ตอนที่แล้วตอนที่ 2-22 หอศิลป์พรูกซ์ (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2-24 โรงเรียนเหล็กสกัด

ตอนที่ 2-23 ข่าวดี


ฮิลแมนกำลังยืนอยู่ที่มุมใกล้ประตู  เขาเดินพลางยิ้มพลาง“สถาบันเอินส์มีกฎระเบียบที่เข้มงวด พวกเขาไม่ให้ข้าเข้าไปข้างใน แค่มียามคนหนึ่งเข้าไปตามหาเจ้า  นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะไปเที่ยวข้างนอก”

“เยล! พวกเจ้าล่วงหน้าไปก่อน  ข้าจะไปสมทบทีหลัง”  ลินลี่ย์หันหน้าไปบอกเขา

เยล,จอร์จและเรย์โนลด์ยิ้มให้ฮิลแมนทุกคน จากนั้นก็เข้าไปในสถาบันเอินส์

“ลุงฮิลแมน!  ทำไมลุงมาที่นี่? ข้าคิดว่าท่านมารับข้าที่นี่หลังจากปิดภาคการเรียนเสียอีก?”  ลินลี่ย์พูดด้วยความสงสัย

“มาคุยตรงนี้เถอะ”  ฮิลแมนดึงลินลี่ย์มาอยู่ข้างๆพร้อมกับมีสีหน้าตื่นเต้นแทบระงับไม่อยู่ “ลินลี่ย์!  ข้ามีข่าวดีมาบอกเจ้า  เป็นข่าวที่ดีมาก”

นัยน์ตาลินลี่ย์เป็นประกาย

“ข่าวดีอะไร?” ลินลี่ย์เอ่ยถามเขา

ฮิลแมนยิ้ม “ลินลี่ย์!  เจ้าจำวันเกิดวอร์ตันน้อยได้ไหม?”

“แน่นอน วันที่ 3 มกราคมนี่มีอะไรเกี่ยวกับวันเกิดของเขาหรือ?” ลินลี่ย์ถาม

ฮิลแมนหัวเราะ “เมื่อเดือนธันวาคมนี้  วอร์ตันน้อยอายุเกือบหกขวบ  เมื่อคืนก่อน บิดาของเจ้าทดสอบชะตาเลือดมังกรในตัววอร์ตันในหอบรรพบุรุษ  และผลการทดสอบก็คือ ....ฮ่าฮ่า..”  ฮิลแมนเริ่มหัวเราะอีกครั้ง

หัวใจของลินลี่ย์เต้นถี่ขึ้น

ผลการทดสอบความเข้มของเลือดมังกรก็คือ..

เป็นไปได้ว่า...

ลินลี่ย์ถาม “ความเข้มข้นของเลือดมังกรในสายเลือดของวอร์ตันน้อยสูงพอไหม?

ฮิลแมนหัวเราะลั่นและพยักหน้า  “ถูกแล้ว บิดาเจ้ามีความสุขมาก เขาตื่นเต้นและดื่มฉลองจนถึงเที่ยงคืน บิดาเจ้าบอกว่าบุตรทั้งสองคือความภูมิใจในชีวิตของเขา  คนหนึ่งเป็นจอมเวทผู้ทรงพลังและอีกคนหนึ่งเป็นนักรบเลือดมังกร ฮ่าฮ่าฮ่า...”

“เยี่ยมจริงๆ”

หัวใจลินลี่ย์เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

ความมุ่งหวังของตระกูลนักรบเลือดมังกรในตำนานที่เก่าแก่ถึงห้าพันปี เป็นเหตุให้วอร์ตันถูกทดสอบความเข้มข้นของเลือดมังกรความมุ่งหวังที่แต่ก่อนนั้นลินลี่ย์แบกรับไว้เพียงลำพัง  ยิ่งเป็นความรุ่งเรืองในอดีตของตระกูลเขามีมากเท่าไหร่ ลินลี่ย์ก็แบกรับภาระที่หนักหน่วงมากขึ้นเท่านั้น

แต่ตอนนี้...

ความเข้มข้นของเลือดมังกรของน้องชายเขาเองอยู่ในระดับสูงเพียงพอ  เพียงแค่ฝึกหนักไม่กี่สิบปี  เขาจะกลายเป็นนักรบเลือดมังกรที่โลกรู้จัก

“ข้ามาที่นี่วันนี้เพื่อบอกข่าวที่น่ายินดีนี้กับเจ้า  บิดาของเจ้าเพิ่งบอกข้ามาเดี๋ยวนี้ว่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองอู่ซันก็คือข้ากับเขา เราทั้งสองเป็นนักรบระดับหก!  แต่ความเชี่ยวชาญในระดับของพวกเรานั้นไม่เพียงพอต่อการชี้แนะพร่ำสอนน้องชายเจ้าเป็นอย่างดี อีกทั้งวิธีฝึกฝนของตระกูลเจ้าก็บันทึกไว้ไม่ชัดเจน”  หน้าของฮิลแมนเคร่งขรึม “ดังนั้นบิดาของเจ้าตัดสินใจส่งน้องชายของเจ้าไปศึกษาที่สถาบันโอเบรียนของจักรวรรดิโอเบรียน  ในกองทัพแห่งจักรวรรดิที่ทรงพลังนั้น  ในสถาบันทหารที่ดีที่สุด น้องชายของเจ้าจะได้รับการศึกษาที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้”

ลินลี่ย์เห็นด้วยเช่นกัน

คนที่มีพละกำลังดิบเถื่อนแต่อ่อนในเรื่องชั้นเชิงประสบการณ์จะถูกมองว่าเป็นแค่เจ้าลิงใหญ่แต่โง่

“เดี๋ยวก่อน” ลินลี่ย์ขมวดคิ้วมองดูฮิลแมน  “ลุงฮินแมน !ค่าเล่าเรียนในสถาบันโอเบรียนต้องสูงมาก แม้ว่าพวกเขาจะอนุญาตให้นักเรียนของเขาเรียนฟรี  แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะเก็บค่าเล่าเรียนสุดแพงกับนักเรียนนอกจักรวรรดิเป็นแน่” ลินลี่ย์จำได้ชัดเจนถึงวิธีที่เรย์โนลด์ต้องจ่ายค่าแรกรับเข้าสถาบันเอินส์มากขนาดไหน

ฮิลแมนพยักหน้า “ค่าเล่าเรียนของสถาบันโอเบรียนนั้นปีละห้าพันเหรียญทอง บิดาของเจ้าตั้งใจจะให้พ่อบ้านแอชลี่ย์ดูแลวอร์ตันที่นั่นค่าใช้จ่ายค่าเล่าเรียนที่นั่นสูงมาก สิบปีก็คงเป็นห้าหมื่นเหรียญทอง”

ห้าหมื่นเหรียญทองเท่ากับมูลค่าของมีค่าทั้งหมดที่ตระกูลบาลุคครอบครอง  ถ้าขายออกไปหมด

“จริงสิ, ลุงฮิลแมน”

ฮิลแมนมองลินลี่ย์อย่างสงสัย ขณะที่เขาเห็นลินลี่ย์ดึงบัตรเครดิตเวทออกมาจากกระเป๋า  ฮิลแมนตกใจ “บัตรเครดิตเวทเหรอ?”  ก่อนนี้ เมื่อเขาเป็นทหารเขาเคยเห็นบัตรเครดิตเวทมาก่อน

“ลินลี่ย์, เจ้ามีบัตรเครดิตเวทได้ยังไง?แม้แต่บิดาของเจ้าก็ไม่มี” ฮิลแมนมองดูลินลี่ย์ด้วยความประหลาดใจ

ลินลี่ย์ดึงฮิลแมนมาและพูดว่า“ข้าชนะได้บัตรเครดิตเวทนี้มาจากเด็กร่ำรวยที่แพ้การประลองเวทกับข้า  แล้วจึงค่อยไปธนาคารทองสี่จักรวรรดิ”  ตอนนี้ยามเฝ้าประตูทางเข้าสถาบันเอินส์ไม่พยายามกั้นฮิลแมนไม่ให้เดินเข้าต่อไป  เพราะเขาจำลินลี่ย์ที่ออกไปแต่เช้าได้

สำหรับลินลี่ย์  เงินจำนวนมากนี้ไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก  ถ้าเขาสามารถใช้ช่วยเหลือครอบครัวก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

….

เมืองอู่ซันห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์ตระกูลบาลุค

ฮ็อกกำลังใคร่ครวญ

ตั้งแต่ตระกูลของเขาให้กำเนิดทายาทที่มีความเข้มข้นเลือดมังกรเพียงพอ  เขาต้องให้การดูแลอย่างดีที่สุด  แม้ว่าเขาต้องไปขอทานเอง  ก็คุ้มค่าอย่างมิต้องสงสัย

“ควรจะขายรูปสลักหินที่วางไว้ในห้องนอนให้ใครดี?  ฟิลิปตระหนี่เกินไป  เขาให้ราคาไม่ดี”  ฮ็อกครุ่นคิดไม่หยุด

ค่าเล่าเรียนที่จำเป็นต้องใช้ส่งวอร์ตันไปเรียนที่สถาบันโอเบรียนสูงจนน่าตกใจ คำถามค้างคาใจของฮ็อกในตอนนี้ก็คือ จะขายของๆตระกูลยังไงให้ได้ราคาสูง

ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าดังขึ้น

ฮ็อกหันหน้าไปพูดว่า“ฮิลแมน! กลับมาแล้วหรือ? อื๋อ อะไรอยู่บนบ่าของเจ้า?”

ฮิลแมนโยนถูงที่อยู่บนบ่าลงบนพื้น  ถุงกระแทกพื้นเสียงดังมาก  เห็นได้ชัดว่าหนักจริงๆ

“ลอร์ดฮ็อกลินลี่ย์ขอให้ข้านำของนี้มาให้ท่าน” ฮิลแมนเปิดถุงและเทของทุกอย่างออกมา ถุงสีทองเล็กๆ กองพะเนินย่อมๆได้ยินเสียงกรุ๊งกริ๊งข้างในถุงทองชัดเจน

ถุงทองเหล่านี้ใช้โดยธนาคารทองสี่จักรวรรดิ  แต่ละถุงจะมีเหรียญทองร้อยเหรียญ

“เหรียญทองเหรอ? มากมายจริงๆนี่ต้องมีอย่างน้อยหมื่นเหรียญทอง” ฮ็อกจ้องฮิลแมนด้วยความประหลาดใจ “ฮิลแมนเจ้าบอกว่าลินลี่ย์ขอให้เจ้านำของนี้มาที่นี่ใช่ไหม?”

ฮิลแมนพูดหนักแน่น“รวมแล้วเก้าพันเก้าร้อยเหรียญทอง ลินลี่ย์ขอให้ข้านำมาให้ท่าน ที่สถาบันเอินส์ สหายน้อยที่ร่ำรวยคนหนึ่งประลองเวทกับลินลี่ย์และแพ้สูญเสียเดิมพันหมื่นเหรียญทอง ลินลี่ย์เก็บไว้ในบัตรเครดิตเวท  และตอนนี้เขาถอนออกมาทั้งหมด”

ฮิลแมนจำคำพูดที่ลินลี่ย์พูดกับพนักงานต้อนรับของธนาคารทองสี่จักรวรรดิ“ถอนทั้งหมด”

“9,900 เหรียญทอง?  ลินลี่ย์น่ะหรือ?”

ฮ็อกจ้องมองกองถุงสีทองพูดไม่ออกทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด