ตอนที่ 2-20 ใครคืออันดับหนึ่ง? (2)
ตอนนี้ ลินลี่ย์เกือบอยู่ในระดับสุดยอดของนักรบระดับสองแล้ว แค่ใช้พลังของนักรบระดับหนึ่งธรรมดาก็ยกน้ำหนักร้อยปอนด์ได้ นักรบระดับสองสามารถยกของหนักร้อยปอนด์โยนเล่นได้สบายๆ
“เจ้า...แค่ก...แค่ก...” แรนด์จับคอของตนเองไออยู่สองสามคราจากนั้นจ้องมองลินลี่ย์อย่างโกรธเคือง “เจ้า..เจ้า...”
“ใช่แล้ว!” ทันใดนั้นเยลตะโกนลั่น หน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “ความรู้สึกแบบนั้นดีมาก น้องสาม ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะแข็งแกร่งขนาดนั้น!”
“เด็กคนนั้นตัวเล็กมาก แต่ก็แข็งแรงมาก...”
นักเวทระดับห้าและระดับหกเหล่านั้นประหลาดใจกันทั้งหมด มีบางคนเป็นครูจอมเวทที่อยู่ในโรงแรมนั่นด้วยเช่นกัน และพวกเขาทุกคนจ้องมองลินลี่ย์ด้วยความประหลาดใจ
เด็กที่ดูเหมือนอายุสิบสองหรือสิบสามปีสามารถเหวี่ยงคนหนักเก้าสิบปอนด์ด้วยมือข้างเดียวได้
และเด็กคนนี้ก็เป็นจอมเวทคนหนึ่ง
“เฮ้แรนด์ เจ้าคุยนักคุยหนาว่าเจ้าเป็นอันดับหนึ่งในหมู่นักเรียนระดับหนึ่งไม่ใช่เหรอ?”เยลเยาะเย้ย
แรนด์หน้าแดงขณะที่จิตใจเขาเต็มได้วยความโกรธและอาย เขาจ้องดูลินลี่ย์แล้วตะโกนอย่างดุร้าย “เจ้า..เป็นจอมเวทหรือเปล่า? ถ้าเจ้ามีฝีมือจริง มาประลองใช้เวทกับข้า ทำอย่างนั้นจะได้อะไร? จอมเวทผู้สูงส่งใช้ฝีมือของนักรบชั้นต่ำ” แรนด์ทั้งโกรธและอับอาย เขาเพิ่งชนะการแข่งขันประจำปีของนักเรียนระดับหนึ่ง แต่ตอนนี้ เมื่อลินลี่ย์จับคอเขาและยกขึ้น เขากลับเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นรู้สึกว่าชีวิตของเขาตกอยู่ในเงื้อมมือคนอื่น
“ว่าไง, ถ้าเจ้ามีฝีมือพอ งั้นมาประลองใช้เวทกัน! เจ้าเป็นนักเรียนของสถาบันเอินส์หรือเปล่า?” เพื่อนๆ ของแรนด์ร่ำร้องสนับสนุนทันที
แต่ต่อหน้าลินลี่ย์ พวกเขาสี่คนรู้สึกหวาดกลัวในใจอยู่บ้าง พละกำลังที่แข็งแรงน่าทึ่งของลินลี่ย์ทำให้พวกเขาตกใจ
“เวท?”
ทันใดนั้นเรย์โนลด์เริ่มหัวเราะลั่นพลางพูดอย่างทะนง “แรนด์ เจ้าเชื่อจริงๆหรือว่าแค่เพราะเจ้าชนะเลิศการแข่งขันนักเรียนระดับหนึ่ง แล้วเจ้าจะเป็นนักเรียนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่นักเรียนระดับหนึ่งจริงๆ? ฝันไปเถอะ อันดับหนึ่งของนักเรียนระดับหนึ่งก็คือพี่สามแห่งหอพักของเรา เจ้าน่ะหรือ? หลบไปข้างๆ เลย”
“น้องสาม แสดงพลังของเจ้าสักเล็กน้อยก็พอ” เยลยุยงเช่นกัน
จอร์จเพิ่งถูกแรนด์ตวาดใส่ ดังนั้นตอนนี้ เขาจึงไม่มีอารมณ์เห็นแก่หน้าแรนด์แต่อย่างใด “แรนด์ ให้ข้าบอกอะไรเจ้าสักอย่างนะ เจ้าควรรู้ขีดจำกัดของตัวเอง ยอดฝีมือหลายคนในสถาบันเราไม่ลดตัวเข้าแข่งขันประจำปี เจ้าเชื่อจริงๆ หรือว่าเจ้าจะมีอะไรพิเศษ”
หน้าของแรนด์ยิ่งบูดเบี้ยวกว่าเดิม
“เจ้าจะรู้ความจริงต่อเมื่อประลองกัน, แรนด์ แข่งขันกับพวกเขา” พวกนักเรียนระดับห้าและหกเหล่านั้นตะโกนอย่างสนุกสนาน พวกเขามองเห็นการต่อสู้ของนักเรียนระดับหนึ่งว่าไม่มีอะไรมากไปกว่าความบันเทิง
แรนด์เป็นเด็กอายุสิบขวบ ที่สำคัญคือเขาถูกเรียกว่าเป็นอัจฉริยะมาตั้งแต่ยังเล็ก
แม้แต่ที่สถาบันเอินส์ เขาก็ยังอยู่ในระดับกลุ่มนักเรียนสุดยอด มีครั้งไหนบ้างที่เขาได้รับความอับอายขายหน้าอย่างนี้?
“อันดับหนึ่งน่ะหรือ?” แรนด์พูดเกรี้ยวกราด “อันดับหนึ่งไม่ใช่สิ่งที่จะพูดกันได้ง่ายๆมันมาจากการแข่งขัน ถ้าเจ้ามีฝีมือพอ อย่างนั้นมาประลองกับข้า” แรนด์มั่นใจในทักษะวิชาเวทของเขามาก ที่สำคัญ เขาชนะการแข่งขันประจำปีสำหรับเด็กนักเรียนเวทระดับหนึ่ง
“เฮ้, ทำไมผู้จัดการโรงแรมไม่เข้ามาระงับเหตุการณ์เล่า?” คนดูบางคนรู้สึกประหลาดใจและสงสัยในเรื่องนี้
ความจริงผู้จัดการโรงแรมหัวเดลียืนดูอยู่ห่างๆ แต่เขาไม่ต้องการเข้ามายุ่ง
เพราะเขาจำนักเรียนเหล่านี้ได้
นอกจากความจริงที่ว่าเด็กพวกนี้เป็นนักเรียนจากสถาบันเอินส์แล้ว สถานะของเด็กเหล่านี้ เขาไม่ต้องการจะยั่วโมโหพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...เยล
“คุณชายเยลอยู่ที่นี่เหรอ? อึก.. ช่างมันเถอะ เขาจะทำอะไรก็ตามใจเขา ต่อให้เขาพังโรงแรมทั้งหลังก็ไม่ใช่กงการอะไรของเขา” ผู้จัดการโรงแรมลูบและสั่นหัวอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่กล้าต่อต้านแข็งขืนคุณชายเยล
และพอได้เข้าศึกษาในสถาบันเอินส์ สถานะของเยลในตระกูลก็เพิ่มขึ้นมากมาย
“พูดได้ดี, อันดับหนึ่ง ไม่ใช่ได้มาด้วยการยกยอตัวเอง แต่เป็นคว้าชัยชนะได้มา” ลินลี่ย์ยืนขึ้นเช่นกัน หน้าของเขาเย็นชาขณะจ้องมองแรนด์ “แรนด์! ถ้าเจ้าต้องการประลองเวท มาทำให้มันตื่นเต้นเถอะ ถ้าเจ้าชนะ เมื่อข้าเห็นเจ้าในอนาคต ข้าจะต้องหลบหน้าเจ้าไปห่างๆ แต่ถ้าข้าชนะ เจ้าก็ต้องทำอย่างเดียวกันด้วย”
แรนด์อดแค่นเสียงไม่ได้ “แค่นั้นเจ้าเรียกว่าตื่นเต้นหรือ? เมื่อผู้แพ้พบผู้ชนะไม่เพียงแต่ต้องหลีกไปให้ไกลเท่านั้น แต่จะต้องจ่ายทองร้อยเหรียญด้วย เอาอย่างนั้นดีไหม?”
ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว
ร้อยเหรียญทอง?
เขาได้เพียงร้อยเหรียญทองเป็นค่าดำรงชีพในแต่ละปี เขาไม่ได้ร่ำรวยเหมือนใครบางคน
“ฮ่าฮ่า! แรนด์ แค่ร้อยเหรียญทองเองหรือ? เจ้าไม่อายบ้างหรือไง ที่บอกว่าเป็นอันดับหนึ่ง? เอาอย่างนี้ดีไหม คนแพ้จ่ายหมื่นเหรียญทอง ตกลงไหม?” เยลที่อยู่ใกล้ๆ ตะโกนลั่น
“หมื่นเหรียญทอง?”
พอได้ยินคำพูดเหล่านี้ นักเรียนหลายคนในโรงแรมสูดลมหายใจหนาวเหน็บ หมื่นเหรียญทองเป็นจำนวนเงินไม่ใช่เล็กน้อย บางทีอาจมีนักเรียนเพียงไม่กี่คนในโรงแรมนี้ที่สามารถนำเงินจำนวนมากขนาดนั้นออกมาได้
“หมื่นเหรียญทอง” แรนด์อดสะท้านใจไม่ได้
แม้ว่าตระกูลของเขาจะเป็นตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่ง แต่เขาก็ได้รับเงินยังชีพเพียงปีละสามพันเหรียญทอง เขาไม่ได้มาใช้เงินที่โรงแรมหัวเดลีทุกวัน วันดีเขาแค่มาเพื่อฉลองให้เขากับริกสันที่กลายเป็นผู้ชนะอันดับหนึ่งและอันดับสามในการแข่งขันประจำปี
“ฮ่าฮ่า, ไม่มีน้ำยาหรือไง?” เยลหยิบบัตรเครดิตเวทออกมาโบกไปมาขณะที่เขาพูด
“แรนด์ รับปากเขาเลย” ริกสันพูด “เราสี่พี่น้องสามารถรวบรวมทองหมื่นเหรียญได้ ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าตัวเล็กที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าจะเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้าได้”
แรนด์และพี่น้องร่วมหอพักอีกสามคนของเขามองกันและกัน
“ก็ได้! หมื่นเหรียญทองตามนั้น!”
แรนด์พูดดังๆ และจากนั้นแค่นเสียงใส่ลินลี่ย์ “ไปกันเลย ที่นี่เล็กเกินไป เราจะที่สนามที่ใช้แข่งขันต่อสู้ ถ้าเจ้ามีความกล้าพอ ก็ตามข้ามา!” หลังจากพูดแล้ว แรนด์ออกไปจากโรงแรมด้วยอาการเย่อหยิ่งและพี่น้องร่วมหอพักอีกสามคนก็ตามเขาไป
“ไปกันเถอะ” นัยน์ตาของเยลเป็นประกาย
เรย์และจอร์จก็ตื่นเต้นเช่นกัน ลินลี่ย์พยักหน้าและหัวเราะเบาๆ “มีคนต้องการจะให้ทองข้าหมื่นเหรียญเหรอ?เราจะปฏิเสธได้ยังไง?”
ลินลี่ย์, เยล,เรย์โนลด์และจอร์จทุกคนเดินออกมาจากโรงแรมมุ่งหน้าไปยังเวทีต่อสู้
ทั่วทั้งโรงแรมตอนนี้มีเสียงเอิกเกริกวุ่นวาย การประลองมีเดิมพันหมื่นเหรียญทองเป็นเรื่องหาดูได้ยาก แม้แต่นักเรียนระดับหก และยิ่งกว่านั้นผู้เข้าประลอง คนหนึ่งเป็นผู้ที่เพิ่งชนะการแข่งขันประจำปีของเด็กนักเรียนระดับหนึ่ง แรนด์และอีกคนหนึ่งเป็นเด็กลึกลับที่ไม่มีใครรู้จักง
ในทันใดนั้น ผู้คนหลายคนต่างชำระบิลและมุ่งหน้าไปทางนั้นทันที
….
พื้นเวทีต่อสู้ทำจากหินปูนที่มีความแข็งมาก
ตอนนี้แรนด์และลินลี่ย์ยืนอยู่คนละด้านของเวทีต่อสู้
ข้างล่างเวทีต่อสู้มีผู้คนกลุ่มใหญ่ ที่สำคัญนี่เป็นเวลาอาหารต่ำ ดังนั้นหนทางจากโรงแรงหัวเดลีมาถึงที่นี่ จึงเพิ่มจำนวนคนจากหนึ่งเป็นสิบและจากสิบเป็นร้อย ในช่วงเวลาสั้นๆ คนกลุ่มใหญ่ก็มารวมตัวกัน การประลองที่น่าตื่นเต้นนี้มีเงินหมื่นเหรียญทองเป็นเดิมพันมีคุณค่ามากพอจะดึงดูดความสนใจของคนเป็นจำนวนมาก
พอเห็นจำนวนคนที่มากมายมาสมทบและเอะอะโวยวาย ท่าทีมั่นใจก็ปรากฏบนใบหน้าของแรนด์
“วันนี้ ข้าจะประลองเวทกับเด็กที่ชื่อลินลี่ย์คนนี้ ผู้แพ้จะต้องจ่ายหมื่นเหรียญทองและหลบลี้หนีหน้าอีกฝ่ายหนึ่งในอนาคต ทุกคน โปรดเป็นพยานให้ข้าด้วย” แรนด์พูด เขามีความรู้สึกยินดีที่มีคนดูมากมาย เขาไม่เคยเจ็บตัวจากการต่อสู้แม้แต่น้อย
ทันใดนั้น เสียงเชียร์โห่ร้องจำนวนมากดังมาจากข้างล่าง ระหว่างการแข่งขันประจำปี แรนด์มีผู้สนับสนุนมากมาย ตรงกันข้ากับลินลี่ย์มีคนเชียร์เขาน้อยมาก
แต่ลินลี่ย์ยังคงยืนอย่างสงบอยู่บนเวทีประลอง
“พูดพอหรือยัง?” ลินลี่ย์พูดใจเย็น
แรนด์ยิ้มอย่างยโส “เริ่มได้”
แรนด์และลินลี่ย์แทบจะร่ายเวทพร้อมกัน ขณะที่ทั้งสองคนเป็นนักเวทระดับสอง เวทที่พวกเขาใช้เป็นเวทระดับหนึ่งและระดับสองทั้งหมดและเวทที่ร่ายได้ง่ายมีแค่คำสองคำเท่านั้น
“วืดดดด!”
ดาบสายลมเจ็ดเล่มปรากฏขึ้นทันทีและฟันตรงเข้าหาแรนด์
“จอมเวทระดับสองหรือนี่?” คนดูที่มีประสบการณ์สามารถบอกได้ทันที
แต่แรนด์ก็ปล่อยเวทในขณะเดียวกันบอลไฟสีแดงเข้มห้าลูกยิงเข้าหาลินลี่ย์เช่นกัน ดาบสายลมไวกว่าบอลไฟมาก อย่างไรก็ตาม แรนด์บังคับตัวให้หลบอย่างเก้งก้าง แต่ลินลี่ย์กลับก้าวฉากหลบบอลไฟด้านข้างได้อย่างสบาย และขณะที่ทำเช่นนั้นปากของลินลี่ย์ยังคงร่ายคาถาต่อเนื่องพลางปล่อยเวทที่สอง
เวทธาตุดิน – แผ่นดินไหว
“ครืนนนน...”
แรนด์รู้สึกว่าพื้นหินใต้เท้าเขาเริ่มสั่นรุนแรง ภายใต้สถานการณ์นี้ แรนด์ไม่สามารถสงบจิตใจร่ายเวทได้ ทันใดนั้นลินลี่ย์ปล่อยเวทที่สามก้อนหินสีน้ำตาลขนาดเท่ากำปั้นห้าก้อนพุ่งเข้าใส่เขาอย่างรวดเร็ว
แรนด์ไม่สามารถยืนหยัดมั่นคงบนพื้นที่สั่นไหวได้ เขาหลบหินได้แค่สองก้อน
“ตุ้บ”
หินก้อนหนึ่งกระแทกเข้าที่ท้องของแรนด์ ทำให้เขากระอักเลือดทันที แรนด์รีบใช้แขนเขากุมหน้าอก หินอีกสองก้อนกระแทกจนได้ยิน และแรนด์กระเด็นลอยลงมาจากเวทีทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยฝุ่น
ผลประลองเวท ลินลี่ย์เป็นฝ่ายชนะ
ลินลี่ย์จ้องมองแรนด์อย่างสงบ ลินลี่ย์มั่นใจว่าพลังโจมตีของเขาจะได้ผล คงต้องใช้เวลาพักฟื้นเดือนหนึ่งเป็นอย่างมาก แรนด์จึงจะหายดี ถ้าลินลี่ย์ตัดสินใจสู้อย่างไม่ปราณีเขาคงยิงหินไปที่ศีรษะของแรนด์และมีแนวโน้มว่าจะกำจัดแรนด์ได้
“จอมเวทสองสายธาตุระดับสอง เรามีคนเก่งขนาดนั้นในหมู่นักเรียนระดับหนึ่งด้วยหรือ?”
นักเรียนเวทระดับหนึ่งที่ชมดูร้องออกมาอย่างประหลาดใจ สำหรับจอมเวทระดับสองที่ปรากฏตัวอยู่ในนักเรียนเวทระดับหนึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยาก ไม่ต้องพูดถึงจอมเวทสองสายธาตุที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขา
“เด็กคนนี้ควบคุมพลังเวทของเขาได้แม่นยำมาก และการเคลื่อนไหวร่างกายของเขาคล่องแคล่วว่องไวมาก”
นักเรียนระดับห้าและหกบางคนประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อครู่นี้ เมื่อเผชิญกับบอลไฟ ลินลี่ย์สามารถหลบได้ขณะที่ยังร่ายเวทต่อเนื่อง จากตรงนี้เองสามารถบอกได้ว่าลินลี่ย์นั้นคล่องแคล่วขนาดไหน
“ฮ่าฮ่า, แรนด์, เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าเจ้าจะเป็นอันดับหนึ่ง? น้องสามของหอพักเราสามารถใช้เวทย่ำยีเจ้าได้อย่างง่ายดาย” เยลหัวเราะลั่น
“แค่ก, แค่ก” แรนด์ลุกขึ้นยืน กุมหน้าอกเขา
แรนด์รู้อยู่แก่ใจในตอนนั้นว่าลินลี่ย์ยั้งมือไว้
“เยล, พรุ่งนี้พาลินลี่ย์มาด้วย ข้าจะไปสาขาธนาคารทองสี่จักรวรรดิกับพวกเจ้าเพื่อแลกเงิน หมื่นเหรียญทอง ข้าจะรักษาคำพูด” แรนด์มองไปทางลินลี่ย์ที่อยู่ในระยะไกลความพ่ายแพ้จากเงื้อมมือลินลี่ย์ครั้งนี้ปลุกแรนด์ให้ตื่นจากความทนงตนว่าเป็นอัจฉริยะ
แม้ว่าคนผู้มีพรสวรรค์ ถ้าเขาแข็งแกร่งไม่พอ เขาก็ยังจะพ่ายแพ้ต่อคนอื่น
“ลินลี่ย์, ขอบใจเจ้า” แรนด์พูดพร้อมกับโค้งให้ ทำให้เยลและคนอื่นสะดุ้ง จากนั้นแรนด์จ้องดูลินลี่ย์และพูดอย่างห้าวหาญว่า“แต่คงมีสักวันที่ข้าจะเอาชนะเจ้าให้ได้”
และจากนั้น แรนด์ยังคงคลำหน้าอกตนเดินจากไปด้วยความช่วยเหลือจากพี่น้องในหอพัก กลับไปยังที่พักของตนเอง
“ลินลี่ย์, เจ้ายอดเยี่ยมมาก เจ้าชนะกู้หน้าให้เราพี่น้องได้มากเลย” เรย์โนลด์วิ่งเข้ามากอดลินลี่ย์ทันทีที่เขาก้าวลงมา
ลินลี่ย์มองไปรอบๆ
ตอนนี้คนเป็นจำนวนมากกำลังมองมาทางเขาและคุยเรื่องเขา ส่วนใหญ่คนผู้มีพรสวรรค์ที่สถาบันเอินส์จะกลายเป็นที่รู้จักกันดี ไม่มีใครคาดว่าจะมีใครจากไหนก็ไม่รู้ปรากฏตัวอยู่ในท่ามกลางเด็กนักเรียนระดับหนึ่งและเอาชนะแรนด์ผู้ชนะเลิศการแข่งขันได้อย่างง่ายดาย
“เฮ้, ลินลี่ย์ ข้าชื่อแดนนี่ เป็นจอมเวทน้ำระดับหนึ่งยินดีที่ได้รู้จักเจ้านะ” ทันใดนั้นเด็กผู้หญิงผมทองร่างสูงเพรียวบางเดินมาคุยและยิ้มให้ลินลี่ย์
“หวัดดี ข้าชื่อลินลี่ย์” ลินลี่ย์มีนิสัยไม่ค่อยคุยกับคนแปลกหน้ามากนัก“ขอโทษด้วยนะ ข้าต้องไปฝึกและทำสมาธิต่อ”
หลังจากพูดจบ ลินลี่ย์จ้องไปที่สามพี่น้องของเขาด้วยอารมณ์ความรู้สึก เยลและคนอื่นๆ รู้ว่าลินลี่ย์กำลังคิดอะไรและทันใดนั้น สี่พี่น้องก็ไม่สนใจคนรอบๆ ตัวเขาทุกคนและเดินจากไปปล่อยสาวน้อยแดนนี่ที่ขมวดคิ้วไม่สบายใจไว้ด้านหลัง