ตอนที่ 49 แกจะฆ่าใคร?
มีหมัดหนึ่งกระแทกใส่ปลายหอกจากด้านข้าง
ทุกคนเห็นแต่เพียงลำแสงสีเงินกระพริบผ่านไปก่อนที่จะสังเกตเห็นร่างที่ปรากฏต่อหน้าเหลียงชิวอย่างคาดไม่ถึง
ถังเทียน
พลังที่ปล่อยออกมาจากหอกนั้นทรงอำนาจ คันหอกพรากวิญญาณลอยถอยหลังออกไปและถอนพลังปราณกลับมา นัยน์ของวิญญาณขุนพลจับจ้องดูถังเทียน
หมัดสว่างแพรวพราวทำให้ทุกคนตาพร่าไปชั่วขณะ
เป็นถังเทียน
กลับกลายเป็นว่าถังเทียนแข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่?
หลายคนตกตะลึงและในนัยน์ตาปรากฏแววเหลือเชื่อ พวกเขาเคยเห็นถังเทียนใช้หมัดประกายไฟมาก่อน แต่ไม่เคยเห็นหมัดประกายไฟที่สวยงามขนาดนั้น หมัดประกายไฟแบบนี้
“ถังพื้นฐาน! ระวังตัวด้วย...” อาโมรี่รีบเตือนทันที
ถังเทียนมีสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง เขาดึงถุงมือเหล็กดำออกมาจากตู้อาวุธอควาเรียสและสวมมือทันที
“โจวเผิง แกต้องการฆ่าใคร? แกจะฆ่าใคร?”
คำพูดของถังเทียนเยือกเย็นดุจน้ำแข็งแต่เต็มไปด้วยความรู้สึกเหยียดหยาม กับท่วงท่าที่ตระหง่านดูหมิ่นโจวเผิงนั้นเองเหมือนกับเป็นการตบหน้าโจวเผิง และโจวเผิงรู้สึกว่าหน้าของเขาร้อนผ่าว ขณะที่เลือดชักขึ้นหน้าเขาจริงๆ
“หอกพรากวิญญาณ ฆ่ามัน!” โจวเผิงกำลังเลือดขึ้นหน้า เขาตะโกน “ฉันต้องการให้มันตาย”
วิญญาณขุนพลระดับเงินสั่นพร่าและหายไปจากตำแหน่งเดิมชั่วพริบตาก็มาปรากฏอยู่ต่อหน้าถังเทียน หอกนั้นสร้างภาพติดตาได้ต่อเนื่องจากความเร็วมันเหมือนยืดยาวมาข้างหน้าเขาอย่างรวดเร็ว
ปิ๊ง
ถุงมือโลหะดำของเขาป้องกันปลายหอกไว้ได้และใช้พลังบังคับไม่ให้มันเคลื่อนไหว
“แกจะฆ่าใคร?”
เสียงถังเทียนเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม ขณะที่เสียงดังออกมาอีกครั้ง สายตาของเขาเย็นยะเยียบ
ด้วยพลังของกระเรียนร่างสอง แม้ว่าปราณเที่ยงแท้จะเติมเต็มเปี่ยมและถูกกำแพงกั้นไว้โดยสมบูรณ์ แต่เส้นสายข่ายปราณเที่ยงแท้เล็กๆยังมีปราณเที่ยงแท้โคจรไปทั่วร่างถังเทียนทำให้พลังความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นทุกส่วนสัด
ถังเทียนไม่เคยคิดฆ่าคนแม้แต่ครั้งเดียว แต่ครั้งนี้หัวใจเขาเต็มไปด้วยเจตจำนงสังหาร เหมือนทะเลคลั่งที่เขาก็ยังไม่สามารถต้านทานได้ แต่เพราะเหตุผลที่ไม่ทราบบางอย่าง แม้ว่าเขาไม่พยายามต่อต้านความคิดจะฆ่า แต่หัวใจของเขากลับสงบเป็นพิเศษ
วิญญาณขุนพลระดับเงินถูกป้องกันได้อีกครั้งเจตจำนงต่อสู้ของเขาลุกฮืออีกครับ ขณะที่นัยน์ตาสีดินเผาของเขาเป็นประกายลำแสงเงิน
ปลายหอกสั่นหึ่งๆเบาๆ ทันใดนั้นเกิดระเบิดคลื่นเสียงดังขึ้นและมีเงาหอกสามเล่มปรากฏ เหมือนกับว่าเงาหอกเหล่านั้นเป็นอสรพิษที่เลื้อยออกมาจากถ้ำตนเองพุ่งเข้าฉกถังเทียน
ถังเทียนไม่ขยับสักนิ้วและคลายหมัดของเขาเปลี่ยนเป็นท่าฝ่ามือทันที ฝ่ามือเงาสลาย
ภาพฝ่ามือสีดำระเบิดออกมาสร้างเป็นภาพฝ่ามือที่ไม่ธรรมดาถึงสิบภาพ ภาพฝ่ามือเหล่านั้นเป็นเหมือนเงาต้นไม้ที่มีใบแน่นขนัดคอยกันแสงแดดไม่ให้ส่องลอดลงมาบนพื้น ภาพสีหม่นดำทำให้ผู้คนรู้สึกว่าพวกเขาไม่สามารถหลบหนีไปได้เลย
ติง ติง ติง!
เสียงหอกถูกกระแทกสามครั้ง แต่เสียงก้องสะท้อนที่หูทุกคนได้ยินนั้นดังเพียงครั้งเดียว
“บอกมา, แกจะฆ่าใคร?”
ถังเทียนหัวเราะเย็นชา ขณะที่เขาพูดช้าๆ แต่ชัดถ้อยชัดคำ หน้าของโจวเผิงแดงก่ำจนเหมือนกับว่าหน้าของเขาเริ่มจะมีเลือดไหลซึม เล็บของเขาจิกลึกเข้าไปในฝ่ามือ แต่เขาไม่กล้าขยับแม้แต่นิ้วเดียว
ฝ่ามือเงาสลายวิทยายุทธระดับสามถูกใช้ออกโดยถังเทียนแปรเปลี่ยนเป็นวิทยายุทธอันตราย ส่วนแตกหักของเงาฝ่ามือที่แต่เดิมสร้างความสับสนให้กับศัตรู แต่ด้วยอิทธิพลของร่างกระเรียนทุกส่วนของเงาฝ่ามือจะกลายเป็นมีดคมเปล่งเสียงหวีดหวิวรุนแรงทำให้ผู้ที่เห็นหนาวสะท้าน
แต่วิญญาณขุนพลระดับเงินรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลที่ทำให้ทุกคนตื่นตะลึงได้
อย่างไรก็ตามหยางหวินสามารถเป็นสุดยอดปรมาจารย์วิชาหอกในชั่วเวลาสองร้อยปีที่ผ่านมา ด้วยความเชี่ยวชาญวิชาหอกที่ลึกลับและลึกซึ้ง เขาจึงแข็งแกร่งไร้เทียมทาน แม้แต่การ์ดวิญญาณนี้ เขาได้สร้างไว้เมื่อตอนอายุเยาว์ แต่ก็เป็นข้อบ่งชี้ชัดให้เห็นถึงวิชาหอกของเขา
วิญญาณขุนพลระดับเงินตะโกนและและถือปลายหอกด้วยมือข้างขวาแล้วควงหอกเป็นวงกลม
วิ้ววววว
จู่ๆเกิดวังวนพายุหมุนต่อหน้าถังเทียนและเงาฝ่ามือที่เป็นเหมือนคมดาบในท้องฟ้าถูกดูดเข้าหาวังวนนี้
นัยน์ของถังเทียนเป็นประกายเยือกเย็น ทันใดนั้นเขามีปฏิกิริยาตอบสนองด้วยตัวเองและเปลี่ยนท่วงท่าทันที
หมัดขวารั้งลงมาอยู่ข้างเอวแฝงไว้ความรู้สึกสั่นสะเทือนที่ยากสังเกต หมัดอีกข้างหนึ่งของเขาระเบิดพลังออกไปทันที
หมัดพิฆาตน้อย!
ปัง!
วังวนแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ นัยน์ตาของวิญญาณขุนพลชั้นเงินเป็นประกายวูบหนึ่ง เขารั้งปลายหอกกลับจากนั้นแทงกลับออกไปอย่างรุนแรง
บึ้ม!
เสียงเหมือนฟ้าผ่าทำให้พื้นสั่นสะเทือน ปราณไร้รูปที่แข็งแกร่งระหว่างถังเทียนและวิญญาณขุนพลชั้นเงินกระจายออกไปเพราะแรงระเบิด
ด้วยพลังปราณเที่ยงแท้ระดับสี่ วิญญาณขุนพลชั้นเงินประหลาดใจมาก และด้วยวิชาหอกของเขา ไม่มีปราการใดสามารถเอาชนะได้ เขาวิ่งเขาใส่และระเบิดกระเรียนร่างที่หนึ่งของถังเทียนได้อย่างง่ายดาย
ดูเหมือนถังเทียนคาดเรื่องทั้งหมดนี้ไว้แล้ว และท่าสังหารของเขาก็พร้อมได้ที่ก่อนหน้านี้แล้ว เขาปล่อยพลังตั้งรับของเขาทันทีและให้ปราณไร้รูปไหลไปที่แอ่งตันเถียนของเขาแล้วตรงเข้าหากระเรียนร่างสองทันที
ปราณเที่ยงแท้ระดับสี่ที่แข็งแกร่งรุนแรงพุ่งเข้าไปในตัวกระเรียนร่างที่สองอย่างรวดเร็ว
เหมือนกับวัวกระโจนลงมหาสมุทรแล้วหายไปโดยไร้ร่องรอย
โอกาสมาแล้ว!
ถังเทียนไม่ถอย นิ้วในฝ่ามือซ้ายทั้งห้างอเป็นรูปกรงเล็บอินทรีและยื่นออกไปที่หอกของวิญญาณขุนพลชั้นเงิน
ตอนนี้ถังเทียนทำได้เกินคาดหมายของวิญญาณขุนพล แม้ว่าปราณเที่ยงแท้ของถังเทียนจะอยู่แค่เพียงระดับสามแต่ด้วยอิทธิพลของร่างกระเรียน มันกลับมีพลังเกินกว่าระดับสาม ปราณไร้รูปจากหมัดพิฆาตน้อยหรือ อย่าเพ้อฝันไปเลย และขณะที่วิญญาณขุนพลชั้นเงินกำลังกำจัดปราณไร้รูป เขาคาดไม่ถึงว่าถังเทียนจะพุ่งเข้ามาหาเขาทันที
ผู้ชมรอบๆด้านที่กำลังมองดู ต่างตกตะลึงกันหมด นี่นี่ นี่... ช่างไม่มีเหตุผลเสียเลย
ทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และนอกจากนั้น พลังของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันมาก พวกเขาจะประสบความเสียหายรุนแรงเหมือนกัน กล่าวโดยทั่วไปก็คือ ช่วงเวลานี้ทั้งสองฝ่ายจะต้องหยุดยั้งชั่วขณะสั้นๆ
อย่างไรก็ตาม ถังเทียนละเมิดกฎที่มั่นคงนี้
เด็กคนนี้
เขากลายเป็นบุคคลที่ทรงพลังขนาดนั้นไปเสียแล้ว....
ทุกคนจ้องมองปากอ้าค้าง ขณะที่พวกเขามองดูถังเทียน พวกเขาไม่มีพลังแม้แต่จะพูด
กรงเล็บอินทรีวิทยายุทธระดับสาม นิ้วทั้งห้าเป็นเหมือนกรงเล็บโลหะและพลังของทุกนิ้วเป็นที่รู้กันว่าสามารถยึดจับศัตรูได้อย่างแน่น
วิทยายุทธอื่นของถังเทียนเทียบกับหมัดพิฆาตน้อย นับว่ายังอ่อนกว่ามาก แต่ถังเทียนเน้นฝึกทุกๆ วิชา ในแต่ละวิชาฝึกซ้ำๆ เกินกว่า 100,000 เที่ยว ถ้าเป็นสถาบันอื่นหรือเป็นนักเรียนอื่น ถ้าพวกเขาฝึกฝนบรรลุในระดับนี้ พวกเขาจะถูกจัดอยู่ในระดับสูงแน่นอน
นิ้วทั้งห้าของเขาคว้ายึดคันหอกไว้ได้
วิญญาณขุนพลระดับเงินรู้ตัวว่าตกอยู่ในความลำบาก เขาใช้พลังของเขาหมุนหอกด้วยความเร็วอย่างรุนแรง
ร่างกระเรียนของถังเทียนเป็นเหมือนดาบที่คม และนิ้วทั้งห้ายืดคันหอกเป็นเหมือนคมมีดเหล็กทั้งห้ารั้งคันหอกเอาไว้ ขณะที่ตัวหอกเริ่มหมุนด้วยความเร็วสูง มันเสียดสีจนเกิดประกายไฟพร่างพรายวาบออกมาจากระหว่างนิ้วทั้งห้าของเขา
ประกายไฟเหล่านี้ไม่ทำอันตรายต่อถุงมือโลหะดำแต่อย่างใดเป็นแต่พลังของแรงหมุนของตัวหอกทำให้นิ้วของเขาไม่สามารถยึดจับได้อย่างมั่นคง
แต่ความตั้งใจของถังเทียนไม่ได้อยู่ที่หอก นิ้วทั้งห้าของเขาจับยึดตัวหอกไว้แน่นอีกครั้ง แล้วเขาพุ่งตรงเข้าหาวิญญาณขุนพลระดับเงินราวกับปีศาจ
ไหล่ของวิญญาณขุนพลระดับเงินสั่นสะท้าน เขาต้องการจะบีบถังเทียนให้ออกไป อย่างไรก็ตาม สำหรับถังเทียน ทนต่อแรงสั่นสะเทือนนี้ได้ เทียบกับแรงสั่นสะเทือนของหวังเจิ้นแล้วแค่นี้ไม่นับว่าท้าทายเลยแม้แต่น้อย ถังเทียนยืมพลังนี้ และมือขวาของเขาจับยึดข้อศอกของวิญญาณขุนพลชั้นเงินในแง่มุมที่แปลกทันที
วิญญาณขุนพลชั้นเงินเพิ่งรู้ตัวว่าเขาตกอยู่ในความลำบากเสียแล้วและมีอาการคลั่งอย่างเห็นได้ชัด
เขาตัดสินใจได้ถูกมาก
ถังเทียนไม่เหมือนคนธรรมดาที่คิดได้อย่างรวดเร็วมากและใช้ศอกเป็นแกนหมุน เขาบิดข้อมืออีกข้างของวิญญาณขุนพลชั้นเงินไปรอบๆ
วิญญาณขุนพลชั้นเงินยิ่งตกใจหนัก เขาพยายามบีบถังเทียนเหมือนกับว่าชีวิตของเขาขึ้นอยู่กับการนี้
ถึงระดับนี้แล้วถังเทียนใจเย็นมากพอ ปราณเที่ยงแท้ของทั้งสองฝ่ายยันกันอย่างต่อเนื่อง ยืมพลังจากแขนของคู่ต่อสู้ ถังเทียนกวาดร่างของเขาขณะที่ขาข้างหนึ่งยืดหยุ่นเหมือนเส้นก๋วยเตี๋ยวยันใส่ไหล่ของวิญญาณขุนพลระดับเงินในมุมที่แปลก
เขาคำรามทันที
ทั้งร่างของถังเทียนปลดปล่อยพลังทันที
กร๊อบ กร๊อบ กร๊อบ!
เสียงดังกึกก้องสะท้านหัวใจและวิญญาณขุนพลเปลี่ยนเป็นลำแสงและหายไปในอากาศที่เบาบาง
ถังเทียนลอยตัวลงพื้นอย่างมั่นคงขณะที่เขาจ้องโจวเผิงอย่างเย็นชา และพูดย้ำคำเดิมช้าๆ อีกครั้ง “แกจะฆ่าใคร?”
“วิชาข้อต่อลูกโซ่”
เลือดไหลออกมาเต็มหน้าของโจวเผิงไปหมด เขาหน้าซีดเป็นกระดาษ และความโกรธความไม่พอใจของเขาทั้งหมดละลายหายไปเหมือนน้ำแข็งเหลือแต่เพียงความกลัวที่ท่วมท้นสูงกว่าคลื่นทะเลยักษ์ เหมือนกับมันห้อมล้อมจิตใจเขาเพียงอย่างเดียว
เขาตกตะลึงสิ้นเชิงเหมือนกับว่าสูญเสียวิญญาณยืนนิ่งเหมือนไก่ไม้
นี่..เป็นไปได้ยังไง? เป็นไปได้ยังไง..? นั่นคือหอกพรากวิญญาณของปรมาจารย์หยางหวิน
ทั่วทั้งสถานที่ตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนตกตะลึงกับพลังของถังเทียน จนถึงตอนนี้ไม่มีใครคิดว่าถังเทียนจะมีความก้าวหน้าจนฟ้าดินต้องอึ้งตะลึงกันไปทั้งหมด เว้นแต่เจ้าเด็กนี่แกล้งหลอกลวงมาในก่อนหน้านั้น...
อาโมรี่ตาเบิกโพลง ฉากภาพการต่อสู้ทั้งหมดทำให้เขาสงสัยนัยน์ตาตัวเอง ถังพื้นฐาน... ความจริง..นายแข็งแกร่งมาก
เสิ่นหยวนจ้องมองถังเทียนที่อยู่ในสนามต่อสู้อย่างว่างเปล่า และทันใดนั้นเขาคิดถึงวันที่อยู่ในพื้นที่ผู้ชมดู
“พี่หยวนหยวน! การ์ดวิญญาณของนายยอดเยี่ยมจริงๆ ทั้งหมดนี้มีประโยชน์ทั้งนั้น!”
“ฉันฝึกจนเชี่ยวชาญทั้งหมดแล้ววิชาต่อสู้ห้ารูปแบบวิชา โอ้โฮ, ทรงพลังมาก!”
นาย...ฝึกจนเชี่ยวชาญทั้งหมดได้จริงๆ....
หานปิงหนิงชะงักค้าง ถังเทียนผู้เหี้ยมหาญโดดเด่นและแกล้วกล้าที่อยู่ต่อหน้าเธอ ก่อนนั้นยังดูเหมือนเป็นเด็กบ้าๆ บอๆ โบกมือให้เธออยู่เลย ทันใดนั้นเธอนึกถึงวลีที่ถังเทียนชอบใช้อยู่เสมอซึ่งเธอรู้สึกว่าตลกในตอนนั้น วลีที่ว่าหนุ่มน้อยชาวฟ้า
ตอนนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอไม่รู้สึกว่ามีอะไรที่ตลกเกี่ยวกับวลีนี้
ยิ่งกว่านั้นในตอนนี้ ถังเทียนไม่ได้อยู่ในสภาพคลุ้มคลั่ง
ทำไม..จู่ๆเขาก็แข็งแกร่งขึ้นกะทันหัน?
หานปิงหนิงคิดฟุ้งซ่าน อย่างบอกฉันนะว่าถังเทียนที่ยืนอยู่ตรงนั้นและถังเทียนที่เรารู้จัก คือสองคนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา
ขณะที่หานปิงหนิงยอมรับในจุดนี้ ถังเทียนค่อยๆ เดินเข้าไปหาโจวเผิง
“แกจะฆ่าใคร?” เสียงของถังเทียนยังคงเยือกเย็น ขณะที่รังสีฆ่าฟันของเขาทำให้ทุกคนรู้สึกขนลุกไปทั่ว พวกเขาทุกคนที่ยังอยู่ในอาการมึนงงสั่นและรู้สึกตัว
โจวเผิงดูเหมือนกับว่าเขากำลังจะตาย วิญญาณขุนพลชั้นเงินพังต่อหน้าต่อตาเขาทำให้เขาสูญเสียความกล้าและความมั่นใจ
แม้แต่หอกพรากวิญญาณก็ไม่สามารถเอาชนะได้
“ถังเทียนถ้าแกกล้าแตะต้องแม้แต่ปลายเส้นผมบนหัวของคุณชายเรา ตระกูลโจวของเราจะไม่ยอมปล่อยแกไว้แน่” หนึ่งในยอดฝีมือตระกูลโจวมีท่าทีขึงขังแต่จิตใจอ่อนแอ ตะโกนลั่น
ยอดฝีมือตระกูลโจวอีกคนตะโกนบอก“ถังเทียน ตอนนี้เราเข้าใจผิดกัน ถ้าแกปล่อยเราไป...”
เงาร่างของถังเทียนหายไป
กร๊อบ!
เสียงกระดูกหักที่ไม่มีใครสังเกตดังออกมาโจวเผิงกำคอตนเองและนัยน์ตาเขาสูญเสียประกายชีวิต ขณะเขาหมดสติล้มลงกับพื้น
“ถังเทียน! แก..ตะ..”
เสียงขู่และคำรามของผู้คุ้มกันของตระกูลโจวหยุดชะงักไปเอง ขณะที่มือข้างหนึ่งประทับเข้าที่อกของเขา
เหลียงชิวทำเหมือนกับว่าไม่มีผู้ใดอยู่ต่อหน้าและชักมือเขากลับมา ฝ่ามือเขาสะอาด ขณะที่เขาพูดอย่างไม่เกรงใจ “มีคนอย่างนี้อยู่ในตระกูลโจว ไม่มีความจำเป็นเลยที่พวกเขาจะอยู่ในเมืองซิงฟงต่อไป”
ซือหม่าเซียงซานไม่ทราบว่าปรากฏตัวอยู่ข้างหลังผู้คุ้มกันของตระกูลโจวอีกคนตั้งแต่เมื่อใด ผู้คุ้มกันผู้นั้นกระอักเลือด ซือหม่าเซียงซานยิ้มเหมือนไม่มีอะไร “เห็นด้วยอย่างแรง”
หานปิงหนิงสอดกระบี่เข้าฝักและผู้คุ้มกันตระกูลโจวอ้าปากค้างพร้อมกับลมหายใจเฮือกสุดท้าย เธอกล่าว “ฉันเป็นตัวแทนตระกูลหานและสถาบันเป่ยเยี่ยนขอสนับสนุนให้กำจัดตระกูลโจว”
ตระกูลโจวมักจะวางอำนาจอยู่เสมอ และหลังจากโจวเผิงถูกหยุดยั้งไว้ คนอื่นก็ต้องพลอยต่อต้านตระกูลโจวไปด้วย แม้ว่าทุกคนจะประลองฝีมือกันอย่างรุนแรงแต่การจะฆ่าคนได้นั้นเป็นเรื่องที่เกิดยากมาก และโจวเผิงเป็นคนเอาแต่ใจตนเองทำให้ทุกคนไม่ชอบเขา
สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือพวกเขากังวลว่า ตระกูลโจวจะดำเนินการเคลื่อนไหวเพื่อซ้ำเติมถังเทียนอีก
ถังเทียนที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาแข็งแกร่งมาก ให้ความรู้สึกที่อันตราย
เราทำอย่างนี้เพื่อคลี่คลายปัญหาให้นายทุกอย่าง นักเรียนที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสามอันดับแรกแทบจะเข้าใจได้เหมือนกันทันที
ทั้งสามคนเห็นทีท่าว่าทุกอย่างจบลงด้วยดีแล้วขณะที่พวกเขามองดูถังเทียน
“เฮ้ เฮ้ เฮ้, พวกนายอย่าแย่งสินสงครามฉันจะดีกว่า” ถังเทียนมีสีหน้าว่า ถ้าพวกนายแตะต้องสมบัติฉันฉันจะสู้กับพวกนาย
ทั้งสามคนชะงักเหมือนหิน
เหลียงชิวรำพึงกับตัวเอง“คนอย่างเรา ฐานะอย่างเรานี่นะ...”
ซือหม่าเซียงซานบ่นกับตัวเองเช่นกัน“นายทำเหมือนกับว่านายห้ามคนที่กำลังจะตายอย่างนั้น”
หานปิงหนิงพึมพำเงียบ“ตามคาด กลับคืนสันดานเดิม...”