ตอนที่ 35 มนุษย์สายฝนตี๋หาน
เมิ่งหวีและลิ่วอันถูกเบียดแน่นจนพวกเขาไม่อาจขยับไปได้
“ไม่ได้แย่เสียขนาดนั้นหรอก ถังเทียนถูกจับตามองว่าเป็นม้ามืด จะมีคนแบบนี้อยู่สักเท่าไหร่กัน?” ลิ่วอันอดบ่นมิได้รองเท้าที่ขาวสะอาดของเขาถูกคนอื่นย่ำเลอะเป็นรอยเท้า
แต่เมิ่งหวีไม่เห็นว่าแปลก “สถาบันแอนดรูว์ของเราประมาณครึ่งหนึ่งก็จะตามมาดู”
“นั่นก็จริง” ลิ่วอันพยักหน้าและหัวเราะ “ถ้าแม้แต่นายที่เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของสถาบันแอนดรูว์ยังมาด้วย แล้วคนที่เหลือจะไม่มาได้ยังไง?”
ตั้งแต่เชียนฮุ่ยจบการศึกษาจากไป สถาบันแอนดรูว์ก็ตกต่ำลงภายในไม่กี่ปี และใครๆ ก็สามารถเห็นได้ว่าอันดับของโรงเรียน จะหลุดจากอันดับสิบสุดยอดโรงเรียนของเมืองซิงฟง อันดับของสถาบันแอนดรูว์เหมือนกับรถไฟเหาะตีลังกามีขึ้นแล้วก็ดิ่งลง พอสูญเสียเสาหลักที่ทรงพลัง ก็ค่อยๆ ร่วงลงมา
จู่ๆ ถังเทียนก็มีชื่อเสียงขึ้นมา เนื่องจากก่อเรื่องวุ่นที่สถาบันแอนดรูว์
เมิ่งหวีหัวเราะขมขื่น “ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของสถาบันแอนดรูว์อะไรกัน”
ลิ่วอันตบไหล่เมิ่งหวีปลอบใจ ในฐานะเพื่อนรักของเขา เขาสามารถเห็นความระทมทุกข์ของเมิ่งหวีชัดเจน ช่วงที่เชียนฮุ่ยอยู่ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของสถาบันแอนดรูว์เปล่งประกายรุ่งเรือง เพราะยอดฝีมืออันดับหนึ่งของสถาบันแอนดรูว์ก็คือยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเมืองซิงฟงด้วย แต่เมื่อเทียบกับตอนนี้ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของสถาบันแอนดรูว์เป็นแค่ตัวตลกดีๆ นี่เอง
ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของสถาบันแอนดรูว์ขณะที่เทียบกับทุกคนในสถาบันอื่นในเมืองซิงฟงก็แทบไม่สามารถสัมผัสท้ายตำแหน่งของสิบสุดยอดได้เลย เพราะเมิ่งหวีมีความขมขื่นยากจะพูดออกมาได้
ผู้คนยังคงหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
※※※※※※※※※※※※※※
เมื่อมองดูมุมหนึ่งของจุดผู้ชมดู บิดาและมารดาของหานปิงหนิงสวมหมวกปีกกว้างทั้งพันผ้ารอบตัวคลุมทั้งใบหน้า
“ตาเฒ่า! เราทำแบบนี้ปิงหนิงไม่น่าจะหาเราพบ จริงไหม?” มารดาของหานปิงหนิงพูดเสียงอ่อย
“ก็ไม่น่าจะเจอนะ” บิดาของหานปิงหนิงพูดโดยไม่ขยับ “ปิงหนิงอยู่ห่างจากเรามากเธออยู่ที่เวทีโน้น”
“ดีแล้ว, ดีแล้ว” มารดาหานปิงหนิงระบายลมหายใจ แต่นางก็เครียดขึ้นมาอีกอย่างรวดเร็ว “ตาเฒ่า, แกคิดว่าดีแล้วใช่ไหม เกี่ยวกับเรื่องที่เราจะช่วยปิงหนิงครั้งนี้ ลูกพูดมาได้ยังไงว่าชอบผู้หญิงด้วยกัน?กล้าดียังไง? ใจฉันแทบกระดอนเพราะตื่นเต้น ฉันคิดมากกับเรื่องนี้จริงๆแม้ว่าถังเทียนจะไม่ใช่ตัวดี แต่อย่างน้อยเขาก็เป็นบุรุษยังไงก็ดีกว่าชอบผู้หญิงแน่”
“ใจเย็นน่า!” บิดาของหานปิงหนิงคอยกระตุ้นภรรยาให้ผ่อนคลาย “ดูสิ, ปิงหนิงก็ยังมาดูรอบนี้ด้วยนี่พิสูจน์ว่าเธอมีอะไรบางอย่างกับถังเทียน ไม่ว่ายังไงเราคงไม่ปล่อยตามใจลูกแน่”
“ถังเทียน, แกอย่าพลาดจะดีกว่า” มารดาของหานปิงหนิงกำหมัดแน่น และยังคงกระวนกระวายต่อไป “คู่ต่อสู้ของถังเทียนครั้งนี้แข็งแกร่งมาก”
“อย่าห่วงเลยน่า! ปิงหนิงของเราไม่ใช่คนที่เอาแต่ใจตนเอง ต่อให้ถังเทียนระดับไม่ดีพอ ปิงหนิงก็คงไม่รังเกียจเขา”
※※※※※※※※※※※※※※
เมิ่งหวีและลิ่วอันมองดูทุกที่
“มีคนมากมายเลยนะ ได้รับความนิยมระดับนี้ เทียบกับรอบแข่งขันจริงเลยนะนี่ มันบ้ามากเลย” เมิ่งหวีอุทาน
“ดูนั่นสิ!” หลิวอันเหมือนกับจะพบโลกใหม่จึงใช้นิ้วมือชี้ไป “จ้าวเว่ยสุดยอดฝีมือของสถาบันเย่หลินสถาบันอันดับสี่ของเมืองซิงฟง, เซวียหย่งอันดับเก้าในเมืองซิงฟงจากสถาบันหงกวง, โจไขว่จากสถาบันเสินเว่ยอันดับเจ็ดในเมืองซิงฟง...”
ทุกๆ ชื่อทำให้หัวใจของเมิ่งหวีแทบกระดอนด้วยความตกใจ
สิบสถาบันใหญ่และยอดฝีมือระดับสุดยอดของพวกเขาปรากฏตัวอยู่ในจุดผู้ชมดู พอเห็นแถวผู้ทรงพลังทำให้เขาพูดไม่ออก เมิ่งหวีและลิ่วอันแทบเข้าใจผิดทันที นี่รอบชิงชนะเลิศหรือ?
ยอดฝีมือทั้งหมดนี้ บางคนก็ดูใจเย็นบางคนก็ดูหยิ่งยโสและบางคนก็สงบบางคนก็มาด้วยความสงสัยและบางคนก็มาสังเกตการณ์ แต่ยังไงก็ตามพวกเขาก็มารวมในที่เดียวกันเหล่าผู้คนที่แต่เดิมมาชมดูความสนุก กลับกลายเป็นยิ่งตื่นเต้น โอกาสดีอย่างนั้นเคยเกิดขึ้นมาก่อนเมื่อใดกัน?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากได้เห็นยอดฝีมือทุกคนในวันเดียว ก็คุ้มค่าตั๋วของวันนี้แล้ว
นอกจากนี้ คู่ต่อสู้ของถังเทียน...
ขณะที่ถังเทียนก้าวขึ้นบนเวที ผู้คนก็เริ่มคึกคักขณะที่มองดูจุดผู้ชมก็เงียบเสียงลง ขณะที่ทุกคนมองเขาเข้าเวทีด้วยความสงสัย
เขาเป็นคนที่ทุกคนต่างก็เย้ยหยันในก่อนนี้ ห้าปีกับการฝึกฝนวิชาต่อสู้พื้นฐานและถูกมองว่าเป็นนักเรียนที่น่ารังเกียจไม่มีพรสวรรค์ นักเรียนที่ยึดมั่นกับการเรียนซ้ำชั้นมาห้าปี ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างก็อิจฉาตัวเขา ขณะที่เขาเป็นคนเดียวที่ทำให้เชียนฮุ่ยยิ้มได้และยิ้มที่งดงามที่สุดในเมืองซิงฟงเป็นของเขาผู้เดียว
หลายๆ คนได้ยินชื่อถังเทียนมาแล้วแต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นถังเทียนตัวจริง
“นั่นไง เขาล่ะ ถังเทียน”
“ไม่สามารถบอกความแตกต่างเกี่ยวกับตัวเขาได้เลย ทำไมคุณหนูเชียนฮุ่ยถึงได้ชอบเขา?”
“เขาไม่เหมือนกับคนอื่นๆ เขาฝึกวิชาต่อสู้พื้นฐานนานห้าปี แล้วจะเหมือนเขาได้ยังไง?”
……
หลังจากเงียบไปช่วงสั้นๆเสียงพูดคุยจอแจก็ค่อยดังขึ้นมา
ถังเทียนเพิ่งจะก้าวขึ้นเวที ก็กระโดดผางด้วยความตกใจจากเสียงกึกก้องโห่ร้อง เขามองขึ้นไปแล้วถอยหลังด้วยความตื่นเต้นทันทีพร้อมทั้งพ่นลมหายใจหนาวเหน็บเมื่อได้เห็นแท่นชมเต็มไปด้วยผู้คน
“อย่าบอกนะว่าคู่ต่อสู้ของเราในวันนี้ตัวใหญ่และทรงพลัง?” ถังเทียนเกาหัวแกรกๆ
ถังเทียนคาดไม่ถึงเลยว่าคู่ต่อสู้ของเขาเป็นคนมีชื่อเสียงจริงๆ
※※※※※※※※※※※※
ตี๋หานเข้าเวทีมาอย่างไร้อารมณ์ สายตาเขายังไม่ทันถึงถังเทียนก็หยุดเสียก่อนและถอนกลับไป เขาไม่สนใจว่าคู่ต่อสู้ของเขาจะเป็นใคร ไม่สนใจเสียงรอบๆ ตัวเขา พอเห็นผู้ชมบนแท่นชมดูก็ยังไม่ส่งผลต่อเขาอยู่ดี
ไม่มีคำพูดราวกับคนโง่เขายืนอยู่หน้าถังเทียนและรอให้กรรมการมาถึง
สีหน้าของทุกคนในแท่นผู้ชมดูกลายเป็นดูภูมิฐาน
“มนุษย์สายฝนตี๋หาน” เมิ่งหวีพูดเสียงในลำคอ “เป็นเขาจริงๆฉันไม่คิดเลยว่าเขาจะมาแข่งขันในงานชุมนุมวิทธยายุทธและไม่ใช่ว่าคนอื่นจะได้รับชื่ออย่างเขา”
ลิ่วอันมีนัยน์ตาหวาดกลัว
ในโลกนี้มักจะมีอัจฉริยะที่มีระดับแตกต่างอยู่เสมอ มีหลายสถาบันในเมืองซิงฟงและมีคนไม่กี่คนที่ไม่เคยสนใจเข้าเรียนมาก่อน แต่เป็นอัจฉริยะมีพลังทำให้คนทึ่งได้ ตี๋หานเป็นหนึ่งในบุคคลที่โดดเด่น เขามาจากครอบครัวยากจน เป็นพวกต่อต้านสังคมและมีอารมณ์ร้าย ปฏิเสธชีวิตในสถาบัน วิทยายุทธของเขาล้วนร่ำเรียนด้วยตนเอง
แม้ว่าบุคลิกของเขาจะน่ากลัวแต่เขาก็เป็นคนโดดเด่น โดยเฉพาะวิทยายุทธสายธาตุน้ำและได้รับการคาดหมายว่าอยู่ในระดับเดียวกับหานปิงหนิงอัจฉริยะวิทยายุทธสายธาตุน้ำ
เขามักโดดเดี่ยวอยู่เสมอคอยล่าสัตว์ประหลาดเพื่อเอาตัวรอด และสิ่งที่ทำให้เขาหลงใหลมากก็คือครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นนักฆ่า ความเชี่ยวชาญของเขาก็คือฆ่าในสายฝน เขาไม่เคยล้มเหลว มนุษย์สายฝนตี๋หานเหมือนมัจจุราชที่ไม่มีใครหยุดได้ นั่นจึงทำให้เขาได้รับฉายาว่ามนุษย์สายฝน
คู่ต่อสู้แบบนี้ใครเล่าจะกล้าดูแคลน
ในบรรดายอดฝีมือที่อยู่ในแท่นผู้ชมดู ทุกคนสีหน้าเครียดและจ้องมองตี๋หานที่อยู่บนเวที
มิน่าเล่าการต่อสู้ครั้งนี้ถึงได้ดึงดูดยอดฝีมือมามากนัก นอกจากถังเทียนแล้ว ตี๋หานเป็นเหตุผลสำคัญ คนธรรมดาอาจไม่รู้จักมนุษย์สายฝนตี๋หาน แต่ในวงการยอดฝีมือแล้ว ตี๋หานมีชื่อเสียง
ตี๋หานไม่เคยเข้าร่วมงานชุมนุมวิทยายุทธสักครั้ง ถ้าไม่ใช่เพราะถังเทียนที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมาย คงไม่มีใครสังเกตเห็นตี๋หานที่ลงชื่อสมัครเงียบๆในการแข่งขันรอบคัดเลือกเบื้องต้น
ยอดฝีมือผู้เชี่ยวชาญพอรู้ระดับความสำเร็จของตี๋หานแล้วตกใจกันมาก
ตี๋หานมีประสบการณ์ต่อสู้มาอย่างโชกโชนและที่แน่ๆมากกว่าที่เขาคิด
กรรมการมือชุ่มไปด้วยเหงื่อ เหมือนกับว่าเป็นครั้งแรกที่เขารับหน้าที่ตัดสินต่อหน้าผู้คนมากมาย แต่โชคดีที่กฎของงานชุมนุมวิทยายุทธยุติธรรมเรียบง่าย และขณะที่ผู้แข่งขันทั้งสองพร้อมแล้วเขารีบพูดขึ้นว่า “เริ่มได้”
ทันทีที่ประกาศให้เริ่มได้เขารีบถอยหลังอย่างรวดเร็ว
การต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว
※※※※※※※※※※※※※※※※
ถังเทียนตั้งใจมองตี๋หาน
เขารู้สึกว่าคู่ต่อสู้ของเขาปกคลุมไปด้วยเมฆครึ้มและเขาไม่สามารถมองเห็นหรืออ่านได้ชัดเจน
ตี๋หานเงยหน้าทันที ตาทั้งสองของเขาเป็นประกายแสงเหมือนกับซ่อนมีดไว้ในความมืด ทันใดนั้นหัวใจของถังเทียนรู้สึกได้ถึงสังหรณ์อันตราย เขาก้าวไปด้านข้างด้วยจิตสำนึกทันที
ซู่!
ลำแสงประกายเยือกเย็นพุ่งเข้าหาถังเทียนเฉียดผ่านเขาไป
เป็นมีดบางละเอียดเล่มหนึ่ง
มีดยาวเพียงสามนิ้วลักษณะคล้ายมีดผ่าตัด แต่บางเฉียบ ดังนั้นจึงดูโปร่งใส
นัยน์ตาของตี๋หานเปล่งประกาย
วิชาที่เขาใช้ฝึกมีชื่อว่าพิรุณโปรยปราย เป็นวิทยายุทธระดับสามที่หาได้ยากจากโรงเรียนที่รู้จักกันไม่กี่คนนี่เป็นโรงเรียนเก่าแก่โบราณซึ่งตกทอดวิชาต่อสู้พิเศษชนิดนี้ นั่นทำให้ตี๋หานกลายเป็นฆาตกรที่ทุกคนหวาดกลัวแทบสิ้นสติ พลังเที่ยงแท้ของตี๋หานมาจากการที่ร่างของเขาสามารถแปรเปลี่ยนเป็นไร้ลักษณ์ทำให้เขาสามารถใช้มีดได้ดีจากทุกแง่มุม
ถังเทียนมองดูมีดบางเบาที่โฉบเข้าหาและรู้สึกประหลาดใจ
นั่นมันวิทยายุทธอะไรกัน?
ประสบการณ์ต่อสู้ของตี๋หานมากมายนัก แม้ว่าการต่อสู้ที่ห้าวหาญและยุติธรรมไม่ใช่สิ่งที่เขาเชี่ยวชาญ แต่เขาก็ยังมั่นใจในตนเอง
ปราณแท้ไร้รูปสั่นเล็กน้อยและมีดเบาบางก็หายไปในอากาศ
ม่านตาถังเทียนหดลง ทันใดนั้นเขากระแทกพื้นใต้ตัวและเหินลอยถอยหลัง
ลำแสงเยือกเย็นเห็นไม่ถนัดเฉียดผ่านจมูกเขาไป อากาศหนาวเหน็บทำให้ขนในตัวของเขาลุกชัน
หลังจากหลบหลีกสองครั้งถังเทียนรู้ถึงอันตรายของคู่ต่อสู้
เขาอันตราย
ถังเทียนไม่พูดสักคำและเปิดตู้อาวุธอควาเรียสออก ถุงมือเหล็กดำหมู่ดาวเตาหลอมปรากฏอยู่ในมือเขาทันที และเหล็กเย็นราวกับน้ำแข็งทำให้จิตใจของถังเทียนปลอดโปร่งทันที
ในทันใดนั้นถังเทียนระเบิดพลังและหมัดของเขาหายไปในอากาศ
ขณะที่หมัดพุ่งออกมาจากอากาศอีกคราดูเหมือนว่าหมัดจะกระทบอยู่ในอากาศ
ติง
ประกายไฟเล็กๆปรากฏอยู่บนถุงมือของถังเทียน ความรุนแรงแหลมคม ชัดเจน ได้ยินกันทุกคน
หมัดประกายไฟ
วิทยายุทธระดับสอง? ประกายตาเยือกเย็นพาดผ่านตาของตี๋หาน
หาที่ตาย!
แม้ว่าเขาจะได้ฝึกหมัดประกายไฟจนปัจจุบันคู่ควรแก่การยกย่องแต่วิทยายุทธระดับสองก็เป็นแค่วิชาระดับสอง อาศัยวิชาระดับสองมาสู้กับเรา นี่เท่ากับว่าหาที่ตาย
ปราณเที่ยงแท้ไร้รูปปรากฏอยู่ในอากาศมีพลังสั่นสะเทือนเบาๆ มันก็โฉบลงมา
มีดเบาบางที่ลอยอยู่ในอากาศดูเหมือนแท่งน้ำแข็ง จู่ๆ ก็เริ่มละลายอย่างรวดเร็วมองเห็นด้วยตาเปล่าจนกลายเป็นแอ่งน้ำ แอ่งน้ำนี้แยกออกเป็นห้าส่วนและเริ่มกลายเป็นหยดน้ำห้าหยด หยดน้ำยังคงยืดยาวกลายเป็นเข็มน้ำห้าเล่มอยู่ต่อหน้าตี๋หาน
นี่.. นี่... นี่มัน..
ถังเทียนพูดไม่ออกขณะมองดู วิทยายุทธของตี๋หานฝึกมาอย่างไม่อาจนึกภาพได้ออกเลย
ผู้ชมบนแท่นชมต่างตกตะลึง พวกเขาไม่เคยเห็นวิทยายุทธพิเศษแบบนี้มาก่อน
ตี๋หานหรี่ตาจนกระทั่งเป็นเส้น
ทุกอย่างกำลังจะจบลง
ร่องรอยปราณเที่ยงแท้สั่นสะท้านทันที
เข็มน้ำห้าเล่ม ที่ลอยอยู่หน้าเขาหายไปทันทีพร้อมกับเสียงหวีดหวิวเสียดแทงแก้วหูทุกคนดังขึ้นทันที