ตอนที่ 41 ความเศร้าของอวิ๋นฉีหลัว
พอฟังเสียงแจ้งเตือนในหู ซูสือก็ตัวแข็ง
"ข้าสงสัยว่าข้าได้กี่แต้มกัน?"
ชื่อเสียงของสำนักยักษ์มารขุมนรกกำลังเพิ่ม
นี่เข้าใจได้
เหนือสิ่งอื่นใด เขาแสดงพรสวรรค์ในที่สาธารณะ และนั่นก็เป็นพรสวรรค์ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสมบูรณ์
ควบคู่กับความสำเร็จก่อนหน้า มันเลี่ยงไม่ได้ที่ผู้คนจะตื่นตระหนก
ไม่ต้องพูดถึงในโลกมืด
ชื่อของซูสือดังไปทั่วเก้าภูมิภาค!
สำหรับ'การตัดสินใจครั้งใหญ่'ของอวิ๋นฉีหลัว นางคงอยากให้เขาเป็นผู้สืบทอดหลัก
นี่จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อโครงเรื่อง
มันสมเหตุสมผลกับยี่สิบแต้มแล้ว
แต่สิ่งที่เขาไม่เข้าใจสุดคือใใใ
"เซินอี้เหรินเกี่ยวอะไร?"
ซูสือลูบคางและขมวดคิ้ว"ยัยหมีโหดก็เปลี่ยนแปลง?"
พอคิดถึงการกระทำของเซินอี้เหรินก่อนหน้า มันดูเหมือนนางจะไม่เหมือนเดิม
แม้จะยังเสียงดัง นางก็ช่วยเขาไว้
ซูสือส่ายหัวและไม่คิดมาก
เขาจดจ่อกับแผงระบบ
[เจ้าของ : ซูสือล
[สถานะ : เต็มไปด้วยเลือดและลมปราณ]
[พรสวรรค์ : ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสมบูรณ์]
[ฐานบ่มเพาะ : แก่นทองคำขั้นต้น]
[เคล็ดบ่มเพาะ : เคล็ดลมหายใจแห่งขุมนรก(สำเร็จอย่างมาก) เคล็ดบ่มเพาะเทพขุมนรก(สำเร็จเล็กน้อย)]
[แต้มโครงเรื่อง : 101]
แม้เขาจะเตรียมใจมาแล้ว ซูสือก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้ตอนเห็นแต้มสูงถึงสามหลัก
ครั้งนี้ เขาได้รับมารวม 35 แต้ม บวกกับ 69 แต้มที่เขามีอยู่แล้ว
นั่นคือ 101 แต้ม!
"สุดยอด!"
ซูสือฉีกยิ้ม"ดูเหมือนการอวดครั้งนี้จะไม่ใช่เรื่องแย่นะ?"
แม้จะบอกว่านกที่บินนำหน้ามักโดนยิงก่อน แต่ถ้าเขาคือคุนเผิงที่ปกคลุมท้องฟ้าละ?
ตราบเท่าที่เขาโตเร็วพอและแข็.แกร่งพอ งั้นก็ไม่มีใครทำร้ายเขาได้!
ด้วยแต้มมากขนาดนี้ มันมากพอให้จับจ่าย
เขาเปิดร้านค้า ซึ่งเต็มไปด้วยของละลานตา
[เคล็ดจำแลงหยินไร้สิ้นสุด 500 แต้มโครงเรื่อง]
[การจุติของเก้าภูตผี 998 แต้มโครงเรื่อง]
[พระสูตรฟ้าดิน หยินและหยาง 888 แต้มโครงเรื่อง]
[ดาบลมสวรรค์(ติดตั้งกับเจตจำนงดาบ) 666 แต้มโครงเรื่อง
[...]
สมบัติกับความสามารถนับไม่ถ้วนปรากฏต่อหน้าเขา
เพียงแค่หนึ่งในนั้ก็มากพอจะทำให้โลกคลุ้มคลั่ง!
ซูสือมองกวาด
ของเหล่านี้ แม้จะล่อตา แต่ก็แพงเกินกำลัง
อย่ากัดมากกว่าที่เคี้ยวได้
สิ่งที่เขาต้องการตอนนี้คือสิ่งที่สามารถเพิ่มพลังเขาได้เร็วๆ
ตอนนี้ ซูสือสังเกตเห็นวัตถุที่เปล่งแสงอยู่ตรงมุม
[พระสูตรสวรรค์(แนะนำ) ราคา : 100แต้มโครงเรื่อง]
"ระบบยังโปรโมทด้วยเนี่ยนะ?"
หลังเพ่งมองใกล้ๆ
[พระสูตรสวรรค์ : สนับสนุน]
[หลังเข้าใจมัน พลังปราณจะวิ่งด้วยตัวมันเองตามเส้นทางที่ตั้งไว้ ความเร็วการบ่มเพาะจะขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ของเจ้าของ]
"วิ่งด้วยตัวมันเอง?"
รูม่านตาของซูสือหดลง
เขารู้ความหมายนี้
ตราบเท่าที่เขาเข้าใจพระสูตรสวรรค์ พลังปราณของเขาจะสามารถหมุนเวียนได้ด้วยตัวมันเอง และการบ่มเพาะของเขาจะพัฒนาไปเรื่อยๆด้วยตัวของมันเองโดยที่เขาไม่ต้องทำสมาธิหรือฝึกฝน
"งั้นข้าก็ไม่ต้องบ่มเพาะตลอดเวลา!"
"ของดี และก็แค่ร้อยแต้ม?"
ซูสือเลียริมฝีปาก
ราคาสมเหตุสมผล
พระสูตรสวรรค์แค่สิ่งสนับสนุน ไม่ใช่การเพิ่มพลังตรงๆ
ผลของมันยังขึ้นอยู่กับพรสวรรค์และเคล็ดบ่มเพาะของผู้ใช้
ยกเว้นว่าซูสือดันมีพรสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสมบูรณ์และบ่มเพาะเคล็ดบ่มเพาะขุมนรกของจักรพรรดินีมาร!
มันราวกับนี่ทำมาเพื่อเขา!
ซูสือไม่ลังเลและกดซื้อ
แต้มโครงเรื่องเขาหายวับ เหลือแค่หนึ่งแต้มน้อยๆ
แสงวิ่งเข้าหน้าผากเขา และท้องฟ้าก็พลันส่องสว่าง พลังลึกลับวิ่งไต่เส้นชีพจรของเขา ขัดเกลาตันเถียน
มันราวกับพลังปราณในตัวเขาได้รับการชี้แนะ มันวิ่งด้วยตัวมันเองตามเส้นทางของพลังปราณเทพขุมนรกของเขา
ซูสือหยิบหินปราณออกมา
พลังปราณถูกดูดซับอย่างรวดเร็ว และไหลเข้าเส้นชีพจรของเขา พัฒนาการบ่มเพาะของเขาอย่างต่อเนื่อง
"พระสูตรนี้เหมาะกับคนขี้เกียจมาก!"
ซูสือพอใจมาก
ไม่ว่าจะเดิน กินหรือนอน เขาจะบ่มเพาะได้เรื่อยๆ ไม่ต้องทำเองเลย!
ทำใจให้สบายและเพลิดเพลินกับชีวิต!
"สมบูรณ์แบบ"!
จากนั้น เสียงจากอวิ๋นฉีหลัวก็ดังในหูเขา
"ซูสือ มาวังยักษ์มาร"
รอยยิ้มของซูสือหายไป เขาก้มหัว"ขอรับ"
เขาตื่นต้นจนเกือบลืมไปสนิท
จักรพรรดินีมารเรียกตัวเขา น่าจะเพื่อตำแหน่งศิษย์สืบทอด
ศิษย์สืบทอดหมายถึงสถานะสูงสุด และทรัพยากรไร้ขีดจำกัด
แต่ในเวลเาดียวกัน เขายังถูกผูกมัดกับสำนักยักษ์มารขุมนรก กลายเป็นขวากหนามของขุมอำนาจอื่น!
"ซือคงหลานเยวี่ย เฟิงเฉาเกอ เฉินหวังฉวน.."
มันไม่ใชเรื่องดีสำหรับเขาที่จะเข้าหูตาของยอดฝีมือเหล่านี้ในตอนที่ปีกของเขายังไม่สยาย
นิสัยกับอารมณ์ของจักรพรรดินีมารหุนหันพลันแล่น
แม้นางจะปฏิบัติกับเขาอย่างดี แต่ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรในอนาคต
ยิ่งไปกว่านั้น ต่อหน้าอวิ๋นฉีหลัว เขารู้สึกเหมือนโดนมองทะลุหมดเปลือก ราวกับนางเห็นความลับทั้งหมดของเขา
"ข้ารู้ว่าข้าไม่ควรเอามะระหวานให้นางเลยตอนนั้น"
ซูสือพึมพำในใจ
..
วังยักษ์มาร
อวิ๋นฉีหลัวนั่งบนเก้าอี้ฟีนิกส์ มองซูสือที่ยืนสำรวมด้านหน้านาง
"เจ้าได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว ข้าเชื่อว่าหลังจากวันนี้ จะไม่มีคำค้านในสำนัก"
ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสมบูรณ์
ถ้าพรสวรรค์เช่นนี้ไม่อาจเป็นศิษย์สืบทอดได้ งั้นคงไม่มีใครในโลกมีคุณสมบัติ
ซูสือก้มหัว"ฝ่าบาท โปรดคิดทบทวนด้วย ความสามารถของผู้น้อยน้อยนิดและเกรงว่าจะไม่มีคุณสมบัติเป็นศิษย์สืบทอด"
อวิ๋นฉีหลัวหรี่ตา"เจ้าไม่อยากติดตามข้า?"
"ฝ่าบาทเข้าใจผิดแล้ว"
ซูสือส่ายหัว"ผู้น้อยแค่อยากเป็นแม่ทัพตัวน้อย และเปิดดินแดนให้ฝ่าบาทบนแนวหน้า"
อากาศเงียบ
หลังผ่านไปนาน เสียงต่ำของอวิ๋นฉีหลัวก็ดัง
"เจ้าบอกว่าภูเขากับทะเลไม่อาจเคลื่อน แต่ตอนนี้เจ้าได้เหยียบบนพวกมันแล้ว ทำไมเจ้าถึงยังไม่กล้าเข้าหาข้า?"
ซูสือตัวแข็งและเงยหน้าขึ้นมอง
เขาเห็นว่าจักรพรรดินีผู้อยู่เพื่อฆ่ากลับกำลังกัดริมฝีปากนางอย่างอ่อนโยน และดูเหมือนจะมีน้ำชุ่มชื้นปกคลุมดวงตานาง
ดูเหมือนจะมีร่องรอยของ..
ความเศร้า?
พอฟังเสียงแจ้งเตือนในหู ซูสือก็ตัวแข็ง
"ข้าสงสัยว่าข้าได้กี่แต้มกัน?"
ชื่อเสียงของสำนักยักษ์มารขุมนรกกำลังเพิ่ม
นี่เข้าใจได้
เหนือสิ่งอื่นใด เขาแสดงพรสวรรค์ในที่สาธารณะ และนั่นก็เป็นพรสวรรค์ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสมบูรณ์
ควบคู่กับความสำเร็จก่อนหน้า มันเลี่ยงไม่ได้ที่ผู้คนจะตื่นตระหนก
ไม่ต้องพูดถึงในโลกมืด
ชื่อของซูสือดังไปทั่วเก้าภูมิภาค!
สำหรับ'การตัดสินใจครั้งใหญ่'ของอวิ๋นฉีหลัว นางคงอยากให้เขาเป็นผู้สืบทอดหลัก
นี่จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อโครงเรื่อง
มันสมเหตุสมผลกับยี่สิบแต้มแล้ว
แต่สิ่งที่เขาไม่เข้าใจสุดคือใใใ
"เซินอี้เหรินเกี่ยวอะไร?"
ซูสือลูบคางและขมวดคิ้ว"ยัยหมีโหดก็เปลี่ยนแปลง?"
พอคิดถึงการกระทำของเซินอี้เหรินก่อนหน้า มันดูเหมือนนางจะไม่เหมือนเดิม
แม้จะยังเสียงดัง นางก็ช่วยเขาไว้
ซูสือส่ายหัวและไม่คิดมาก
เขาจดจ่อกับแผงระบบ
[เจ้าของ : ซูสือล
[สถานะ : เต็มไปด้วยเลือดและลมปราณ]
[พรสวรรค์ : ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสมบูรณ์]
[ฐานบ่มเพาะ : แก่นทองคำขั้นต้น]
[เคล็ดบ่มเพาะ : เคล็ดลมหายใจแห่งขุมนรก(สำเร็จอย่างมาก) เคล็ดบ่มเพาะเทพขุมนรก(สำเร็จเล็กน้อย)]
[แต้มโครงเรื่อง : 101]
แม้เขาจะเตรียมใจมาแล้ว ซูสือก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้ตอนเห็นแต้มสูงถึงสามหลัก
ครั้งนี้ เขาได้รับมารวม 35 แต้ม บวกกับ 69 แต้มที่เขามีอยู่แล้ว
นั่นคือ 101 แต้ม!
"สุดยอด!"
ซูสือฉีกยิ้ม"ดูเหมือนการอวดครั้งนี้จะไม่ใช่เรื่องแย่นะ?"
แม้จะบอกว่านกที่บินนำหน้ามักโดนยิงก่อน แต่ถ้าเขาคือคุนเผิงที่ปกคลุมท้องฟ้าละ?
ตราบเท่าที่เขาโตเร็วพอและแข็.แกร่งพอ งั้นก็ไม่มีใครทำร้ายเขาได้!
ด้วยแต้มมากขนาดนี้ มันมากพอให้จับจ่าย
เขาเปิดร้านค้า ซึ่งเต็มไปด้วยของละลานตา
[เคล็ดจำแลงหยินไร้สิ้นสุด 500 แต้มโครงเรื่อง]
[การจุติของเก้าภูตผี 998 แต้มโครงเรื่อง]
[พระสูตรฟ้าดิน หยินและหยาง 888 แต้มโครงเรื่อง]
[ดาบลมสวรรค์(ติดตั้งกับเจตจำนงดาบ) 666 แต้มโครงเรื่อง
[...]
สมบัติกับความสามารถนับไม่ถ้วนปรากฏต่อหน้าเขา
เพียงแค่หนึ่งในนั้ก็มากพอจะทำให้โลกคลุ้มคลั่ง!
ซูสือมองกวาด
ของเหล่านี้ แม้จะล่อตา แต่ก็แพงเกินกำลัง
อย่ากัดมากกว่าที่เคี้ยวได้
สิ่งที่เขาต้องการตอนนี้คือสิ่งที่สามารถเพิ่มพลังเขาได้เร็วๆ
ตอนนี้ ซูสือสังเกตเห็นวัตถุที่เปล่งแสงอยู่ตรงมุม
[พระสูตรสวรรค์(แนะนำ) ราคา : 100แต้มโครงเรื่อง]
"ระบบยังโปรโมทด้วยเนี่ยนะ?"
หลังเพ่งมองใกล้ๆ
[พระสูตรสวรรค์ : สนับสนุน]
[หลังเข้าใจมัน พลังปราณจะวิ่งด้วยตัวมันเองตามเส้นทางที่ตั้งไว้ ความเร็วการบ่มเพาะจะขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ของเจ้าของ]
"วิ่งด้วยตัวมันเอง?"
รูม่านตาของซูสือหดลง
เขารู้ความหมายนี้
ตราบเท่าที่เขาเข้าใจพระสูตรสวรรค์ พลังปราณของเขาจะสามารถหมุนเวียนได้ด้วยตัวมันเอง และการบ่มเพาะของเขาจะพัฒนาไปเรื่อยๆด้วยตัวของมันเองโดยที่เขาไม่ต้องทำสมาธิหรือฝึกฝน
"งั้นข้าก็ไม่ต้องบ่มเพาะตลอดเวลา!"
"ของดี และก็แค่ร้อยแต้ม?"
ซูสือเลียริมฝีปาก
ราคาสมเหตุสมผล
พระสูตรสวรรค์แค่สิ่งสนับสนุน ไม่ใช่การเพิ่มพลังตรงๆ
ผลของมันยังขึ้นอยู่กับพรสวรรค์และเคล็ดบ่มเพาะของผู้ใช้
ยกเว้นว่าซูสือดันมีพรสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสมบูรณ์และบ่มเพาะเคล็ดบ่มเพาะขุมนรกของจักรพรรดินีมาร!
มันราวกับนี่ทำมาเพื่อเขา!
ซูสือไม่ลังเลและกดซื้อ
แต้มโครงเรื่องเขาหายวับ เหลือแค่หนึ่งแต้มน้อยๆ
แสงวิ่งเข้าหน้าผากเขา และท้องฟ้าก็พลันส่องสว่าง พลังลึกลับวิ่งไต่เส้นชีพจรของเขา ขัดเกลาตันเถียน
มันราวกับพลังปราณในตัวเขาได้รับการชี้แนะ มันวิ่งด้วยตัวมันเองตามเส้นทางของพลังปราณเทพขุมนรกของเขา
ซูสือหยิบหินปราณออกมา
พลังปราณถูกดูดซับอย่างรวดเร็ว และไหลเข้าเส้นชีพจรของเขา พัฒนาการบ่มเพาะของเขาอย่างต่อเนื่อง
"พระสูตรนี้เหมาะกับคนขี้เกียจมาก!"
ซูสือพอใจมาก
ไม่ว่าจะเดิน กินหรือนอน เขาจะบ่มเพาะได้เรื่อยๆ ไม่ต้องทำเองเลย!
ทำใจให้สบายและเพลิดเพลินกับชีวิต!
"สมบูรณ์แบบ"!
จากนั้น เสียงจากอวิ๋นฉีหลัวก็ดังในหูเขา
"ซูสือ มาวังยักษ์มาร"
รอยยิ้มของซูสือหายไป เขาก้มหัว"ขอรับ"
เขาตื่นต้นจนเกือบลืมไปสนิท
จักรพรรดินีมารเรียกตัวเขา น่าจะเพื่อตำแหน่งศิษย์สืบทอด
ศิษย์สืบทอดหมายถึงสถานะสูงสุด และทรัพยากรไร้ขีดจำกัด
แต่ในเวลเาดียวกัน เขายังถูกผูกมัดกับสำนักยักษ์มารขุมนรก กลายเป็นขวากหนามของขุมอำนาจอื่น!
"ซือคงหลานเยวี่ย เฟิงเฉาเกอ เฉินหวังฉวน.."
มันไม่ใชเรื่องดีสำหรับเขาที่จะเข้าหูตาของยอดฝีมือเหล่านี้ในตอนที่ปีกของเขายังไม่สยาย
นิสัยกับอารมณ์ของจักรพรรดินีมารหุนหันพลันแล่น
แม้นางจะปฏิบัติกับเขาอย่างดี แต่ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรในอนาคต
ยิ่งไปกว่านั้น ต่อหน้าอวิ๋นฉีหลัว เขารู้สึกเหมือนโดนมองทะลุหมดเปลือก ราวกับนางเห็นความลับทั้งหมดของเขา
"ข้ารู้ว่าข้าไม่ควรเอามะระหวานให้นางเลยตอนนั้น"
ซูสือพึมพำในใจ
..
วังยักษ์มาร
อวิ๋นฉีหลัวนั่งบนเก้าอี้ฟีนิกส์ มองซูสือที่ยืนสำรวมด้านหน้านาง
"เจ้าได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว ข้าเชื่อว่าหลังจากวันนี้ จะไม่มีคำค้านในสำนัก"
ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสมบูรณ์
ถ้าพรสวรรค์เช่นนี้ไม่อาจเป็นศิษย์สืบทอดได้ งั้นคงไม่มีใครในโลกมีคุณสมบัติ
ซูสือก้มหัว"ฝ่าบาท โปรดคิดทบทวนด้วย ความสามารถของผู้น้อยน้อยนิดและเกรงว่าจะไม่มีคุณสมบัติเป็นศิษย์สืบทอด"
อวิ๋นฉีหลัวหรี่ตา"เจ้าไม่อยากติดตามข้า?"
"ฝ่าบาทเข้าใจผิดแล้ว"
ซูสือส่ายหัว"ผู้น้อยแค่อยากเป็นแม่ทัพตัวน้อย และเปิดดินแดนให้ฝ่าบาทบนแนวหน้า"
อากาศเงียบ
หลังผ่านไปนาน เสียงต่ำของอวิ๋นฉีหลัวก็ดัง
"เจ้าบอกว่าภูเขากับทะเลไม่อาจเคลื่อน แต่ตอนนี้เจ้าได้เหยียบบนพวกมันแล้ว ทำไมเจ้าถึงยังไม่กล้าเข้าหาข้า?"
ซูสือตัวแข็งและเงยหน้าขึ้นมอง
เขาเห็นว่าจักรพรรดินีผู้อยู่เพื่อฆ่ากลับกำลังกัดริมฝีปากนางอย่างอ่อนโยน และดูเหมือนจะมีน้ำชุ่มชื้นปกคลุมดวงตานาง
ดูเหมือนจะมีร่องรอยของ..
ความเศร้า?