ตอนที่ 62 รอพวกเจ้ามานานแล้ว
“เจ้า?” เฉินถู่หาวโกรธจัดจนแทบกระอักเลือด เขาทำหน้าบิดเบี้ยวถมึงทึงตะโกนอย่างน่ากลัวว่า “ข้าจะฆ่าเจ้า!”
“ฝันเอาไว้เป็นเรื่องดีเสมอ” เย่ว์หยางยักไหล่และหันไปรอบๆ “ฮุยไท่หลาง, แกเล่นกับเจ้าตัวตลกนี่สักครู่เถอะ แม้ว่าเจ้าตัวตลกนี่จะอ่อนแอไปนิด แต่เขาก็ยังรู้วิธีเล่นตลก…”
ฮุยไท่หลางหูตั้งทันทีเมื่อได้ยินดังนั้น มันเชิดหน้าหอนใส่ท้องฟ้าแล้วมองหามันติคอร์จากนั้นกระโจนตรงไปหามันทันที
แม้ว่ามันติคอร์ชั้นทองแดงระดับ 3 จะมีระดับที่ต่ำกว่าฮุยไท่หลาง แต่ภายใต้การชี้นำของเฉินถู่หาว มันคำรามอย่างไม่เกรงกลัวเผชิญหน้ากับฮุยไท่หลาง มันแยกเขี้ยวแหลมคมและพยายามกัดขาหลังของฮุยไท่หลาง ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่ามันเป็นอสูรที่ทำสัญญา มันอาจเลือกโจมตีที่คอหอยของฮุยไท่หลางแทน การพยายามกัดหมาป่าปีศาจหลังเหล็กที่ปราดเปรียวมากและมีระดับสูงกว่ามัน เป็นการยากมากกว่าปกติ แต่เฉินถู่หาวเพิ่มกลยุทธ์ในสู้เข้าไปด้วย และเขาได้เปรียบที่รู้จุดอ่อนของสัตว์อสูรชนิดต่างๆ ในโรงเรียน เขาได้เรียนรู้ทักษะในการตอบโต้สัตว์อสูรที่แคล่วคล่องว่องไวอย่างสุนัขป่า, สุนัขธรรมดา, สุนัขจิ้งจอกและอื่นๆ
หนึ่ง คอหอย, สอง กระดูกสันหลัง สาม ขา
เพื่อจะฆ่าสัตว์อสูรที่ปราดเปรียวมากกว่าอย่างสุนัขป่า, สุนัข, สุนัขจิ้งจอกที่ใหญ่กว่าสัตว์อสูรประเภทสิงโต, เสือโคร่ง หรือเสือดำที่อาศัยพลังที่แท้จริง จะต้องโจมตีจุดอ่อนใหญ่ที่สุดของคู่ต่อสู้อย่างคาดไม่ถึง ทำลายฝ่ายตรงข้ามด้วยวิธีพิเศษ
คอของหมาป่าปีศาจหลังเหล็กไม่สามารถกัดได้ และสันหลังของมันก็ไม่มีจุดอ่อน ดังนั้นจึงต้องทำลายแบบพิเศษ และกำจัดกรงเล็บของมัน
มิฉะนั้น ด้วยความคล่องแคล่วของฮุยไท่หลาง มันติคอร์ที่มีระดับต่ำกว่า มีแต่จะถูกมันล่อหลอกให้เหนื่อยตาย เฉินถู่หาวมีความมั่นใจในมันติคอร์ของเขา ขณะที่ฮุยไท่หลางเป็นสัตว์อสูรที่ไม่ได้ทำสัญญา ไม่ว่าฮุยไท่หลางจะฉลาดแค่ไหน หากปราศจากคำสั่งของเจ้านาย มันก็ได้แต่พึ่งพาสัญชาตญาณของตัวเองเท่านั้น แม้ว่ามันจะมีระดับสูงกว่ามันติคอร์ของเขา มันก็ยังไม่สามารถเอาชนะมันติคอร์ที่เขาใช้ภูมิปัญญาเขากำกับอยู่ด้วย
ในสถาบันฉางจิง มีคำพูดยอดนิยมว่า : เฉพาะอสูรที่ทำสัญญาแล้วเท่านั้นถึงจะเรียกได้ว่าสัตว์อสูรรบ ถ้าไม่อย่างนั้น พวกมันก็เป็นแค่เพียงสัตว์ป่า
ทันทีที่ฮุยไท่หลางลงยืนบนพื้น มันกระโดดกลับอย่างรวดเร็ว มันใช้เล็บข่วนไปที่ปากใหญ่ของมันติคอร์ที่ถอยหลบไม่ทัน
เลือดไหลออกทันที เมื่อมันติคอร์โกรธพยายามกัดโต้ตอบ ฮุยไท่หลางก็โดดขึ้นไปในอากาศแล้ว หลบหลีกการจู่โจมของมันติคอร์อย่างคล่องแคล่ว ในทันทีที่มันติคอร์หันมาโจมตี ฮุยไท่หลางใช้กรงเล็บตะกุยจนเป็นรอยเลือดที่หลังของมันติคอร์….
พวกทหารรับจ้างพากันน้ำลายยืดพลางชมดู เหมือนกับจะคาดหวังจากหมาป่าปีศาจหลังเหล็กชั้นทองแดงระดับ 4
แม้ว่าจะอยู่ในระดับที่สูงกว่า มันเป็นไปได้ที่จะไม่สนใจความแตกต่างของขนาดและกำจัดมันติคอร์ชั้นทองแดงระดับ 3 ให้ได้เด็ดขาด ในระดับนี้มันเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว พึ่งพาสัญชาตญาณในการต่อสู้ จะเป็นอย่างไรถ้ามันทำสัญญาและมีเจ้านายสั่งการ? นั่นจะไม่ทำให้พลังของมันเพิ่มขึ้นหลายเท่าหรือ? ถ้าเพียงแต่พวกเขาสามารถทำสัญญากับสัตว์อสูรอย่างหมาป่าปีศาจหลังเหล็กได้ มันเป็นเรื่องแย่เกินไปที่สัตว์อสูรชั้นทองแดงไม่สามารถทำสัญญาได้ทั้งที่มันเต็มใจ ไม่ต้องพูดถึงนักสู้ชั้นผู้กล้าระดับ 2, แม้แต่นักสู้ชั้นวีรบุรุษระดับ 3 ก็ยังกระหายที่จะทำสัญญากับมัน หมาป่าปีศาจหลังเหล็กตัวนี้จัดอยู่ในชั้นทองแดงระดับ 4 อย่างน้อยอาจต้องได้นักสู้ชั้นยอดฝีมือระดับ 4 มาทำสัญญากับมัน…
“ฮุยไท่หลาง, แก..เจ้าโง่ แกเอาแต่ใช้วิธีเกาก้นมันอยู่ได้? ผิวของมันติคอร์หนา แกตั้งใจว่าจะสู้กับมันไปอีกกี่พันปี? แกน่าจะกัดลูกป๋องแป๋งกับพวกสวรรค์ของมันให้กระจุยสิ รู้จักสิ่งที่เรียกว่าจุดสำคัญไหม? เย่ว์หยางตะโกนลั่น ทุกคนที่ได้ยินคำพูดของเย่ว์หยางถึงกับเหงื่อแตกพลั่ก
กัดพวงสวรรค์ให้กระจุยเลยเหรอ?
ขณะที่ทุกคนคิดกลยุทธ์นี้ ทุกคนรู้สึกถึงลมหนาวที่พัดเข้าไปในกางเกงพวกเขา
แม้ว่าในใจพวกเขาจะไม่ยอมรับ แต่ถ้ากลยุทธ์นี้สำเร็จผล มันเป็นเรื่องเจ็บปวดที่สุด เป็นการทำลายล้างศัตรูมากที่สุด
เดิมทีเย่ว์หยางไม่ได้ต้องการให้ฮุยไท่หลางเข้าสู้ ตัวเขาต้องการลุยเข้าหาและล้มเฉินถู่หาวด้วยหมัดเขากระทั่งฟันของเฉินถู่หาวกระเด็นตกพื้นทั้งหมด จากนั้นเหยียบเขาอย่างไม่ปราณีเอาให้กระดูกหักไปทั้งร่าง จากนั้นก็ฉี่ใส่เขา สุดท้ายเขาจะให้เฉินถู่หาวคุกเข่าต่อหน้าเขาเหมือนสุนัขและให้เลียรองเท้าของเขา ร้องไห้ขอให้เขาไว้ชีวิต แต่ว่ามีคนมากกว่า 1 คนปรากฏตัวมาสมทบทันที หญิงงามชุดไหม เจ้าสำนักเมืองโล่วฮัวแอบเข้ามาสังเกตดูด้วยความอยากรู้อยากเห็นเหมือนเด็กทารก
นอกจากนาง ยังมีคนอื่นอีก
คนผู้นี้ดูเหมือนคนธรรมดา เป็นคนประเภทที่ไม่มีใครจำได้ต่อให้เขาเดินผ่านไปมาถึง 100 เที่ยว
อย่างไรก็ตาม ภายใต้ญาณทิพย์ของเย่ว์หยาง เขาเห็นว่าคนผู้นี้มีพลังแข็งแกร่ง คนผู้นี้อาจอ้างความเหนือชั้นกว่ากับพวกทหารรับจ้างกลุ่มใหญ่ และเขาแค่อันตรายน้อยกว่าหญิงงามชุดไหมเจ้าสำนักเมืองโล่วฮัวเท่านั้น
ดูผิวเผิน บุรุษผู้นี้แต่งกายเหมือนทหารรับจ้างธรรมดา และไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับเขา
เย่ว์หยางไม่ทันได้สังเกตการปรากฏตัวของเขาตั้งแต่แรก เมื่อตอนที่โดดลงมาก่อนทำลายหัวหุ่นติดดาบทำให้คนผู้นี้มีตาฉายประกายและเผยให้เห็นตัวตนว่าเขาเป็นคนแข็งแกร่ง
สิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางตื่นตัวก็คือว่าคนผู้นี้ถือแก้วผลึก 6 เหลี่ยมแปลกๆ เล็งไปที่สนามต่อสู้ เหมือนกับว่าเขากำลังบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมด
ความเคลื่อนไหวของคนผู้นี้ทำให้จิตใจของเย่ว์หยางสงบลงทันที
มันจำเป็นต้องสั่งสอนเฉินถู่หาวให้หลาบจำ หากแต่เขาไม่สามารถเปิดเผยความลับที่เขาเป็นนักสู้ชั้นปราณก่อกำเนิดคนใหม่ได้
ดังนั้น เย่ว์หยางจึงวางกับดักเขา
เขาจะหลอกทุกคนที่นี่ และให้คนฉลาดเหล่านี้ยึดถือความรู้สึกลวงนั้นอย่างจริงจัง พวกเขาจะไม่มีทางสงสัยว่าเขาเป็นนักสู้ชั้นปราณก่อกำเนิด หลังจากนี้..แน่นอน เขาจึงได้ส่งฮุยไท่หลางออกไปสู้กับมันติคอร์ของเฉินถู่หาวก่อน
“ระวัง! เฉินถู่หาวอาจใช้ม้วนเวทพันธสัญญาเมื่อฮุยไท่หลายได้รับบาดเจ็บ พลังวิญญาณของสัตว์อสูรจะอ่อนแอ เมื่อมันเจ็บหนัก จิตตานุภาพที่อ่อนแอของมันจะทำให้คนอื่นฉวยโอกาสทำสัญญากับมันได้” เย่คงรีบมาอยู่ข้างๆ เย่ว์หยางและเตือนเขาด้วยเสียงเบา แต่ พอเห็นตาของเย่ว์หยางที่มีประกายและรอยยิ้มในนั้น เขาถึงได้รู้ว่าเขากังวลเรื่องเล็กน้อยมากเกินไป เขาชะงักไปชั่วขณะและพูดอีกว่า “ข้ายังคงสงสัยว่าทำไมเฉินถู่หาวถึงมุ่งเป้าไปที่เย่ว์ปิง ดังนั้น… เป็นไปได้ว่าคงเพราะการแข่งขัน ตระกูลเฉินถู่มีเด็กผู้หญิงที่มีพรสวรรค์ยิ่งใหญ่คนหนึ่งรุ่นราวคราวเดียวกับเย่ว์ปิง ทั้งสองคนเป็นที่จับตาของนิกายศาลาเซียนจันทราเหนือและกลายเป็นตัวเลือกชั้นยอดให้เป็นผู้เข้าสอบเพื่อให้ได้เข้าศึกษาในนิกายของพวกเขา ดังนั้น ถ้าเฉินถู่หาวเอาชนะพลังของเย่ว์ปิงได้ศาลาเซียนจันทราเหนือก็จะเลือกน้องสาวของเขาให้ได้รับสิทธิ์ก่อน
“เป็นอย่างนั้นเองหรือ” เย่ว์หยางเข้าใจขึ้นบ้างถึงเหตุผลที่เฉินถู่หาวกระตือรือร้นที่จะชวนทีมของเย่ว์ปิงให้ไปยังหอทงเทียนหลังจากได้ฟังเรื่องนี้ มันเป็นเหตุผลที่เขาต้องการทำลายเย่ว์ปิงด้วยมือเขาเอง จนทำให้นางไม่สามารถก้าวหน้าได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากให้นางเข้าไปในหอทงเทียนแล้ว ไม่เพียงแต่จะทำให้นางสอบตกในการเข้าร่วมทดสอบเท่านั้น แต่พลังของนางก็จะตกมากเกินไปด้วย
เฉินถู่หาวกล้ามายับยั้งเย่ว์ปิงอย่างเปิดเผย คงมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลหยานที่คอยสนับสนุนเขาอยู่เบื้องหลัง
ตระกูลหยานยังคงพยายามก้าวข้ามตระกูลเย่ว์มานานแล้ว เพื่อข่มดรุณีอัจฉริยะอย่างเย่ว์ปิง ตระกูลหยานคงไม่ยอมละเลยโอกาสเช่นนี้
สำหรับเย่ว์เยี่ยน เย่ว์หยางไม่ได้ตราหน้าว่าเป็นไปได้ที่เขาจะสมคบคิดกับศัตรู..
หัวใจเย่ว์หยางรุ่มร้อนด้วยความโกรธ แต่ตอนนี้เขายิ้มกว้าง นี่ไม่ใช่การละเล่นเล็กน้อยแล้วหรือนี่? ใครจะไปรู้เล่า? พื้นที่เล่นของเกมนี้ก็คือการต่อสู้กันระหว่างตระกูล เขาจะดูว่าใครสามารถทำลายใครได้กันแน่ และใครจะได้หัวเราะในที่สุด
พอกวาดสายตาไปที่ฝูงคนเสร็จแล้ว เย่ว์หยางถอดเสื้อออกและฉีกเป็นริ้วคล้ายสายผ้า
จากนั้นเขาใช้มันหุ้มเย่ว์ปิงที่ยังหมดสติอยู่
ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ทำให้ทุกคนมึนงง รวมทั้งเย่คงด้วย ใช้ผ้าที่ฉีกห่อตัวเย่ว์ปิง หมายความว่ายังไง?
เย่คงนึกเหตุผลไม่ออก ทุกคนที่สังเกตออกเห็นว่าเย่ว์หยางหน้าเครียดเล็กน้อย ปกติพอพูดแล้วบุรุษผู้นี้จะไม่เคลื่อนไหวแบบสูญเปล่า ทำไมเขาถึงไม่สนกระบวนการต่อสู้ระหว่างฮุยไท่หลางกับมันติคอร์ และมีการเคลื่อนไหวที่ไร้ประโยชน์แบบนี้อีกด้วย? ฉีกชุดของตนมาทำเป็นสายรัดน้องสาวไว้กับตัว ทำอย่างนี้เพื่ออะไร?
มีบ้างบางคนไม่ได้รู้สึกว่าเจ้าเด็กนี่เคลื่อนไหวมั่วๆ เขาจะต้องมีแผนดำเนินการแน่
ปัญหาก็คือ ไม่มีใครเดาออกว่าเขาวางแผนอะไรไว้ นี่คือสิ่งที่ทำให้ทุกคนปวดหัว
การต่อสู้ในสนามต่อสู้ ยังคงดำเนินต่อไป
บาดแผลหลายแห่งมีเลือดหยดปรากฏอยู่บนร่างของฮุยไท่หลาง นี่เป็นเพราะเล็บของมันติคอร์ แม้ว่ามันจะเร็วกว่า แต่ปราศจากจิตสำนึกของเจ้านายช่วย มันไม่สามารถหลบการโจมตีได้ทุกครั้งทำได้แค่เพียงพึ่งสัญชาตญาณ
อย่างไรก็ตาม มันติคอร์ยังมีระดับต่ำและสภาพย่ำแย่กว่าฮุยไท่หลาง
มันติคอร์ได้รับบาดแผล มีเลือดสดๆ ไหลออกมา แม้ว่าจะไม่มีบาดแผลหนัก แต่ความสามารถในการต่อสู้ของมันเริ่มลดลงเล็กน้อย แม้แต่คนตาบอดก็เห็นได้ว่ามันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฮุยไท่หลาง สิงโตชั้นสามัญระดับ 1 อาจจะเอาชนะหมาป่าระดับ 2 ได้ แต่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่สิงโตระดับ 3 จะเอาชนะหมาป่าระดับ 4 ระหว่างสัตว์อสูรที่มีระดับสูงกว่า แค่ต่างกันระดับเดียวก็ทำให้สัตว์อสูรแข็งแกร่งกว่าอีกฝ่ายถึง 2-3 เท่าเลยทีเดียว ไม่ใช่เพียงแค่นั้น สัตว์อสูรระดับสูงชั้นทองแดง ก็มีพลังที่เหลื่อมล้ำกว่ากัน ดังนั้นแม้ด้วยคำสั่งของเจ้านาย มันติคอร์ชั้นทองแดงระดับ 3 ยังไม่สามารถเอาชนะฮุยไท่หลางที่ไม่มีเจ้านายคอยควบคุม ขณะที่มันไม่ได้ทำสัญญา
ใช้หางแมงป่องต่อย”
เฉินถู่หาวไม่ได้ตกใจ ราวกับว่าเขาคาดการณ์ผลเอาไว้แล้ว เขายิ้มเยาะและสั่งให้มันติคอร์ใช้ไม้ตาย หางแมงป่อง
หางแมงป่องนั้นไม่ขยับโจมตีมาตลอดเวลานี้
ภายใต้คำสั่งโจมตีของเฉินถู่หาว มันติคอร์ที่ยังเก็บพลังของมันไว้มานานเริ่มกระโดดไปรอบๆ หางแมงป่องแหวกอากาศไว้ปานสายฟ้าต่อยไปที่ฮุยไท่หลางอย่างแม่นยำ ฮุยไท่หลางกลิ้งหลบหางแมงป่อง ฮุยไท่หลางปล่อยให้หางแมงป่องพันรอบมันทันที ต่อจากนั้นมันใช้ฟันคมกัดลงไปที่ต้นหางมันติคอร์เต็มเหนี่ยว (อัณฑะ) และไม่ยอมปล่อย
พอจุดอ่อนถูกโจมตี มันติคอร์ร้องโหยหวนอย่างน่าสงสาร
หางแมงป่องของมันตกลง แต่ฮุยไท่หลางยังกัดแน่น
เฉินถู่หาวไม่ได้แสดงท่าทีเสียใจ แต่มีพฤติกรรมที่แปลก เขาสั่งให้มันติคอร์กลับ
ฮุยไท่หลางยังใช้เรี่ยวแรงกัดหางแมงป่องทั้งหมด
มันติคอร์ถอยไปอยู่ข้างๆ เฉินถู่ห่าวอย่างเจ็บปวด มันยังร้องครวญครางอย่างน่าสงสาร อย่างไรก็ตาม เฉินถู่หาวไม่ได้ปลอบมัน แต่ล้วงเอาม้วนอักขระเวทออกมาและเปิดออก ม้วนเวทเปล่งแสงสีขาวจ้าครอบคลุมฮุยไท่หลางไว้ “เด็กดี ตอนนี้เจ้าเป็นของข้าแล้ว ข้าไม่ใช่ไอ้สวะนั่น เขาไม่สามารถทำสัญญากับหมาป่าปีศาจชั้นดีได้ ข้าแตกต่างออกไป ข้าเป็นนักสู้ขั้นสูงชั้นวีรบุรุษ มาเถิด..มาทำสัญญากับข้า…”
เย่คงตื่นตระหนก แต่เห็นว่าเย่ว์หยางแค่มองดูอย่างเย็นชาและไม่ขยับอะไร เขารู้สึกผิดหวังทันที
เขารู้ว่าเย่ว์หยางไม่ชอบฮุยไท่หลาง ที่สำคัญคือเขาชอบเตะ ชอบเหยียบมัน
แต่จะยอมปล่อยให้เฉินถู่หาวทำสัญญากับฮุยไท่หลางในลักษณะนี้หรือ? ฮุยไท่หลางไม่ใช่แค่หมาป่าปีศาจหลังเหล็กชั้นทองแดงระดับ 4 เท่านั้น มันยังมีความสำคัญ มันว่าง่ายและพื้นฐานเลยก็คือมันเป็นอสูรชั้นดีที่มีเพียงหนึ่งในหมื่น
แต่เย่คงไม่รู้ว่าจุดสมดุลและจุดวิวัฒนาการสำหรับปราณปีศาจในตัวฮุยไท่หลางก็คือปราณก่อกำเนิดของเย่ว์หยาง ต่อให้ตาย มันก็ไม่ยอมจากเย่ว์หยาง
“เด็กดี, เจ้าหนูที่มีค่าของข้า มาเถิด” เฉินถู่หาวยังคงบังคับฮุยไท่หลางต่อ
สายตาของฮุยไท่หลางดูเหมือนจะกลายเป็นเบลอๆ เดินตัวสั่นเข้าไปหาเฉินถู่หาว
เห็นภาพอย่างนี้ เย่คงแทบจะเป็นลม
กับการคาดหวังของทุกคน เย่ว์หยางไม่ได้ขยับกล้ามเนื้อแม้แต่นิด เมื่อทุกคนเอาแต่กังวลถึงเย่ว์หยาง ฮุยไท่หลางก็ขยับทันที มันกระโจนเข้าใส่อ้อมอกของเฉินถุ่หาวราวพายุหมุน จากนั้นใช้คมเขี้ยวที่แหลมคมกัดม้วนเวทพันธสัญญาของเฉินถู่หาว ม้วนเวทปล่อยเสียง “โฮ่ง” ออกมาแล้วก็ระเบิด
การทำสัญญาของเฉินถู่หาวล้มเหลว และม้วนเวทพันธสัญญาถูกทำลาย ในเวลาเดียวกันเขายังถูกดวงจิตของฮุยไท่หลางโจมตีกลับ เขาเริ่มกุมศีรษะอย่างเจ็บปวดและแหกปากร้องออกมา
อัศวินดำที่ถูกสวมเป็นเกราะ เนื่องจากดวงจิตของเจ้านายอ่อนแอลงและการเชื่อมโยงถูกตัดกระทันหัน มันจึงแยกออกไปเอง มันไม่สามารถรักษาสถานะเสริมพลังให้กับเจ้านายของมันได้ ก่อนที่อัศวินดำจะมีเวลาพอกลับเข้าไปในแก้วผลึก มีหอกเล่มหนึ่งพุ่งตรงมาด้วยความเร็วดุจสายฟ้าและปักเข้าไปในช่องตรงเบ้าตาของอัศวินดำ เหมือนกับว่าแทงผ่านไม้ไผ่ อัศวินดำไม่มีร่างจริงๆ มีแต่วิญญาณล้วนๆที่สวมเกราะ หลังจากทุกข์ทรมานจากพลังโจมตีที่ร้ายแรง ปราณสีดำไหลออกจากจมูกและปากของมันไม่รู้จบสิ้นราวกับลูกโป่งถูกปล่อยลม
ในที่สุด มันก็ระเบิดกระจายหายไป อัศวินดำถูกฆ่าตายในที่เกิดเหตุทันที
เศษเกราะแตกตกลงบนพื้นเสียงดังแคล้ง
สัตว์อสูรสายเสริมพลังมีจุดอ่อนที่สุดเพียงจุดเดียวคือเวลา ช่วงเวลาที่มันแยกตัวออกจากเจ้านายของมัน เมื่อได้รับบาดเจ็บหนักตรงจุดของเวลา มันจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่าเย่ว์หยางไม่คุ้นเคยความรู้พื้นฐานการต่อสู้สัตว์อสูร แต่ในบันทึกของพ่อแม่เจ้าเด็กที่น่าสงสาร เขาได้อ่านมามากกว่าหนึ่งครั้งแล้ว
ในความเป็นจริงกลยุทธ์นี้เป็นวิธีทำลายศัตรูที่บิดาของเจ้าเด็กผู้สงสารชื่นชอบ
อัศวินดำของเฉินถู่หาวระเบิดกระจายตกอยู่บนพื้น ทำให้เขาได้รับความกระทบเทือนจิตใจอย่างหนัก เขาร้องโหยหวนอีกครั้งร่างเซไปมาจนแทบจะล้มลงกับพื้น
ผลึกอัญเชิญทั้งสองลูกในมือของเขาแตกเป็นหลายเสี่ยง
เมื่อเขามองเห็นมันติคอร์ของตนอย่างสิ้นหวัง ฮุยไท่หลางงับคอหอยของมันติคอร์แน่น และหอกที่พุ่งมาฆ่าอัศวินดำยังทะลุเข้าไปในท่อปัสสาวะของมันติคอร์จนทำให้พวงอัณฑะของมันบวมเป่ง…
“ท่านเฉินถู่! รู้สึกยังไงบ้างที่อัจฉริยะกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ในทันที? เจ้ารู้สึกดีบ้างไหม? ข้ารู้จักคนที่มีนิสัยชอบเจ็บตัวมาตั้งแต่เกิดอย่างท่าน ไม่มีเหตุผลอะไรที่คนแบบนี้จะไม่มีความสุข ไม่ต้องห่วง ยังจะมีมากกว่านี้อีก ท่านเฉินถู่! ท่านมีสัตว์อสูรมากไม่ใช่หรือ? ข้าขอบอกเรื่องนี้ให้นะ ถ้าท่านยังมีสัตว์อสูรในอนาคตอีก ข้าจะฆ่ามันทันที ข้าเชื่อว่าโลกที่งดงามปราศจากความเป็นธรรมคงจะสร้างความพึงพอใจให้กับพวกเจ้าแน่นอน เย่คง, หลี่เชีย, หลี่เกอ พวกท่านรออะไรกันอยู่? รีบเข้าไปช่วยส่งเสริมท่านเฉินถู่สิ!” เย่ว์หยางดึงหอกที่มีเลือดเนื้อและอวัยวะภายในของมันติคอร์ติดมาด้วยออกมาทันที แล้วหวดไปที่หน้าของเฉินถู่หาวจนทำให้ฟังและเลือดของเขากระเซ็นไปทั่วบริเวณ
ไม่มีเวลาให้เฉินถู่หาวได้แหกปากร้อง เย่คง, หลี่เชีย, หลี่เกอที่เต็มไปด้วยบาดแผลกระโจนเข้าหาเขาเหมือนสุนัขบ้า ทุบตีเฉินถู่หาวอย่างโกรธแค้น
ตอนที่กลุ่มคนได้สติจากความมึนงง เฉินถู่หาวก็โดนซ้อมจนเลือดโทรมกายแล้ว
คนเก่งที่ดูเหมือนธรรมดาก็เคลื่อนไหวในที่สุด สิ่งแรกที่เขาทำไม่ใช่ช่วยเฉินถู่หาว แต่เข้าไปจับเย่ว์ปิง
ราวกับว่าเขารอเหตุการณ์นี้มาเป็นพันปี เย่ว์หยางเริ่มก้าวยาวๆ หลังจากรอมานาน เขาเหินขึ้นบนท้องฟ้าแล้วซัดหอกที่ใช้ฆ่าอัศวินดำและมันติคอร์ลงมาราวกับสายฟ้าฟาดจากท้องฟ้า เขาเชื่อว่าหอกจะปักลงที่หว่างขาของเจ้าคนเก่งที่ดูธรรมดาซึ่งกำลังเตรียมจับเย่ว์ปิง
“ข้ารอเจ้ามานานเลยนะ เสนอหน้ามาซะดีๆ” ทุกคนแทบล้ม เมื่อเย่ว์หยางพูดแบบนี้
มันติคอร์