ตอนที่ 59 น้องข้าใครอย่าแตะ
“พวกเจ้า, พวกเจ้ายังไม่เบื่อที่จะทำแบบนี้อีกหรือ? เย่ว์ปิงจ้องมองคนที่อยู่ข้างหน้านางอย่างโกรธเคือง
ก่อนนั้นพวกเขาเป็นเพื่อนร่วมทีมของนาง นักเรียนสถาบันฉางจิง แต่ตอนนี้ พวกเขากำลังรุมล้อมทำร้ายนาง
ความจริง เย่ว์ปิงถูกโจมตีโดยคนอื่นๆ เรื่องเกิดขึ้นมาได้สักระยะแล้ว เกือบทุก 2-3 วัน มีการจ้างทหารรับจ้างให้ใช้แผนสู้ 3 ต่อ 3 เข้าโจมตีนาง ในหอทงเทียนตราบใดที่มีคนเลือกใช้วิธีต่อสู้กัน นักสู้จะต้องให้คำมั่นว่าจะสู้หลังจากปฏิเสธครบ 10 ครั้งในทุกวัน มิฉะนั้นพวกเขาจะถูกตัดคะแนนต่อสู้ ทันทีที่คะแนนต่อสู้ติดลบ นักรบจะถูกไล่ออกจากหอทงเทียน คนที่ถูกขับออกต้องทำภารกิจที่กล้าหาญอย่างน้อย 10 อย่างถึงจะกลับเข้าหอทงเทียนได้
ที่จริงจังยิ่งกว่านั้น ถ้าเป็นนักรบที่มีคัมภีร์อัญเชิญ ทันทีที่คะแนนรบอยู่ต่ำมาก อาจจะถูกปรับลดอันดับขั้นของคัมภีร์อัญเชิญได้
ถ้านักรบปฏิเสธที่จะสู้ต่อเนื่องกันไป เป็นไปได้ที่คัมภีร์อัญเชิญจะถูกลดชั้นจากทองหรือเงินเป็นไปชั้นทองแดงก็ได้
เดิมทีการสู้ 3 ต่อ 3 เป็นแผนการสู้ที่ยุติธรรมมาก
ในระหว่างทีมเล็ก 2 ทีม จะมีคนถูกส่งออกมา 3 คน และสู้กันตัวต่อตัวในรูปแบบรูเล็ต ทั้งสองฝ่ายสามารถกำหนดเป้าหมายเล่นงานสัตว์อสูรฝ่ายศัตรูและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของพวกเขา มีหลายกลยุทธ์ที่สามารถนำมาใช้ได้ และที่ยุติธรรมและตื่นเต้นที่สุดในโลกก็คือรูปแบบต่อสู้กัน ไม่ใช่แค่เพียงทหารรับจ้าง แต่เป็นตัวเลือกต่อสู้ในโรงเรียน การแข่งขันของนักเรียนชั้นยอดในโรงเรียนและแม้แต่การแข่งขันระหว่างยอดฝีมือของหลายประเทศก็จะใช้รูปแบบสู้กัน 3 ต่อ 3 ที่ยุติธรรมนี้
แน่นอนว่า การสู้กัน 3 ต่อ 3 ดูผิวเผินก็เหมือนยุติธรรมดี แต่เฉพาะเย่ว์ปิงแล้ว กลับเป็นหายนะ
ทั้งนี้เป็นเพราะนางไม่มีเพื่อนร่วมทีม และมีเพียงตนเองตามลำพัง
เมื่อคนอื่นส่งเพื่อนร่วมทีมออกมา 3 คน นางจำต้องสู้กับพวกเขาตามลำพัง ไม่แต่เพียงแค่นั้น ฝ่ายตรงข้ามยังใช้สัตว์อสูรสายน้ำแข็งหรือไม่ก็สัตว์อสูรสายอัคคีซึ่งข่มสัตว์อสูรสายพฤกษาของนางอยู่แล้ว
ภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบากเหล่านี้ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เย่ว์ปิงคิดจะเอาชนะในการต่อสู่ 1 ต่อ 3 พฤติกรรมที่น่ารังเกียจที่คู่ต่อสู้ของนางใช้ก็คือพวกเขาใช้นักรบรับจ้างให้คอยรบกวนและโจมตีเย่ว์ปิง ทำให้นางใช้พลังภายในและสูญเสียโควต้าการอัญเชิญ ซึ่งจะทำให้นางไม่สามารถอัญเชิญสัตว์อสูรได้มากกว่า 2 ตน นางทำได้แค่เรียกนักรบมนุษย์พฤกษาออกมาสู้ในแต่ละครั้ง..
ใช้วิธีเอาเปรียบนางอย่างนี้ เย่ว์ปิงจะเอาชนะติดต่อกันได้อย่างไร?
“อะไร, เจ้าถูกวงกตศิลาดำโจมตีเอาเหรอ? ข้าเสียใจด้วย แต่ข้าไม่รู้เรื่องนี้ด้วย เราแค่คิดถึงเย่ว์ปิง และเราอยากจะเทียบบันทึกกับเจ้าดู” บุรุษผอมหน้ายาวท่าทางยโสเดินออกมาหน้าทีมและหัวเราะหึหึเยาะเย้ยนาง
เมื่อเย่ว์ปิงกำลังทดสอบภารกิจในวงกตหินดำตอนนี้ นางเหลือบททดสอบแค่ 2 ภารกิจก่อนที่จะไปเสร็จสิ้นภารกิจ หัวใจต้นโอ๊คใต้ต้นโอ๊คหมื่นปี นักรบทหารรับจ้าง 5 คนไล่ตามนางมาจากข้างหลัง พวกเขาคอยขัดจังหวะโดยชุดแรก ทำลายภารกิจสะพานแขวนของนางและเมื่อนางตกลงไปในน้ำ พวกเขาก็เข้าโจมตีนางอย่างน่าเกลียดโดยเรียกงูน้ำยักษ์ออกมาทำร้ายเย่ว์ปิง ในเหตุฉุกเฉินเช่นนี้ เย่ว์ปิงต้องใช้ม้วนเวทย้ายที่ซึ่งมีค่าอย่างน่าเสียดาย ต้องยอมยกเลิกบททดสอบในวงกตหินดำและกลับไปที่สมาคมนักรบ นางไม่ทันคิดว่าจะพบเห็นเพื่อนร่วมทีมเก่ายืนขวางหน้านางอยู่ ยามเมื่อนางเทเลพอร์ตย้ายที่กลับมา และก่อนที่นางจะได้ทำอะไร พวกเขาก็ใช้วิธีท้าสู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องคัมภีร์อัญเชิญของตนเองไม่ให้ถูกลดชั้น นางจำใจยอมรับการต่อสู้ 3 ต่อ 3 กับคนหน้าหนาพวกนี้
นักรบรับจ้าง 5 คนก่อนนั้น ถูกพวกเขาจ้างมาอย่างแน่นอน
เย่ว์ปิงไม่รู้ว่านางทำอะไรผิด การยอมให้พวกเขาเอาเปรียบนางขนาดนี้ หลังจากเข้าหอทงเทียน นางแทบจะไม่ได้หยุดต่อสู้เลย
พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมทีมของนางเอง เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนนาง เมื่อครูสอนยังอยู่ใกล้ๆ พวกเขาก็ทำสุภาพ แต่นางคาดไม่ถึงว่าตอนที่ครูออกไปแล้ว พวกเขาจะแสดงสีหน้าเจ้าเล่ห์…
ในภารกิจสอบเลื่อนชั้น นางต้องใช้นักรบมนุษย์พฤกษาของนางเองตลอดเวลา พวกเขาคอยเก็บเกี่ยวประโยชน์ ขณะที่นางทำงานอย่างหนัก ถ้ามีแค่นั้น ก็ยังนับว่าดี อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงเยาะเย้ย ล้อเลียนนางไม่หยุดหย่อน
หลังจากที่พวกเขาแยกไปแล้ว ทหารรับจ้างที่ถูกว่าจ้างมาก็เข้ามาโจมตีนางไม่เคยหยุด
ถ้าไม่ใช่เพราะซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ทดสอบ การท้าทายอาจมาถึงได้อย่างไม่จบสิ้น
“เฉินถู, ข้าไม่รู้ว่าทำไมเจ้าถึงต้องทำแบบนี้ แต่เนื่องจากว่าเจ้าต้องการสู้ อย่างนั้นก็มาสู้กันตัวต่อตัว จะแพ้หรือชนะก็ขอให้ขึ้นอยู่กับความสามารถของเราเอง ถ้าเจ้าแพ้ ก็อย่ามากวนใจข้าอีก ถ้าข้าแพ้ ข้าจะไปให้พ้นหน้าเจ้า” ใจของสาวชุดดำเย่ว์ปิงนั้นโกรธมาก นางรู้สึกหวั่นใจว่าคนพวกนี้จะคอยรบกวนทำร้ายไม่จบสิ้น พวกเขาคอยตามพัวพันนางไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง พวกเขาไม่ต้องการพัฒนาตนเอง ให้แข็งแกร่งขึ้น หรือประสบความสำเร็จในการทดสอบ ดังนั้นพวกเขาตัดสินใจใช้วิธีการซ่อนเร้นนี้โดยใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ในกฎของหอทงเทียน พวกเขาต้องการกันนางให้อยู่ในพื้นที่ๆ จะสู้แพ้ ไม่สามารถจะยกระดับคัมภีร์อัญเชิญได้ ทั้งนางจะไม่สามารถพัฒนาฝีมือให้ก้าวหน้าได้ รวมทั้งยกระดับของอสูรผู้พิทักษ์ของนาง
“ขอโทษนะ การท้าประลองซวีเสียนเป็นคนเสนอ ไม่เกี่ยวกับข้า” บุรุษตัวสูงพูดขึ้นมาในฐานะหัวหน้าทีมกุหลาบ ก็คือเฉินถู เขาเป็นหลานของภรรยาคนแรกของครอบครัว เฉินถูหาว
“เลิกพูดไร้สาระเถอะ เย่ว์ปิง เจ้าปฏิเสธการสู้ 3 ต่อ 3 สิ่งที่ข้ามีก็คือเงิน และบัตรท้าประลอง เจ้ามีคะแนนเหลือไม่มากใช่ไหม? ฮ่าฮ่า ถ้าซวีเสียนผู้นี้ไม่สามารถเตะเจ้าออกจากหอทงเทียนได้ข้าไม่ขอใช้ชื่อว่า”เจ้าชายตาภูต” บุรุษผอมหน้ายาวเยาะเย้ยอย่างย่ามใจ ทุกคนรู้ว่าคนผู้นี้เข้ากันกับเฉินถูหาว แต่จริงๆ เขาเป็นแค่สุนัขรับใช้ของเฉินถูหาว ครอบครัวพวกเขาทั้งหมดอยู่รอดได้โดยอาศัยครอบครัวเฉินถูเท่านั้น
“งั้นก็ดี มาสู้กัน” เย่ว์ปิงจ้องคนทั้งสองที่ยืนอยู่ด้านหลังทีมอย่างเย็นชา
ถ้าซวีเสียนเป็นคนของตระกูลเฉินถู อย่างนั้นอีก 2 คนน่าจะเป็นคนของตระกูลเย่ว์
พวกเขาเป็นพี่น้องตระกูลหลิน ซึ่งเป็นตระกูลสาขาที่อยู่ในตระกูลเย่ว์ อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่เคยยื่นมือช่วยนาง และมักจะทำเลวร้ายกับนางมากกว่า สาขาที่สี่ไม่มีสถานะในตระกูลเย่ว์หรือ? ครอบครัวนางย้ายออกมาจากปราสาทตระกูลเย่ว์แล้ว ทำไมสาขาที่หนึ่งและที่สองถึงได้เอาเปรียบนางอย่างนี้
เย่ว์ปิงเก็บความโกรธไว้ในใจ ตรวจสอบและเรียกคัมภีร์อัญเชิญออกมา จากนั้นนางอัญเชิญอสูรผู้พิทักษ์ของนาง นักรบมนุษย์พฤกษาออกมา
แสงสีทองอ่อนกระพริบวูบวาบและนักรบมนุษย์พฤกษาสูง 3-4 เมตรถูกเรียกออกมา
นักรบมนุษย์พฤกษาได้รับการยกระดับเป็นชั้นทองแดงระดับ 3 แล้ว เป็นอสูรพิทักษ์ที่เย่ว์ปิงเรียกใช้เสมอ ถ้าไม่ใช่เพราะอสูรนี้แข็งแกร่งคอยปกป้องนางอย่างเงียบๆแล้ว นางอาจถูกฆ่าไปนานแล้วก็ได้ ไม่สามารถอยู่รอดในหอทงเทียนได้ ป่านนี้คงเป็นศพไปแล้ว
“อันเชิญ…ผู้พิทักษ์เพลิง…”
คู่ต่อสู้อย่างซวีเสียนใช้กลยุทธ์ที่ผู้คนรังเกียจ จนทำให้ทหารรับจ้างที่สังเกตดูถึงกับปั่นป่วน
กลยุทธดังกล่าวนี้ กล่าวได้ว่าเป็นข้อห้ามที่ขึ้นชื่อในหอทงเทียน ภายในหอ จะมีรหัสขอความช่วยเหลือ เมื่อนักรบที่สู้ตกอยู่ในอันตราย คู่หูของเขาสามารถช่วยได้ในกรณีฉุกเฉินดังกล่าว และต้องเข้าสู่สนามต่อสู้โดยเร็วเช่นกัน แม้ว่าจะเป็นการต่อสู้คนเดียว การสนับสนุนสามารถเพิ่มได้ในสถานการณ์ดังกล่าว รหัสนี้ป้องกันนักสู้จากสถานการณ์ทุกข์ทรมานในที่มีการบาดเจ็บล้มตายขนานใหญ่ เพราะผู้คนไม่สามารถช่วยคนอื่นได้ เมื่ออีกคนยอมรับความผิดพลาดหรือไม่ก็บาดเจ็บหนัก ตราบใดที่สถานการณ์เลวร้าย นักสู้สามารถใช้บัตรกรณีฉุกเฉินและยอมให้คู่หูรีบเข้ามาช่วยเหลือและสู้กับศัตรูที่น่ากลัวอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เจ้าตาขาวซวีเสียนเรียกผู้พิทักษ์เพลิงออกมา เขาสั่งให้มันยิงลูกไฟใส่นักรบมนุษย์พฤกษาในที่ต่อสู้ทันที
ผู้พิทักษ์ไฟ ตามองค์ประกอบธาตุแล้วถือว่าข่มนักรบมนุษย์พฤกษาสิ้นเชิง ลูกไฟที่ถูกขว้างออกไปก็ระเบิดเป็นพลังงานขนาดใหญ่มาก และยังตามเป้าหมายที่เคลื่อนที่ได้ด้วย สัตว์อสูรธรรมดายากที่จะหลบมันได้ ข้อเสียเพียงประการเดียวก็คือ สัตว์อสูรสายธาตุองค์ประกอบทั้งหมดทักษะในสายธาตุของตนมีอย่างจำกัด
ผู้พิทักษ์เพลิงขว้างลูกไฟใส่เป้าหมายได้ทั้งหมด 5 ลูกเท่านั้น
ซวีเสียนควบคุมผู้พิทักษ์เปลวเพลิงให้ยิ่งลูกไฟใส่มนุษย์พฤกษาก่อนถึ 5 ลูก จากนั้นก็มุ่งจู่โจมใส่นักรบมนุษย์ไม้ซึ่งตอนนี้ถูกไฟไหม้จนดำแล้ว เพื่อสร้างความเสียหายให้กับมันยิ่งขึ้น จากนั้นเขาก็ใช้รหัสฉุกเฉินเพื่อให้คู่หูเข้ามาช่วยเขาได้ หลังจากคู่หู 2 คนวิ่งเข้ามาในโล่ห์แสงในสนามรบ เขายิ้มมีเลศนัยและอัญเชิญสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาออกมา อสูรฟันผีตาปีศาจ…
การกระทำที่ไร้ยางอายนี้ทำให้คนที่สังเกตดูรังเกียจซวีเสียนอย่างมาก ถ้ามีทหารรับจ้างคนใดทำอย่างนี้ ต่อให้พวกเขาเอาชนะในการสู้ได้ ก็ยังจะถูกคนอื่นๆ ทุบตีจนตาย
อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนที่อยู่ต่อหน้านี้สวมชุดเครื่องแบบสถาบันฉางจิง และดูเหมือนว่าจะเป็นพวกตระกูลระดับสูงจากสถาบันมาเข้าสอบเลื่อนชั้น
การดำเนินการต่อสู้ส่วนตัวระหว่างเพื่อนร่วมชั้นเรียนไม่ใช่เรื่องที่ทหารรับจ้างจะทนดูได้ แต่พวกเขาก็ไม่ยินดีที่จะช่วยเย่ว์ปิง นักเรียนระดับสูงพวกนี้ปกติจะเป็นเด็กมาจากตระกูลใหญ่หรือไม่ก็ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลใหญ่ ดังนั้น หาเรื่องเป็นศัตรูกับพวกเขาไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
“หึหึหึ, เย่ว์ปิง, เจ้าไม่คิดจะถอนตัวหรือ? ต้องการจะลองสู้กับพวกเราทั้ง 3 ด้วยตนเองหรือ? เจ้าเป็นลูกหลานจาก 1 ใน 4 ตระกูลใหญ่ไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงไม่แสดงให้เห็นพลังของลูกหลานตระกูลเย่ว์เล่า? ลองตะโกนดูสิ, เห็นไหมว่าคนที่นี่จะมาช่วยเจ้าได้หรือไม่? เจ้าพูดว่าพี่สามที่ไม่มีอะไรดีของเจ้าเป็นอัจฉริยะไม่ใช่หรือ? เพื่อประโยชน์ของเขาเจ้าถึงกับไม่เป็นมิตรกับเราใช่ไหม? ตะโกน, ตะโกนเรียกให้เขามาช่วยเจ้าเลย! ฮ่าฮ่าฮ่า” ซวีเสียนหัวเราะอย่างต่ำช้า
เย่ว์ปิงอยากต่อยหน้าเขาให้เต็มที่สักหมัด
อย่างไรก็ตาม นางไม่ได้ดุด่า นางได้แต่กัดฟันและสั่งให้นักรบมนุษย์พฤกษาสู้ต่อไปอย่างเงียบงัน
5 นาทีต่อมา มนุษย์พฤกษาล้มลงกับพื้น ร่างของมันตกอยู่ในเปลวไฟทั้งหมด แม้มันจะเป็นอสูรชั้นทองแดงระดับ 3 พวกมันไม่สามารถต้านน้ำแข็ง ไฟ และอสูรธาตุโลหะของศัตรูที่ร่วมมือสู้กันได้
ผลการต่อสู้ 1 ต่อ 6 มนุษย์พฤกษาพ่ายสัตว์อสูรประเภทสายธาตุ 5 ตัว และในที่สุดก็พ่ายต่อรังสีตาขาวของอสูรฟันผีตาปีศาจ
แม้ว่านางจะแพ้การต่อสู้ครั้งนี้ นางก็ยังมีเกียรติที่โดดเด่น
ทหารรับจ้างที่สังเกตการณ์ทั้งหมดต้องปรบมือให้หญิงสาว ความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่นในการต่อสู้ของนางทำให้นางทำได้ดีเกินคาดหมาย จนในใจลึกๆ แล้วอดนับถือนางไม่ได้
“การท้าประลอง 3 ต่อ 3 เป้าหมายก็คือเย่ว์ปิง” คนเตี้ยที่ยืนใกล้ๆ เฉินถูหาวหัวเราะอย่างชั่วร้าย ขณะที่ดึงบัตรคะแนนสู้ออกมาจากกระเป๋าของเขา
“เฮ่ย.เฮ่ย..” ทหารรับจ้างที่สังเกตการณ์อยู่ตกใจ มองดูอย่างงุนงง
เฉพาะวันนี้ ในที่สุดพวกเขาก็ตระหนักถึงสิ่งที่ไร้ยางอายและไร้ความปราณี
หน้าของเย่ว์ปิงซีดราวกับคนตาย นางไม่สามารถอัญเชิญมนุษย์พฤกษาที่ทั้งร่างถูกไฟไหม้อยู่ และยังเรียกต้นดอกหนามระดับ 1 แม้ว่ามันจะไม่มีความสามารถในการรบ เย่ว์ปิงยังคงสู้จนถึงที่สุด ตราบใดที่นางยังมีชีวิต แน่นอนว่านางไม่ยอมรับความพ่ายแพ้หรือยอมจำนน
ปกป้องครอบครัวนางคือความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนาง
“อย่าฆ่าต้นดอกหนามนั้นแบบยั้งมือนะ พวกเจ้าต้องเล่นงานมันโหดๆ ช่วยกันเหยียบย่ำวิญญาณนางให้แหลก ทำให้นางถึงขีดจำกัดให้ได้ ทำให้ศักยภาพและพลังภายในของนางหมดสภาพโดยสิ้นเชิงให้ได้ ให้ดีที่สุด ถ้าเราทำให้นางหมดแรงจนถึงขั้นกลายเป็นผักไปเลยก็ยิ่งดี ฮ่าฮ่า” ซวีเสียนคนที่น่ารังเกียจ ประกาศความภาคภูมิใจต่อหน้าทหารรับจ้างทั้งหมด ซึ่งทำให้คนที่ได้ยินเขาโกรธมาก กลุ่มบุรุษตัวโตร่วมมือกันรังแกดรุณีน้อยได้อย่างไร? พวกเขาเป็นวีรบุรุษประสาอะไร?
เฉินถูไม่กระพริบตา และเชิดมุมปากเยาะเย้ยอย่างเหี้ยมเกรียม
เขาเรียกมันติคอร์ชั้นทองแดงระดับ 3 ทำให้ทุกคนตะลึง แม้ว่าทหารรับจ้างจะไม่พอใจอย่างมากต่อภาพที่เห็น แต่ก็ไม่มีคนใดในพวกเขากล้าขยับเพราะการปรากฏตัวของมันติคอร์ที่น่ากลัว ไม่มีใครในพวกเขาที่กล้าพูดสนับสนุนเย่ว์ปิง
หลังจากผ่านไป 5 นาที คนตัวเตี้ยได้กลั่นแกล้งคู่ต่อสู้ของเขาจนพอใจแล้ว และโบกมือให้คนอื่นๆ สัตว์อสูรของเขาได้ขยี้ต้นดอกหนามจนเป็นจุล
“กรี๊ด!” เนื่องจากสัตว์อสูรของนางตายติดๆ กัน ทั้งยังได้รับกระทบเทือนภายในจิตวิญญาณ จนทำให้เย่ว์ปิงกุมศีรษะนางและกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ร่างของนางอ่อนระทวยล้มลงกับพื้น
“ชนะแล้ว! ในที่เราก็ล้มนังแม่มดได้ ฮ่าฮ่าฮ่า พี่น้อง ลุยกันเลย เราจะทำให้นางเสียโฉม และให้นางเป็นม่ายที่ไม่มีผู้ใดต้องการอีกต่อไป” ซวีเสียนก็พลอยประจบไปด้วย ขณะที่เขาโบกมือ
“….” หัวใจของทหารรับจ้างสั่นสะท้าน ขณะที่พวกเขาได้ยินคำนี้
ตามกฎการประลอง ผู้ชนะมีสิทธิ์ทิ้งสัญลักษณ์ของการลงโทษไว้บนร่างกายผู้แพ้ได้ ตราบเท่าที่ไม่เป็นการคุกคามชีวิต
ปกติ เขามักจะถ่มน้ำลายไปที่ร่างผู้แพ้เป็นการเหยียดหยาม คนที่หยาบคายมากก็อาจจะวาดเต่าบนใบหน้าของอีกฝ่ายหรือไม่ก็เหยียบเท้าของเขา บางพวกที่ห่ามๆ ทำอะไรเกินไปก็อาจจะฉี่รดบนร่างกายอีกฝ่าย ไม่มีใครคาดคิดว่านักเรียนไม่กี่คนนี้จะคิดทำลายโฉมของอีกฝ่ายจริงๆ.. เป็นไปได้ว่าดรุณีน้อยนี้เป็นปฏิปักษ์ทางสายเลือดกับพวกเขาหรือเปล่า? เด็กพวกนี้ไม่กลัวทรมานจากการแก้แค้นเพราะการกลั่นแกล้งนี้หรือ?
พวกทหารรับจ้างเสียใจ แต่ไม่กล้าพูด ทันใดนั้นมีกลุ่มทหารแยกออกไป และ 2 คนนี้ถึงกับหลั่งเลือดโทรมกาย ชักดาบโค้งออกมาถือไว้ในมือเตรียมปกป้องเย่ว์ปิง พวกเขาตะโกนเสียงแหบว่า “นอกเสียจากเราตาย พวกเจ้าอย่าคิดแตะต้องแม้แต่ปลายเส้นผมของนางจะดีกว่า”
เฉินถูสีหน้าเปลี่ยนไป และแอบส่งสัญญาณลับๆ
ซวีเสียนพยักหน้าและวิ่งออกไปทันที ตะโกนลั่นว่า “เจ้าทาสโง่เง่าทั้งสอง บังอาจพยายามฆ่าเจ้านายของเจ้าหรือ? เราจะไม่ยืนดูมองภัยคุกคามเฉยๆแน่”
พวกทหารรับจ้างกลัวกันหมดแล้ว
ลูกหลานคนมีตระกูลพวกนี้น่ากลัวจริงๆ พวกเขาเล่นกับความตายและยังโกงคนอื่นๆ ด้วยการกล่าวหาว่าพยายามจะฆ่าเจ้านายตนอีก
แม้ว่าพี่น้องหลีเชียและหลี่เกอจะวิ่งออกไปปกป้องเย่ว์ปิง พวกเขาก็ต้องต่อสู้กับผู้ขัดขวางถึง 5 คนในวงกตหินดำ และได้รับบาดเจ็บหนักไปแล้ว ตอนนี้ยังต้องเผชิญกับพวกชนชั้นสูงจากสถาบันฉางจิงอีก ต่อให้เขามีความแข็งแกร่งร่างกายของเขาคงถูกสัตว์อสูรฉีกเป็นชิ้นๆ ทันทีแน่
“เจ้าทั้งสอง เจ้าทหารรับจ้างที่ไร้ประโยชน์ ต้องการทำลายการกระทำดีๆ ของพวกข้าด้วยตัวพวกเจ้าเองใช่ไหม? นั่นมันตลกจริงๆ เย่ว์ปิง หนอ เย่ว์ปิง ตอนนี้เจ้าเห็นคนที่มาช่วยเจ้าหรือไม่? เจ้าคืออัจฉริยะหรือเปล่า? พวกเจ้าไม่มีคนคุมเหรอ? ขอให้ข้าดูหน่อยซิ ข้าจะขยี้พวกเจ้าอัจฉริยะทุกคนเดี๋ยวนี้แหละ แล้วดูว่าพวกเจ้าจะทำอะไรได้บ้าง? ทำไมเจ้าไม่เอาพี่สามที่ไม่มีอะไรดีของเจ้ามาช่วยเจ้าด้วยล่ะ มาสิให้มันมาล้างแค้นแทนเจ้า นังตัวดี! ข้าจะยอมให้เจ้าซัดข้า แล้วข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นว่าข้าแข็งแกร่งขนาดไหน” หลังจากนั้นซวีเสียนเตะหลี่เชียและหลี่เกอจนบาดเจ็บและหมดสติไป ก็เตรียมจะเหยียบไปบนหน้าอกของเย่ว์ปิงอย่างโหดเหี้ยม
ทันใดนั้น มีร่างหนึ่งพุ่งวาบมาจากระยะไกลราวประกายไฟ
ในทันใดกลุ่มคนทั้งหมดก็ปลิวกระเด็นไปกับแรงระเบิด
เมื่อคนที่ชมอยู่มองอย่างเพ่งพิศ พวกเขาก็ตระหนักได้ว่าตอนนี้มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ดูเหมือนกำลังโกรธราวกับราชสีห์คลั่ง ตอนนี้เขากำลังจับคอหอยซวีเสียนยกขึ้นจนลอยในอากาศ ด้วยเสียงดังและพลังปานฟ้าผ่า เขาทุ่มร่างทั้งร่างของซวีเสียนลงกับพื้น
“ตูม” เสียงดังสนั่นจนพื้นสะเทือน
พื้นดินแตกกระจาย ขณะที่ศีรษะซวีเสียนแตกเลือดหยดย้อมพื้นจนแดง…
คนที่มาถึงดูเหมือนจะโกรธราวกับสิงโตก็คือเย่ว์หยางนั่นเอง เขาถลึงตามองทีมกุหลาบที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาและพูดว่า “ใคร..บังอาจแตะต้องน้องสาวข้า?”
***************