ตอนที่ 2-18 ช่วงเวลาเรียนรู้ (2)
ภายในห้องเรียนเวทลมระดับหนึ่ง
ลินลี่ย์จะเข้าชั้นเรียนเวทดินเดือนละครั้งราวๆนั้น แต่เขาเข้าชั้นเรียนเวทลมทุกครั้ง วันนี้ลินลี่ย์นั่งเรียนตามปกติ
“ลินลี่ย์, เจ้ามาแล้ว” ลินลี่ย์เพิ่งจะนั่งลงเด็กหญิงที่หน้าตาน่ารักนั่งอยู่ถัดจากที่นั่งเขา
พอเห็นเด็กผู้หญิง ลินลี่ย์ยิ้มให้ “ดีเลีย, เจ้าก็มาแต่เช้าเชียวนะ ยังมีเวลาเหลืออีกมากกว่าชั่วโมงเรียนจะเริ่มขึ้น” นั่งอยู่กับเด็กสาวสวยเป็นเรื่องที่น่าเพลิดเพลินใจแน่นอน เป็นธรรมดาที่ลินลี่ย์จะไม่ผลักไสนางออกห่าง
ดีเลียไม่ใช่เด็กผู้หญิงธรรมดา
ดิ๊กซี่คือพี่ชายของเธอเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของสถาบันเอินส์และมีพรสวรรค์ที่ร้อยปีถึงจะพบมีครั้งหนึ่ง เขายังเป็นจอมเวทสองสายธาตุเช่นกันและความสัมพันธ์ธาตุของเขาอยู่ในระดับยอดเยี่ยม แต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือเขามีพรสวรรค์สุดยอดด้วยความบริสุทธิ์ของพลังจิตสูงกว่าคนธรรมดาถึง 68 เท่า
ในฐานะน้องสาวของดิ๊กซี่ ดีเลียก็ต้องยอดเยี่ยมเป็นธรรมดา
“เป็นเพราะข้ารู้ว่าเจ้ามักจะมาเช้าเสมอ” ดีเลียยิ้มสดใส จนนัยน์ตาเป็นรอยโค้ง
ทั้งสองคนนั่งคุยด้วยกัน เวลาผ่านไปเร็วมาก ก่อนที่พวกเขาจะทันรู้ตัวชั้นเรียนก็เริ่มแล้ว ครูเทรย์อธิบายอยู่ข้างหน้าอย่างกระตือรือร้นและลินลี่ย์นั่งอยู่ระดับต่ำกว่า เขาฟังอย่างตั้งใจ แต่ดีเลียมักจะลอบชำเลืองมองลินลี่ย์บ่อยๆ
“เอาล่ะ วันนี้จบลงเพียงเท่านี้ แต่ก่อนจะเลิกเรียน มีบางอย่างที่ข้าจะแจ้งให้พวกเจ้าทุกคนทราบ”ครูเทรย์ยิ้มขณะพูด
นักเรียนทุกคนเริ่มซุบซิบกัน
“นักเรียนเก่าทุกคนจะรู้กันว่าสถาบันเอินส์ของพวกเรามีประเพณีอย่างหนึ่งสองเดือนสุดท้ายของทุกๆ ปี จะมีการจัดแข่งขันประจำปี การแข่งขันประจำปีมักจะเป็นเรื่องโด่งดังที่สุดเป็นช่วงเวลาที่สถาบันเอินส์มีชีวิตชีวา นักเรียนที่ได้รับชัยชนะในการแข่งขันประจำปีจะมีโอกาสสูงในการจัดอันดับเหนือกว่าเมื่อพวกเขาจบการศึกษา เมื่อพวกเขาจบการศึกษาก็มีแนวโน้มว่าพวกเขาจะได้รับเชิญจากสี่จักรวรรดิใหญ่” ครูเทรย์หัวเราะ
นักเรียนที่อยู่ข้างล่างเริ่มตื่นเต้นทันที
ที่สถาบันเอินส์ ผู้มีพรสวรรค์ก็ธรรมดาๆ เหมือนกับหมู่เมฆ และปัญหาอันดับหนึ่งที่คนมีพรสวรรค์มักจะมีเหมือนกันก็คือพวกเขาไม่อยากยอมรับว่าด้อยกว่าคนอื่น
ดังนั้นการแข่งขันประจำปีจะกลายเป็นหนทางให้คนมีพรสวรรค์กลายเป็นผู้มีชื่อเสียง นักเรียนเกือบ 90%จะให้ความสนใจการแข่งขัน และทุกคนที่มีความสามารถบางอย่างก็อยากเข้าร่วมด้วย
“ปกติพวกเราผู้ฝึกเวทลมก็จะไปสู้ด้วย ทุกคนที่สนใจสมัคร ให้มาคุยกับข้า” ครูเทรย์ยิ้มพลางพูด แต่สายตาของเขามองไปที่ลินลี่ย์
“ครูเทรย์, ข้าอยากสมัครด้วย” นักเรียนข้างล่างหลายคนเริ่มส่งเสียงขอสมัครเข้าร่วม
“ดี” ครูเทรย์นำปากกาขนเป็ดออกมาและเริ่มบันทึกชื่อ แต่หลังจากบันทึกลงไปราวๆ สิบรายชื่อ เขาก็รู้ว่าลินลี่ย์มัวแต่คุยกับดีเลียไม่มีทีท่าว่าสนใจสมัครเลย
เทรย์เดินไปทางพวกเขา
ลินลี่ย์เงยหน้ามองอย่างไม่เต็มใจนักและทักทายด้วยความเคารพ “ครูเทรย์” ดีเลียที่อยู่ข้างๆก็แสดงความเคารพเช่นกัน
เทรย์ยิ้มและพยักหน้า “ลินลี่ย์ การแข่งขันประจำปีครั้งนี้เป็นโอกาสฝึกตนเองที่ยอดเยี่ยมนะข้าคาดว่านักเรียนระดับหนึ่งชั้นยอดจะเข้าร่วมกันทั้งนั้น ทำไมเจ้าถึงไม่เข้าร่วมล่ะ?นี่คือโอกาสที่หาได้ยากนะ”
“ข้าไม่สนใจเข้าแข่ง” ลินลี่ย์พูดตามตรง
ครูเทรย์อดจะสะดุ้งไม่ได้
“ลินลี่ย์ เจ้าไม่สงสัยไม่รู้หรือว่าผู้ชนะการแข่งขันจะได้รับรางวัล” ครูเทรย์ยังพูดจูงใจ
“รางวัล?” ลินลี่ย์กำลังต้องการเงิน
สถานะการเงินของตระกูลอยู่ในภาวะล่อแหลม ถ้าเขาชนะได้เงินบ้าง เขาคงเข้าร่วมการแข่งขันประจำปีอย่างไม่ใส่ใจอะไรนัก
“ใช่แล้ว เจ้าควรจะรู้ว่านักเรียนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในหอพักทั่วไปจะเป็นหอพักชั้นเดียว แต่ผู้ชนะสามอันดับแรกในการแข่งขันจะมีคุณสมบัติได้อยู่ในอาคารสูงสองชั้นเป็นเวลาหนึ่งปี นั่นเป็นเครื่องพิสูจน์สถานะ ห้องหับต่างๆ จะสะดวกสบายมากกว่าเช่นกัน”ครูเทรย์พูดต่อไป
ลินลี่ย์เข้าใจ
มีหอพักสองชั้นไม่มากนัก และส่วนใหญ่จะเป็นของนักเวทที่ทรงพลังระดับเจ็ดหรือระดับแปด จากสิ่งที่เขาเพิ่งได้ฟัง นักเรียนสามคนแรกในแต่ละระดับชั้นก็ได้รับอนุญาตให้อยู่ในในหอพักสองชั้นด้วย
สภาพบ้านพักน่ะหรือ?
ลินลี่ย์ไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย
“ข้าไม่ขอเข้าร่วม” ลินลี่ย์ยังคงพูด
ครูเทรย์เริ่มหมดความอดทน ในฐานะที่เป็นนักเรียนระดับหก ถ้านักเรียนคนใดคนหนึ่งของเทรย์กลายเป็นสามสุดยอดในระดับชั้นนั้นๆไม่เพียงแต่เขาจะได้รับรางวัลเท่านั้น แต่เขาจะได้มีหน้ามีตามากด้วย คนหนุ่มทุกคนใส่ใจกับเรื่องหน้าตา
ครูเทรย์โน้มตัวเข้าหาลินลี่ย์พูดลดเสียงว่า“ลินลี่ย์ เจ้ากังวลเรื่องปกปิดความสามารถของตนเองใช่ไหม?ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นจอมเวทระดับสองแล้ว”
พอได้ฟังคำเหล่านี้ ลินลี่ย์อดไม่ได้ที่จะมองดูเทรย์อย่างประหลาดใจ
เทรย์รู้เรื่องระดับพลังของเขาได้ยังไง? ที่สำคัญ เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินความสามารถของคนจากลักษณะภายนอก
พอเห็นสีหน้าของลินลี่ย์ ครูเทรย์คิดว่าเขาพูดได้ตรงจุด จึงหัวเราะกล่าวว่า“ลินลี่ย์ ถ้าเจ้ามีความสามารถ เจ้าไม่ควรซ่อนเอาไว้ แม้ว่าเจ้าจะตัดสินใจไม่เข้าร่วมแข่งขันเพราะกลัวจะเปิดเผยความสามารถของเจ้า ข้าอาจตัดสินใจเปิดเผยความสามารถของเจ้าด้วยตัวข้าเองก็ได้”
“ไม่ว่ายังไง ข้าก็จะไม่ไป”
ลินลี่ย์ลุกขึ้นยืนอย่างไม่สบายใจ จากนั้นทำความเคารพอย่างสุภาพ“ข้าขอตัวก่อน, ครูเทรย์”
จากนั้นเขาก็ไม่สนใจดูสีหน้ามึนงงของเทรย์และเดินจากมาทันที
“เฮ้อ..เจ้าเด็กคนนี้” หลังจากตั้งหลักได้ เทรย์อดหัวเราะไม่ได้ ดีเลียที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะปิดปากหัวเราะคิกคักเช่นกัน
…..
เมื่อเวลาเรียนเวทลมจบลง ก็เป็นเวลาเกือบหกโมง ท้องฟ้ามืดค่ำแล้ว ลินลี่ย์วิ่งกลับไปยังหอพักของเขา พี่น้องชาวหอพัก 1987 ต่างพูดคุยกันด้วยสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและพวกเขามักร่วมทานอาหารค่ำด้วยกันเสมอ
“ลินลี่ย์, เจ้ากลับมาแล้ว” เด็กผมหยิกจากหอพัก 1986 ทักทายลินลี่ย์อย่างอบอุ่น
“แฮรี่ เจ้าทานอาหารค่ำมาแล้วหรือยัง?” ลินลี่ย์ยิ้มและทักทายตอบ
ลินลี่ย์มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้านเกือบทุกคน แฮรี่หัวเราะและพยักหน้า “แน่นอน เรียบร้อยแล้วพี่น้องสามคนของเจ้ากำลังรอเจ้าอยู่ข้างใน”
“ลินลี่ย์กลับมาแล้ว ทุกคน ได้เวลากิน!” เสียงของเยลดังลั่นออกมา
เป็นที่ชัดเจนจากภายในหอพักของพวกเขา เยลได้ยินเสียงของลินลี่ย์ เยล,เรย์โนลด์และจอร์จเดินออกมาและโบกมือให้ลินลี่ย์ สี่พี่น้องเดินไปที่จุดทานอาหารค่ำ สถาบันเอินส์มีร้านอาหารหรูอยู่บ้าง แต่หลังจากถูกลินลี่ย์, เรย์โนลด์และจอร์จกดดัน เยลจึงไม่พาพวกเขาไปที่นั่นอีก
อาหารจานในโรงอาหารเล็กเป็นอาหารสดเรียบง่ายดูน่ากินมาก
หลังจากสั่งอาหารแล้ว สี่พี่น้องก็เริ่มคุยกันเอง
ส่วนมากลินลี่ย์จะได้รู้ข่าวสารความเป็นไปเกี่ยวกับสถาบันจากสามพี่น้องของเขา ขณะที่ลินลี่ย์ใช้เวลาทั้งหมดฝึกฝนอยู่ในภูเขา บางทีเขาอาจไม่ค่อยรู้อะไรในความมืดมิดอย่างนั้น
“โธ่เอ๊ย.. อีกราวๆ เดือนหนึ่ง ก็จะหมดปีการศึกษาแล้ว สองเดือนสุดท้ายในแต่ละปีทั่วทั้งสถาบันจะมีการแข่งขันประจำปี นักเรียนสุดยอดสามคนในแต่ละระดับชั้นจะได้รับสิทธิ์ให้อยู่ในหอพักมีสองชั้นได้เป็นเวลาหนึ่งปี”เยลพูด
“แข่งขันประจำปีน่ะหรือ” ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะ เขาได้ยินเรื่องนี้มาจากชั้นเรียนแล้ว
“ฮ่าฮ่า, ข้าสมัครแน่นอนอยู่แล้ว” เรย์โนลด์พูดด้วยความมั่นใจ
เยลเม้มปาก “เจ้าหนู เจ้ากลายเป็นจอมเวทระดับหนึ่งตอนเดินทางมาจากจักรวรรดิโอเบรียนมาที่สถาบันเอินส์ ข้าว่าตอนนี้เจ้าคงอยู่ไม่ห่างไกลจากการเป็นจอมเวทระดับสองแน่ นั่นไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ”
เรย์โนลด์ใช้เวลาหนึ่งปีเต็มเดินทางจากบ้านของเขามาที่นี่
ตลอดการเดินทาง พ่อบ้านประจำตระกูลของเรย์โนลด์ได้สอนเวทให้เขาซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เขากลายเป็นจอมเวทระดับหนึ่งแม้ก่อนการเดินทางจะจบลง
จอร์จยิ้มให้ลินลี่ย์ “หือ..เจ้าลืมลินลี่ย์ไปแล้วหรือ ลินลี่ย์ก็เป็นจอมเวทระดับหนึ่งตอนที่เข้าสถาบันเหมือนกัน ยิ่งกว่านั้นเขายังฝึกเป็นบ้าเป็นหลังและยังเป็นจอมเวทสองสายธาตุ ข้าคิดว่าบางทีเขาอาจเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในหอพักของเรา
ลินลี่ย์เม้มปากน้อยๆ “จอร์จไม่ต้องมายอข้า”
“ลินลี่ย์ เจ้าเป็นจอมเวทระดับสองแล้วหรือยัง? บอกมาตามตรง?” จอร์จจ้องดูลินลี่ย์
“เขาจะเป็นจอมเวทระดับสองได้เร็วขนาดนั้นได้ไง? จากนักเรียนแนะนำไปเป็นจอมเวทระดับหนึ่งระดับพรสวรรค์อย่างพวกเราก็ใช้เวลาหนึ่งปี แต่จะระดับหนึ่งไปเป็นจอมเวทระดับสอง อย่างน้อยก็ต้องสองปี”เรย์โนลด์ที่อยู่ใกล้ๆ ขมวดคิ้วขณะที่พูด
“ไม่จำเป็นนี่ ข้ายังคงรู้สึกว่าลินลี่ย์ลับๆ ล่อๆจริงๆ” เยลยังคงมองดูลินลี่ย์ “ลินลี่ย์, เจ้ากลายเป็นจอมเวทระดับสองจริงๆเหรอ?”
ลินลี่ย์พยักหน้าตามปกติ
มันเรื่องใหญ่นักหรือที่ได้เป็นจอมเวทระดับสอง? แม้ก่อนจะทดสอบคัดเลือกจอมเวทเขาก็กลายเป็นจอมเวทระดับหนึ่งไปแล้ว จากตอนนั้นก็ผ่านมาหนึ่งปีเต็มๆ ถ้าเขายังไม่เป็นจอมเวทระดับสอง อย่างนั้นทุกอย่างที่เขาพากเพียรมาก็คงไม่มีประโยชน์
“เจ้าถึงระดับนั้นแล้วจริงๆ หรือ?” นัยน์ตาของเยล, เรย์โนลด์และจอร์จแทบถลนออกนอกเบ้า ไม่มีใครในพวกเขาคาดว่าจะเป็นเรื่องจริง
“ไปลงชื่อแข่งขันประจำปีเถอะ, ลินลี่ย์ เจ้าต้องได้เป็นส่วนหนึ่งในนั้นแน่ ย่ำยีเจ้าพวกนั้นให้หมดและประกาศศักดิ์ศรีเพื่อหอพัก 1987” เยลพูดทันที
ตอนนี้พนักงานได้เอาอาหารมาบริการตามสั่ง
“กินกันเถอะ, ข้าไม่สนใจแข่งขันประจำปีหรอก” ลินลี่ย์ไม่สนใจแข่งกับคนที่อ่อนแอกว่าเขา การแข่งขันต่อสู้เหล่านั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าออกกำลังกายโอ้อวดกัน
เยลและสหายมองหน้ากันเอง
พวกเขาทุกคนรู้ว่าลินลี่ย์ฝึกหนักมากแค่ไหน ถึงแม้ในปีของพวกเขา จะมีอัจฉริยะผู้มีธาตุสัมพันธ์และความบริสุทธิ์ของพลังจิตที่ยอดเยี่ยม แต่ในเรื่องการฝึกฝนอย่างหนัก ไม่มีผู้ใดเทียบกับลินลี่ย์ได้ และยิ่งลินลี่ย์เป็นจอมเวทสองสายธาตุ ในใจพวกเขาทุกคนเชื่อว่าลินลี่ย์คือนักเรียนปีหนึ่งที่ทรงพลังที่สุด
“มันคงเป็นเรื่องเสียเปล่า ถ้าเจ้าไม่เข้าแข่งขัน คนอื่นจะชิงความโด่งดังไปได้อีกในการแข่งขันประจำปี” เยลพึมพำ “แย่หน่อยที่ข้าแข็งแกร่งไม่พอ ถ้าข้าแข็งแกร่งขนาดเจ้าได้นะ ลินลี่ย์ ข้าจะแสดงผลงานให้นานๆ จากนั้นก็จะได้จีบสาวงามบางคนได้”
ลินลี่ย์หัวเราะ “พอเถอะ กินกันเถอะเลิกเพ้อได้แล้ว”
ความจริงลินลี่ย์ไม่สนใจการแข่งขันประจำปีแม้แต่น้อย แต่นักเรียนส่วนใหญ่ที่สถาบันเอินส์ตื่นเต้นกับเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่เพียงนักเรียนเท่านั้น แม้แต่นักเวทบางคนที่อาศัยอยู่ในสถาบันเอินส์ก็ใจจดใจจ่ออยู่กับผลการแข่งขันนี้