Ep.444 - หีบสมบัติในทะเลสาบลาวา
1/2
Ep.444 - หีบสมบัติในทะเลสาบลาวา
ฮังอวี่จ้องไปที่ถ้ำขนาดใหญ่เบื้องหน้าเขา
ในถ้ำใต้ดิน ลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงกำลังเผาไหม้ ราวกับประตูสู่ขุมนรก
เขาพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ไม่ผิดแล้ว เป็นที่นี่แหละ พวกเราโชคดี สามารถพบที่นี่ก่อนการปะทุของภูเขาไฟครั้งที่สอง มันช่วยให้เราประหยัดเวลาได้มาก”
เอาจริงๆทางเข้าเขาวงกตลาวานั้นไม่ได้มีแค่แห่งเดียว ทั่วทั้งเทือกเขาสีชาดอันกว้างใหญ่ มีถ้ำใต้ดินถูกซ่อนอยู่มากมาย อย่างไรก็ตาม แม้จะมีบางส่วนดูเหมือนเป็นทางเข้า แต่จริงๆแล้วเกือบทั้งหมดเป็นทางตัน
เพราะงั้นจึงไม่มีทางเข้าสู่เขาวงกตได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
ประเด็นก็คือที่ฮังอวี่เลือกที่นี่ เพราะมันเป็นทางเข้าที่ง่ายที่สุดในบรรดาทางเข้าทั้งหมด และยังเป็นวิธีที่จะไปถึงที่หมายได้เร็วที่สุดอีกด้วย
หากไม่มีอะไรผิดพลาด เขาจะสามารถไปถึงได้ก่อนที่กองทหารอื่นๆ จะมาถึง
ฮังอวี่กล่าวว่า “ทางเดินไปยังถ้ำใต้ดินถูกปิดกั้นด้วยกำแพงไฟ ให้ใช้ปราณสงคราามปัดเป่าเพื่อเปิดทาง และควรใส่ใจเรื่องการรักษาพลังชีวิตของสมุนทหาร อย่าปล่อยให้พวกเขามาตายที่นี่”
“เอาล่ะไปกันต่อ”
เมืองธารทะเลทรายมีทหารเทคนิคลับ นอกจากนี้ยังมีสมาชิกมนุษย์อีกกว่า 20 - 30 คนที่ได้เรียนรู้สกิลปัดเป่าแบบเดียวกัน หากทุกคนกระจายกันปัดเป่าภายในถ้ำ เปลวเพลิงที่เดิมลุกโชนขวางทาง ก็ราวกับถูกหม้อน้ำใบใหญ่รดใส่ ส่วนใหญ่ดับลงในพริบตา
ฮังอวี่ ฉูเทียนหัว จ้าวหมิง และนักรบที่ทรงพลังคนอื่น ๆ เปิดทางข้างหน้า พวกเขาผลัดกันปัดเป่าไฟที่อยู่ใกล้เคียงด้วยสกิลปราณสงคราม ในที่สุดท่ามกลางเปลวเพลิงอันร้อนระอุ ก็สามารถผ่านเส้นทางได้ตามปกติ เปิดทางให้สมุนทหารบนลังม้า เดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว
“ดีมาก”
“พวกเราต้องเกาะกลุ่มกันไว้”
“ที่นี่อันตรายมาก!”
“ระวังทุกย่างก้าวของคุณ ห้ามประมาทโดยเด็ดขาด!”
กองทัพมนุษย์เดินเข้าไปในเขาวงกตลาวาที่มีโครงสร้างซับซ้อนใต้เทือกเขาสีชาด
ดวงตาของเจียงหนานกวาดมองไปรอบ ๆ
ในวิสัยทัศน์เต็มไปด้วยทะเลสาบลาวาที่กำลังพ่นลมร้อน
แม้แต่บนพื้นดินก็ไม่ปลอดภัย 100%! มีเสาเพลิงปะทุขึ้นมาได้ตลอดเวลา ทะลักออกมาจากรอยแตกแขนงบนพื้น เหมือนหอกพุ่งชนเพดานถ้ำ เพียงมองก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันและพลังทำลายล้างสูง
นอกจากนี้ ยังมีมอนสเตอร์จำนวนมากเดินสัญจรไปมา นอกเหนือจากมอนสเตอร์ทรายสีชาดที่เคยเห็นภายนอกแล้ว ในทะเลสาบลาวายังเป็นที่อยู่อาศัยของมอนสเตอร์อันทรงพลังจำนวนมากที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน พวกมันมีความเสี่ยงมากน้อยสลับกันไป แต่ที่แน่ๆทุกการโจมตีของพวกมันเกิดจากธาตุไฟ
“มีกับดักธรรมชาติอยู่ทุกที่”
“ที่นี่น่ากลัวเกินไป!”
เจียงหนานรู้สึกกดดันอย่างมาก
หวังเอ๋อยังกล่าวว่า “ฮ่ง เจ้านาย ข้างหน้ามีจำนวนของมอนสเตอร์เยอะมาก”
เสี่ยวไป๋รีบเข้ามารายงานเช่นกัน “พี่ชาย พบทางแยกเจ็ดทาง แต่ละทางมีฝูงมอนสเตอร์คอยเฝ้าอยู่”
ฉูเทียนหัวกล่าวว่า “สภาพแวดล้อมในสถานที่นี้รุนแรงเกินไป จำนวนมอนสเตอร์ก็เยอะมาก ถ้าต้องการสำรวจทีละเส้นทาง มันจะเสียเวลาและพลังงานมากเกินควร”
มันก็ต้องเป็นอย่างน้ันอยู่แล้วไหม?
นี่แหละคือเหตุผลที่มันถูกเรียกว่าเขาวงกตลาวา ถ้าเดินมั่วซั่วแบบไร้สมอง สุดท้ายจะติดอยู่ในกับดักและตาย
ฮังอวี่กล่าวว่า “เหล่าจ้าว เหล่าฉู จากนี้ไปให้พวกคุณเป็นคนนำทัพ พาทีมไล่กวาดล้างมอนสเตอร์ ผมจะล่วงหน้าไปสำรวจ หาเส้นทางที่ถูกต้อง และระบุตำแหน่งของกับดักให้”
จ้าวหมิงพอได้ยินก็ค้านทันที “แบบนั้นไม่เหมาะมั้ง ยังไงซะนายก็เป็นผู้นำของพวกเรา!”
“ค่าคุณสมบัติความว่องไวของผมสูงที่สุดในหมู่พวกเรา แล้วผมยังมีสกิลสายสอดแนมและพรางตัว สามารถเทเลพอร์ตได้ โจมตีระยะไกลได้ ฉะนั้นเหมาะที่จะรับหน้าที่นี้ที่สุด”
ฮังอวี่กล่าวต่อว่า “ไม่ต้องกังวล ด้วยค่าคุณสมบัติต้านทานไฟของผม บวกกับหัวใจของราชาธาตุ ถึงเจออันตรายก็สามารถหนีออกมาได้”
ก็จริงของเขา นี่ทำให้ทุกคนเถียงไม่ออก
“เอาล่ะเจ้าหมา ทิ้งร่างแยกเอาไว้สองร่าง”
ฮัสกี้แยกร่างสองร่างทันที ส่วนร่างจริงกับเสี่ยวไป๋ในสภาพภูติตัวเล็กติดตามฮังอวี่ไป ออกจากกองทัพมุ่งหน้าสู่ส่วนลึกของเขาวงกตลาวา
หลังจากนั้น ฮังอวี่คอยสั่งการจากระยะไกล ชี้นำกองทัพมนุษย์ให้ไปในทิศทางที่ถูกต้อง
ภูมิประเทศและแผนที่ของเขาวงกตลาวาอยู่ในหัวของฮังอวี่อยู่แล้ว ทุกคนแค่ต้องทำตามคำแนะนำของเขา ก็จะหลีกเลี่ยงเส้นทางที่ไม่ถูกต้องหรือหลีกเลี่ยงอันตรายร้ายแรงบางอย่างได้
ในทางกลับกัน ฮังอวี่จะเป็นคนพาเสี่ยวไป๋กับหวังเอ๋อออกสู้ ด้วยความเร็วของพวกเขา พวกมอนสเตอร์ที่ขวางทางล้วนถูกเก็บกวาดหมดจด
และเมื่อมันเป็นการสู้คนเดียวไม่ยืมมีใคร ทำให้ระหว่างทางได้รับแต้มวิญญาณเป็นจำนวนมาก หวังเอ๋อวิ่งสี่ขาตามฮังอวี่ไปติดๆ
“ฮ่ง เปิ่นหวังคิดว่าที่เจ้านายแยกตัวจากทีม คงไม่ใช่เพื่อสอดแนม แต่มีแผนอื่นซะมากกว่า!”
สติปัญญาของหวังเอ๋อนั้นสูงอย่างไม่น่าเชื่อ
อีกทั้งมันยังเป็นลูกน้องที่ติดตามเขาอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ดังนั้นมันย่อมล่วงรู้ความคิดของฮังอวี่
หวังเอ๋อรู้อยู่แล้วว่าฮังอวี่มีสกิลพรสวรรค์ด้านความรู้ ตัดสินจากผลงานและการกระทำที่ผ่านๆมา เกรงว่าฮังอวี่คงล่วงรู้ทุกอย่างอยู่แล้ว การที่จงใจออกจากทีม แสดงว่าต้องมีแผนอะไรในใจแน่นอน
“ฮี่ ฮี่ เจ้าหมานายนี่ฉลาดขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ ลองเดาดูสิว่าทำไมเจ้านายแกถึงออกจากทีม”
“ฮ่ง นี่ยังต้องเดาอีกหรอ? ด้วยนิสัยของเจ้านาย เปิ่นหวังเดาว่าต้องเป็นเรื่องผลประโยชน์บางอย่างแน่ๆ และผลประโยชน์ที่ว่าสามารถรับได้แค่คนเดียวเท่านั้น!”
เจ้าหมานับวันยิ่งพูดจากำเริบเสิบสาน สงสัยฮังอวี่คงต้องไปทบทวนวิชา 100 วิธีปรุงเนื้อสุนัขขึ้นใหม่ซะแล้ว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหมาพูดถูก ในเขาวงกตลาวามีของดีมากมาย หากฮังอวี่ลุยเดี่ยว ด้วยพลังรบในตอนนี้ เขาสามารถผ่านพื้นที่ที่มีมอนสเตอร์หนาแน่น แล้วเข้าไปถึงที่เก็บสมบัติได้โดยไม่ใช่เรื่องยาก
แต่หากเขายกทัพใหญ่ คงไม่มีทางเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัว
เป็นผลให้แผนในตอนนี้คือ ระบุเส้นทางที่ถูกต้องแก่เหล่าจ้าวและเหล่าฉู ให้พวกเขาเก็บกวาดมอนสเตอร์และนำกองทัพตรงไปตามทางที่ถูกต้อง
ส่วนฮังอวี่ปลีกตัวออกไปในทางแคบๆ มุ่งหน้าสู่ห้องที่มีสมบัติล่วงหน้า กวาดเอาของดีไปพร้อมกับการฟื้นคืนชีพของราชาปีศาจทรายสีชาด แล้วค่อยไปรวมตัวกับทุกคนอื่นครั้ง เข้าท้าทายราชาปีศาจทรายสีชาดผู้ทรงพลังอย่างเป็นทางการ
...
เมื่อได้สังหารมอนสเตอร์เพียงลำพัง มันทำให้แต้มวิญญาณของฮังอวี่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
92%, 93%, 94% ......
ด้วยอัตราเร็วนี้ ฮังอวี่จะอัพเลเวลได้ในไม่ช้า!
แต่จู่ๆหวังเอ๋อก็ตะโกนด้วยความประหลาดใจ “ฮ่ง เจ้านาย เปิ่นหวังรู้สึกได้ มีตัวตนที่แกร่งเป็นพิเศษอยู่ข้างหน้าเรา พลังรบของมันทัดเทียมกับทรราชขุมนรกในชั้นสามของคุกโบราณ”
ทรราชย์ขุมนรกคือมอนสเตอร์ระดับทรราชย์ขั้นซิลเวอร์เลเวล 15
ในเมื่อกลิ่นอายของมอนสเตอร์เบื้องหน้าทัดเทียมกับเจ้าหมอนั่น แสดงว่ามันต้องอยู่ในระดับทรราชย์ขั้นซิลเวอร์เลเวล 15 เช่นกัน
ซึ่งพลังรบของขุนนางใหญ่ ส่วนใหญ่แล้วอยู่ในระดับทรราชย์ขั้นบรอนซ์เท่านั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะโค่นมอนสเตอร์ระดับทรราชย์ขั้นซิลเวอร์เลเวล 15 ในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว
ฮังเสี่ยวไป๋รายงาน “พี่ชาย ข้างหน้าคือช่องเขาใต้ดิน มีมอนสเตอร์ฝูงใหญ่ปิดกั้นเส้นทางของพวกเรา ในบรรดาพวกมันมีหลายตัวที่เป็นประเภทธาตุ มีประสาทการรับรู้อันแก่กล้า ต่อให้ใช้งานแดนมายาหรือฝุ่นลวงตา ก็ไม่มีทางเล็ดรอดสายตาพวกมัน”
“อืม ไม่เป็นไร ฉันมีวิธีอยู่”
ฮังอวี่หยิบหนังสือบูชายัญขุมนรกออกมา แล้วจ่ายแต้มวิญญาณ 10000 แต้ม
กลิ่นอายอันน่าสะพรึง มอนสเตอร์ที่มีรูปร่างเหมือนแมลงวันแต่สูงเท่าตึกสามชั้นปรากฏตัวขึ้นทันที มันมีปีกขนาดใหญ่ และบนปีกถูกปกคลุมไปด้วยดวงตา ช่วงหลังมีหางยาว ปากดูดน่าเกลียดถูกปกคลุมไปด้วยหนวดปลาหมึก
อัญเชิญเสร็จสิ้น!
อสูรนรกเลเวล 15 ระดับทรราชย์ขั้นบรอนซ์!
ชั่วพริบตาที่อสูรนรกถูกเรียกออกมา มันได้ดึงดูดความสนใจของมอนสเตอร์วงกตลาวา เมื่อพวกมันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของผู้บุกรุก ก็กรีดร้องและวิ่งเข้าหาทันที
แมลงวันอสูรนรกต้องการโจมตีฮังอวี่ที่อยู่ใกล้ที่สุด แต่ก่อนจะทำแบบนั้นมันก็ถูกโจมตีด้วยไฟ
อสูรนรกโกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที มันกางปีกใหญ่ที่เต็มไปด้วยดวงตา เปิดตาทุกดวงและยิงลำแสงตอบโต้ เส้นแสงราวกับหยาดฝนตกลงบนฝูงมอนสเตอร์
อสูรนรกปกติแล้วทรงพลังมาก! เป็นผลให้เกิดผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสมากมาย!
ความวุ่นวายจากการต่อสู้นี้ ยิ่งดึงดูดฝูงมอนสเตอร์เข้ามา
มอนสเตอร์นับร้อนนับพัน คืบคลานมายังตำแหน่งของอสูรนรก
และอาศัยจังหวะนี้
ฮังอวี่พาเสี่ยวไป๋กับหวังเอ๋อใช้ระบำเงา จู่โจมมุมอับ และเทคนิคบลิงค์หรือกระทั่งหนึ่งกระบี่ล่าแสง พุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ภายใต้การปกปิดโดยฝุ่งลวงตาของเสี่ยวไป๋ กระบวนการทั้งหมดไม่ใช้ความพยายามมากนัก ฝ่าช่องทางที่มีการเฝ้าระวังแน่นหนาไปอย่างไม่ยากเย็น
ทะเลสาบลาวาขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น
ฮังอวี่เปิดใช้งานเทคนิคตาเหยี่ยวเพื่อมองไปยังใจกลางทะเลทสาบ
เขาพบหีบสมบัติระดับสูงด์อยู่ใจกลางทะเลสาบลาวาอย่างชัดเจน
เจอแล้ว!
นี่เป็นหนึ่งในเป้าหมายของฮังอวี่!
แม้หีบสมบัตินี้จะมีขนาดค่อนข้างเล็ก แต่ตัดสินจากคุณภาพของมัน นี่เหมือนกับหีบสมบัติขนาดใหญ่ที่ก้นทะเลสาบในห้องบอสทรราชขุมนรกในชั้นที่สามของคุกโบราณ
ณ ขณะนี้
ทะเลสาบเงียบสงบ มีเพียงหีบสมบัติตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว
คล้ายกับว่า ตราบใดที่โบยบิน ข้ามผิวทะเลสาบ การรับหีบสมบัติก็เหมือนเรื่องง่าย
อย่างไรก็ตาม ฮังอวี่รู้ดี หีบสมบัติระดับนี้ ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ได้มาโดยง่าย มันแฝงไว้ด้วยอันตรายรอบด้าน!