ตอนที่ 56 ค่ายฝึกทหาร
“นี่คือค่ายฝึกทหารของกองทัพดาวกางเขนใต้” เสียงของปิงไม่แข็งมากอีกต่อไปและแฝงอารมณ์อยู่ในคำพูดของเขา “ทุกคนที่สมัครเข้ามาที่นี่จะได้รับการฝึกฝนสามปีและผู้ที่สอบผ่านจึงจะสามารถบรรจุเข้ากองทัพได้”
“สามปี....” ถังเทียนตาเบิกกว้าง “พวกนายฝึกฝนอะไรกันบ้างถึงได้ใช้เวลาสามปี?”
“ก็แบ่งออกเป็นวิชาต่อสู้เฉพาะตัวและพื้นฐานกลยุทธสงคราม” ปิงอธิบายอย่างใจเย็น “ทุกคนจะฝึกปราณเที่ยงแท้ให้ได้ถึงระดับแปดและจะฝึกเคล็ดสังหารอย่างน้อยสามวิชาที่เป็นวิชาระดับแปด มีสิบสองวิชาที่เป็นพื้นฐานกลยุทธสงคราม”
“ระดับแปดเชียวหรือ?” ถังเทียนคิดว่าเขาได้ยินผิด
“อืม” ปิงตอบอย่างใจเย็น
“ระ..ระ...ดับแปดแค่เกณฑ์ทหารคนหนึ่งนี่นะ?” ถังเทียนพูดตะกุกตะกักพลางจ้องเขม็ง ไม่ว่าผู้ใดฝึกถึงระดับแปด เขาจะเป็นยอดฝีมืออย่างแน่นอน และเป็นยอดฝีมือที่แท้จริง แม้แต่ในสวรรค์วิถี เขาก็จะเป็นยอดฝีมือผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือ ยอดฝีมือเหล่านี้เมื่ออยู่ในดาวกางเขนใต้ เป็นได้แค่ทหารเกณฑ์และเป็นแค่เกณฑ์ขั้นต่ำสุด?”
กองทัพดาวกางเขนใต้ช่างมีพลานุภาพมากขนาดนั้น
แม้แต่ทหารเกณฑ์ก็มีพลังปราณระดับแปด..
“อืม” ปิงยังคงกล่าวต่อ “กองทัพมีกฎอยู่ว่าพวกที่ยังมีปราณเที่ยงแท้ไม่ถึงระดับแปดจะไม่สามารถผ่านทดสอบการเกณฑ์เป็นทหารได้ นายกองจะต้องมีระดับสิบขึ้นไป ขณะที่แม่ทัพจะต้องมีระดับสิบสอง”
ถังเทียนพอได้ฟังแล้วรู้สึกปวดหัว “อย่างนั้นพวกนายทั้งหมดมิไร้เทียนทานกันหมดหรือ?”
“ไร้เทียมทาน?” ปิงสั่นศีรษะ “ถ้าเราไร้เทียมทานอย่างนั้นเราจะล้มเหลวในการปกป้องค่ายของเราได้ยังไง?”
ถังเทียนอ้าปากค้างกว้างเป็นเวลานาน เขาค่อยกล่าว“อย่าบอกนะว่ายังมีกองทหารที่แข็งแกร่งกว่านาย?”
“ไม่มีหรอก” ปิงกล่าวอย่างใจเย็น“กองทัพดาวกางเขนใต้เป็นหนึ่งในสามกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุด อีกสองกองทัพคือ กองทัพแมงป่องและกองทัพอสรพิษ”
ถังเทียนดึงนิ้ว“กองทัพแมงป่องคือหมู่ดาวสกอร์ปิโอ (แมงป่อง) ใช่ไหม? ฉันเคยได้ยินชื่อ แต่กองทัพอสรพิษล่ะ? ใช่หมู่ดาวไฮดรา หรือหมู่ดาวงูใช่ไหม?
ปิงส่ายหน้า“เป็นหมู่ดาวคนแบกงู”
“หมู่ดาวคนแบกงู? เอ่, ฉันไม่เคยได้ยินหมู่ดาวชื่อนั้นมาก่อน” ถังเทียนเถียง
“ไม่เคยได้ยินมาก่อน?” เสียงของปิงผันผวนเป็นคลื่นอีกครั้ง “หมู่ดาวคนแบกงูคือสุดยอดหมู่ดาวใน 13หมู่ดาวที่อยู่ในระนาบอุปราคา”
ถังเทียนส่ายหัว “ระนาบอุปราคามีอยู่เพียงสิบสองหมู่ดาวก็คือหมู่ดาวเลโอ (ราชสีห์), หมู่ดาวซาจิทาเรียส (คนธนู) และหมู่ดาวแอรีส (แกะ)เป็นหมู่ดาวที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคปัจจุบัน แต่สิบสองหมู่ดาวก็ไม่สามารถเอาชนะได้ ฉันได้ยินชื่อหมู่ดาวสกอร์ปิโอ (แมงป่อง) มานานแล้วแต่ไม่เคยได้ยินชื่อหมู่ดาวที่สิบสามเลย”
“ดูเหมือนกองทัพอสรพิษก็ถูกทำลายไปเช่นกัน” ปิงกล่าว “หมู่ดาวคนแบกงูเป็นหมู่ดาวที่แข็งแกร่งที่สุดในตอนนั้น เป็นหมู่ดาวมหาอำนาจในระนาบโคจรหลัก, ระนาบอุปราคาและทางช้างเผือก กองทัพอสรพิษเป็นกองทัพที่ทรงพลานุภาพที่สุดในกองทัพใหญ่ทั้งสาม”
“ฟังดูมีอานุภาพน่าทึ่ง! อาปิง,อย่างนั้นนายก็แข็งแกร่งมากด้วยใช่ไหม?” ถังเทียนจ้องนัยน์ตาเขา ใจคิดไปถึงที่ไกล
ปิงไม่สนใจเขาและยังคงพูดต่อไป “เจ้าต้องคิดให้ดี ทันทีที่เจ้าเปิดประตูบานนี้ เจ้าจะถูกบังคับให้ต้องฝึกฝนทันที ถ้าเจ้าไม่สามารถไปถึงระดับแปดได้ภายในสามปี เจ้าจะไม่สามารถเข้าประตูดาวกางเขนได้อีกต่อไป”
“ภายในสามปี เป็นระดับแปด?”
“ยังคงมีคนที่สามารถทำได้” ปิงพูดเสียงแข็งอีกครั้ง “มีนักสู้แข็งแกร่งผู้ปกป้องหมู่ดาวและสามารถปลดปล่อยประกายได้อย่างสว่างเจิดจ้า ข้ารู้สึกถึงพวกเขาได้ มีอยู่หลายหมู่ดาวมากมาย มีหลายคนที่เปล่งรัศมีสว่างน่าอัศจรรย์ ในยุคนี้ยังมีนักสู้แข็งแกร่งอีกหลายคน”
“อย่างนั้นก็มีคนสามารถทำได้ใช่ไหม?” ถังเทียนมองดูปิง
“ถูกต้อง” ปิงตอบทันทีโดยไม่เปลี่ยนแปลงโทนเสียง
“ดี, ฉันก็จะทำให้ได้” ถังเทียนไม่ลังเลใจแม้แต่น้อยเขาพยักหน้ายอมรับ
“เจ้าแน่ใจนะ?” ปิงมองดูเขา
“แน่ใจสิ” ถังเทียนดูจริงจังและกำหมัดแน่น “ในเมื่อคนอื่นทำได้ อย่างนั้นฉันก็ต้องทำได้เช่นกัน”
“ข้ามีหน้าที่เตือนเจ้า” ปิงกล่าว “ตารางการฝึกฝนทหารใหม่โหดหินมาก โหดหินมากกว่าที่เจ้าจะนึกภาพออก หมู่ดาวกางเขนใต้เป็นหมู่ดาวที่เล็กที่สุด แต่ก็สามารถเติบโตอยู่รอดได้เนื่องจากกองกำลังของพวกเขา และเพราะความเข้มงวดโหดหินของพวกเขา ตารางฝึกฝนทหารใหม่ของหมู่ดาวกางเขนใต้เป็นตารางฝึกที่โหดหินที่สุดในโลกไม่มีที่ใดเทียบได้ ในยุคของพวกเราอัตราการผ่านสอบมีเพียงร้อยละเก้า ขณะที่อัตราการเสี่ยงตายสูงถึงร้อยละยี่สิบหก”
“จะทำให้ฉันแข็งแกร่งขึ้นได้จริงๆ เหรอ?” ถังเทียนยังคงสงบไม่รู้สึกกลัวและเขาเชิดหน้าถาม
“ถูกแล้วหลักสูตรการฝึกทหารใหม่เป็นการฝึกโหดที่สุด เมื่อเจ้าฝึกสำเร็จ นี่เป็นวิธีฝึกฝนที่ได้ผลมากที่สุดในโลก”ปิงกล่าวเคร่งขรึม
“อย่างนั้นก็ลงมือเลย หนุ่มน้อยชาวฟ้าไม่มีทางถอยแน่” ถังเทียนชูกำปั้นด้วยความใจสู้
ปิงสามารถรู้สึกได้ถึงความดื้อรั้นของถังเทียนจึงเงียบไปชั่วขณะ “ระดับที่ดีที่สุดที่ทหารฝึกใหม่จะเลือกก็คือระดับหก แต่เพราะอย่างนั้นโอกาสที่จะผ่าน คือร้อยละเก้าโอกาสเสี่ยงตายร้อยละยี่สิบหก ตอนนี้เจ้ายังอยู่ที่ระดับสี่ โอกาสที่จะผ่านมีน้อยนิดและโอกาสที่จะตายมีมากมายมหาศาล เมื่อเจ้าเริ่ม ข้าไม่อาจให้สิทธิพิเศษใดๆ ได้ เจ้าคิดเรื่องนั้นดีแล้วหรือ?”
“ฉันคิดดีแล้ว” หน้าของถังเทียนแสดงระดับวุฒิภาวะที่มุ่งมั่นที่คนในรุ่นอายุเดียวกันมองไม่เห็น “เริ่มกันเลย”
ถังเทียนยกฝ่ามือทั้งสองแล้วใช้พลังของเขาผลักเปิดประตูใหญ่
ประตูใหญ่ไม่ได้หนักเหมือนกับที่ถังเทียนคาดไว้มันค่อยๆ เปิดออก
เป็นเหมือนกับหลุมดำมีไฟหลายดวงลอยอยู่รอบๆ มองดูคล้ายดวงดาวกลางนภาในยามราตรี ช่างเป็นภาพที่สวยงามมาก
“งดงามมาก!” ถังเทียนตะลึงปากอ้าค้าง
แสงไฟที่ดูเหมือนดวงดาว แต่ในทันใดนั้นพวกมันก็เริ่มสว่างแรงกล้าขึ้นทีละดวง โลกประหลาดและไม่เป็นที่รู้จักปรากฏอยู่ต่อหน้าถังเทียน
ในห้องนั้นว่างเปล่ากว้างขวางมีดวงดาวทุกขนาดลอยอยู่ ดวงดาวใหญ่ก็มีขนาดใหญ่มหึมาและมีตะกร้าเล็กตะกร้าเล็กมีขนาดเท่ากับไข่นกพิราบ ทั้งหมดกำลังลอยอยู่กลางอากาศคลื่อนที่เอื่อยๆ พวกมันจะปล่อยบอลแสงมีสีต่างๆ บางลูกก็สว่างบางลูกก็สลัว บางลูกสีฟ้าบริสุทธิ์ ขณะบางลูกแดงเหมือนโลหิต
มีดาวใหญ่และเล็กประมาณ12 ดวง ทั้งหมดนั้นดูเหมือนจิตรกรรมที่งดงาม
ปิงดูพลุกพล่านเล็กน้อย
※※※※※※※※※※※※※※
แม้ว่าสนามซ้อมขจัดจุดอ่อนจะถูกถังเทียนทำพังไปแล้ว พื้นที่ว่างก็ยังเหมาะสมเป็นพื้นที่ฝึกฝนอยู่ดี
ท่านผู้เฒ่ามองดูคนทั้งห้าที่อยู่ต่อหน้าเขาและกล่าวว่า “จากวันนี้เป็นต้นไปตลอดเส้นทางสู่หมู่ดาวเพอร์ซูส ฉันจะมาแนะนำวิชาฝีมือให้พวกเธอที่นี่ ฉันหวังว่าพวกเธอทุกคนจะเรียนรู้ได้ดีและฝึกฝนอย่างหนัก”
อาโมรี่มองดูรอบๆอย่างตื่นเต้น “แล้วถังพื้นฐานเป็นยังไงบ้าง? ทำไมเขาไม่อยู่ที่นี่?”
สีหน้าของผู้เฒ่าไม่เปลี่ยน“สถานะของถังเทียนค่อนข้างละเอียดกว่าเล็กน้อย เขาจะได้รับคำแนะนำจากมือชั้นอาชีพคนอื่น”
ทุกคนตกใจดูเหมือนว่า พลานุภาพของถังเทียนจะส่งผลต่อข่งต้าเริ่นและข่งต้าเริ่นคงตัดสินใจสอนเขาเป็นการส่วนตัว ความสงสัยของทุกคนหายไป และเริ่มฟังผู้เฒ่าอย่างตั้งใจ
ผู้เฒ่าหัวเราะในใจแนะนำพิเศษอะไรกัน? นี่เป็นแค่วิธีหลอกอำเด็กหนุ่มสาวที่ไร้เดียงสา เขาไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อเด็กหนุ่มที่พรสวรรค์ย่ำแย่ เกี่ยวกับเรื่องสายเลือด ข่งต้าเริ่นกับเขาก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ ดังนั้นยังจะมีคำแนะนำอะไรได้?
คงต้องปล่อยให้เขาทำลายตัวเองก็แล้วกัน
“แม้ว่าพรสวรรค์ของพวกเธอจะดีก็ตาม แต่เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่พวกเธอเติบโตมา ก็คือดาวอู่อันเป็นแค่ดาวเคราะห์ย่อยจึงมีวิชาฝีมือตกทอดมาเป็นจำนวนน้อย มาตรฐานไม่ค่อยสูง ดังนั้นพอเปรียบเทียบพวกเธอและคนมีพรสวรรค์วัยเดียวกันจากที่อื่น มาตรฐานของพวกเธอจึงค่อนข้างแย่ไปนิด”
คำพูดของผู้เฒ่าทำให้พวกเขาเครียด
พวกเขาเชื่อว่าสิ่งที่ผู้เฒ่าพูดเป็นความจริง และพวกเขาก็รู้มาเป็นเวลานานแล้ว แม้ว่าพลังของพวกเขาในเมืองซิงฟงจะถูกมองว่าอยู่ในระดับที่ดี แต่เมื่อเทียบกับดาวอื่นและสวรรค์วิถีแล้วแทบจะไม่มีอะไรเลย
อย่างไรก็ตามนอกจากกู่เซี่ยวหวี่แล้ว คนที่เหลือนั้นเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นเกินกว่าคนในรุ่นเดียวกัน แม้ว่าสภาพจิตใจพวกเขาจะเพิ่มความเข้มงวดขึ้นบ้างแต่พวกเขาก็ไม่กลัวแม้แต่น้อย
ดวงตาของผู้เฒ่ามีประกายพึงพอใจ แม้ว่าเด็กๆเหล่านี้จะมีระดับเริ่มต้นที่ต่ำ แต่พวกเขาไม่เหลาะแหละและมีความภูมิใจต่างจากพวกอัจฉริยะที่มาจากหมู่ดาวใหญ่ๆ
“เอาล่ะ, อย่างนั้นเรามาเริ่มกัน” ผู้เฒ่ากล่าว
※※※※※※※※※※※
“ถัง! พลังของเจ้ายังอ่อนแอเกินไป” เสียงของปิงราบเรียบปกติ แต่เขาก็ชำนาญมากในหลักสูตรฝึกฝนทหารใหม่ “กองทัพดาวกางเขนใต้มุ่งเป้าและเลือกทหารเกณฑ์ที่มีระดับปราณเที่ยงแท้ในระดับหกหรือมากกว่า ดังนั้นพื้นฐานพลังของเจ้าจึงยังไม่เพียงพอ ฉะนั้นการฝึกอบรมจำนวนมากสำหรับเจ้า ก็จะยากและท้าทายมากยิ่งขึ้น”
“เราจะเริ่มกันตรงไหน?” ถังเทียนกระตือรือร้นและไม่กลัวแม้แต่น้อย
“รับการทุบตี” ปิงพูดราบเรียบ เมื่อเขาพูดจบประโยค เขาโบกแขนและดวงดาวทั้งหมดในห้องก็เริ่มหมุนคว้างอย่างรวดเร็วทันที
“ทุบตี....รับการทุบตีเหรอ?” สีหน้าของเขาแข็งชะงักค้างและพูดตะกุกตะกักอย่างช่วยไม่ได้
ดาวดวงเล็กที่สุดปรากฏอยู่ในมือปิง
ถังเทียนสามารถเห็นได้ว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวเขามีการเปลี่ยนแปลง เขามองดูรอบๆ อย่างไร้ความรู้สึก ไม่เห็นอะไรเลยในความมืด ลูกบอลแสงนับไม่ถ้วนมารวมตัวกันหนาแน่นเหมือนทะเลแสงไฟ
ปิงที่ลอยตัวอยู่เหนือศีรษะเขาพูดออกมาทันที
“ทักษะป้องกันการทุบตีร่างกาย สำหรับทหารแล้วก็คือทักษะพื้นฐาน ในสงครามนักสู้ผู้สามารถต้านทานพลังจู่โจมกระแทกระดับสูงได้ย่อมมีโอกาสชนะได้สูง ยิ่งระดับสูงก็ยิ่งยากจะฆ่าฝ่ายตรงข้ามได้ ในสงครามที่ยืดเยื้อหรือสงครามที่จำนวนพลลดน้อยลง ความสามารถที่แข็งแกร่งทนต่อการทุบตีได้ขณะที่ถูกโจมตีอย่างรุนแรง ขณะที่สามารถรักษาความสงบใจเย็นอดทนรับการโจมตีไม่เปลี่ยนแปลง หรือที่ทำร้ายเขาอย่างใดอย่างหนึ่ง นั่นคือว่าเป็นพื้นฐานในพื้นฐาน”
ปิงจ้องมองว่างเปล่าและโดยที่มิทันจบประโยคบอลแสงล้อมรายรอบถังเทียนก็เริ่มพุ่งอย่างบ้าคลั่งเหมือนฉลามได้กลิ่นเลือด
ถังเทียนสะดุ้งตกใจ “เฮ้ เฮ้ เฮ้, อาปิงฉันมาที่นี่เพื่อฝึกนะ ไม่ใช่มาโดนทุบตี..โอ๊ย...”
บอลแสงลูกหนึ่งชนใส่หลังถังเทียน ความแรงเทียบเท่ากับแรงของถังเทียนเอง ดูเหมือนถังเทียนจะรู้สึกเจ็บตัวจากพลังกระแทกใส่เขาเอง
ขาของเขาแกว่ง
ปัง ปัง ปัง!
บอลแสงจากทุกทิศพุ่งผ่านไปมาเหมือนพายุ
ถังเทียนร้องด้วยความเจ็บปวดแต่เขาไม่สามารถเปล่งคำพูดได้ และใช้หมัดพิฆาตน้อยที่มาถึงที่ด้านหน้าของเขา
บอลแสงยิงออกมาลูกแล้วลูกเล่า
อย่างไรก็ตามถังเทียนไม่ทันมีปฏิกิริยา
“จงใส่ใจโคจรปราณเที่ยงแท้ของเจ้า...”
“จงใส่ใจจังหวะป้องกันของเจ้า....”
“จงใส่ใจหลบเลี่ยงอวัยวะที่สำคัญ....”
ปิงพูดเบาๆด้วยน้ำเสียงที่แข็งอยู่เหนือตัวถังเทียน ขณะที่มีเสียงร้องโวยวายของถังเทียนดังตามมา เตือนให้เขาระลึกถึงความทรงจำเก่าก่อน