลี่ย์เหมือนกัน    แต่ลินลี่ย์ไม่มีความรู้สึกพิเศษกับแม็ทแต่อย่างใด

“โอว! แม็ทนั่นเอง ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าเราทั้งคู่จะพบกันในเทือกเขาอสูรเวทกันอีกหลังจากผ่านไปเดือนหนึ่งแล้ว”  ลินลี่ย์ยังคงใจเย็น

แม็ทแสดงอาการตื่นเต้นมาก “นี่ช่างน่าทึ่งอะไรอย่างนี้ เดือนนี้ มีอยู่หลายครั้งที่ข้าเกือบถูกอสูรเวทที่นี่เล่นงาน  โชคดีนะที่ชะตาของข้าไม่ย่ำแย่นัก  โห..หมูศึกกระหายเลือดใช่ไหมนั่น?  ลินลี่ย์ เจ้าฆ่าหมูศึกกระหายเลือดได้หรือนี่? เจ้าช่างน่ากลัวจริงๆ!”

ลินลี่ย์ยิ้ม

“ข้าชักหิวแล้ว ข้าได้ยินมาว่าเนื้อสดของหมูศึกกระหายเลือดกับกระทิงเหล็กดูดเลือดมีรสชาติดีมาก  และมันมีสีสันชวนกินอย่างน่าอัศจรรย์ด้วย  ข้ายังไม่ได้กินอาหารกลางวันเลย  เจ้าคงไม่ว่าอะไรที่จะแบ่งเนื้อหมูศึกให้ข้าบ้างนะ?” แม็ทหยอกเย้า

หมูศึกกระหายเลือดมีขนาดใหญ่ซากของมันมีน้ำหนักอย่างน้อยก็หลายร้อยกิโลกรัม ต่อให้มีสิบคนก็คงกินได้ไม่หมด

“ไม่ว่าแน่นอน” ลินลี่ย์ชักมีดออกและเริ่มแล่หมูศึกเป็นส่วนๆ

“ลินลี่ย์, ไม่จำเป็นต้องรบกวนเจ้าก็ได้ ซากหมูศึกกระหายเลือดเป็นส่วนหนึ่งของผลการต่อสู้ของเจ้า  ข้าจะรบกวนให้เจ้าแยกชิ้นส่วนมันได้ยังไง?  ให้ข้าทำเอง ฝีมือการย่างของข้าก็ไม่เบาหรอกนะ” ทันใดนั้นแม็ทตรงไปที่ซากหมูศึกทันทีและชักมีดออกมาจากข้างตัว

พอชักมีดออก แม็ทเริ่มแล่หมูศึกด้วยความชำนาญ เขาตัดขามันออกมาสี่ข้าง ลิ้นและหางเท่านั้น  จากนั้นก็ล้างชิ้นส่วนเหล่านี้ใกล้น้ำพุ

“เจ้านาย, ดูเหมือนเขาจะชำนาญดีนะ  เขาไม่ด้อยไปกว่าท่านเลยในเรื่องนี้นะ” หนูเงาน้อยบีบีกระโดดขึ้นมาอยู่บนไหล่ลินลี่ย์และพูดทางจิตกับลินลี่ย์

หลังจากชำเลืองดูหนูเงาน้อยบีบีบนไหล่ของเขา ลินลี่ย์อดถอนหายใจชื่นชมไม่ได้ เมื่อคนอื่นเห็นหนูสีดำผอมตัวเล็กนี้ บางทีพวกเขาคงคิดว่ามันเป็นแค่หนูเงาน้อยธรรมดา  แต่ความจริง...

ลินลี่ย์ยังคงหวนนึกถึงภาพที่บีบีโกรธมีความน่ากลัวขนาดไหน  มันสามารถฆ่านักฆ่าชุดดำผู้นั้นได้อย่างง่ายดายพอๆกับเด็กสาวผู้ใจดีคนนั้น

“อย่าตัดสินคนจากลักษณะของเขา อสูรเวทก็ในทำนองเดียวกัน” ลินลี่ย์ถอนหายใจให้ตนเอง

แม็ทเริ่มตระเตรียมอุปกรณ์ย่างของเขาอย่างดี และยังเอาเกลือ และเครื่องเทศออกมาจากกระเป๋าของเขา “ลินลี่ย์ ขาหมูศึกจะรสชาติดีแน่นอน  ลิ้นของมันก็เหมือนกันทั้งนุ่มและหอมหวาน   ความอร่อยของหางหมูศึกก็รสชาติดีอีกด้วย”

ขณะที่เขาพูด แม็ทหั่นหางและลิ้นทั้งสองเป็นหลายชิ้น  ลินลี่ย์มองดู ขณะที่แม็ทใช้หินเหล็กไฟโดยไม่เข้ามาช่วยแม้ว่าเขาจะมีพลังเวทไฟ เขาดูแม็ทย่างส่วนต่างๆ อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

หลังจากเวลาผ่านไปช่วงหนึ่ง

“ได้เวลาแล้ว ลองชิมดู” แม็ทยื่นขาหมูศึกให้ลินลี่ย์อย่างค่อนข้างกระตือรือร้น

แต่กลับกลายเป็นว่า ลินลี่ย์หันไปมอบให้บีบี  บีบีรับเนื้อหมูทันทีด้วยความยินดี และเริ่มก้มหน้าก้มตากิน ขาหมูศึกนี้อาจใหญ่กว่าตัวบีบีสามถึงสี่เท่า    แต่ในช่วงเวลาสั้นๆ  บีบีก็กินเนื้อหมูจนหมด

ภาพนี้ทำให้แม็ทปากอ้าค้างด้วยความประหลาดใจ

“มันคืออสูรเวทจริงๆด้วย แม้แต่หนูเงาดำก็กินจุมาก” แม็ทถอนหายใจขณะยื่นลิ้นหมูย่างให้ลินลี่ย์  “ลินลี่ย์, ลองชิมฝีมือปรุงอาหารของข้าดูสิ”

ลินลี่ย์ยิ้มขณะปฏิเสธ “ไม่ต้องก็ได้ ข้าไม่คุ้นกับการกินลิ้น  แค่เนื้อขาหมูก็ดีสำหรับข้าแล้ว” ลินลี่ย์หยิบขาหมูข้างหนึ่งออกมาและเริ่มกินอย่างไม่เกรงใจ  แม็ทที่อยู่ใกล้ๆ เขาหัวเราะ“อย่างนั้นข้าจะไม่ฝืนใจเจ้า ถ้าเจ้าไม่กิน อย่างนั้นข้ากินเอง ฮ่าฮ่า”

ขณะที่แม็ทมีความเพลิดเพลินมากเขาเริ่มกินลิ้นและหางหมูย่าง

เวลาผ่านไป ลินลี่ย์ก็กินขาหมูศึกเสร็จ แม็ทยังไม่ได้กัดกินขาหมูสักคำ

“เจ้ากินเสร็จแล้วหรือ?  ฮ่าฮ่างั้นก็ดี  ข้าก็เกือบจะอิ่มเหมือนกัน  ข้าจะเก็บขาหมูนี้ไว้กินตอนที่ข้าหิว” แม็ทดึงผ้าน้ำมันออกมาจากกระเป๋าหลังและห่อขาหมูเอาไว้จากนั้นเก็บห่อไว้กระเป๋าหลังของเขา

ลินลี่ย์ชำเลืองมองแม็ท

ดูเหมือนว่าแม็ทต้องการเที่ยวติดตามเขาไป

“แม็ท ในเทือกเขาอสูรเวทนี้ ข้ากำลังฝึกฝนตัวเองได้ดี เราแยกทางกันตรงนี้เถอะ”  ลินลี่ย์พูดตามตรง

แม็ทขมวดคิ้วทันที  “ลินลี่ย์!  ที่นี่อันตรายเกินไป  จะปลอดภัยมากกว่าถ้าเราเดินทางร่วมกัน  พูดตามตรงนะ ช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้  ข้าหวาดกลัวทุกครั้งที่ต้องเผชิญการต่อสู้  ข้าไม่สามารถหลับตาลงนอนได้เช่นกัน

“อย่างนั้นก็ตามใจเจ้า”

ลินลี่ย์ไม่พูดอ้อม เขามุ่งหน้าลึกเข้าไปในภูเขาทันที ขณะที่แม็ทยิ้มเดินตามเขา แต่เมื่อสายตาเขาจับจ้องไปที่กระเป๋าที่ลินลี่ย์สะพายอยู่ที่หลัง  นัยน์ตาของเขาฉายแววชั่วร้ายเล็กน้อย

“กระเป๋าใบนี้แตกต่างจากใบที่ลินลี่ย์ใช้เมื่อเดือนที่แล้ว  และดูเหมือนจะบรรจุของเต็มขึ้นกว่าเดิมด้วย”  แม็ทแค่นเสียงกับตนเอง  แต่เขายังคงยิ้มด้วยท่าทีเหมือนเป็นมิตร  แม็ทไม่เหมือนกับลินลี่ย์  ก่อนที่จะเข้ามาในภูเขานี้  เขาฝึกตนเองในที่อื่นมาหลายครั้งแล้ว

แม็ทเร่งฝีเท้าตาม และพูดยิ้มๆ “ลินลี่ย์, เจ้าน่ะเป็นคนยอดเยี่ยมจริงๆ  เดินทางร่วมกับเจ้าแล้วข้ารู้สึกปลอดภัยมากกว่า  ที่สำคัญคือ  สองคนรวมกันยังแข็งแกร่งกว่าสองคนที่แยกกัน  ตอนกลางคืนเราสามารถผลัดกันนอนได้  เราทั้งสองไม่จำเป็นต้องตื่นตัวตลอดคืนหรอก”

ลินลี่ย์เงียบ สายตาของเขามักเพ่งมองไปรอบๆ คอยจับตามองหาอสูรเวทในภูเขานี้อย่างระมัดระวัง

….

พวกเขาค่อยๆ มุ่งหน้าขึ้นเหนือ  ขณะที่ลินลี่ย์ไม่กล้าล่วงลึกเข้าไปทางตะวันออกอีกต่อไป  ถ้าพวกเขาเดินลึกเข้าไปในทิศตะวันออก  ก็จะเข้าไปยังพื้นที่อันตรายของเทือกเขาอสูรเวท  ปัจจุบันในพื้นที่นี้ ลินลี่ย์แค่เผชิญหน้ากับอสูรเวทระดับห้าหรือระดับหกเท่านั้น

ตลอดเวลาช่วงนี้  แม็ทติดตามอยู่ข้างๆเขา ดูเหมือนจะมีความสุขมาก

สองวันต่อมา

เป็นเวลาดึกแล้ว ทั่วทุกที่ตกอยู่ในความมืด ลินลี่ย์กับแม็ทยังคงเดินไปเรื่อยๆ เป็นแนวตรง

“ลินลี่ย์, เจ้าคิดว่าถึงเวลาที่เราจะกลับหรือยัง? บอกตามตรงนะ เราใช้เวลาในเทือกเขาอสูรเวทมาเพียงพอแล้ว”  แม็ทพูดเบาๆ ขณะเดินตามลินลี่ย์

ลินลี่ย์เพียงแต่ส่ายศีรษะอย่างใจเย็นไม่ส่งเสียงแต่อย่างใด

แม็ทชักโกรธขึ้นมาบ้าง  “ทุกๆ คืน  เจ้าลินลี่ย์นี้ก็ยังระมัดระวังตัวมาก  เขาไม่ให้โอกาสเราเลยแม้แต่น้อย” แม็ทไม่มั่นใจว่าตนจะมีฝีมือพอฆ่าลินลี่ย์ได้  ที่สำคัญก็คือ การเอาตัวรอดที่นี่ได้มาอย่างยาวนานเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงฝีมือลินลี่ย์เป็นอย่างดี

“หืม?”  ดูเหมือนลินลี่ย์จะสังเกตเห็นอะไรที่พิเศษบางอย่างได้  เขาหมุนตัวไปรอบๆและจ้องไปที่ป่าละเมาะในที่ไม่ไกลนัก ภายในป่าละเมาะ มีเงาเลือนรางนอนหมอบซ่อนอยู่

แม็ทอยู่ข้างๆ ลินลี่ย์  เห็นเขาหันหน้าไปทางอื่นโดยหันหลังให้แม็ท  แววตาโลภปรากฏขึ้นในดวงตาแม็ทขณะที่เขาดูตื่นเต้น  แมทดึงมีดออกมาอย่างรวดเร็วและปราศจากความลังเลแม้แต่น้อย  เขาแทงไปที่หลังลินลี่ย์ แม็ทผู้ฝึกมาอย่างดีชักมีดของเขาออกมาและแทงหลังลินลี่ย์โดยไม่ลังเลแต่อย่างใด

ทันใดนั้นลินลี่ย์หันมาคว้าข้อมือแม็ทที่ถือมีดอยู่  เขาจ้องมองแม็ทด้วยสายตาเย็นชา และถามว่า“เจ้าคิดจะทำอะไร?”

“เจ้า!”  แม็ทตกใจ เขาไม่อาจเชื่อเลยว่าการลอบทำร้ายของเขาจะถูกสังเกตเห็นและป้องกันไว้ได้

แม็ทกลับยิ้มให้ลินลี่ย์ทันที “แล้วเจ้าคิดว่าข้าจะทำอะไร?  โอว, จอมเวทอัจฉริยะผู้มีกำลัง  ข้าจะบอกเจ้าก็ได้...ข้ากำลังจะฆ่าเจ้า”  แม็ทมั่นใจตนเองเต็มที่  การที่พวกเขาทั้งสองอยู่ใกล้กันขนาดนี้เป็นไปได้ยังไงที่ เขาผู้เป็นนักรบระดับห้าจะไม่สามารถฆ่าจอมเวทระดับห้าได้?

ทันใดนั้นแม็ทเพิ่มพลังไปที่ข้อมือขวาของเขาและเริ่มแผ่ปราณยุทธเพื่อสลัดให้หลุดจากการจับกุมของลินลี่ย์

“ตาย!”  แม็ทจ้องมองลินลี่ย์ขณะที่เขาใช้มีดแทงใส่ลินลี่ย์อีกครั้ง

“กรรรร!!

เสียงที่น่ากลัวดังขึ้น “อะไรกัน?” แม็ทได้ยินเสียง และเขาอดขนลุกมิได้ จากนั้นแม็ทเห็นเงาดำน้อยปรากฏตัวต่อหน้าเขา

“อะไร....นี่มันอะไรกัน?”  แม็ทสามารถบอกได้ว่าเงาดำนี้ก็คือบีบีหนูเงาน้อยที่ใช้ชีวิตทุกวันอยู่บนไหล่ของลินลี่ย์ หนูเงาน้อยอ้าปากกว้างเผยให้เห็นฟันแหลมคมน่ากลัวและมันงับลงบนใบหน้าของแม็ท

“ไม่....!”

ทันใดนั้นแม็ทพยายามถอยอย่างรวดเร็ว ขณะที่สะบัดศีรษะออกห่าง

“กร้วมมม!”

ความเร็วของหนูเงาน้อยไวกว่าที่แม็ทคิดไว้มาก แม็ทจะหลบพ้นได้ยังไง?หนูเงาน้อยใช้อุ้งเท้าขวาที่มีกรงเล็บแหลมคมดุจมีดตะปบใส่ศีรษะของแม็ท  และด้วยการตะปบเพียงครั้งเดียวคอของแม็ทหลุดหายไปครึ่งหนึ่ง เลือดพุ่งกระจาย

“อึก..กัก.กัก..” แม็ทใช้มือข้างหนึ่งกุมคอที่เหลือของเขา  นัยน์ตาแม็ทเบิกกว้างเหมือนตาวัว นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยแววเหลือเชื่อหวาดหวั่นจับจ้องอยู่ที่หนูเงาน้อย  และในใจเขาตกใจสุดขีด “หนูเงาหรือ?  นี่คือหนูเงาหรือ?”

ขณะที่เขาล้มลงตาย และขณะที่สติกำลังขาดหายแม็ทยังคงเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นเหลือเชื่อ เขาเตรียมแผนการนี้มานาน แต่เขากลับไม่มีหนูเงาน้อยอยู่ในแผนเลย

หนูเงาสีดำเป็นหนูเงาระดับอ่อนแอที่สุด

แต่ขณะที่เขาตาย ในที่สุดแม็ทก็ตระหนักได้ว่าหนูเงาน้อยที่น่ารักความจริงแล้วเป็นสัตว์ประหลาดที่น่ากลัว

“ตุ้บ!”

มือของแม็ทหลุดจากที่กุมคอทิ้งตัวลงข้างๆ อย่างไร้ชีวิต  จากนั้นเขาเองก็ล้มลงด้วยเช่นกัน  เลือดของเขาย้อมชุดของเขาและพื้นดินจนแดงฉาน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด