ตอนที่ 47 กองทัพประติมากรรมไร้หน้า
เราชนะแล้วจริงๆ…
ถังเทียนจ้องมองฝ่ามือตนเองอย่างว่างเปล่า ฝ่ามือของเขาดำเป็นถ่าน ดูน่ากลัวเนื่องจากถูกแผดเผา“ชนะ…เราชนะจริงๆด้วย…”
“ฮ่าฮ่า…” ถังเทียนหัวเราะอย่างโง่งมพร้อมกับอ้าปากกว้างมองเห็นฟันสีขาวราวหิมะทั้งสองแถวขณะที่เขาฉีกยิ้มต่อเนื่อง
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! เราชนะ! ชนะแล้ว!”
ถังเทียนลูบศีรษะตนเองแล้วหัวเราะ ใบหน้าเขาเกรียมและเสียงหัวเราะสดใสจริงใจเขาชูแขนทั้งสองข้างขึ้น พลางตะโกนลั่น “วู้ว วู้ว วู้ว ชนะแล้วโว้ย!”
ตุ้บ! ขาทั้งสองถ่างออกขณะที่เขาทรุดตัวลงและลงนั่งบนพื้น แต่เขายังคงหัวเราะอย่างโง่งม
นี้คือชัยชนะครั้งแรกในการต่อสู้จริงของเขา…
เราจะจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน!
เราจะได้รับชัยชนะมากขึ้นแน่นอน!
บุรุษหนุ่มกำหมัดแน่น และกล่าวกับตัวเองเงียบๆ การต่อสู้ยังไม่จบ ยังมีการต่อสู้ที่ยากลำบากและท้าทายยิ่งกว่ารออยู่และมีแม้กระทั่งนักสู้ที่แข็งแกร่งรออยู่ข้างหน้า
ถังเทียน นายทำได้!
ถังเทียนสูดหายใจลึก ดวงตาของเขากลับคืนสู่ความสงบ เขานั่งขัดสมาธิและเริ่มตรวจสอบสภาพร่างกายตนเองเนื่องจากระหว่างต่อสู้ เขายุ่งเกินกว่าจะสำรวจอย่างรอบคอบได้ และในตอนนี้เขาจะต้องตรวจร่างกายของเขาอย่างระมัดระวัง
ถังเทียนตรวจพบความแตกต่างของการโคจรคัมภีร์ปราณกระเรียนได้ในทันที
กระเรียนร่างสองมีขนาดใหญ่ขึ้นสองเท่า และเขาสามารถรับรู้ได้ถึงเส้นสายพลังเล็กของเขาค่อยๆถูกปลดปล่อยออกมาจากกระเรียนร่างสองนี้โคจรระดับที่ก้าวหน้าจากแอ่งตันเถียนถ่ายเทเข้าสู่แอ่งตันเถียนชั้นที่สามและหลังจากนั้นก็โคจรรอบทั้งร่างอีกครั้ง แพร่กระจายเข้าสู่แขนขาทั้งสี่และกระดูกของเขา
ถังเทียนลองกระตุ้นกระเรียนร่างสอง แต่ไม่มีตอบสนองแม้แต่น้อย ปราณยังโคจรไปอย่างช้าๆ
แปลกประหลาด..
แม้ว่าเขาจะไม่ทราบชัดว่ากระเรียนร่างที่สองทำงานได้ยังไงแต่พลังที่ปลดปล่อยออกมาจากกระเรียนร่างที่สองก็เข้าสู่แอ่งตันเถียนชั้นที่สาม ทำให้แอ่งตันเถียนที่สามขยายออกไปโดยไม่รู้ตัว
ถังเทียนประหลาดใจระคนยินดี เมื่อไม่สามารถคิดอะไรได้มาก เขาปล่อยวางปราณที่ผิดปกตินั้นแล้วโคจรไปตามคัมภีร์ปราณกระเรียน พลังปราณจากรอบๆแปรสภาพรอบตัวเขาและเข้าสู่ร่างของเขามันโคจรไปตามเส้นปราณของเขาและเปลี่ยนเป็นเส้นสายของพลังปราณเที่ยงแท้ที่บริสุทธิ์ก่อนจะเข้าสู่แอ่งตันเถียนที่สามอย่างไม่หยุดยั้ง ขยายแอ่งตันเถียนค่อยๆเติมให้เต็ม
※※※※※※※※※※※
“เป็นการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นมาก หมัดปืนใหญ่เป็นเพลงหมัดโบราณสามารถประยุกต์ใช้ในเงื้อมมือของหวังเจิ้นได้ เขามีศักยภาพขนาดนั้นแต่น่าแปลกใจยิ่งกว่าที่ถังเทียนสามารถชนะหวังเจิ้นได้” เสียงอ่อนโยนกล่าวเต็มไปด้วยความชื่นชม ขณะที่ดวงตาของเขามองดูแสงซึ่งแสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ระหว่างหวังเจิ้นและถังเทียน
ถ้าหากเจ้าเมืองอยู่ที่นี่เขาก็สามารถระบุตัวคนผู้นี้ว่า นั่นคือหุ้นส่วนของเขานั่นเอง ผู้อาวุโสอู่จากหมู่ดาวอีกา
ต่อหน้าของผู้อาวุโสอู่มีชุดดวงแสงวางอยู่ แสงแต่ละดวงจะแสดงภาพเงากำลังเคลื่อนไหว
“บอกฉันมา ปี้จวินตายด้วยฝีมือของถังเทียนงั้นหรือ?” จู่ๆ ผู้อาวุโสอู่ก็ถาม ที่เบื้องหลังของเขา บุรุษคนหนึ่งยืนอย่างนอบน้อมเขาคือ ตี๋หาน
“ขอรับ!” ตี๋หานกล่าวตอบ
“ช่างเป็นบุรุษหนุ่มที่มีพรสวรรค์จริงๆ” ผู้อาวุโสอู่กล่าวอย่างชื่นชม
ตี๋หานกล่าว “ตามที่ผมได้รวบรวมข้อมูลมาถังเทียนใช้เวลาฝึกฝนวิชาต่อสู้พื้นฐานเป็นเวลาห้าปี และเขาก็ถูกยืดถือว่าเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ จากนั้นเขามีเรื่องกับตระกูลโจวและถูกไล่ออกจากสถาบันแอนดรูว์แต่ระหว่างเวลานั้น ความแข็งแกร่งของเขาก็พัฒนาขึ้นอย่างมาก เมื่อเขาประลองกับบริวารนี้เขาก็แข็งแกร่งทรงพลังมาก”
“ฝึกฝนวิชาต่อสู้พื้นฐานเป็นเวลาห้าปีหรือ? มีคนที่น่าสนใจอย่างนั้นในดาวอู่อันด้วยหรือนี่?” ผู้อาวุโสอู่ปรบมือหัวเราะ ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงเรื่องบางอย่างและดวงตาเขาเป็นประกาย “โอว ตามที่แกกล่าวมา มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่เขาจะมีป้ายความเพียรแห่งดาวกางเขนใต้อยู่ภายในมือของเขา? ป้ายความเพียรแห่งหมู่ดาวกางเขนใต้ การฝึกฝนวิชาการต่อสู้พื้นฐานเป็นเวลาห้าปี นับว่าลงตัวจริงๆนอกจากนี้ นี่อธิบายได้ชัดถึงปฏิกิริยาว่าเด็กผู้หญิงนั้นเห็นสัญลักษณ์ของหมู่ดาวกางเขนใต้ด้วยให้รวมถังเทียนไว้เป็นเป้าหมายสำคัญที่ควรให้ความสนใจดู”
“ขอรับ!” ตี๋หานคำนับ
“โชคของฉันนับว่าไม่เลวจริงๆ” ผู้อาวุโสอู่หัวเราะลั่น“ป้ายความเพียรดาวกางเขนใต้ มีข่าวลือว่าอนความลับใหญ่เอาไว้ฉันลำบากกับการค้นหามันมานานแล้ว ไม่คาดคิดว่าจะค้นพบมันที่นี่ สวรรค์เข้าข้างฉันแล้ว”
ตี๋หานมิได้พูดอะไร
“พวกเรารวบรวมโลหิตได้มากแค่ไหนแล้ว?” ผู้อาวุโสอู่หวนคืนสู่ความสงบแล้วถาม
“สามสิบสองส่วน” ตี๋หานตอบ “เนตรโลหิต แสดงผลว่า สิบแปดส่วนสายเลือดธรรมดาแปดส่วนของสายเลือดที่เหมาะสม ห้าส่วนของสายเลือดชั้นดี และสายเลือดระดับทองแดงหนึ่งส่วน”
“โอ้ว สายเลือดระดับทองแดงของใครกัน?” ผู้อาวุโสอู่กล่าวถาม
“โจข่าย” ตี๋หานตอบ “ผู้นำแห่งสถาบันเสินเหว่ยอันดับเจ็ดของซิงฟง ได้ถูกเก็บไว้แล้ว”
“ไม่เลว ไม่เลว!” ผู้อาวุโสอู่พึงพอใจ “ฉันไม่คาดคิดเลยว่าจะได้รับสายเลือดที่โดดเด่นรวดเร็วเช่นนี้ตราบเท่าที่ฉันรวบรวมสายเลือดระดับทองแดงได้ครบสิบส่วน ฮ่าฮ่า ฉันสามารถที่จะสร้างสายเลือดขั้นเงินของฉันได้ฮ่าฮ่า! ตำนานสายเลือดขั้นเงิน เมื่อนึกถึงแล้วทำให้ฉันตื่นเต้นยิ่งนัก!”
น้ำเสียงแฝงความคลั่งของผู้อาวุโสอู่ดังกังวานไปทั่วห้องทำให้หัวใจของตี๋หานหนาวเหน็บอย่างมิคาดคิด
“น่าเสียดาย ถังเทียนไม่ได้รับบาดเจ็บ ถ้าหากเขาบาดเจ็บเราสามารถที่จะรวบรวมเลือดสดๆของเขาได้ ฉันอยากรู้จริงๆว่าสายเลือดของเขาเป็นเช่นไร”ดวงตาของผู้อาวุโสอู่เป็นประกาย
“ถังเทียนค่อนข้างอายุมากแล้ว เขาอายุสิบเจ็ดปีแล้ว”ตี๋หานลังเลอยู่ชั่วขณะแต่เขาก็กล่าวออกมา
“น่าเสียดายนัก” ผู้อาวุโสอู่จ้องมองอย่างว่างเปล่าด้วยสีหน้าที่เสียใจ “สิบเจ็ดปี? นั่นค่อนข้างอายุมากไปคนที่อ่อนกว่าจะมีพลังชีวิตที่แข็งแกร่งภายในสายเลือด และจะมั่นคงแข็งแกร่งขึ้นน่าเสียดายนัก”
ผู้อาวุโสอู่เหลือกตาของเขาแล้วโยนเรื่องถังเทียนทิ้งไว้เบื้องหลังภายในใจ“รอจนกว่าถังเทียนจากไป จากนั้นค่อยไปเก็บโลหิตของหวังเจิ้นลูกหลานของตระกูลโบราณมักจะมีสายเลือดที่ดี”
“ขอรับ!” ตี๋หานคำนับ
“หึหึ แน่นอน มิใช่เรื่องสูญเปล่าเสียทีเดียวที่ฉันได้เค้นสมองและค้นพบเส้นทางมาเมืองซิงฟงนี้”ผู้อาวุโสอู่มีใบหน้าคล้ำ “ไม่ว่ายังไงก็ตาม ฉันจะต้องได้รับสายเลือดชั้นทองแดงสิบส่วน!นี่ทำให้ฉันคาดหวังไว้มากมายนัก ตำนานเส้นเลือดชั้นเงิน ฉันสงสัยจริงๆพวกมันจะมีพลังแข็งแกร่งขนาดไหน!”
“อา! ถังเทียนหายไปแล้ว…” ตี๋หานผู้ที่กำลังจ้องมองไปยังบนแสงอุทานขึ้นมา
“เอ๋?” ผู้อาวุโสอู่กลับได้สติ และขณะที่เขาจ้องมองภาพภายในแสง ทันใดนั้นภาพดูฟุ้งไม่ชัดมีเพียงการตอบสนองชั่วครู่และตามมาด้วยสีหน้าที่เหลือเชื่อ “นี่ ภายในวงกตวิญญาณ ฉันควรจะเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจนแต่ทำไม…”
※※※※※※※※※※※※※
ถังเทียนลืมตาของเขาประกายแสงสีขาวสว่างวาบในดวงตาของเขา ปราณเที่ยงแท้ของเขาสั่นสะเทือน ‘ปัง!’ ละอองคราบดำนับไม่ถ้วนระเบิดออกจากร่างกายของเขาทุกส่วนที่ดำเป็นถ่านของร่างเขาก็สั่นสะเทือนไปหมด ถังเทียนที่ดำเป็นดินปืนก็กลับคืนสู่สภาพเดิมของเขา เขาลุกขึ้นยืนพร้อมกับรอยยิ้ม
ร่างของเขามีปราณเที่ยงแท้ไหลเวียนอยู่เต็มเปี่ยมในพลังที่ขยายเติบโตนั้นเขาได้บรรลุผ่านเข้าไปยังปราณเที่ยงแท้ระดับสาม ได้บรรลุเงื่อนไขที่สมบูรณ์
เพราะปราณเที่แท้ของเขาในตอนนี้สัมผัสกับกำแพงแล้วจึงเป็นตัวบ่งบอกได้ว่าแอ่งตันเถียนชั้นที่สามของเขาเต็มแล้ว
ถังเทียนมองดูหวังเจิ้นผู้นอนอยู่บนพื้นและยังคงอยู่ในสภาพไม่รู้สึกตัว
“นายเป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่เลวเลย ดังนั้นฉันจะไม่ชิงของจากนายอ๊า น่าเสียดายจริงๆ โอกาสน้อยนิดที่จะเก็บเกี่ยวสินสงคราม…” ถังเทียนเบ้ปาก เขาไม่ลังเลใจมองดูถ้ำเหนือหัวของเขาและรีบกระโดดขึ้นไป
ขณะที่ถังเทียนผ่านเส้นทางแสงนั้นมาพลังดึงดูดก็มาจากเหนือหัวของเขา
แรงดึงดูดนี้กระทันหันและน่าตระหนกทำให้ถังเทียนไม่สามารถตอบสนองได้ทันที และเขาได้พบกับประสบการณ์โลกหมุนติ้วเขามิได้สังเกตว่าเครื่องหมายหมู่ดาวกางเขนบนฝ่ามือของเขาสว่างขึ้น
ไม่ทราบว่าผ่านไปนานเพียงใด
ตุ้บ!
ถังเทียนล่วงหล่นลงไปในน้ำทะเลที่เย็นเฉียบเหมือนน้ำแข็งซึ่งกระทบใบหน้าของถังเทียนอย่างต่อเนื่อง ถังเทียนเวียนหัวอย่างหนักหลังจากตื่นขึ้นมาชั่วครู่
เอ๋! ทำไมถึงมีทะเลที่นี่? หวังเจิ้นบอกว่ามันควรจะมีกุญแจวิญญาณมิใช่หรือ?
ถังเทียนมองไปรอบๆตัวทันใดนั้น เขาก็มองเห็นจุดสีดำเล็กๆ ข้ามทะเลไปไกล
อยู่นั่นไง!
จิตใจของถังเทียนถูกกระตุ้นตื่นทันทีเขาใช้ปราณเที่ยงแท้เล็กน้อยในทันใด และกระโจนลงผิวทะเล
“คอยดูแปดก้าวไล่จับจักจั่นของเราให้ดี วิ่ง วิ่ง วิ่งกุญแจวิญญาณ ฉันมาแล้ว!”
ถังเทียนร้องลั่นก้องกังวานข้ามทะเลขณะที่เขาก่อให้เกิดกำแพงน้ำขณะที่เขาวิ่งอย่างรวดเร็วไปยังจุดสีดำเล็กๆปราณเที่ยงแท้ระดับสามของถังเทียนในตอนนี้อยู่ในระดับสูงสุด ด้วยเส้นปราณของเขาที่ยืดขยายเขาใช้วิชาแปดก้าวไล่จับจั๊กจั่นเหินไปด้วยความเร็วสูง
หกชั่วโมงต่อมา
ถังเทียนหอบหายใจ ปราณเที่ยงแท้ของเขาแทบจะหมดสิ้นลงจุดสีดำเล็กๆ ดูเหมือนใกล้ แต่ความจริงมันไกลมาก ในที่สุดถังเทียนได้แต่ว่ายไปน้ำอย่างท้อแท้ตรงไปยังเกาะเล็ก
แฮ่ก แฮ่ก แฮ่กกุญแจวิญญาณบ้าอะไรกัน… นี่ทรมานคนกันชัดๆ…
หัวใจของถังเทียนโกรธและพยายามที่จะใช้มือและขาของเขาเคลื่อนไปพลางเมื่อเขาว่ายเข้าไปใกล้ เขาก็ตระหนักได้ว่า มีผนังหินที่สูงใหญ่นัก มันสูงประมาณหกกิโลเมตรตั้งตระหง่านอยู่ในทะเล
งดงามสง่าจริงๆ!
เพียงแต่ยากจะปีนป่ายขึ้นไปได้แน่นอน…
ถังเทียนใช้ต้องใช้พลังปีนขึ้นไปช้าๆ…
ภายใต้เท้าเขา หินที่เรียบลื่นขนาดสามเมตรกว่าเบื้องหน้าของเขากระจายอย่างราบเรียบราวกับเป็นตารางสี่เหลี่ยม แพร่กระจายออกไปเป็นระเบียบทั่วทิศทางสุดสายตาของเขาขณะที่ดวงตาถังเทียนมองไปที่สุดผนังไกลๆ เขาก็ต้องตกตะลึง
ที่นั่น มีกองทัพจำนวนมหึมายืนขวางอยู่ จำนวนหอกทำให้ดูคล้ายกับป่า เศษฝุ่นเศษดินบนแผ่นดิน และมองดูก็มองไม่เห็นที่สุดเลยกองทัพยังคงนิ่งสงบ และมีรังสีฆ่าฟันเปล่งออกมาจากพวกมัน เป็นกองทัพที่ประหลาดนัก ไม่มีเสียงแม้แต่น้อยเงียบสนิทจนทำให้คนสั่นด้วยความกลัว
นี้ นี้ นี้…
ใบหน้าของถังเทียนขาวซีดเขารวบรวมความกล้า มองภาพเบื้องหน้าเขาและยังคงสั่นสะท้านด้วยความกลัวอยู่ดี
ฉัน ฉัน ฉัน…เดิน…เดินทางมาผิดที่เสียแล้ว….
ฟันของถังเทียนสั่น แต่เขาก็ไม่ส่งเสียงใดๆ ขณะที่ภาพในดวงตาของเขา ทำให้จิตใจเขาเครียดจนมิอาจทนได้ท้องไส้ของถังเทียนปั่นป่วนด้วยความกลัว ขณะที่จิตใจของเขาว่างเปล่า
ขณะที่เวลาผ่านไปกองทัพที่ปรากฏเบื้องหน้าของเขาก็ยังคงมิได้เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย
เงียบสนิททั่วทั้งสถานที่นี้งียบกริบ
สติของถังเทียนค่อยๆคืนกลับมาและสมองของเขาก็กลับมาทำงานอีกคราเอ๋ เกิดอะไรขึ้น?
เขาลังเลไปชั่วขณะ สงสัยมากมีคนตั้งมากมายที่นี่ ดังนั้นเขาไม่แม้แต่จะพยายามวิ่ง
“เฮ้ เฮ้ เฮ้ นี่มันที่ไหน?”
ถังเทียนตะโกนขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างระมัดระวังใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตัว ตราบเท่าที่เขาพบเห็นสิ่งผิดปกติ เขาจะวิ่งหนีทันที
ไม่มีผู้ใดตอบ
ถังเทียนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติขณะที่เขาเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ กองทหารที่อยู่ใกล้ก็ยังมิได้สังเกตอะไร
เงียบกริบ!
ถังเทียนกลืนน้ำลาย เขาก็มาถึงขอบผาแล้วและหวาดกลัวอย่างยิ่ง
ถังเทียนเดินไปเบื้องหน้ากองทัพแล้วค่อยผ่อนลมหายใจของเขาออก หลังจากลำบากมาทั้งวัน ก็ค้นพบว่าพวกมันมิใช่คนจริงๆเกือบขู่ขวัญเขาแทบตาย! ถังเทียนเห็นได้ชัด นี่เป็นกองทัพแน่นอน แต่เป็นแค่กองทัพหุ่นดินเผา
หุ่นดินเผาสีเทาขนาดเท่าคนจริง ทั้งหมดถือหอก พวกมันดูคล้ายมีชีวิต
นอกจากนี้พวกมันไม่มีใบหน้า!
ไม่มีหุ่นดินเผาตัวไหนที่มีใบหน้าและใบหน้าแต่ละตัวต่างเป็นกระดานสีขาวว่างเปล่า หุ่นไร้หน้านับไม่ถ้วน ยืนนิ่งเงียบด้วยการจัดรูปแบบที่เป็นระเบียบ ที่ห่างไกลออกไป ไม่สามารถมองเห็นจุดสิ้นสุดได้
หัวใจของถังเทียนสั่นสะท้านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนสีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นซีดขาวนี่… นี่มันสถานที่อะไรกัน?