ตอนที่แล้วตอนที่ 3-14 อันตราย (2) 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3-16 ความอำมหิต (2)

ตอนที่ 3-15 ความอำมหิต


ภายในเทือกเขาอสูรเวท  ใกล้ๆ กับน้ำพุลินลี่ย์พันแผลตนเองขณะที่เขาเริ่มดูดซับธาตุดินบริสุทธิ์มารักษาบาดแผลของเขา แม่พระธรณีผู้เปี่ยมเมตตายังมีมีเมตตาและปราศจากความเห็นแก่ตัวเสมอมา  พอยืนอยู่บนพื้นดิน ลินลี่ย์รู้สึกว่าบาดแผลของเขาค่อยๆทุเลาทำให้ใจของเขาสงบสุข

ตอนนี้ลินลี่ย์เปลี่ยนกระเป๋าสะพายหลังแล้ว กระเป๋าของตัวเขาเอง ว่ากันในเรื่องคุณภาพทั้งหนัง และการตัดเย็บคุณภาพทั้งสองนั้นด้อยกว่าของนักฆ่ามากนัก ยิ่งกว่านั้น กระเป๋าของนักฆ่ามีส่วนภายในที่ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน  ทันทีที่ปิดล็อคก็กระชับแน่น  สิ่งของทั้งหมดข้างในกระเป๋าจะถูกยึดแน่น  และกระเป๋าเองก็ไม่ได้ขยับแม้แต่น้อย  นอกจากนี้มีดดำของนักฆ่านั้นก็ยังแหลมคมมากอีกด้วยและลินลี่ย์พบว่าใช้ค่อนข้างง่ายทีเดียว

“วืดดด!”

ลินลี่ย์เคลื่อนตัววูบเดียวก็หายลับเข้าไปในป่าเขาทันที  เขาไม่ให้ความสนใจอสูรเวทระดับหนึ่งหรือระดับสอง  อสูรที่เห็นโดยทั่วไปแทบทั้งหมดเป็นระดับสามและสี่  แต่ถ้าเขาเข้าไปพบกับอสูรเวทระดับห้าลินลี่ย์มีความมั่นใจว่าอย่างน้อยก็สามารถต่อสู้กับพวกมันได้เป็นอย่างดี

ขณะที่เขาล่วงลึกเข้าไปในเทือกเขาอสูรเวท ลินลี่ย์เผชิญกับการต่อสู้โชกเลือด โหดร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า เขามีประสบการณ์ถูกลอบทำร้ายและลอบฆ่าอยู่หลายครา  หลังจากการต่อสู้เหล่านี้  บาดแผลและแผลเป็นบนร่างกายของลินลี่ย์มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ   ขณะที่พลังจิตของลินลี่ย์เริ่มหนักแน่นขึ้น

การต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเหล่านี้ทำให้จิตใจของลินลี่ย์แกร่งยิ่งขึ้น  และการกระทำของเขายิ่งไร้ความปราณี

พริบตาเดียว ผ่านไปหนึ่งเดือนนับแต่ลินลี่ย์เข้ามาในเทือกเขาอสูรเวท

……..

หนึ่งเดือนต่อมา บนยอดต้นไม้ใหญ่ถัดจากน้ำพุภูเขา

มีแผลเป็นยาวบนหน้าอกด้านซ้ายของเขา  หลังของลินลี่ย์โก่งขึ้นและเขาซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้เหมือนกับเสือดำที่นอนซุ่มตัวอยู่

ขณะนี้ ลินลี่ย์ซ่อนตัวอยู่ในท่ามกลางใบไม้หนาแน่นจ้องมองลงไปที่พื้นด้านล่าง  ระยะหลายสิบฟุตห่างจากต้นไม้ที่ลินลี่ย์ซ่อนตัวมีลำธารเล็ก และมีหมูศึกกระหายเลือดที่แข็งแกร่งกำลังกินน้ำในลำธารอยู่  เขาเดียวสีแดงงอกอยู่เหนือจมูกของหมูศึก ร่างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อปูดโปนราวกับปุ่มรากของต้นไม้

หมูศึกกระหายเลือด อสูรเวทระดับห้า สายธาตุไฟ!

“หมูศึกกระหายเลือดตัวนี้ทนทานและหนังหนา  ความสามารถในการป้องกันของมันแข็งแกร่งมาก มีความเป็นไปได้ว่าวิชาหอกดินคงไม่อาจแทงทะลุผิวของมันได้

ลินลี่ย์เข้าใจได้ทันทีและเริ่มกำหนดแผน ทันใดนั้นปากของเขาเริ่มขยับโดยไม่มีเสียงเล็ดลอดขณะที่เขาเริ่มการร่ายเวท  เวทธาตุลมเริ่มหมุนวนรอบตัวเขาช้าๆ  ก่อรูปเป็นแหลนสีน้ำเงิน โปร่งใสข้างหน้าเขา  หัวแหลนโปร่งใส่มีลมพัดหมุนแรงอยู่รอบๆ

เวทลมระดับห้า – หวีดสายลม

“วืดดด”

เสียงแหวกอากาศดังขึ้นขณะที่แหลนหวีดสายลมพุ่งลงไปด้วยความเร็วที่น่ากลัว  ขณะเวลาเดียวกัน  ลินลี่ย์กระโดดลงจากยอดไม้  พุ่งลงมาด้วยความเร็วพอๆกับแหลนสายลม

ขณะที่ได้ยินเสียง  หมูศึกกระหายเลือดหยุดดื่มน้ำและจ้องขึ้นไป  แต่แหลนสายลมนั้นรวดเร็วเกินไป  ในพริบตา ก็เคลื่อนมาอยู่ห่างจากหมูศึกเพียงไม่กี่เมตร  ความเร็วของแหลนนั้นรวดเร็วจนน่ากลัว  และปลายแหลนปกคลุมด้วยลมหมุนรุนแรง

“กรรรร” หมูศึกกระหายเลือดคำรามด้วยความโกรธ และใช้เขาเหนือจมูกของมันโจมตีแหลนสายลมอย่างดุดัน

“กึ้ง!”

แหลนที่สร้างจากเวทหวีดลมกระแทกเข้ากับเขาของหมูศึกกระหายเลือด  แหลนหวีดลมถูกกระแทกกระเด็นทันที  แต่ขณะเดียวกัน หลังจากรับการโจมตีจากเวทระดับห้า หมูศึกทรุดเข่าลงจากแรงปะทะอย่างช่วยไม่ได้  รอยแผลสดปรากฏบนหน้าผากของมันด้วยเช่นกัน

“ควั่บ!”

ก่อนที่หมูศึกจะมีโอกาสตอบโต้ ลินลี่ย์ไล่ตามแหลนหวีดลมมาด้านหลังก็ใช้มีดดำที่เพิ่งได้มาฟันลงกลางหัวของหมูศึกสุดแรงเท่าที่เขามี  มีดแทงเข้าที่กะโหลกของหมูศึก  และขณะที่ทำลินลี่ย์ก็หลบหลีกทันที

“กรรรร!”

พอแทงถูกในจุดสำคัญ หมูศึกกระหายเลือดคำรามอย่างคลุ้มคลั่ง  เปลวไฟเริ่มลุกโชนขึ้นจากร่างของมัน และมันเริ่มพุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่คิดชีวิต  แต่หลังจากพุ่งไปได้ไม่กี่สิบเมตร  มันก็ล้มลง ขาทั้งสี่กระตุกไม่กี่ครั้งก่อนหยุดนิ่งลง และไฟทั้งหมดบนร่างมันก็เริ่มมอดลงเช่นกัน

“ในบรรดาอสูรเวทระดับห้าหมูศึกกระหายเลือดคล้ายกับกระทิงเหล็กดูดเลือดมากในเรื่องมีสติปัญญาต่ำ”  ลินลี่ย์เดินไปที่หมูศึกและถอนมีดของเขาและเอาแก่นเวทออกมาจากซากของหมูศึก

นึกย้อนกลับไปถึงชีวิตที่ผ่านมาในเทือกเขาอสูรเวท  ลินลี่ย์อดไม่ได้ที่จะยอมรับกับตัวเองว่า  แม้ เขาจะยังคงเป็นจอมเวทระดับห้าและนักสู้ระดับสี่ ทักษะการต่อสู้นั่นก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ถ้าเทียบกับตอนแรกที่เขาเพิ่งเข้ามาในภูเขา

หลังจากดิ้นรนในความเป็นความตายหลายครั้ง ร่างของเขาเต็มไปด้วยแผลเป็นซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเรียนรู้บทเรียนเจ็บปวดในเดือนนี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง.....

ที่หน้าอกเขา  มีบาดแผลที่น่ากลัวมาก  ตอนนั้นเขาอยู่ใกล้ปากประตูแห่งความตายจริงๆ ในที่สุดก็เป็นหนูเงาน้อยที่ช่วยชีวิตเขาไว้ได้อีกครั้ง

บาดแผลครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากอสูรเวท แต่เป็นฝีมือของเด็กสาวที่น่ารักมากคนหนึ่ง

“ตอนนั้น ข้าเชื่อใจนางจริงๆ ข้าเชื่อจริงๆ ว่าสหายของนางถูกฆ่าตายหมด และว่านางเหลือตัวคนเดียวบาดเจ็บและเดียวดาย” พอคิดย้อนเหตุการณ์เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ลินลี่ย์รู้สึกถึงความหวาดหวั่นได้ทิ่มแทงเขาอีกครั้ง  เด็กผู้หญิงคนนั้น ดูเหมือนใจดีและบริสุทธิ์มาก

เมื่อลินลี่ย์พบนาง บุรุษอีกสามคนและสตรีอีกคนหนึ่งล้วนตายหมด เหลือแต่นางผู้เดียวเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นขวัญผวา

ลินลี่ย์ทำได้แต่ปลอบใจนาง ช่วยเหลือและดูแลนาง เด็กผู้หญิงนั้นดูเหมือนได้รับความทุกข์ทรมานใจอย่างใหญ่หลวง  ทุกคืน นางจะขอให้ลินลี่ย์กอดนางต้องอยู่ในอ้อมกอดของลินลี่ย์เท่านั้นนางถึงจะหลับได้  ลินลี่ย์รู้สึกปลื้มใจ  สามวันผ่านไปในทำนองนี้ คืนที่สี่นางหลับอยู่ในอ้อมอกของลินลี่ย์อย่างสงบอีกครั้งหนึ่ง

แต่ทันใดนั้น เด็กสาวผู้น่ารักชักมีดออกมาแทงเข้าที่อกของลินลี่ย์ขณะที่ลินลี่ย์คลายการป้องกันตัว

และจากนั้น  บีบีที่โกรธจัด  ได้ขยายร่างเป็นสองเท่าอย่างน่าประหลาดทันที  ขากรรไกรขนาดใหญ่ของมันกัดเข้าที่หัวของเด็กสาวสังหารนางในทันที  หลังจากนั้น บีบีกลับคืนร่างสู่ขนาดปกติของมัน

แต่ลินลี่ย์ไม่ได้ห้ามเลือดที่ไหลจากบาดแผลลึกที่หน้าอกของเขา  ในที่สุด  หนูเงาบีบีใช้เวทพิเศษสายมืดปิดแผลให้เขา

“นึกย้อนไปตอนนั้น ข้าควรจะฟังคำแนะนำของปู่เดลิน  ช่างอ่อนด้อยประสบการณ์เสียจริง”  ลินลี่ย์คิดในใจและทอดถอนใจ  เดิมที เดลิน โคเวิร์ทได้เตือนเขาหลายครั้งเกี่ยวกับเด็กสาวคนนั้น  ในที่สุด พอเห็นว่า ลินลี่ย์ยืนกรานช่วยเหลือเด็กสาวตัวเล็กที่ช่วยตัวเองไม่ได้  จึงไม่มีอะไรที่เดลิน โคเวิร์ทจะทำได้  แต่เขาก็ยังคงพยายามคัดค้าน  ถึงแม้ลินลี่ย์จะช่วยนาง  แต่ต้องห้ามไม่ให้นางเข้ามาใกล้เขา

แต่ในเวลานั้น  เด็กสาวหวาดกลัวมาก และไม่สามารถล้มตัวลงนอนได้โดยปราศจากอ้อมกอดของลินลี่ย์  ในที่สุด เพื่อที่จะปลอบนาง ลินลี่ย์กอดนางไว้ในอ้อมกอดและทั้งคู่ก็หลับไหล

“ข้าคาดไม่ถึงจริงๆว่าฝีมือการแสดงของนางจะดีมากขนาดนั้น  ข้าปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดี  แต่นางกลับไร้ความปราณีต่อข้า”  ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจอีกครั้ง  เมื่อเด็กผู้หญิงคนนั้นแทงอกเขา  เขาเห็นแววอำมหิตในดวงตานาง  และหัวใจเขาเริ่มเย็นชาขึ้น

อะไรเป็นเหตุให้เด็กผู้หญิงนี้ไร้น้ำใจและไร้เมตตาถึงเพียงนี้?

การที่ช่วยเหลือนางตลอดสามวัน  นางไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อยเชียวหรือ?

“โชคดีจริงๆ  ต้องขอบคุณปู่เดลินที่เตือนข้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ให้ข้าเปิดเผยความสามารถที่แท้จริงของบีบีให้นางรู้” ลินลี่ย์อดไม่ได้ที่จะยอมรับว่าชีวิตของเขาได้รับการปกป้องไว้ต้องขอบคุณเดลิน โคเวิร์ท และบีบี

“ลินลี่ย์, เจ้ากำลังคิดเรื่องอะไร? เจ้ายังคิดเรื่องเด็กผู้หญิงคนนั้นอีกหรือ?”  เดลิน โคเวิร์ทปรากฏตัวข้างลินลี่ย์

พอเห็นสีหน้าของลินลี่ย์  เดลินโคเวิร์ทก็สามารถคาดเดาได้ถึงสิ่งที่เขากำลังนึกคิด  การแทงของเด็กสาวครั้งนั้นสร้างบาดแผลลึกให้กับลินลี่ย์  ไม่ใช่แค่ บาดแผลเนื้อแต่ในหัวใจของเขาเช่นกัน  ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา  ลินลี่ย์ไม่เชื่อคนอื่นง่ายๆอีกเลย

ตั้งแต่เริ่มต้น เดลินโคเวิร์ทรู้สึกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นมีปัญหาบางอย่าง   เป็นไปได้อย่างไรที่ใครสักคนที่มีความกล้าในการเข้าเทือกเขาอสูรเวทจะอยู่ในภาวะมึนงงสับสนไร้สติโดยสิ้นเชิงจากการเห็นภาพการตาย?

โชคไม่ดี  ลินลี่ย์ยังคงเชื่อการแสดงของเด็กสาวคนนั้นและรู้สึกสงสารเด็กสาวคนนั้นจากใจจริง

“ลินลี่ย์! การแสดงของเด็กผู้หญิงคนนั้นไม่มีอะไร ในสมัยที่ข้าอยู่ในจักรวรรดิพูเอนท์ ข้าเคยเห็นแผนการของประเทศศัตรูมามาก แผนเกี่ยวกับการตบตามาเป็นสิบๆ ปี และคำโกหกซึ่งจับผิดไม่ได้โดยสิ้นเชิง  ทักษะการแสดงของพวกเขาเกินกว่าที่เจ้าจะเข้าใจ”  เดลิน โคเวิร์ทยิ้มเล็กน้อย ขณะที่เขาพูด  “จำไว้  อย่าคลายการป้องกันตัวง่ายๆ  เมื่อเจอกับคนแปลกหน้า”

ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย

“จี๊ด, จี๊ด!” หนูเงาน้อยบีบีเริ่มร้องเรียกอยู่ข้างๆ ลินลี่ย์

ลินลี่ย์เงยหน้า

ตอนนี้  หนูเงาน้อยกระโดดเหยงๆอยู่บนซากของหมูศึก

“เจ้านาย, เมื่อไหร่เราจะเข้าไปในใจกลางพื้นที่เทือกเขาอสูรเวทเล่า?”  บีบีพูดกับลินลี่ย์ทางจิตด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบายใจ“พื้นที่ในปัจจุบันนี้ สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดที่เราหาพบได้ก็เป็นอสูรเวทระดับหก  พวกมันไม่มีอะไรท้าทายมาก  ข้าต้องการท้าทายอสูรเวทระดับเจ็ด  เจ้านาย!  ข้าต้องการท้าทายอสูรเวทระดับเจ็ด

ลินลี่ย์ชำเลืองมองหนูเงาน้อย “แค่นั้นก็พอแล้ว  อย่าห้าวนัก  เจ้ากำลังคุยโวว่าอสูรเวทระดับหกนั้นง่ายเกินไปหรือ? จำเหยี่ยวลมฟ้าเมื่อวันก่อนได้ไหม? เจ้าทำอะไรมันได้บ้าง?”

“นั่นไม่ใช่ความผิดของข้า!” บีบีใช้อุ้งเท้าน้อยๆ ลูบศีรษะของมัน ขณะที่มันพูดอย่างไม่สบายใจ  “เจ้านาย, ดูตัวท่านเองเสียก่อน  เหยี่ยวลมฟ้าเอาแต่อยู่ในท้องฟ้าและไม่ยอมลงมา  มันใช้แต่เวทมีดสายลมยิงใส่เรา  ขณะที่มีดสายลมเหล่านั้นไม่ทำให้มันเปลืองพลังเวทแม้แต่น้อย  ข้าไม่อาจปล่อยให้มันโจมตีข้าไปเรื่อยๆไม่ใช่หรือ?”

ลินลี่ย์หัวเราะ

ผ่านช่วงเดือนเหล่านั้น  ลินลี่ย์คุ้นเคยกับทักษะของหนูเงามาก  ในเรื่องของความเร็ว บีบีมีระดับความเร็วที่น่ากลัวจริงๆ  แต่เพราะมันมีรูปร่างเล็ก และใช้แค่เล็บกับฟันเป็นอาวุธโจมตีถึงแม้ว่าบีบีจะสามารถต่อสู้กับอสูรเวทระดับหกได้ แต่ก็เป็นไปได้มากว่าจะต่อสู้กับอสูรเวทระดับเจ็ดได้อย่างลำบาก

ทันใดนั้นลินลี่ย์ขมวดคิ้วทันที   เขาหันหน้าไปอย่างระมัดระวัง และเห็นรูปร่างมนุษย์เลือนลาง ปรากฏอยู่ภายในป่า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด