ตอนที่ 2-23 ข่าวดี
ฮิลแมนกำลังยืนอยู่ที่มุมใกล้ประตู เขาเดินพลางยิ้มพลาง“สถาบันเอินส์มีกฎระเบียบที่เข้มงวด พวกเขาไม่ให้ข้าเข้าไปข้างใน แค่มียามคนหนึ่งเข้าไปตามหาเจ้า นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะไปเที่ยวข้างนอก”
“เยล! พวกเจ้าล่วงหน้าไปก่อน ข้าจะไปสมทบทีหลัง” ลินลี่ย์หันหน้าไปบอกเขา
เยล,จอร์จและเรย์โนลด์ยิ้มให้ฮิลแมนทุกคน จากนั้นก็เข้าไปในสถาบันเอินส์
“ลุงฮิลแมน! ทำไมลุงมาที่นี่? ข้าคิดว่าท่านมารับข้าที่นี่หลังจากปิดภาคการเรียนเสียอีก?” ลินลี่ย์พูดด้วยความสงสัย
“มาคุยตรงนี้เถอะ” ฮิลแมนดึงลินลี่ย์มาอยู่ข้างๆพร้อมกับมีสีหน้าตื่นเต้นแทบระงับไม่อยู่ “ลินลี่ย์! ข้ามีข่าวดีมาบอกเจ้า เป็นข่าวที่ดีมาก”
นัยน์ตาลินลี่ย์เป็นประกาย
“ข่าวดีอะไร?” ลินลี่ย์เอ่ยถามเขา
ฮิลแมนยิ้ม “ลินลี่ย์! เจ้าจำวันเกิดวอร์ตันน้อยได้ไหม?”
“แน่นอน วันที่ 3 มกราคมนี่มีอะไรเกี่ยวกับวันเกิดของเขาหรือ?” ลินลี่ย์ถาม
ฮิลแมนหัวเราะ “เมื่อเดือนธันวาคมนี้ วอร์ตันน้อยอายุเกือบหกขวบ เมื่อคืนก่อน บิดาของเจ้าทดสอบชะตาเลือดมังกรในตัววอร์ตันในหอบรรพบุรุษ และผลการทดสอบก็คือ ....ฮ่าฮ่า..” ฮิลแมนเริ่มหัวเราะอีกครั้ง
หัวใจของลินลี่ย์เต้นถี่ขึ้น
ผลการทดสอบความเข้มของเลือดมังกรก็คือ..
เป็นไปได้ว่า...
ลินลี่ย์ถาม “ความเข้มข้นของเลือดมังกรในสายเลือดของวอร์ตันน้อยสูงพอไหม?
ฮิลแมนหัวเราะลั่นและพยักหน้า “ถูกแล้ว บิดาเจ้ามีความสุขมาก เขาตื่นเต้นและดื่มฉลองจนถึงเที่ยงคืน บิดาเจ้าบอกว่าบุตรทั้งสองคือความภูมิใจในชีวิตของเขา คนหนึ่งเป็นจอมเวทผู้ทรงพลังและอีกคนหนึ่งเป็นนักรบเลือดมังกร ฮ่าฮ่าฮ่า...”
“เยี่ยมจริงๆ”
หัวใจลินลี่ย์เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ความมุ่งหวังของตระกูลนักรบเลือดมังกรในตำนานที่เก่าแก่ถึงห้าพันปี เป็นเหตุให้วอร์ตันถูกทดสอบความเข้มข้นของเลือดมังกรความมุ่งหวังที่แต่ก่อนนั้นลินลี่ย์แบกรับไว้เพียงลำพัง ยิ่งเป็นความรุ่งเรืองในอดีตของตระกูลเขามีมากเท่าไหร่ ลินลี่ย์ก็แบกรับภาระที่หนักหน่วงมากขึ้นเท่านั้น
แต่ตอนนี้...
ความเข้มข้นของเลือดมังกรของน้องชายเขาเองอยู่ในระดับสูงเพียงพอ เพียงแค่ฝึกหนักไม่กี่สิบปี เขาจะกลายเป็นนักรบเลือดมังกรที่โลกรู้จัก
“ข้ามาที่นี่วันนี้เพื่อบอกข่าวที่น่ายินดีนี้กับเจ้า บิดาของเจ้าเพิ่งบอกข้ามาเดี๋ยวนี้ว่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองอู่ซันก็คือข้ากับเขา เราทั้งสองเป็นนักรบระดับหก! แต่ความเชี่ยวชาญในระดับของพวกเรานั้นไม่เพียงพอต่อการชี้แนะพร่ำสอนน้องชายเจ้าเป็นอย่างดี อีกทั้งวิธีฝึกฝนของตระกูลเจ้าก็บันทึกไว้ไม่ชัดเจน” หน้าของฮิลแมนเคร่งขรึม “ดังนั้นบิดาของเจ้าตัดสินใจส่งน้องชายของเจ้าไปศึกษาที่สถาบันโอเบรียนของจักรวรรดิโอเบรียน ในกองทัพแห่งจักรวรรดิที่ทรงพลังนั้น ในสถาบันทหารที่ดีที่สุด น้องชายของเจ้าจะได้รับการศึกษาที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ลินลี่ย์เห็นด้วยเช่นกัน
คนที่มีพละกำลังดิบเถื่อนแต่อ่อนในเรื่องชั้นเชิงประสบการณ์จะถูกมองว่าเป็นแค่เจ้าลิงใหญ่แต่โง่
“เดี๋ยวก่อน” ลินลี่ย์ขมวดคิ้วมองดูฮิลแมน “ลุงฮินแมน !ค่าเล่าเรียนในสถาบันโอเบรียนต้องสูงมาก แม้ว่าพวกเขาจะอนุญาตให้นักเรียนของเขาเรียนฟรี แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะเก็บค่าเล่าเรียนสุดแพงกับนักเรียนนอกจักรวรรดิเป็นแน่” ลินลี่ย์จำได้ชัดเจนถึงวิธีที่เรย์โนลด์ต้องจ่ายค่าแรกรับเข้าสถาบันเอินส์มากขนาดไหน
ฮิลแมนพยักหน้า “ค่าเล่าเรียนของสถาบันโอเบรียนนั้นปีละห้าพันเหรียญทอง บิดาของเจ้าตั้งใจจะให้พ่อบ้านแอชลี่ย์ดูแลวอร์ตันที่นั่นค่าใช้จ่ายค่าเล่าเรียนที่นั่นสูงมาก สิบปีก็คงเป็นห้าหมื่นเหรียญทอง”
ห้าหมื่นเหรียญทองเท่ากับมูลค่าของมีค่าทั้งหมดที่ตระกูลบาลุคครอบครอง ถ้าขายออกไปหมด
“จริงสิ, ลุงฮิลแมน”
ฮิลแมนมองลินลี่ย์อย่างสงสัย ขณะที่เขาเห็นลินลี่ย์ดึงบัตรเครดิตเวทออกมาจากกระเป๋า ฮิลแมนตกใจ “บัตรเครดิตเวทเหรอ?” ก่อนนี้ เมื่อเขาเป็นทหารเขาเคยเห็นบัตรเครดิตเวทมาก่อน
“ลินลี่ย์, เจ้ามีบัตรเครดิตเวทได้ยังไง?แม้แต่บิดาของเจ้าก็ไม่มี” ฮิลแมนมองดูลินลี่ย์ด้วยความประหลาดใจ
ลินลี่ย์ดึงฮิลแมนมาและพูดว่า“ข้าชนะได้บัตรเครดิตเวทนี้มาจากเด็กร่ำรวยที่แพ้การประลองเวทกับข้า แล้วจึงค่อยไปธนาคารทองสี่จักรวรรดิ” ตอนนี้ยามเฝ้าประตูทางเข้าสถาบันเอินส์ไม่พยายามกั้นฮิลแมนไม่ให้เดินเข้าต่อไป เพราะเขาจำลินลี่ย์ที่ออกไปแต่เช้าได้
สำหรับลินลี่ย์ เงินจำนวนมากนี้ไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก ถ้าเขาสามารถใช้ช่วยเหลือครอบครัวก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
….
เมืองอู่ซันห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์ตระกูลบาลุค
ฮ็อกกำลังใคร่ครวญ
ตั้งแต่ตระกูลของเขาให้กำเนิดทายาทที่มีความเข้มข้นเลือดมังกรเพียงพอ เขาต้องให้การดูแลอย่างดีที่สุด แม้ว่าเขาต้องไปขอทานเอง ก็คุ้มค่าอย่างมิต้องสงสัย
“ควรจะขายรูปสลักหินที่วางไว้ในห้องนอนให้ใครดี? ฟิลิปตระหนี่เกินไป เขาให้ราคาไม่ดี” ฮ็อกครุ่นคิดไม่หยุด
ค่าเล่าเรียนที่จำเป็นต้องใช้ส่งวอร์ตันไปเรียนที่สถาบันโอเบรียนสูงจนน่าตกใจ คำถามค้างคาใจของฮ็อกในตอนนี้ก็คือ จะขายของๆตระกูลยังไงให้ได้ราคาสูง
ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าดังขึ้น
ฮ็อกหันหน้าไปพูดว่า“ฮิลแมน! กลับมาแล้วหรือ? อื๋อ อะไรอยู่บนบ่าของเจ้า?”
ฮิลแมนโยนถูงที่อยู่บนบ่าลงบนพื้น ถุงกระแทกพื้นเสียงดังมาก เห็นได้ชัดว่าหนักจริงๆ
“ลอร์ดฮ็อกลินลี่ย์ขอให้ข้านำของนี้มาให้ท่าน” ฮิลแมนเปิดถุงและเทของทุกอย่างออกมา ถุงสีทองเล็กๆ กองพะเนินย่อมๆได้ยินเสียงกรุ๊งกริ๊งข้างในถุงทองชัดเจน
ถุงทองเหล่านี้ใช้โดยธนาคารทองสี่จักรวรรดิ แต่ละถุงจะมีเหรียญทองร้อยเหรียญ
“เหรียญทองเหรอ? มากมายจริงๆนี่ต้องมีอย่างน้อยหมื่นเหรียญทอง” ฮ็อกจ้องฮิลแมนด้วยความประหลาดใจ “ฮิลแมนเจ้าบอกว่าลินลี่ย์ขอให้เจ้านำของนี้มาที่นี่ใช่ไหม?”
ฮิลแมนพูดหนักแน่น“รวมแล้วเก้าพันเก้าร้อยเหรียญทอง ลินลี่ย์ขอให้ข้านำมาให้ท่าน ที่สถาบันเอินส์ สหายน้อยที่ร่ำรวยคนหนึ่งประลองเวทกับลินลี่ย์และแพ้สูญเสียเดิมพันหมื่นเหรียญทอง ลินลี่ย์เก็บไว้ในบัตรเครดิตเวท และตอนนี้เขาถอนออกมาทั้งหมด”
ฮิลแมนจำคำพูดที่ลินลี่ย์พูดกับพนักงานต้อนรับของธนาคารทองสี่จักรวรรดิ“ถอนทั้งหมด”
“9,900 เหรียญทอง? ลินลี่ย์น่ะหรือ?”
ฮ็อกจ้องมองกองถุงสีทองพูดไม่ออกทันที