อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 172 การแลกเปลี่ยน
ตอนที่ 172 การแลกเปลี่ยน
เมื่อเขาเดินออกจากสนามบิน เขาก็ได้เห็นขบวนรถจอดอยู่ข้างนอก ซึ่งทั้งหมดมีเครื่องหมาย 'HD' ติดอยู่
"ท่านใช่สมาชิกสภานิกสันหรือเปล่าครับ?" ผู้รับผิดชอบของบริษัทรักษาความปลอดภัยเดินเข้ามาถาม
"ใช่ ผมเอง"
"สวัสดีอีกครั้งคุณนิกสัน ผมมาที่นี่เพื่อรับคุณ โปรดตามผมไปขึ้นรถด้วยนะครับ และเดี๋ยวทางเราจะพาไปที่บริษัทเอชดีซีเคียวริตี้เอง" ผู้รับผิดชอบกล่าว
ทั้งสองจึงเดินไปขึ้นรถ และรถก็ขับพาพวกเขาไปที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทเอชดีซีเคียวริตี้ในย่านฮอลลีวูด
เวลานี้หลังจากการก่อสร้างมานานกว่าหนึ่งปี บริษัทเอชดีซีเคียวริตี้ก็ไม่ได้เป็นโรงงานของเล่นแล้ว แต่ว่าตอนนี้มันได้กลายเป็นฐานหรือป้อมปราการที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนาแทน…
ก่อนที่รถจะขับเข้าประตู คนขับรถก็หยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาพูดว่า "เรียกศูนย์ควบคุม รถหมายเลขสิบห้ากำลังจอดอยู่หน้าประตู ผมได้ทำการรับแขกมาแล้วและต้องการเข้าไปในฐาน"
"ศูนย์ควบคุมทราบแล้ว"
นิกสันและผู้ช่วยมองไปที่วิทยุสื่อสาร แล้วพวกเขาก็คิดว่าบริษัทเอชดีซีเคียวริตี้นั้นก้าวหน้ามากจริงๆ
พวกเขามีวิทยุสื่อสารที่คล้ายกับทหาร ซึ่งตำรวจยังไม่มีสิ่งนี้เลย
รถขับเข้าไปจอดที่ใต้อาคารสำนักงาน และทันทีที่นิกสันออกจากรถ เขาก็เห็นฮาร์ดี้กับแลนสเตอร์ออกมาต้อนรับ
"สวัสดีคุณนิกสัน ผมทอม ฮาร์ดี้ครับ" ฮาร์ดี้ยิ้มและยื่นมือไปจับเขา
"คุณฮาร์ดี้ ฉันเคยได้ยินชื่อของคุณมานานแล้ว ในที่สุดเราก็ได้พบกัน" นิกสันพูดด้วยรอยยิ้ม
ในขณะนี้ช่างภาพสองคนก็เดินมายืนข้างๆ พวกเขา พร้อมกับถือกล้องมาคนละตัวและถ่ายภาพทั้งสองอย่างต่อเนื่อง
"นี่คืออะไรเหรอ?" นิกสันประหลาดใจ
"ฮ่าๆ ก็สมาชิกวุฒิสภามาเยี่ยมทั้งที มันก็เป็นปกติที่ต้องมีการเก็บภาพไว้สักหน่อย และผมก็จะขอให้คนของผมเขียนข่าวของการได้พบเจอกันในวันนี้ลงหนังสือพิมพ์ด้วย มันก็เลยต้องมีการถ่ายภาพไปลงหนังสือพิมพ์สักหน่อย" ฮาร์ดี้กล่าว
นิกสันคิดในใจว่า ‘ฮาร์ดี้คนนี้ช่างรอบคอบจริงๆ เพราะถ้าฮาร์ดี้คนนี้เอาเขาไปลงหนังสือพิมพ์แล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องไปหาสื่อเพื่อมาทำข่าวตัวเอง’
ทั้งสองก็เดินเข้าไปในอาคารสำนักงานใหญ่
ฮาร์ดี้แนะนำแผนกต่างๆ ให้กับนิกสันรู้จัก ซึ่งมันก็มีแผนกจัดการธุรกิจ แผนกโลจิสติกส์ แผนกข่าวกรอง
แผนกสนับสนุนด้านเทคนิค กองบัญชาการ
นิกสันคิดในว่าเอชดีซีเคียวริตี้ช่างทรงพลังมากจริงๆ เพราะแค่แผนกเหล่านี้มันก็แตกต่างจากบริษัทรักษาความปลอดภัยอื่นๆ แล้ว เพราะถ้ามองดูดีๆ มันก็จะคล้ายกับโครงสร้างของทหารเหมือนกัน
…
หลังจากเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ฮาร์ดี้ก็เชิญนิกสันไปดูการฝึกซ้อมของทีมรักษาความปลอดภัย
ซึ่งความกว้างของฐานนี้นั้นมีประมาณ 30 เอเคอร์ เพราะที่นี่ยังมีอาคารสำนักงานและคลังสินค้าตั้งอยู่ และอีกอันก็คือฐานฝึกอบรม
มันเป็นสถานที่สำหรับสมาชิกในทีมที่ไม่ได้ลงออกปฏิบัติการออกกำลังกายกันที่นี่
โดยจะมีวิ่งผ่านสิ่งกีดขวาง ฝึกการต่อสู้ ฝึกการยิงปืน
หลังจากที่ได้เห็นการฝึกอบรมเต็มรูปแบบเช่นนี้ นิกสันที่เคยผ่านสงครามโลกครั้งที่สองมานั้นก็รู้สึกสะเทือนใจอย่างมากหลังจากได้เห็นการฝึกของทีมเอชดี
"ฉันคิดว่าการฝึกดูคล้ายกับกองทัพมาก แต่ว่ามันก็มีความเป็นวิทยาศาสตร์อยู่ในรายการฝึกเกือบทั้งหมดด้วย" นิกสันพูดระลึกความหลัง
"วิธีการฝึกพวกนี้ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษด้วยทีมของเราเอง โดยจุดประสงค์ของมันก็เพื่อที่จะค้นหาความสามารถของคนคนหนึ่งออกมาให้มากที่สุด" ฮาร์ดี้กล่าว
…
สมาชิกในทีมรวมตัวกันเมื่อสิ้นสุดการฝึก
พวกเขาทั้งหมดมากกว่าสองร้อยคนยืนนิ่งอยู่กับที่และปล่อยบรรยากาศที่ดูน่าเกรงขามออกมา
นิกสันเลยเข้าไปถ่ายรูปกับคนเหล่านี้อย่างกระตือรือล้น และช่างภาพก็รีบบันทึกฉากๆ นี้ไว้
ก่อนหน้านี้เขาได้สั่งช่างภาพของเขาไว้ว่าไม่ต้องกังวลเกี่ยวการใช้ฟิล์ม (กล้องฟิล์ม) เพราะถ้ามันมีภาพมากพอ มันก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีภาพลงหนังสือพิมพ์หรือเปล่า ถึงในความเป็นจริงภาพอันเดียวก็เพียงพอสำหรับหนังสือพิมพ์แล้วก็เถอะ
แต่ฮาร์ดี้ก็คิดไว้แล้วว่าจะรอให้ชายคนนี้เป็นรองประธานาธิบดีหรือเป็นประธานาธิบดีเสียก่อน และเขาก็จะเอาภาพของชายคนนี้ออกมาโปรโมทเอชดีซีเคียวริตี้ในอนาคต
เพราะเขาต้องการมาดูที่ของฉันใช่ไหม? งั้นก็อย่าโทษฉันที่ใช้คุณเป็นตัวโฆษณาในอนาคต
…
ในห้องทำงานของฮาร์ดี้
เลขาเอากาแฟมาวางไว้สองแก้วก่อนที่จะออกไป
ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงแค่นิกสันกับฮาร์ดี้ที่อยู่ในห้อง
ฮาร์ดี้ก็เดินไปหยิบซิการ์และยื่นให้กับนิกสันด้วย เวลานี้ทั้งสองจึงนั่งคุยกันพร้อมกับสูบซิการ์ไปด้วย
"ฮาร์ดี้ ผมได้ยินมาว่าบ้านเกิดของคุณอยู่ที่ออเรนจ์เคาน์ตีใช่ไหม?"
"ใช่แล้ว!"
"บ้านของผมอยู่ในเมืองยอร์บาลินดา ซึ่งฉันสามารถขับรถไปหาคุณได้ในหนึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง" นิกสันพูดด้วยรอยยิ้ม
"ฮ่าๆ งั้นเราก็เป็นเพื่อนบ้านกันสินะ" ฮาร์ดี้พูดด้วยรอยยิ้ม
"แล้วตอนเป็นทหาร คุณอยู่หน่วยไหนเหรอ?" นิกสันถาม
"หน่วยนาวิกโยธินครับ"
"อ่า ฉันอยู่หน่วยนาวีนี้เอง" นิกสันกล่าว
ทั้งสองผลัดกันเล่าประสบการณ์ของตัวเองเมื่อตอนเป็นทหาร และยิ่งคุยกันนานเท่าไหร่พวกเขาก็ยิ่งสนิทกันมากขึ้น เสมือนพวกเขาเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว
“ฮาร์ดี้ตอนที่ฉันกลับมาครั้งนี้ ฉันเห็นว่าลอสแองเจลิสเปลี่ยนไปมากจริงๆ มันมีผู้คนตามท้องถนนมากขึ้นและผู้คนก็ดูมีชีวิตชีวามากกว่าเดิม ต้องขอบใจเอชดีซีเคียวริตี้เลยที่ทำให้ลอสแอนเจลิสดีขึ้นขนาดนี้ ซึ่งฉันก็รู้สึกดีมากจริงๆ” นิกสันกล่าว
"ฮ่าๆ มันไม่ใช่เพราะผมคนเดียวหรอกครับ ยังไงมันก็มีรัฐบาลช่วยเหลืออยู่ด้วย แล้วตอนนี้คุณก็ยังพัฒนาบ้านเกิดของคุณเองด้วยไม่ใช่เหรอ? ผมคิดว่าผู้คนจะได้เห็นผลงานของคุณแน่ๆ" ฮาร์ดี้กล่าว
"ถ้าอย่างนั้นเรามาร่วมมือกันทำให้ 'บ้านเกิด' หลังนั้นดีขี้นไหม?" นิกสันพูดพร้อมกับยื่นมือไปฮาร์ดี้
ฮาร์ดี้ไม่ปฏิเสธและยื่นมือไปจับกับนิกสันทันที
"เรามาช่วยกันพัฒนาบ้านเกิดของเราให้ดีขึ้นกว่าเดิมเถอะ"
ฮาร์ดี้ยิ้มและพูดว่า "คุณวุฒิสมาชิกถ้ามีอะไรที่คุณต้องการก็พูดมาได้เลยครับ ยังไงคุณก็เป็นคนของรัฐบาลที่จะช่วยบ้านเกิดหลังนั้น ผมยินดีที่จะช่วยทำบ้านหลังนั้นให้ดีขึ้นกว่าเดิมอยู่แล้ว"
ฮาร์ดี้พูดกับเขาตรงๆ ซึ่งนิกสันก็เข้าใจในทันที
เพราะนี่คือจุดประสงค์ของการเดินทางของเขา และมันก็ถือว่าเขาทำเสร็จแล้ว
ส่วนจะให้ความร่วมมือกันแบบไหนก็ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคตไปก่อน
เวลาเที่ยง
ฮาร์ดี้ชวนนิกสันไปทานข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และนิกสันก็ตอบรับด้วยความกระตือรือร้น
ในตอนบ่าย
ฮาร์ดี้ก็พาเขาไปเยี่ยมชมโรงงานบาร์บี้ บริษัทนิตยสารเพลย์บอย โรงงานผลิตทีวี และบริษัทออกอากาศเอบีซี
ทว่าตอนนี้สถานีโทรทัศน์ยังไม่ได้เปิดตัว แต่มันก็มีผู้คนจำนวนมากกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมรายการที่จะออกอากาศอยู่ด้วย
เมื่อเดินเข้าไปในสตูดิโอ ฮาร์ดี้ก็บอกกับนิกสันว่า เขามีรายหนึ่งที่ชื่อว่าทอล์คโชว์โดยจะเป็นการเชิญ ดารา นักวิทยาศารต์ และนักการเมืองมาร่วมคุยกันในรายการ
เมื่อเขาพูดถึงเรื่องนี้ เขาก็มองไปที่นิกสันและพูดว่า "คุณนิกสัน ถ้าสภาครองเกรสมีเรื่องต้องการประชาสัมพันธ์ในอนาคต สถานีโทรทัศน์เอบีซียินดีที่ช่วยคุณเสมอ ซึ่งผมก็เชื่อว่ามันจะช่วยโฆษณาตัวคุณได้ดีมาก"
ดวงตาของนิกสันเบิกกว้างขึ้นและสีหน้าของเขาก็ดูตื่นเต้นเล็กน้อย
เพราะยังไงโทรทัศน์ก็เป็นเครื่องมือในการโฆษณาที่ดีที่สุดในตอนนี้
ถ้าเขาได้ออกรายการทอล์คโชว์แล้วมีคนรู้จักมากขึ้น มันก็จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้คน และมันก็เป็นสิ่งที่เขาต้องการอยู่พอดี
ลองคิดถึงดาราและนักร้องที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็จะมีคนตามติดอยู่ตลอดสิ แล้วสมาชิกสภาก็ใช้เงินไปกับการโฆษณาเพื่อให้ได้ผลแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?
"ฮาร์ดี้ ครั้งนี้ฉันมาที่นี่เพื่อมาเยี่ยมชม แต่สักวันฉันอาจจะขอความช่วยเหลือจากคุณแน่ๆ" นิกสันกล่าว
"ฮ่าๆ ผมก็เชื่อว่าวันนั้นจะมาถึงไม่ช้า"
ประโยคนี้หมายถึงการอวยพรให้นิกสันได้รับการเลื่อนตำแหน่งนั้นเอง มันก็เลยทำให้นิกสันมีความสุขมาก
นิกสันมองไปที่ฮาร์ดี้และก็คิดอะไรบ้างอย่างอยู่สักครู่ "ฮาร์ดี้ ฉันเป็นเพื่อนกับนายกเทศมนตรีของซานฟรานซิสโกชื่อจอร์จ วีแลน ถ้าบริษัทเอชดีซีเคียวริตี้ของคุณต้องการที่จะลงนามสัญญาร่วมมือกับกรมตำรวจซานฟรานซิสโก คุณอยากให้ฉันช่วยพูดไหม?"
บริษัทเอชดีซีเคียวริตี้ตอนนี้ได้ไปเปิดสาขาที่ซานฟรานซิสโกแล้ว และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคารเวลส์ฟาร์โกกับธนาคารแห่งอเมริกาสาขาซานฟรานซิสโกก็ถูกแทนที่เป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทเอชดีซีเคียวริตี้หมดแล้ว
แล้วแลนสเตอร์ก็เคยติดต่อกับหัวหน้ากรมตำรวจซานฟรานซิสโกคนปัจจุบันแล้ว โดยเขาหวังว่าจะได้ทำความร่วมมือกับกรมตำรวจ ทว่าหัวหน้าตำรวจที่ชื่อชิเกรู้สึกไม่สบายใจกับบริษัทเขาเท่าไหร่
เพราะเขารู้สึกเหมือนตำรวจจะดูอ่อนแอถ้ามีบริษัทเอชดีซีเคียวริตี้อยู่
และตำรวจก็อยากจะคุมอำนาจไว้ในมือมากกว่า เพราะถ้ามีคนอื่นมาช่วยพวกเขาก็จะเติบโตและตำรวจก็จะค่อยๆ หายไปจากสังคม
ทำให้เขาไม่ยอมเซ็นสัญญาความร่วมมือกับบริษัทเอชดีซิเคียวริตี้
แล้วถ้านิกสันแนะนำเขาให้นายกเทศมนตรีของซานฟรานซิสโกรู้จัก ฮาร์ดี้ก็อาจจะได้พบกับนายกเทศมนตรีและให้เขาออกคำสั่งกับนายตำรวจคนนี้ได้
เห็นไหม?
เขาแค่หาเพื่อนสักคนด้วยการแสดงความจริงใจออกไป และมันก็มีอะไรดีๆ เข้ามาเอง
แต่มันก็เหมือนกับการพึ่งพากันและกันนั้นแหละ
"คุณนิกสัน มันจะดีกว่าถ้าเราติดต่อกับนายกเทศมนตรีเพื่อชวนเขาทานอาหารค่ำและพูดคุยกันสักครั้ง" ฮาร์ดี้กล่าว
นิกสันคิดในใจว่าฮาร์ดี้คนนี้ช่างคิดทุกอย่างไว้แล้วจริงๆ
เขาเพิ่งพูดไปเมื่อกี้ เขาก็พร้อมจะใช้งานมันทันที
ไม่น่าแปลกใจที่เขาสามารถเป็นเจ้าของบริษัทได้เยอะเช่นนี้ในระยะเวลาอันสั้น
อาจเป็นเพราะการตัดสินใจที่รวดเร็วแบบนี้ละมั้ง?
"ไม่มีปัญหา"
นิกสันโทรไปที่ซานฟรานซิสโก และอีกฝั่งก็รับสายอย่างรวดเร็ว
ทั้งสองพูดคุยกันอยู่สักครู่ และนิกสันก็บอกว่าอยากแนะนำเพื่อนคนหนึ่งให้รู้จัก
"ใคร?"
"เจ้าของบริษัทเอชดีซีเคียวริตี้ ทอม ฮาร์ดี้"
"ทอมฮาร์ดี้? อ่า ฉันรู้จักเขาๆ"
"คืนนี้นายว่างไหม? ฉันอยากชวนนายออกมากินข้าวด้วยกันสักหน่อย"
"นายอยู่ที่ซานฟรานซิสโกเหรอ?"
"ฉันอยู่ที่ลอสแอนเจลิส แต่ไม่ต้องห่วง ฮาร์ดี้มีสายการบินเป็นของตัวเอง เขาสามารถไปที่นั่นได้ตลอดเวลา" นิกสันกล่าว
......
หลังจากผ่านไป 1 ชม.
เครื่องบินซี-52 ก็ลงจอดที่สนามบินซานฟรานซิสโก และข้างเครื่องบินก็จะมีโลโก้ HD อันสวยงามติดอยู่
แต่ความจริงฮาร์ดี้อยากเอาบี-29 มามากกว่า แต่ตอนนี้มันยังไม่ได้รับการปรับปรุงใหม่เลย
นายกเทศมนตรีของซานฟรานซิสโกเชิญนิกสันและฮาร์ดี้ไปทานอาหารด้วยกันที่คลับแห่งหนึ่ง และมันก็เป็นครั้งแรกที่ฮาร์ดี้ได้เจอนายกเทศมนตรีคนนี้
ในเวลานี้เขามีอายุราวๆ 50 ปี รูปร่างอ้วนและผมของเขาก็หยิกเล็กน้อย ซึ่งเขาดูคล้ายๆ คนมีเมตตาคนหนึ่ง
แม้ว่าคำนี้จะไม่เหมาะกับนักการเมืองแต่ความรู้สึกตอนที่เขาได้เจอจอร์จ วีแลน มันเหมือนกับว่าเขาดูเป็นคนที่เป็นมิตรกับคนอื่นได้ง่าย
ฮาร์ดี้คิดในใจว่าชายคนนี้ช่างเหมาะสมกับนักเมืองจริงๆ
ทั้งสองทักทายกันอีกครั้ง แน่นอว่าฮาร์ดี้เป็นคนดังอยู่แล้ว ทำให้พวกเขากลายเป็นเพื่อนกันได้อย่างรวดเร็ว
…
หลังจากทานอาหารเสร็จพวกเขาก็ไปเดินเล่นริมทะเลสาบ
"วีแลนนายจะลงเลือกตั้งอีกครั้งในปีหน้าไหม?" นิกสันถาม
"ใช่ ฉันก็คิดเรื่องนั้นไว้อยู่เหมือนกัน แล้วนายละ? นายจะลงเลือกตั้งหรือเปล่า?" วีแลนถาม
นิกสันพยักหน้า "ฉันก็อยากจะลงเหมือนกัน แต่นายก็รู้ว่าฉันยังเด็กเกินไป แถมคุณสมบัติและเส้นสายก็ยังมีไม่มาก มันก็อาจจะต้องมีเพื่อนสักคนมาช่วยเหลือฉันหน่อย"
เมื่อนิกสันพูดจบ เขาก็ยิ้มและมองไปที่ฮาร์ดี้ ในเวลาเดียวกันฮาร์ดี้ก็มองไปที่วีแลนและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "คุณนายกเทศมนตรี หากคุณลงเลือกตั้งและต้องการเงินทุนช่วยหาเสียง ผมยินดีที่จะบริจาคให้ 50,000 ดอลลาร์สำหรับเงินทุน"
"นอกจากนี้สถานีวิทยุเอบีซีของผมก็จะเริ่มออกอากาศเร็วๆ นี้ เมื่อถึงตอนนั้นผมจะชวนคุณมาถ่ายวีดิโอเปิดตัว และช่วยโปรโมทไปทางชายฝั่งตะวันออกได้"
วีแลนดีใจมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น
เงิน 50,000 ดอลลาร์นั้นก็ถือว่าเป็นเงินจำนวนมากแล้ว มันจะช่วยเขาประหยัดเงินสำหรับการโปรโมทไปได้เยอะมาก และเขายังได้ออกประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์อีก
วีแลนทำจิตใจให้มั่นคงก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า "จริงๆ แล้วฉันก็ได้ยินชื่อของบริษัทเอชดีซีเคียวริตี้มานานแล้ว เห็นว่าตอนนี้กรมตำรวจลอสแอนเจลิสกำลังให้ความร่วมมือกับบริษัทเอชดีซีเคียวริตี้และมันก็ได้ผลลัพธ์ออกมาดีมากๆ ฉันก็เลยคิดว่าธุรกิจของคุณก็อาจเอามาใช้กับซานฟรานซิสโกได้เช่นกัน และมันก็คุ้มที่จะลองดู"
ฮาร์ดี้ยิ้มอย่างรู้ใจ
เพราะสิ่งนี้ก็คือการแลกเปลี่ยนกันและกัน
คุณได้ในสิ่งที่คุณต้องการและฉันก็ได้ในสิ่งที่ฉันต้องการ…
แน่นอนว่าทั้งสองฝ่ายต่างมีความสุขและก็ยังได้เพื่อนเพิ่มอีก...