ตอนที่ 46 ปลุกกระเรียนร่างสอง
หมัดเปลวเพลิงแดงทั้งสองดังหวีดหวิว เคียงคู่กันมา
เหมือนกับว่าเวลาเดินช้าลงอย่างผิดปกติ หมัดทั้งสองดูขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ต่อหน้าถังเทียนและร่างกระเรียนภายในตัวเขาคล้ายจะตื่นขึ้นมา ปีกสองทั้งสองเริ่มกางออก
ปราณเที่ยงแท้ภายในร่างของเขา ทั่วทุกส่วนของร่างกาย รวมถึงปราณเที่ยงแท้ที่ยังไม่ได้ใช้ออกมาก่อนต่างโคจรทั้งหมด
เสียงร้องของกระเรียนดังภายในใจของเขา
ภายในใจของถังเทียนว่างเปล่า เมื่อร่างสั่นสะท้าน เขาพุ่งหมัดจู่โจมไปเบื้องหน้าทันที!
ก้าวเฉียงแล้วออกหมัด!
พลังโคจรผ่านสองเท้า แผ่ผสานลึกลงไปในพื้นหินเมื่อพลังโคจรสัมผัสพบกับหมัดทั้งสองพลังหมัดคู่ก็พลันระเบิดออกอย่างไม่อาจจินตนาการได้
บึ้ม!
ประกายเหมือนพลุระเบิดเบื้องหน้าของเขา ปีกร่างกระเรียนของถังเทียนก็สั่นสะเทือนและพลังปราณก็แตกระเบิดออก หลั่งไหลไปภายในเส้นชีพจรในร่างของถังเทียนลงสู่ขาทั้งสองของเขาและลงสู่พื้นดิน
ปัง!
หินรอบๆขาของถังเทียนต่างแตกละเอียดเป็นผงทั้งหมด
ร่างของถังเทียนหายไปอีกครา
เป็นการวาดเท้าเฉียงแล้วจู่โจมด้วยหมัด!
การปะทะก็ขึ้นเกิดอีกครา
ปัง!
เมื่อร่างของถังเทียนสั่นสะเทือน รอบๆรองเท้าและกางเกงของเขาก็แตกกระจายเป็นผุยผง
พลังปราณระเบิดออกจากขาของเขาอีกครั้ง เขาพุ่งไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องทั้งที่หน้ายังก้มอยู่ถังเทียนรู้ได้อย่างชัดเจนว่า ถ้าหากเขาไม่อาจเข้าใกล้ระยะห่างระหว่างฝ่ายตรงข้ามและตัวเขาเขาจะไม่สามารถเอาชนะได้เลย
ลำแสงสว่างวาบเบื้องหน้าของเขา ถังเทียนคำรามเสียงต่ำและใช้หมัดทั้งสองอีกครา
ปัง!
ประกายไฟสีแดงระเบิดราวกับดอกไม้บาน และแยกเป็นสองส่วน เบ่งบานอยู่เบื้องหน้าถังเทียนในชั่วพริบตา ร่างของถังเทียนสั่นสะเทือน และสีหน้าของเขาก็ซีดขาวเพียงแต่เขายังคงก้มหน้าพุ่งไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องมันยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะใช้ออกหมัดสังหารถล่มทลาย…
ใบหน้าของหวังเจิ้นที่เยือกเย็นเผยให้เห็นสีหน้าที่ตกตะลึงถังเทียนเข้าใกล้มาครึ่งทางแล้ว แต่ท่าทางของเขาก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงเป็นเพียงสายตาที่เหมือนปลวเพลิงราวกับเหล็กที่ร้อนแดงเร่าร้อนและบ้าคลั่งอย่างยิ่ง
วงแหวนเปลวเพลิงหมุนเป็นเกลียวจากขาของหวังเจิ้นอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มพูนอย่างไม่หยุดและหลั่งไหลไปยังหมัดของเขาอย่างต่อเนื่อง
หมัดแปรเปลี่ยนจากสีแดงอ่อนกลายเป็นสีแดงเข้มก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นสีดำอย่างสมบูรณ์
เปลวเพลิงสีดำปกคลุมหมัดของหวังเจิ้นความอันตรายอันหนาวเย็นของปราณกระจายเต็มไปทั่วพื้นที่
หวังเจิ้นยังไม่เข้าใจถึงแก่นแท้กระบวนท่าสังหารของหมัดประกายไฟแต่เขาเข้าใจถึงแก่นแท้กระบวนท่าสังหารของหมัดปืนใหญ่แล้ว
ปืนใหญ่คู่สังหาร!
ถังเทียน นี่จะเป็นจุดจบ!
หวังเจิ้นมีสีหน้าไร้ความรู้สึกพึมพำภายในใจของเขาอย่างเงียบๆ
แขนทั้งสองของเขาเหยียดตรง รั้งไปข้างหลังอย่างหนักหน่วงหวังเจิ้นถอยหลังไปสามก้าวก่อนที่เขาจะหมดพลังไปกับการโจมตีสวนกลับครั้งนี้
หมัดเปลวเพลิงสีดำทั้งสองบินมาราวกับกระสุนที่รุนแรงสองลูก ก่อเกิดระลอกคลื่นโดยรอบอย่างเห็นได้ชัด
ความอันตรายที่แรงกล้าไล่ตามไปที่ถังเทียน ถังเทียนหลั่งเหงื่อและผมของเขาก็ตั้งชัน เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหลบหลีก เพียงแต่ ตราบเท่าที่เขาใช้สิ่งนี้ได้เขาจะชนะ… เพื่อที่จะใช้ให้ได้เขายังคงมีหมัดสังหารถล่มทลาย…
ถังเทียนเบิกตาของเขากว้างแล้วย่อตัว เขาจ้องมองและติดตามไปยังเปลวเพลิงสีดำที่กำลังเข้ามาหาเขาทันใดนั้นเขาก็ออกหมัดทั้งสองของเขา
ปัง!
เปลวเพลิงลุกท่วมไปทั่วถังเทียน และทันใดนั้น เปลวเพลิงสีดำก็ระเบิดออก
ความร้อนของเปลวเพลิงสีดำช่างน่าทึ่งนัก หินรอบๆพวกมันต่างเริ่มละลายลง เป็นเปลวเพลิงดำที่แปลกพิสดารนักราวกับดอกไม้เปลวเพลิงสีดำที่เบ่งบาน เปลวเพลิงลุกโหมรุนแรงดูท่าจะไม่มอดดับลง
ถังเทียน…
ความตื่นเต้นในสายตาของหวังเจิ้นค่อยๆลดลง แขนทั้งสองของเขาก็ทิ้งลงความดื้อรั้นของถังเทียนเกินกว่าที่เขาคาดคิดไว้นัก เขาเป็นคนที่ดื้อรั้นอย่างยิ่งบังคับให้เขาจนต้องใช้กระบวนท่าสังหารออกมา
มันเป็นพลังที่น่ากลัวอย่างยิ่ง มันลุกไหม้โคจรอยู่ภายในร่างของถังเทียน ลูกเพลิงสีดำดูคล้ายจะสามารถทำลายได้ทุกสิ่งยามเมื่อหมัดของถังเทียนปะทะกับหมัดเปลวเพลิงสีดำหมัดเปลวเพลิงสีดำก็สั่นสะเทือนอย่างมากด้วยพลังปราณราวกับมีพลังของสายฟ้าผ่าลงไหลผ่านเข้าไปในร่างของถังเทียนภายในร่างของถังเทียน ร่างกระเรียนแตกกระจายทันที
พลังปราณไหลวนไปรอบๆอย่างไร้จุดหมายและไหลผ่านไปยังเส้นชีพจร กล้ามเนื้อและอวัยวะภายในของถังเทียน ทำลายทุกสิ่ง ภายใต้พลังปราณอันน่ากลัวนี้ ปราณเที่ยงแท้ของถังเทียนดูบางเบาราวกับกระดาษ
ทำลาย ทำลาย และทำลาย!
ยามเมื่อพลังทำลายของปราณนี้หลั่งไหลจากแอ่งตันเถียนที่สามเข้าสู่แอ่งตันเถียนที่สองก็ปะทะเข้ากับร่างกระเรียนที่สองที่หลับนิ่งอยู่
ร่างกระเรียนที่สองดูคล้ายถูกปลุกกระตุ้นขึ้นมาทันที และขยับปีกอย่างเชื่องช้า
หวังเจิ้นมองดูอย่างเงียบๆ ขณะที่เปลวเพลิงสีดำลุกไหม้เข้าไปและพุ่งออกมาเปลวเพลิงสีดำของ ปืนใหญ่คู่สังหาร เกิดขึ้นได้จากการได้รับแรงกดดันภายใต้ธาตุไฟความร้อนที่ปลดปล่อยออกมาหรือขอบเขตของการทำลายที่เกิดขึ้นทั้งสองต่างเป็นพลังพิเศษของหมัดปืนใหญ่
แม้ว่าหวังเจิ้นฝึกฝนวิชานี้มาเป็นเวลานานแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้ออกในการต่อสู้
พลังของมันแข็งแกร่งอย่างยิ่งกว่าที่เขาจินตนาการไว้!
ภายใต้ความสงบของหวังเจิ้น มีความเวทนาอยู่ภายในหัวใจของเขาขณะที่เปลวเพลิงสีดำเริ่มจะมอดดับ ร่างของถังเทียนก็ดำเป็นถ่านนอนอยู่บนพื้นปราศจากการไหวติง
ถังเทียน นายไม่น่าต้องมาตายอย่างนี้เลย…
หวังเจิ้นขบคิดอย่างเงียบภายในหัวใจของเขาขณะที่เขาตั้งใจมองไปที่ถังเทียนขณะที่เขาต้องการกระโจนไปภายในแสงสีขาวเหนือหัวเขา
“เฮ้… การต่อสู้ของพวกเรายังไม่จบ…”
เสียงแหบพร่าดังขึ้นมาจากด้านหลังของหวังเจิ้น เขาก็หยุดชะงักก้าวเดินแล้วหันกลับมา
ถังเทียนกำลังดิ้นรนอยู่บนพื้นขณะที่เขาพยายามจะคลานขึ้นมาร่างของเขาถูกไหม้และเสื้อผ้าของเขาก็ยับเยินหวังเจิ้นรู้ว่าถังเทียนบาดเจ็บภายในอย่างสาหัส ปืนใหญ่คู่สังหารมีการระเบิดพลังอย่างแท้จริง อวัยวะภายในของถังเทียนทั้งหมดต่างถูกทำลาย
“ฉันขอแนะนำว่านายอย่าได้เคลื่อนไหว เพราะจะทำให้อาการบาดเจ็บของนายแย่ลง”หวังเจิ้นกล่าวอย่างสงบ “เป็นไปไม่ได้ที่นายจะชนะ ไม่จำเป็นจะต้องต่อสู้อีกต่อไป”
“ใคร… ใครพูดอย่างนั้น…”
ในที่สุดถังเทียนก็ยืนขึ้น โซเซเอียงจนเกือบล้ม เขาเงยหน้ามองใบหน้าของเขาดำและผมของเขาก็ไหม้ เขาดูน่าเกลียดอย่างยิ่ง
“บทสรุปของการต่อสู้นี้ชัดเจนแล้ว นายพยายามได้ดีที่สุดแล้ว” หวังเจิ้นยังคงสงบ“นี่เป็นเพียงการประลองระหว่างสถาบัน ไม่จำเป็นจะต้องมาจบชีวิตโดยไม่จำเป็น”
“หึหึ…” ถังเทียนดูน่าเกลียดนักขณะที่เขาหัวร่อ ร่างของเขามั่นคงแล้ว เขามองดูหวังเจิ้นราวกับมีบางอย่างอยู่ในสายตาของเขา“ไม่จำเป็นงั้นหรือ?”
ร่างกระเรียนที่สองภายในร่างของเขายังคงแปรเปลี่ยนเรื่อยๆ และการกดดันของร่างกระเรียนตัวแรกก็ลดลงซึ่งเริ่มที่จะก่อร่างขึ้นอีกครา
พลังปราณดูดซึมเข้าสู่ร่างของถังเทียนราวกับถูกดึงดูดด้วยแม่เหล็กมันเริ่มหลั่งไหลไปยังร่างกระเรียนที่สอง ร่างกระเรียนที่สองคล้ายราวกับหลุมอันไร้ก้นไม่มีที่สิ้นสุดมันดูดกลืนปราณทำลายล้างอย่างต่อเรื่อง ร่างกระเรียนตัวน้อยก็เริ่มที่จะพองตัวขึ้น
เขาเริ่มพึมพำกับตัวเอง
“ในอดีต มิมีผู้ใดชื่นชอบนาย พวกเขาต่างล้อเลียนนายดูแคลนนายและหวาดกลัวนาย นายไม่มีมิตรสหาย ไม่มีรอยยิ้ม ทุกวันนายใช้ชีวิตอย่างหนาวเหน็บในตอนนี้ นายใช้ชีวิตอย่างเป็นสุข นายมีสหาย มีรอยยิ้มและแปรเปลี่ยนเป็นคนงี่เง่าทุกสิ่งที่โง่เขลาที่นายไม่สามารถทำได้ในอดีต นายช่วยเหลือผู้อื่นและหัวเราะกับผู้อื่นนายให้กำลังใจผู้อื่น บอกกล่าวความฝันของนายทั้งหมด ฝันที่มีเกียรติของนายทั้งหมดพวกเขาไม่เข้าใจมัน นายได้กล่าวว่าจะสู้เคียงข้างกัน ไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมถอยในสถานที่นี้ มันจะไม่จำเป็นได้ยังไง?”
ถังเทียนก้มลงมองไปยังฝ่ามือของเขาพลางพึมพำกับตัวเอง
“ฉันกล่าวไว้แล้ว ฉันจะต้องได้ชัยชนะในที่นี้ ฉันจะต้องคว้าอันดับแรก!”
“ฉันกล่าวไว้แล้ว ไม่ว่าผู้เฒ่าเว่ยมีเหตุผลอะไร ฉันจะช่วยเขาเสมอ!”
“ฉันกล่าวไว้แล้ว หากฉันจะต้องตาย ฉันยังคงจะต้องได้รับชัยชนะ!”
ถังเทียนเงยหน้าของเขาขึ้น ดวงตาของเขาลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง เขากำหมัดแน่น
“ฉันจะพ่ายแพ้ได้ยังไง!”
“นายประมาทฉัน!”
เสียงคำรามของเขาราวกับอสูรถังเทียนพลันแปรเปลี่ยนเป็นลำแสงเงาสีดำพลางพุ่งเข้าไปหาหวังเจิ้น
ม่านตาของหวังเจิ้นหดลง รวดเร็วมาก!
แคร่กแคร่ก!
เสียงดังผสานกัน แขนทั้งสองของหวังเจิ้นก็ตั้งเหยียดตรง ยกขึ้นราวกับสายฟ้าชี้ไปยังถังเทียน
ปราณเที่ยงแท้แดงของธาตุไฟคล้ายเปล่งประกายพร้อมกัน รวบรวมไปที่หมัดของหวังเจิ้นรวดเร็วดั่งสายฟ้าแม้กระทั่งเมื่อเห็นฉากดังกล่าว ดวงตาของหวังเจิ้นยังคงหนาวเย็นราวกับน้ำแข็งเย็นเยียบราวกับเหล็ก
หมัดเปลวเพลิงสีแดงปรากฏขึ้นเหมือนกับสายฟ้า
ปง!
เสียงหวีดหวิวเยือกเย็นดังก้องอีกครา
ประกายแสงสีแดง
ปัง!
ประกายไฟสีแดงระเบิดขึ้นอีกคราถังเทียนทุบทำลายหมัดเปลวเพลิงสีแดงแตกเป็นชิ้นด้วยหมัดพิฆาตน้อย
ถังเทียนยังคงเร็วขึ้นอีกในตอนนี้!
หวังเจิ้นยังคงสงบตามปกติ แขนของเขารั้งถอยหลังไปเล็กน้อย ปงหมัดเปลวเพลิงสีแดงก็พุ่งไปยังถังเทียน!
“ตายซะเถอะ!”
เสียงคำรามของถังเทียนอย่างกับอสูรกาย สีหน้าของเขาดูเจ้าเล่ห์เขาบดขยี้หมัดเปลวเพลิงสีแดงเป็นชิ้นๆด้วยอีกหมัดนึง
นี่เป็นครั้งแรกที่สีหน้าของหวังเจิ้นเปลี่ยนแปลงไปม่านตาของเขากลับกลายเป็นเล็กเท่ารูเข็ม
ไม่ใช่เรื่องใหญ่ยามเมื่อถังเทียนบดขยี้หมัดปืนใหญ่ด้วยหมัดเดียวแต่ก่อนหน้านี้ ยามเมื่อเขาบดขยี้ทำลายหมัดปืนใหญ่การย่างก้าวของเขาจะหยุดไปชั่วขณะ และถังเทียนก็บดขยี้ทำลายหมัดปืนใหญ่ไปสองครั้งในคราเดียวเพียงแต่ร่างของเขาราวกับมิได้รับผลกระทบแต่อย่างใดเลย
เขาแข็งแกร่งขึ้นงั้นหรือ…?
หวังเจิ้นคร่ำครวญ ร่างของเขาสั่นและเหินไปด้านหลัง
ขณะที่เขาเหินถอยไป เขาก็ปล่อยหมัดออกอย่างต่อเนื่องไปที่ถังเทียนลำแสงสีแดงก็พุ่งออกไปยังเขาด้วยจำนวนที่น่าทึ่ง!
ปัง ปัง!
กลุ่มเปลวเพลิงก็ระเบิดในอากาศอย่างต่อเนื่องเงาสีดำเลือนลางก็กระโจนออกมาตามถนนเปลวเพลิงทุกย่างก้าวที่เขาเหยียบหนักหน่วงจนพื้นหินแตกละเอียดเป็นชิ้นและมันก็เกิดขึ้นในชั่วพริบตาราวกับสายฟ้า
อีกคราวที่ปราณเที่ยงแท้ภายในร่างของหวังเจิ้นเริ่มพรั่งพรูอย่างรุนแรงดวงตาอันเยือกเย็นของเขาเปล่งประกายไปด้วยแสงอันบ้าคลั่งหมัดเปลวเพลิงสีดำก่อตัวอย่างรวดเร็ว
ปืนใหญ่คู่สังหาร!
ในตอนนี้ หวังเจิ้นมิได้ถอยห่างออกไปแล้ว เขาจ้องมองอย่างจดจ่อไปยังเงาบ้าคลั่งผู้ซึ่งบดขยี้สิ่งต่างๆเป็นผุยผงและเกิดระเบิดหลายครั้งติดตามมา
เนื่องจากแกต้องการชัยชนะแม้ว่าแกจะต้องตาย งั้นก็ตามใจแก!
ปง!
คลื่นพลังรุนแรงเกือบจะทำให้หวังเจิ้นกระเด็นออกไปขณะที่สีหน้าราวกับเหล็กของเขาแปรเปลี่ยนเป็นขาวซีดราวกับกระดาษ
อย่างไรก็ตามสายตาของเขายังคงมีความมั่นใจเขาจ้องมองไปยังหมัดเปลวเพลิงสีดำอย่างตั้งใจด้วยดวงตาของเขา
ไป! ทำลายมันซะ!
ในชั่วขณะนั้น หวังเจิ้นก็สงบลง ชัยชนะมันเป็นของเขาแล้ว
เงาอันบ้าคลั่งปราศจากความลังเลและความกลัว แน่วแน่ดั่งมีดแหลมคม ปะทะเข้ากับหมัดเปลวเพลิงสีดำอย่างดุร้าย
ใบหน้าดำเป็นถ่านของถังเทียนเผยให้เห็นฟันสองแถวสีขาวราวกับหิมะ ขบกัดแน่น เขาแค่นเสียงจากไรฟันของเขาออกมาสองคำ
“ตายซะ!”
เขาใช้ออกด้วยหมัดพุ่งไปยังหมัดเปลวเพลิงสีดำ ในเวลาเดียวกันเสียงร้องของกระเรียนก็ดังภายในจิตใจของเขา
มันจบแล้ว… ดวงตาของหวังเจิ้นสงบ ปราศจากความประหลาดใจด้วยโจมตีที่ความรุนแรงและโหดเหี้ยมนี้ มันก็เกินขีดจำกัดของเขาแล้วภายใต้แรงกดดันอันมากมายของ ปืนใหญ่คู่สังหาร ได้หลอมรวมวิชาการต่อสู้ทั้งหมดของเขาและมันเป็นขั้นสุดยอดของเขาแล้ว!
ปุ!
เสียงบางเบาแทบจะไม่ได้ยิน แต่มันดังภายในหูของหวังเจิ้นราวกับฟ้าผ่า
ในฉับพลันนั้น หมัดเปลวเพลิงสีดำทั้งสองที่หมุนเป็นเกลียวด้วยความเร็วสูงเปี่ยมด้วยพลังทำลายมหาศาล กลับแตกสลายอย่างราบคาบลงกับพื้นอย่างพิศดารราวกับก้อนหิมะสีดำที่แสนเปราะบาง!
มันเป็นไปได้ยังไง…
จิตใจของหวังเจิ้นว่างเปล่า มือของเขาเย็นเฉียบ เงาร่างสีดำเบื้องหน้าของเขาหายไปแล้วเงาที่เขาได้หลงลืมไปแล้ว
ทันใดนั้นความเจ็บปวดก็เกิดที่ด้านหลังคอของเขาภาพภายในดวงตาของหวังเจิ้นก็พลันมืดลง และเขาก็หมดสติไป
แฮก แฮก แฮก…
ถังเทียนหอบหายใจอย่างหนักดังก้องไปทั่วถ้ำ
ชนะ…เราชนะ…เราชนะแล้ว…!
ถังเทียนจ้องมองฝ่ามือของเขาอย่างเหลือเชื่อ