ตอนที่แล้วตอนที่ 56 ค่ายฝึกทหาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 58 ลุง

ตอนที่ 57 ฝึกโดนทุบตี


ปึ้ก  ปึ้ก  ปึ้ก!

ถังเทียนเป็นเหมือนเป้า บอลแสงนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหาโจมตีเขาอย่างดุดันเป็นระลอก พลังของบอลแสงสมบูรณ์แบบทำให้ถังเทียนพบกับความเจ็บปวดแต่ไม่ถึงกับรุนแรงจนทำให้เขาหมดสติทันที

ปิงลอยตัวอยู่ในอากาศกล่าวด้วยเสียงแบบนั้น เพราะเหตุผลที่ไม่อาจรู้ได้เสียงเขาดูเย็นชาและไร้ความปราณี

“ใส่ใจพื้นที่ป้องกันของเจ้า เจ้าเรียนรู้วิทยายุทธมาสองสามอย่างไม่ใช่หรือ?  บางวิชาก็สามารถใช้จู่โจมได้และบางวิชาก็สามารถใช้ตั้งรับ”

“ใช่แล้ว เจ้าไม่สามารถป้องกันการจู่โจมได้ทั้งหมด  แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะต้องหยุดป้องกันตัวใช่ไหม?เจ้าควรใช้พลังทั้งหมดของเจ้า  ศักยภาพทั้งหมดและป้องกันจู่โจมให้ได้สักเล็กน้อยก็ยังดี ป้องกันการโจมตีให้มากเขาไว้ ยิ่งเจ้าป้องกันการโจมตีได้มาก เจ้าก็ทนรับการโจมตีได้น้อยลงจากนั้นโอกาสที่เจ้าจะรอดอยู่ได้ก็สูงขึ้น”

“ข้าต้องเตือนเจ้าไว้ก่อนในขั้นตอนสำคัญอย่างนี้ กองทัพกางเขนใต้ในเวลานั้น ทุกเดือนโดยทั่วไป จะมีคนตายหกคนเนื่องจากความจริงที่ว่าพวกเขาถูกโจมตีหนักเกินไป”

เสียงที่แข็งกระด้างและไร้ความรู้สึกของปิงยังคงดังเข้าหูถังเทียนอย่างต่อเนื่อง  ตั้งแต่พวกเขาเข้ามาในค่ายฝึกทหารใหม่  อาปิงยิ่งคล้ายกับคนมากแต่ เย็นชาไร้ความรู้สึก

ถังเทียนกัดฟันขณะอดทน เขาไม่มีโอกาสพูดตอบได้เลย แสงที่อยู่ต่อหน้าเขาหนาแน่น บอลแสงลอยเข้ามารวมกัน ทำให้เป็นเหมือนพายุบอลแสงที่อยู่ต่อหน้า  ไม่ช้าถังเทียนก็ตระหนักได้ว่าหมัดพิฆาตน้อยและฝ่ามือเงาสลายใช้ประโยชน์ไม่ได้ในเหตุการณ์ข้างหน้านี้  แม้ว่าหมัดพิฆาตน้อยจะมีพลังหนักหน่วงแต่ระดับพลังโจมตีช้าเกินไปและแม้ว่าฝ่ามือเงาสลายสามารถครอบคลุมพื้นที่ได้กว้าง แต่ฝ่ามือเงาสลายเหล่านั้นก็ยังไม่สามารถควบคุมได้และไม่อาจป้องกันเขาจากอันตรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ใช้กรงเล็บอินทรีถือว่าดีที่สุด

บอลแสงมีขนาดเท่าฝ่ามือจะดีที่สุดถ้าใช้กรงเล็บอินทรีสามารถจับพวกมันได้เป็นอย่างดีเคล็ดการใช้กรงเล็บอินทรีอยู่ที่ก้าวเท้าโจมตีอย่างรวดเร็ว

ท่ามกลางแสงที่ส่องระยิบระยับ ถังเทียนเพ่งดูตามปกติ เขาไม่กล้าคิดฟุ้งซ่าน อะไรที่ทำให้เขาไขว้เขวจะทำให้เขาพบจุดลงเอยไม่ดี ก่อนหน้านี้ถังเทียนฟุ้งซ่านเล็กน้อย เขาถูกบอลแสงลูกหนึ่งพุ่งใส่จมูก ทำให้เลือดออก

เมื่อจมูกอ่อนถูกโจมตี ดูเหมือนถังเทียนจะสูญเสียพลังป้องกันไปทั้งหมด  ร่างของเขาโดนโจมตีไปสามสิบหมัดก่อนที่เขาจะตั้งสติได้

หลังจากนั้น ถังเทียนก็สังเกตเป็นพิเศษเพื่อป้องกันอวัยวะสำคัญไว้ให้ดี

กรงเล็บคู่มีไฟหุ้ม ในพื้นที่ฝึกมันก่อตัวเป็นแผงเพลิง  เมื่อใดก็ตามที่บอลแสงพุ่งกระทบแผงเพลิงก็จะกระเด็นออกไป

แต่ภายใต้แนวป้องกันบอลแสง ก็ยังมีทะลุทะลวงผ่านแนวป้องกันเข้ามากระแทกใส่ถังเทียนได้  ในเวลานี้ร่างกระเรียนภายในตัวถังเทียนโคจรพลังได้โดยอัตโนมัติ  และขจัดความเสียหายมากกว่าครึ่ง  แต่ก็ยังคงทิ้งรอยฟกช้ำไว้

ถังเทียนไม่ผ่อนการสกัดกั้นโจมตี ขณะที่เขาค่อยๆ จับเคล็ดได้  ขณะที่ป้องกันบอลแสง ถ้าเขาเพิ่มพลังมากมันจะสะท้อนกลับไปด้วยความเร็วสูงและสามารถกระแทกบอลแสงสองสามลูกที่กำลังเข้ามาให้กระเด็นออกไปด้วย

เป็นไปตามคาด วิธีการของถังเทียนได้ผล บอลแสงเหล่านั้นทั้งหมดที่ถูกสะท้อนออกไปกระแทกบอลแสงที่พุ่งเข้ามาทำให้ความตึงเครียดของถังเทียนลดน้อยลง

“ไม่เลวที่ค้นพบวิธีการที่ถูกได้” เสียงเยือกเย็นของปิงยิ่งเพิ่มความตื่นเต้นขึ้น

ปิงเงยหน้าและมองดูพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวในท้องฟ้า “อดทนจนกว่าตะวันขึ้นจากนั้นเจ้าค่อยพักได้  แต่เจ้าต้องรับทราบไว้ด้วยขณะที่เวลาพักใกล้เข้ามา แรงกดดันที่เจ้าเผชิญจะเพิ่มมากยิ่งขึ้น”

น้ำเสียงแข็งกระด้างและเยือกเย็นดังก้องไปทั่ว

“นี่คือความหมายที่กล่าวกันว่า ‘ความมืดมิดก่อนรุ่งอรุณ”

ขณะที่ถังเทียนสบถอยู่ในใจ “ไอ้บ้าเอ๊ย, ปิงบ้าไปแล้ว  มืดมิดอะไรกัน...”

เขาไม่กล้าฟุ้งซ่าน  ความเร็วของกรงเล็บอินทรีเพิ่มขึ้น  แต่ละกรงเล็บปล่อยเสียงแหลมแหวกอากาศ

ปิงเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนเกินไป เจ้าตัวแสบผู้นี้อาจจะดูเหมือนโง่ในก่อนนั้น  แต่เขาไม่มีนิสัยจู่โจมทำร้าย  แล้วปัจจุบันกลิ่นอายที่ตื่นเต้นมาจากไหน?ตั้งแต่เขาเข้ามาฝึกในค่ายทหารใหม่ ปิงเหมือนเปลี่ยนเป็นคน  แม้ว่าเขายังคงพูดเยือกเย็นแข็งเป็นหินและมักทำท่างงงวยเสมอ แต่ท่าทางของเขาเต็มไปด้วยบางอย่างที่เขาอธิบายไม่ได้เหมือนกับว่าเขาพบเป้าหมายของตัวเอง

ถังเทียนสับสน แต่เขาไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้แม้แต่น้อย เพราะการจู่โจมที่ระดมเข้ามาตอนนี้ทำให้เขาแทบบ้ายิ่งขึ้น

ถ้าเป็นเหมือนสิ่งที่ปิงกล่าว  หลายๆอย่างก็จะลำบากขึ้น

ถังเทียนกัดฟันแน่น เบิกตากว้างขณะที่เขาใช้พลังทั้งหมดทุ่มใช้วิชากรงเล็บอินทรีสร้างแผงเพลิงป้องกันได้ในระดับน่าอัศจรรย์  มีเพียงพลังระดับนี้เขาจึงจะสามารถทนต่อพลังโจมตีของบอลแสงได้

แต่จำนวนบอลแสงที่พุ่งเข้ามาต่อหน้าในตอนนี้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง  แรงกดดันของถังเทียนยิ่งเพิ่มมากขึ้น  เมื่อถังเทียนไม่สามารถทนรับได้อีกต่อไป  การป้องกันของเขาจึงพังทลายและบอลแสงนับไม่ถ้วนระดมกระแทกใส่เขาเหมือนสายฝน เขาร้องออกมาดังๆ ซึ่งเสียงกระจายออกไปไกล

ถังเทียนตกอยู่ภายใต้ความยุ่งเหยิงวุ่นวายบอลแสงจำนวนมากพุ่งโจมตีเขาที่ไม่สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงของปราณเที่ยงแท้ภายในตัวอย่างสิ้นเชิง

ร่างกระเรียนที่หนึ่งไม่สามารถทนรับไว้ได้อีกต่อไป  ได้ระเบิดสลายไปเสียงดังปัง  เมื่อกระเรียนร่างที่สองรู้สึกถึงอันตรายมันจึงโคจรช้าๆ และดูดพลังบอลแสงเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง

ปิงลอยอยู่ในอากาศรำพึงว่า “การเริ่มต้นฝึกโหดแบบนี้ที่ระดับสาม สัตว์ประหลาดแบบไหนกันที่จะถือกำเนิดจากระดับนี้?”

ในคำพูดของเขา แฝงไปด้วยร่องรอยความตื่นเต้น

เป็นไปได้ไหมว่านี่คือตัวตนแท้จริงของเขาและภารกิจของวิญญาณ?

พระอาทิตย์เริ่มฉายแสงจากขอบฟ้าและความเร็วของบอลแสงช้าลงอย่างเห็นได้ชัด

ปัง

ถังเทียนที่ยังมึนงงอยู่ล้มลงกับพื้น ดำดิ่งสู่การหลับลึก

※※※※※※※※※※

ไม่มีใครสนใจถังเทียนอีกต่อไป ข่งต้าเริ่นคิดว่าถังเทียนทำสนามซ้อมขจัดจุดอ่อนพังเพราะเขามีสายเลือดที่พิเศษ นี่สามารถอธิบายถึงเหตุผลที่พรสวรรค์ของถังเทียนนั้นน่ากลัว  เขายังมีความสามารถ  นักสู้ผู้มีสายเลือดพิเศษมักจะมีพลังแน่นอน  แต่พลังของสายเลือดนั้นแปลก  ไม่มีความเกี่ยวข้องกับพลังธรรมดาแต่อย่างใดเลย

ข่งต้าเริ่นทุ่มเทความสามารถไปมากมายกับสนามซ้อมขจัดจุดอ่อน ถ้าเขาต้องจ่ายมูลค่าไปสำหรับการนี้และได้กลับคืนมาโดยพบคนมีพรสวรรค์ที่หาได้ยาก ข่งต้าเริ่นไม่ถือสาเลยแม้แต่น้อย แต่ถ้าสนามซ้อมขจัดจุดอ่อนถูกทำลายเพียงเพราะเจอกับนักสู้ผู้มีสายเลือดพิเศษ  ข่งต้าเริ่นรู้สึกเจ็บปวดใจ

ลึกๆ นั้นเขาคิดว่าจะสร้างเวทีขจัดจุดอ่อนใหม่อย่างง่ายหรือจะสร้างใหม่ให้ดีเลิศกว่าเดิม?

ด้วยความเคารพต่อผู้อาวุโส  พวกเขาไม่ได้สนใจถังเทียน อาโมรี่และคนอื่นคิดว่าถังเทียนกำลังอยู่ในระหว่างอบรมฝึกฝนพิเศษจึงไม่มีใครรบกวนเขา  ตรงกันข้ามทุกคนมีแรงบันดาลใจ  ถังเทียนใช้สนามซ้อมขจัดจุดอ่อนพิสูจน์ตัวเขาเองพวกเขาไม่อาจล้าหลังได้

การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น

ในตู้โดยสารของสมาพันธ์เกียรติยศชาวยุทธไม่มีใครกล้ามีความคิดอะไร

หลังจากการเดินทางที่ยาวนานและยากลำบากมาเป็นเวลาสองเดือนก่อนที่พวกเขาจะมาถึงหมู่ดาวเพอร์ซูสในที่สุด

เมื่อขบวนรถหยุดลง ทุกคนมีความปลาบปลื้มยินดี  พวกเขาอยู่แต่ในรถเป็นเวลาสองเดือนและทุกคนรู้สึกเบื่อ

ปัง!

อาโมรี่ผลักเปิดประตูดังปังด้วยพลังของเขาและพูดอย่างร่าเริงยินดี“ถังพื้นฐาน!  ถังพื้นฐาน!ออกมาเร็วๆ  เรามาถึงแล้ว”

ประตูเปิดออก  ถังเทียนหน้าขาวซีด และอยู่ในอาการมึนงง  เขากล่าว “เราถึงหมู่ดาวเพอร์ซูสแล้วเหรอ?”

“ใช่แล้ว เรามาถึงแล้ว” อาโมรี่ดูเป็นกังวล  “ถังพื้นฐาน,นายดูไม่ดีเลย  ป่วยหรือเปล่า?”

“ฉันสบายดี ก็แค่ฝึกหนักจริงๆ ฉันแค่ต้องการพักบ้างเท่านั้น” ถังเทียนรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ และฝืนยิ้มเต็มหน้า

ร่างกายของถังเทียนเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ  ปิงฝึกให้จนแทบเป็นบ้า  แต่ละวัน ถังเทียนจะบาดเจ็บหนักถ้าไม่ใช่เพราะขี้ผึ้งนางพญาผึ้งใบไผ่ที่เขาพกมาด้วย  บางทีเขาอยู่ในสภาพย่ำแย่กว่านี้ไปแล้ว  เนื่องจากปิงฝึกให้ในค่ายเปิด  ถังเทียนจึงเข้าไปฝึกในประตูดาวกางเขนได้ทุกวัน

ถังเทียนอดทนผ่านมาได้ทุกวัน

ไอ้บ้าปิง! เขาไม่แสดงความเมตตาเลย มีแต่จะฝึกโหดมากยิ่งขึ้น

“นายต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีฝืนเกินไปจะแย่ได้” อาโมรี่กังวล

“อย่าดูถูกฉันนะ! ฉันคือหนุ่มน้อยชาวฟ้า!”  ถังเทียนจงใจมองอาโมรี่

แล้วอาโมรี่ค่อยหัวเราะอย่างสบายใจ “ก็อย่างที่นายพูดนั่นแหละ  ใครจะเอาชนะหนุ่มชาวฟ้าอย่างนายได้เล่า?”

ถังเทียนลอบถอนหายใจ  เจ้าวัวแมงวัน นายดูถูกคนบ้าทั้งโลกนี้ได้....

ในใจของถังเทียน ปิงนั้นบ้าไปแล้ว  เขาไม่มีทั้งความสุภาพหรือโง่เลยสักนิด  เจ้าบัดซบนั่นบ้าและเลือดเย็น  ต่อให้เป็นหนุ่มน้อยชาวฟ้า ก็ยังแทบทนไม่ไหว

เมื่อถังเทียนคิดถึงเรื่องการฝึกฝนที่เขาต้องเข้าไปฝึกตอนกลางคืน  นัยน์ตาเขาเบิกกว้างแทบฉีกขาด

“ไปกันเถอะ ไปกัน, เราลงไปกันเถอะ”  อาโมรี่กระตุ้น

“อืม” ถังเทียนตอบและเดินไปอย่างอ่อนเพลียไม่มีแรง

เมื่อถังเทียนปรากฏ บางคนถึงกับตกใจ

หานปิงหนิงขมวดคิ้ว  “ถังเทียน นายไม่สบายหรือเปล่า?”

อาโมรี่พูดอยู่ด้านข้าง  “เขาฝึกหนักเกินไปเท่านั้น”

หานปิงหนิงค่อยเข้าใจ  ด้วยคำพูดของหานปิงหนิง  คนอื่นๆ รู้สึกได้ทันทีถึงแรงกดดันมหาศาล  ถังเทียนแข็งแกร่งทรงพลังอยู่แล้ว  แต่ก็ยังทุ่มเทชีวิตฝึกฝน  พวกเขาจะมีข้ออ้างที่จะเกียจคร้านและเสียเวลาต่อไปได้หรือ?

ซือหม่าเซียงซานและคนอื่นๆตัดสินใจเงียบๆ ว่าพวกเขาจะใช้เวลาฝึกฝนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

พวกผู้อาวุโสมีสีหน้าเหยียดหยาม ถังเทียนไม่เคยออกมาจากห้องเลยในช่วงไม่กี่วันมานี้ ฮืม..เป็นไปได้หรือที่เขาจะฝึกอะไรได้?  ภายในรถ(ยาน)โดยสาร นอกจากห้องของข่งต้าเริ่นแล้ว ห้องอื่นๆ จะเล็กมาก  นอกจากใช้นั่งแล้วในทางปฏิบัติเป็นไปไม่ได้ที่จะฝึกวิทยายุทธในห้องพัก

คนหนุ่มอย่างนั้นเพียงรู้แต่วิธีโอ้อวด  นอกจากนั้น เขายังเป็นเด็กหนุ่มฝีมือธรรมดา

จากสิ่งที่เขาเห็น ความสามารถของถังเทียนล้วนเกิดขึ้นจากสายเลือด  เขายังขาดพรสวรรค์ ขี้เกียจและรู้แต่วิธีโม้  คนอย่างนั้นผู้อาวุโสเห็นมามากนักแล้ว

แต่เขาไม่เปิดโปงแต่อย่างใด แค่ปล่อยให้เจ้าคนธรรมดานี้วิ่งไปตามเส้นทางของตนเองก็พอ

“ข่งต้าเริ่น” นักสู้คนหนึ่งมาถึงและมองเขาด้วยความเคารพ

“รัฐมนตรีของท่านอยู่แถวนี้หรือเปล่า?”ข่งต้าเริ่นยิ้มเล็กน้อย

“ท่านรัฐมนตรีตอนนี้อยู่ด้านหลังประตูขอรับ  บางทีเธออาจจะออกมาตอนสิ้นเดือนหน้า”  นักสู้ผู้นั้นรู้สึกเสียใจ “ถ้าเธอรู้ว่าท่านจะมา  เธอคงจะมีความสุขขอรับ”

ข่งต้าเริ่นตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น  แต่สีหน้าเขาก็มีความสุขทันที  “เธอถึงระดับแปดไปแล้วหรือ?”

“ขอรับ” นักสู้ผู้นั้นแสดงความชื่นชม  “ท่านรัฐมนตรีบอกว่าระดับความสำเร็จสูงมากในรอบนี้”

“ดี ดีมาก!” ข่งต้าเริ่นยินดี ถ้าน้องสาวของเขาบรรลุพลังระดับแปดได้ อย่างนั้นก็หมายความว่าพลังของตระกูลข่งเพิ่มสูงขึ้นมาก  เขารีบพูด “อย่ารบกวนเธอ ฉันมาที่นี่เพื่อส่งเด็กใหม่ที่มีพรสวรรค์จำนวนหนึ่ง พรสวรรค์ของพวกเขานับว่าดีและพวกเขาตั้งใจจะมาที่หมู่ดาวเพอร์ซูส  ฉันจะส่งมอบพวกเขาให้”

“ขอบคุณที่นายท่านพิจารณา”  นักสู้พูดด้วยความเคารพ สามารถได้สายเลือดใหม่มานับว่าเป็นข่าวที่ดีต่อหมู่ดาวเพอร์ซูส

“ยังมีอีกคนหนึ่ง เขาอาจเป็นนักสู้ที่มีสายเลือดพิเศษ คุณเอาเขาไปเข้าค่ายได้เลย หาคนที่อาการย่ำแย่เข้าค่ายได้ลำบากเหลือเกิน ให้นักสู้ผู้มีสายเลือดพิเศษค้นหาเส้นทางของเขาเองเถอะ”  ข่งต้าเริ่นพูดตามปกติ

“ขอรับ” นักสู้ผู้นั้นรับคำอย่างรวดเร็ว  ในใจเขาเลือกค่ายที่เลวร้ายที่สุดให้ถังเทียน

เป็นไปได้มากว่าเจ้าเด็กนี่คงสร้างความไม่พอใจให้กับพี่ชายของท่านรัฐมนตรีเป็นแน่น่าสงสาร

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด