ตอนที่แล้วตอนที่ 31 จุดชมดูของคนดัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 33 ประกาศชัย

ตอนที่ 32 วิชาพลองวายุมายา


“ศิษย์พี่, เขาเป็นใคร?”ไฉเสวี่ยถามด้วยสีหน้าสงสัย

ความจริงศิษย์พี่รู้จักคนผู้นี้  ไฉเสวี่ยและเหอเสี่ยวฉินมองหน้ากันเอง  จิตใจพวกเธอเต็มไปด้วยความสงสัย  พอคิดดูแล้ว อาจารย์ใหญ่ของพวกเธออนุญาตให้พวกเธอออกมา  อาจารย์ใหญ่รู้เรื่องนี้ด้วยหรือไม่?พอดูพื้นที่ผู้ชมที่มีแต่นักสู้ที่มีชื่อเสียงนักเรียนยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดระดับสามสถาบันสุดยอดของเมืองซิงฟงและยอดฝีมือคนอื่นทยอยเข้ามาทีละคน แม้ว่าเหลียงชิวแห่งสถาบันเหมิ่งโซ่วจะไม่ปรากฏตัว  แต่ก็มีหวังเจิ้นมาชมเป็นการส่วนตัว  เห็นได้ชัดว่ามีใครบางคนที่มีระดับความสำคัญอยู่ในที่นี้

เป็นไปได้ว่าเมืองซิงฟงมีอัจฉริยะถือกำเนิดหรือเปล่า?

นอกจากนี้เขาและศิษย์พี่ดูเหมือนจะรู้จักกัน

แต่พวกเขาทั้งสองรู้จักกันแน่ชัด  ทัศนคติที่ศิษย์พี่มีต่อบุรุษ

“เขาคือถังเทียน”  หานปิงหนิงพยายามสงบจิตใจ  พยายามอย่างหนักเพื่อข่มใจตนเองไม่ให้ทักทายถังเทียนที่พูดกับเธอสร้างความลำบากใจให้เธอ

“อ๋า! เขาคือถังเทียน?”

“เขาคือถังเทียนเหรอ?”

ไฉเสวี่ยและเหอเสี่ยวฉินปากอ้าค้างพร้อมกัน  ทั้งสองคนมีสีหน้าไม่อยากเชื่อ  บุรุษที่อยู่ข้างล่างคือถังเทียนจริงๆหรือ?  สุดยอดนักเรียนซ้ำชั้นในตำนาน  นักเรียนสวะผู้ถูกไล่ออกจากโรงเรียนถังเทียน?  ถังเทียนที่เชียนฮุ่ยชอบในปีนั้นน่ะหรือ?

เชียนฮุ่ย...เป็นไปได้ไง...

ไฉเสวี่ยและเหอเสี่ยวฉินมองหน้ากันเองอีกครา  พวกพวกเธอรู้ชัดว่าศิษย์พี่หญิงเทิดทูนเชียนฮุ่ย

ไฉเสวี่ยลังเลชั่วขณะ  แต่เมื่อไม่อาจทนต่อไปได้ จึงพูดติดอ่าง “ศะ..ศิษย์พี่ชอบเชียนฮุ่ยย่อมไม่เป็นปัญหา แต่ชอบผู้ชายของเธอด้วย นี่ออกจะ...”

เหอเสี่ยวฉินพูดตรงมากกว่าด้วยใบหน้าเคร่งเครียด“ศิษย์พี่!  ปลาในทะเลมีตั้งมากมายทำไมพี่ต้องเลือกรองเท้าชำรุดคู่นี้”

หานปิงหนิงเม้มปากแน่น เธอต้องพยายามหักห้ามใจไม่ให้ชักกระบี่ฟันใส่คนข้างตัวทั้งสองคน  เธอทำท่าเงียบสงบและหันไปมองรุ่นน้องทั้งสองคนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“เธอสองคนคิดมากเกินไปแล้ว ความจริงฉันชอบแต่ผู้หญิงด้วยกันย่ะ”

ไฉเสวี่ยและเหอเสี่ยวฉินมีสีหน้าชะงักค้าง  พวกเธอมัวแต่ตะลึง ประหลาดใจจนพูดอะไรไม่ออก

หานปิงหนิงหันกลับไปทำเหมือนกับว่าเธอไม่ได้พูดอะไร

ถึงเวลานี้หลายคนจำถังเทียนที่อยู่ในลานได้แล้ว

“เขาคือถังเทียน  เขาลือว่าถังเทียนเป็นนักเรียนสวะไม่ใช่หรือ?”

“ใช่แล้ว เรียนซ้ำชั้นถึงห้าปี ถ้าไม่ใช่นักเรียนสวะ แล้วจะให้เรียกว่าไง?

“แต่ทำไมถึงมีแต่คนดังเข้ามาดูที่นี่ล่ะ?  พวกเขากลัวนั่งเบื่อจนเจ็บไข่อย่างนั้นหรือ?

“เอ...อาจจะเบื่อจริงๆแต่ไอ้เรื่องเจ็บไข่นี่ล่ะ? แกดูไข่คนเก่งมาแล้วหรือไง? ทั้งร่างพวกเขาทำมาจากทองแดงหรือไม่ก็เหล็ก  แม้แต่ไข่ก็ยังเป็นเหล็กกล้านะเฮ้ย...”

คนกลุ่มนั้นพยายามอย่างดีที่สุดที่จะลดเสียงลง  แต่ซือหม่าเซียงซานและคนที่เหลือมีโสตประสาทว่องไวสามารถได้ยินทุกคำได้ชัดเจน แต่เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดเสียดแทงถึงพวกเขา  กลุ่มคนดังเหล่านั้นรีบยืนหนีบขาทันที

※※※※※※※※※※※※※※※

ขณะที่ผู้ตัดสินเดินขึ้นเวที  เขาต้องตกใจกับจำนวนผู้เข้าชมและเกือบสงสัยตนเองว่าคงเข้ามาผิดเวที พอมองไปที่แท่นคนดูพบเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย  หัวใจเขาแทบกระดอนออกมา หนังศีรษะชาแค่เลือกคนที่อยู่ในกลุ่มนั้นออกมาแข่งขันก็จะทำให้การแข่งขันร้อนระอุภายใต้แสงอาทิตย์ทันที

ซือหม่าเซียงซาน, หานปิงหนิง, หวังเจิ้น...

เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการตัดสินในงานชุมนุมวิทยายุทธและมีประสบการณ์มาห้าปี  ทำไมเขาจะจำคนพวกนี้ไม่ได้

พระเจ้า...นี่มัน...นี่มันคือการแข่งขันคัดตัวเบื้องต้นหรือ?

ช่วงเวลาที่ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นเดินเข้าเวที  ผู้ตัดสินเรียกสติกลับคืนมา

เงาร่างที่รวดเร็วและมีพลังรุนแรงสายหนึ่งเดินก้าวขึ้นเวลา  เสียงของเขาดูเหมือนแฝงไว้ด้วยแววอำมหิต“ขอถามหน่อย  นี่ใช่เวที 3897 หรือเปล่า?”

ขณะที่ผู้ตัดสินมองดูผู้เข้าแข่งขันชัดเจน  เขาถึงกับใจสั่นอย่างหนาวเหน็บ

เขาเปลือยกายท่อนบนส่วนกายท่อนล่างนุ่งกางเกงที่ทำจากหนังสัตว์  เขามีผิวเข้มเป็นมันเหมือนโลหะเท้าเปล่าและในมือของเขามีพลองทองแดง ปลายพลองทั้งสองด้านมีบอลเล็กหุ้มไว้แต่สิ่งที่ทำให้ประทับใจที่สุดก็คือแววตาของเขาจริงๆ

ดูว่องไวห้าวหาญแต่มีรังสีฆ่าฟันแฝงอยู่ด้วย

“โอ๋ว?”  หมิงกวงแสดงสีหน้าที่คาดไม่ถึง  “ดูเหมือนว่าพลังของคนผูนี้ไม่เลวเลย”

หวังเจิ้นเห็นด้วย“เหมือนกับว่าประสบการณ์ต่อสู้ของเขาต้องมีเต็มเปี่ยมแน่”

ซือหม่าเซียงซานยืดตัวเล็กน้อย  หน้าของเสิ่นหยวนแสดงถึงความประหลาดใจ

หานปิงหนิงหรี่ตาขณะที่ไฉเสวี่ยและเหอเสี่ยวฉินที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอมีสีหน้าจริงจังมากขึ้น

กรรมการผู้ตัดสินเคยเห็นผู้แข่งขันมาทุกประเภทแล้ว เขาสามารถบอกได้ว่าเด็กหนุ่มเท้าเปล่าถือพลองทองแดงผู้นี้ไม่ได้มาดีแน่นอน

“เอาล่ะ”กรรมการพยักหน้า

เด็กหนุ่มเท้าเปล่าหันมามองถังเทียน

ถังเทียนนัยน์ตาสว่างวูบทันทีและโบกมือทักทายเขา“อ่าฮะ, พ่อหนุ่ม! นายเป็นคู่ต่อสู้ฉันเหรอ?”

เด็กหนุ่มเท้าเปล่าหันหน้าไปทางกรรมการ“เริ่มได้หรือยัง?”

กรรมการถามถังเทียนทันที  “คุณพร้อมหรือยัง?”

“พร้อมอยู่แล้ว”  ถังเทียนพูดอย่างไม่แยแส

ขณะที่เขาตะโกนออกมา  บุรุษหนุ่มหายวับไปในอากาศ เสียงลมจากพลองปรากฏอยู่หลังศีรษะถังเทียนทันที

ถังเทียนประหลาดใจ เขาคาดไม่ถึงเลยว่าเมื่อคู่ต่อสู้บอกว่าสู้  ก็หมายความว่าเขาจะสู้ทันที  แต่ปฏิกิริยาของเขารวดเร็วมากเขาก้มหลบลากขาซ้ายถอยไปด้านหลัง

ปัง

ขาหลังของถังเทียนถูกหยุดโดยพลองแดงของเด็กหนุ่มเท้าเปล่า

ทั้งสองถอยหลังสองก้าวพร้อมกันแยกออกจากกันทันที

“แกกล้าลอบทำร้ายจริงๆเลยนะ”  รอยยิ้มที่ใบหน้าของถังเทียนหายไป  และเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่ดุดันแทน  เขาจ้องดูคู่ต่อสู้ คำรามเสียงเย็นชา“แกเสร็จแน่”

สีหน้าของบุรุษหนุ่มเท้าเปล่าไม่เปลี่ยนแปลง  เหมือนกับว่าเขาไม่ได้ยินที่ถังเทียนพูด

ถังเทียนย่อเอวกางแขนทั้งสองนิ้วทั้งสิบเล็งเป้าไปทางบุรุษหนุ่มเท้าเปล่า

หานปิงหนิงมองดูจากพื้นที่คนดู จู่ๆเธอก็ระลึกถึงวันที่ถังเทีนสู้กับแรดเหล็กเกราะหมึก  ตอนนั้นเขาก็ตั้งท่าเช่นนั้น

ในชั่วพริบตา เหมือนกับว่าถังเทียนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน  ใบหน้าของเขาไม่เหลือร่องรอยคนอารมณ์ดีตาทั้งสองแน่วแน่และสงบนิ่งไม่มีท่าทีตื่นเต้นแม้แต่น้อย  แขนที่กางออก ปรากฏกล้ามเนื้อทุกส่วนชัดเจน

ซือหม่าเซียงซานนั่งยืดตัวขึ้นเล็กน้อย  นัยน์ตาของเขาตื่นเต้นเล็กน้อย

ทุกคนรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของถังเทียน พวกที่ตอนแรกยังคุยอย่างสนุกร่าเริงกลับเงียบสงบลงทันที

บุรุษหนุ่มที่เป็นคู่ต่อสู้เท้าเปล่าสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของถังเทียนนัยน์ตาเขาเป็นประกายและเพิ่มความระมัดระวังขึ้น  พลองทองแดงยาวในมือของเขายืดตรงอย่างรวดเร็วปลายพลองชี้ตรงมาที่ถังเทียน

แม้ว่าบุรุษหนุ่มเท้าเปล่าจะรู้สึกถึงแรงกดดันที่รุนแรงจากฝ่ายตรงข้ามแต่นัยน์ตาเขาไม่แสดงสัญญาณใดๆ ว่ากลัวเลย เพียงพริบตาร่างของเขาก็หายไปต่อหน้าถังเทียนอีกครา

ขณะเดียวกัน ถังเทียนหยีตาจ้องดู  ร่างท่อนบนเขาเหวี่ยงตัวเหมือนลูกตุ้ม  ทันใดนั้นท่าร่างของเขากลายเป็นเลือนลางทันที

พลองทองแดงยาวหวดตรงใส่ร่างของเขา

ปัง

พลองทองแดงยาวไม่ทันได้สัมผัสพื้น แต่พลังของมันทำให้พื้นแตกแยกออกและเศษหินนับไม่ถ้วนปลิวกระเด็น

หมัดของถังเทียนโผล่ออกมาพุ่งใส่ชายโครงซ้ายของเด็กหนุ่มเท้าเปล่าโดยไม่มีวี่แวว

หมัดประกายไฟ!

พลังของเด็กหนุ่มเท้าเปล่ามากกว่านักสู้ธรรมดา พลองทองแดงยาวเพิ่งปรากฏให้เห็น แต่ดูเหมือนเขาคาดการณ์ตำแหน่งโจมตีของถังเทียนไว้แล้ว  เขาหมุนตัวหลบหมัดประกายไฟของถังเทียนทันที ขณะเดียวกันก็ใช้ปลายพลองที่เหมือนอสรพิษฟาดใส่ถังเทียน

ถังเทียนก้าวเท้าไถลแนวขนานพื้นเหมือนเล่นบนลานน้ำแข็งแล้วปัดป้องพลองที่เหมือนอสรพิษผ่านตัวไป

บุรุษหนุ่มเท้าเปล่าหมุนตัวเหมือนลูกข่างออกไปอีกทิศทางหนึ่งก่อนจะรั้งพลองทองแดงยาวกลับมาอีกครั้ง

วู้ววว!

เสียงก้องต่ำลึกที่ดังออกมาจากพลองทำให้หัวใจคนสั่นสะท้าน

ถังเทียนโดดหลบไปอีกด้านหนึ่ง

ร่างของบุรุษเท้าเปล่าเป็นเหมือนตุ๊กตาล้มลุก  พุ่งไปด้านไหนก็ใช้พลองกวาดไปด้านนั้น

จากความเปลี่ยนแปลงในเสียงของพลอง ถังเทียนรู้ว่าพลังของพลองจะกล้าแข็งขึ้นอีกครั้ง

บุรุษเท้าเปล่าปั่นตัวพุ่งไปอีกด้านหนึ่ง พลองทองแดงยาวก็ดึงดูดพลังเพิ่มขึ้นไปอีก  พลองเริ่มกลายสภาพเป็นเลือนลางจนตาเปล่ามองไม่เห็นและลมที่หวีดหวิวอยู่ในท่าเคลื่อนไหวของพลองเพิ่มความหวาดกลัวให้กับผู้ชม

ถังเทียนมองเห็นส่วนของเคล็ดวิชานี้บางส่วนแล้ว   บุรุษหนุ่มเท้าเปล่าใช้ร่างกายของเขาเป็นแกนหลักชักนำกระบวนท่าของพลองทุกครั้งที่เขาปั่นตัวเองไปอีกด้านหนึ่ง พลังของพลองจะเพิ่มขึ้น ตอนนี้บุรุษหนุ่มเท้าเปล่าปั่นตัวเหมือนลูกข่างด้วยความเร็วสูงสุด  พลังในพลองทองแดงยาวก็ยิ่งลึกล้ำ  พลังโจมตีหรือพลังหวดย่อมน่ากลัว ตราบใดที่เขาโดนหวดใส่สักคราเขาคงสูญเสียพลังต่อสู้เป็นแน่ เท่าที่มองดู เงาของพลองของบุรุษหนุ่มเท้าเปล่าสับสนมาก  แต่ครอบคลุมได้มาก

พอสังเกตได้ถึงจุดนี้ ถังเทียนยังหลบเลี่ยงและคอยดูอย่างต่อเนื่อง

นี่มันคือวิชาพลองอะไรกันแน่....

“นี่มันวิชาพลองอะไรกัน?”  หมิงกวงซึ่งอยู่ในแท่นผู้ชมอดถามไม่ได้ “เป็นรูปแบบการป้องกันที่แปลกประหลาด”

“วิชาพลองวายุมายา”หวังเจิ้นมีความรู้เรื่องนี้  “นี่คือวิชาพลองที่มีคนฝึกกันน้อยมาก”

“เป็นครั้งแรกที่หมิงกวงได้ยินชื่อวิชาพลองเช่นนั้นและรู้สึกประหลาดใจ”ทำไม?  มันให้ความรู้สึกที่ทรงพลังดีนี่! ความจริงฉันคาดหวังลึกๆ ว่าการแข่งขันรอบคัดตัวเบื้องต้นจะมีผู้เข้าแข่งที่ทรงพลังแบบนี้”

“วิชาพลองวายุมายา  นายต้องมีพรสวรรค์โดยธรรมชาติเพื่อใช้พลังบริสุทธิ์เอาชนะให้ได้”  หวังเจิ้นอธิบาย  “ขณะที่เคลื่อนไหวร่างเพื่อขับเคลื่อนพลังพลองออกมา นายจะสังเกตรูปลักษณ์ของเขาว่าเหมือนกับคนเมา  แต่ตรงกันข้าม มันแฝงไว้ด้วยอันตรายทันทีที่วิชาพลองวายุมายาเริ่มร่ายรำ เขาจะได้เปรียบทันที”

“งั้นถังเทียนก็ตกอยู่ในอันตรายใช่ไหม?”หมิงกวงเลิกคิ้ว

“ช่วงเวลาตอบโต้วิชาพลองวายุมายาที่ดีที่สุดก็คือระหว่างช่วงพลอง2-3 ท่าแรก ขณะนั้นพลังของพลองยังไม่เพิ่มสูงนัก ตอนนี้พลังของพลองเพิ่มขึ้นหลายชั้นหลายเท่าตัว  พลังที่แฝงอยู่จะปรากฏออกมาแล้ว”หวังเจิ้นกล่าว

วืด วืด วืด

พลองทองแดงยาวที่หนักหน่วงถูกเหวี่ยงอย่างรุนแรงด้วยความเร็วสูงทำให้เกิดเสียงหวีดหวิวไปทั่วทั้งบริเวณ หินที่แตกและทรายบนเวทีฟุ้งขึ้นอย่างต่อเนื่องและถูกพลองกระแทกใส่ครั้งแล้วครั้งเล่า

รูปร่างของเด็กหนุ่มเท้าเปล่าถูกกระแสพลองครอบคลุมไว้

ดูเหมือนพายุหมุนเริ่มสร้างความเสียหายขึ้นมาบ้าง  พื้นเวลาทีเล็กๆ สั่นสะเทือน

ถังเทียนคาดไม่ถึงเลยว่าคู่ต่อสู้คนแรกของเขาจะแข็งแกร่งทรงพลังมาก

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้กังวลต่อพลังพลองของคู่ต่อสู้

สายตาของเขาเพ่งมอง หลังจากโยนความคิดรกสมองทิ้งไป  คู่ต่อสู้ของเขาเป็นเหมือนลมพายุเล็กๆ  ทุกอย่างที่พัดผ่านเข้ามาดูเหมือนมีแต่ทรายกับเศษหิน

พลองทองแดงหนักอย่างน้อย 30 กิโลกรัม เมื่อเริ่มร่ายรำก็ใช้แรงหวดเหวี่ยงที่น่ากลัว

ถังเทียนหยุดเคลื่อนไหว และหันไปเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้

ภาพพลองสีทองเหลืองเปลี่ยนตำแหน่งไปทันที เสียงกระแทกดังพุ่งเข้าหาถังเทียน

สีหน้าถังเทียนยังคงสงบนิ่ง มองดูคู่ต่อสู้   ร่างของเขาโน้มไปข้างหน้าเล็กน้อยหมัดขวารั้งไว้ในระดับเอว

นี่คือ.....

ผู้ชมที่อยู่ในแท่นคนดูถึงกับผงะ  พลองทองแดงที่หนักหน่วงและทรงพลังขนาดนั้น  ถ้าถูกฟาดไปเต็มแรงก็เตรียมขุดหลุมฝังศพรอได้เลย

ถังเทียนไม่ต้องการมีชีวิตต่อไปอีกแล้วหรือ?

ทันใดนั้นถังเทียนกระทืบขาซ้ายลงบนพื้นอย่างหนักหน่วง  สีหน้าเขาที่สงบใจเย็นพลันเปลี่ยนเป็นดุร้าย  ขาซ้ายเขาปลดปล่อยพลังและตัวของเขาพุ่งไปข้างหน้าเหมือนลูกธนู

ทุกๆ ย่างก้าวของถังเทียนหนักหน่วงไม่มีใครเทียบ รอยเท้าขุดลึกลงไปในพื้น!

ในสายตาที่ตกตะลึงของทุกคน ถังเทียนเหมือนกระทิงป่าคะนอง เศษดินกระจุยกระจายอยู่ด้านหลังเขาขณะที่เขาพุ่งเข้าหาพายุ

อย่างไรก็ตามถังเทียนที่มองดูน่ากลัวสำหรับทุกคน  ความจริงแล้วสายตาเขากลับดูสงบนิ่งแม้ว่าพลังนี้ในสายตาของหลายๆ คนจะทำให้พวกเขาอึดอัดและหายใจติดขัด   ในสายตาของถังเทียนเจ้าผู้นี้ยังแข็งแกร่งไม่พอ

คนใกล้ตัวเขา ก็คือเจ้าวัวน่ารำคาญอาโมรี่ยังมีพลังผิดธรรมดามากกว่าเยอะ  ขนาดยังไม่ได้เริ่มฝึกกับพี่สือโท่วพลังของเจ้าวัวโง่ก็ผิดมนุษย์ทั่วไปอยู่แล้ว แม้ว่าพวกเขาจะสุ่มเลือกคนจากเหมืองหินบางคนมากวัดแกว่งค้อนยักษ์  ทุกคนก็ยังมีพลังมากกว่าเยอะ

หนุ่มน้อย นายไม่รู้หรอกว่าปู่ของนายต้องผ่านอะไรมาบ้างถึงกลายเป็นฉันได้ในทุกวันนี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด