ตอนที่ 22 พิษธาตุน้ำ
“เอ่อ นี่….”
แม่บ้านชราเป็นบ้าอะไร?
บุคลิกเย็นชาพูดน้อยของนางหายไปไหน?
เจียงมู่รู้สึกอับอายเมื่อถูกจับได้ว่าโกหก
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พบข้อแก้ตัวที่พอจะมีเหตุผล
“เอ่อ เมื่อตอนที่ข้ายังเด็ก ข้าเคยเคยเจอผู้อาวุโสผู้หนึ่ง เขากล่าวว่าข้ามีกระดูกที่น่าทึ่ง และเป็นอัจฉริยะด้านการบ่มเพาะไม่มีใครเหมือน”
“ดังนั้นเขาจึงใส่ยาโอสถที่สามารถล้างพิษได้ในตันเถียนของข้า เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าถูกวางยาพิษจนตาย และทำให้โลกไม่สูญเสียอัจฉริยะอย่างไร้ค่า”
“โอ้ อีกอย่าง เขาสั่งข้าด้วยว่าห้ามบอกความลับนี้กับคนนอก”
“ดังนั้น หรงเอ๋อ เจ้าห้ามบอกคนอื่นนะ”
ยาโอสถล้างพิษในตันเถียน?
ติงหนานหรง คว้าคอเสื้อของเจียงมู่แล้วยกเขาขึ้นจากรถเข็น
“หรงเอ๋อ เจ้าจะทำอะไร!”
เจียงมู่ตกใจกับการกระทำอย่างกะทันหันของนาง
“ตรวจสอบดูว่ายาโอสถล้างพิษที่ท่านพูดถึงลึกลับแค่ไหน”
ติงหนานหรงปลดเข็มขัดของเขาอย่างชำนาญโดยไม่สนใจการต่อต้านของเจียงมู่ ฝ่ามืออันอ่อนนุ่มสอดใส่ลงไปในเสื้อ ว่างไว้บนหน้าท้องปิดสะดือของเขา
เจียงมู่รู้สึกได้ถึงหนาวในท้องของเขา
นอกจากนี้เขายังรู้สึกได้ถึงคลื่นพลังวิญญาณที่อบอุ่นเหมือนน้ำที่ค่อยๆ ไหลจากฝ่ามือของนางเข้าสู่ตันเถียนของเขา
เวรแล้วไง! นางกำลังจะเจอยาระเบิดพิษของเหล่าจื๊อ!
"นี่คือ ….?"
ติงหนานหรง ขมวดคิ้วเล็กน้อย
นางพบว่ามีเม็ดยาสีดำขนาดเท่าหินอ่อนลอยอยู่ภายในตันเถียนของเจียงมู่
แม้ว่ายาเม็ดนี้จะมีขนาดเล็ก แต่ก็ถูกล้อมรอบด้วยปราณสีดำเข้ม
นี่คือเม็ดยาที่โอสถล้างพิษ?
ถ้าเช่นั้น พิษจากปีศาจต้นไม้ที่เสวี่ยเมิ่งหานได้รับและพิษนาคาที่เขาได้รับ ถูกกำจัดออกไปด้วยยาเม็ดนี้ทั้งหมดใช่ไหม?
ไม่รู้ว่ามันจะกำจัด…. พิษในร่างกายของข้าได้หรือไม่?
ติงหนานหรง จ้องมองที่ เจียงมู่อย่างใจเย็นและนิ่งเงียบเป็นเวลานาน โดยไม่รู้ว่าในใจของนางกำลังคิดอะไรอยู่
“หรงเอ๋อ เจ้า…. เป็นอะไรเหรอ?”
ขนบนร่างของเจียงมู่ลุกชันขึ้นจากการจ้องมองของนาง
“ไม่มีอะไร สองวันนี้อย่ารบกวนข้า”
ติงหนานหรง วางเขาลงและหันหลังเดินจากไป
สองวันมานี้ห้ามรบกวนนางเหรอ?
ทำไม.
เจียงมู่เกาหัวด้วยความสับสน
“อ้อ ข้าจำได้แล้ว!”
หลังจากครุ่นคิดอย่างจริงจังอยู่ครู่หนึ่งก็เขาก็จำได้
ทำไมนางถึงบอกว่าสองวันนี้อย่ารวบกวนนาง?
เพราะมันเป็นวันที่พิษธาตุน้ำ(วารี)ในร่างกายของนางจะกำเริบ!
ร่างกายของ ติงหนานหรง เป็นหนึ่งในเบญจมหากายา(ห้าร่างกายอันยิ่งใหญ่):กายาธาตุโดยกำเนิด
ผู้ฝึกตนที่ปลุกกายาธาตุโดยกำเนิดแล้วจะมีพลังธาตุปรากฏขึ้นในร่างกาย
สิ่งที่ถูกเรียกว่าพลังธาตุแท้จริงแล้วคือ วารี(น้ำ) อัคคี(ไฟ) อัสนี(สายฟ้า) เหมันต์(น้ำแข็ง) ปฐพี(ดิน)…. และอื่น ๆ ส่วน ติงหนานหรงปลุกพลังธาตุน้ำขึ้นมาได้
เป็นเพราะพลังธาตุน้ำนี้ทำให้นางแข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกตนคนอื่น ๆ ในขอบเขตเดียวกัน
แต่เป็นเพราะพลังธาตุน้ำนี้เองที่ทำให้พิษถาวรที่ไม่มีทางรักษาเกิดขึ้นในร่างกายของนาง นั่นก็คือพิษธาตุน้ำ
“จิ๊ๆ พิษธาตุน้ำนี้เป็นยาบำรุงกำลังตามธรรมชาติ”
เจียงมู่ถอนหายใจ
พิษธาตุน้ำ ที่จริงแล้วไม่ใช่พิษร้ายแรง
กลับกัน มันเป็นสิ่งที่ดีที่สามารถกระตุ้นร่างกายและปรับปรุงการฝึกตนของพวกเขา
อันตรายเพียงประการเดียวคือหากอาการกำเริบแล้วบรรเทาไม่ทันเวลา อาจทำให้คนผู้นั้นวิกจริตได้
ในกรณีที่เบากว่านั้น ฐานการฝึกตนจะเสียหายและขอบเขตไม่ก้าวหน้า
ในกรณีร้ายแรง สูญเสียฐานการฝึกตนและจะไม่สามารถฝึกจนได้อีก
ทำไมเจียงมู่ถึงรู้เรื่องนี้?
นั่นเป็นเพราะติงหนานหรงเป็นคนบอกเขาเอง
แน่นอนว่า ย่อมเป็นเรื่องในภายหลัง
เจียงมู่มองไปที่ห้องถัดไป
มันคือห้องนอนของติงหนานหรง มันห่างจากห้องของเขาเพียงผนังเดียว
“ตอนนี้นางควรจะอาบน้ำ เตรียมพร้อมรับมือการกำเริบจากพิษธาตุน้ำใช่ไหม?”
“ในเมื่อข้าไม่สามารถรบกวนนางได้”
“งั้นข้าออกไปเล่นคนเดียวก็ได้”
ใช่แล้ว
ในช่วงเวลาที่เหลือของฤดูล่าสัตว์ เจียงมู่วางแผนที่จะแอบออกไปเล่นอย่างลับๆ
ยังไงก็ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงเรื่องหลักอยู่ดี
นอกจากนี้.
ถ้าเขาต้องอยู่บนเรือบินตลอดสองวันและต้องทนฟัง‘คลื่นเสียง’จากห้องข้างๆ เขาคงขาดใจตายแน่ๆ
“แต่สิ่งที่เร่งด่วนที่สุด คือการจัดเรียงโครงเรื่องของวันนี้”
“ดูว่าจะสามารถหาสาเหตุที่โครงเรื่องหลักผิดเพี้ยนได้ไหม?”
…
ประตูถัดไปภายในห้องโบราณ
ในห้องน้ำขนาดใหญ่
ติงหนานหรง ถอดกระโปรงท่อนบน ม้วนผมนุ่มสลวยของนาง ก้าวเข้าไปในอ่างด้วยขายาวที่ขาวราวหิมะ ยกสะโพกและหน้าอกของตัวเองขึ้น ค่อยๆ หย่อนร่างอันสง่างามของนางลง
น้ำอาบเต็มไปด้วยกลีบดอกไม้สีม่วงพวยพุ่งราวกับน้ำตก
ไอระเหยที่หนาแน่นขดตัวขึ้นจากผิวน้ำ เติมห้องน้ำทั้งห้องเหมือนเมฆหมอก ราวกับว่าเป็นบ่อน้ำพุร้อนบนภูเขาลึก ทำให้ผู้คนรู้สึกสงบและสบาย
แต่หัวใจของติงหนานหรงกลับยากที่จะสงบลง
“ยาล้างพิษของเขา ข้าไม่รู้ว่ามันจะสามารถล้าง…. พิษธาตุน้ำในร่างของข้าได้ไหม?”
ติงหนานหรง ขมวดคิ้วพร้อมถอนหายใข
“วันนี้เป็นวันที่พิษธาตุน้ำจะออกฤทธิ์”
นางค่อยๆ เอนหลังเอาหัวพิงหมอนข้างอ่างอาบน้ำ
จากนั้นนางก็ยกขาข้างหนึ่งห้อยออกจากอ่าง
จากนั้นนางก็ยกขาอีกข้างแล้วพาดไว้ที่อ่าง
นางวางมือไว้ที่ท้องและกำลังจ้องมองเพดานอย่างว่างเปล่า
น้ำอาบที่มีกลิ่นหอมไหลลงจากปลายเท้าหยดลงบนพื้นทีละหยดตามเวลาที่ผ่านพ้นไป
ดูเหมือนว่านางกำลังรอบางสิ่งที่จะมาถึง
ไม่รู้ว่านานแค่ไหร
ผิวสีขาวราวกับหยกน้ำนมของติงหนานหรงก็กระจ่างใสยิ่งขึ้น
“จะเริ่มแล้วเหรอ? ….”
ทั่วร่างของนางมีชั้นเมือกใสๆ หล่อลื่นเริ่มไหลซึมออกมา
“อืม~”
เสียงครวญครางอู้ที่ไม่สามารถควบคุมได้ดังก้องไปทั่วห้องน้ำ
นางกัดริมฝีปากของนางด้วยฟันขาวนวล นิ้วเท้าราวผลึกแก้วงอเข้าหากัน มือของนางจับข้อมือตัวเองไว้แน่น ต่อต้านความรู้สึกไม่สบายแปลกๆในร่างของนาง
…
เช้าวันรุ่งขึ้น.
แสงแดดยามเช้าอันอบอุ่นส่องผ่านหน้าต่างของเรือบินลงบนใบหน้าที่กำลังหลับใหลเจียงมู่
ทันใดนั้นก็มีเสียงแหลมสูงยาว “อื้อออ…!” ดังออกมามาจากห้องข้างๆ
“แม่บ้านชรานางนี้ ส่งเสียงดังจริงๆ”
เจียงมู่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับขยี้ตาอย่างเงียบๆ
เขาถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงตะโกนของ ติงหนานหรง
“หนึ่งวันหนึ่งคืน ช่างดุเดือดจริงๆ”
“นางทำงานหนักมาก ข้าในฐานะประมุขควรไปช่วยนางสักหน่อย”
แม้ว่าเขาจะพูดอย่างนั้น แต่เจียงมู่ก็ไม่ได้ไป เขาแค่ลุกขึ้นเข้าไปล้างตัวในห้องน้ำ
มีอยู่หนหนึ่ง
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาได้บุกเข้าไปในห้องของ ติงหนานหรง
เขายังวิ่งเข้าไปในห้องน้ำและมองดูร่างเปลือยของติงหนานหรง
ฉากนั้นช่างเย้าชวนและเขาก็เป็นลูกผู้ชาย
ส่วนผลที่ได้คือ เลือด
เขาถูกนางตัดหัวตายคาที่
ในการเกิดใหม่สองสามรอบต่อมา ทุกครั้งที่เขาบุกเข้าไปในห้องของนาง เขาจะถูกตัดหัวหรือถูกยิงที่หัวดังนั้น เจียงมู่จึงไม่กล้าที่จะเข้าไปอีก
หลังจากอาบน้ำเสร็จ เขาก็กลับมาที่โต๊ะและกินอาหารเช้าอย่างสบายๆ
หลังจากคิดทั้งคืน เขาก็คิดจนหัวสมองแทบจะระเบิด
ในท้ายที่สุด เขาก็ยังไม่เข้าใจได้ว่าทำไม เสวี่ยเมิ่งหานและหลิงอ่าวเทียนถึงบิดเบี้ยว
และก็ไม่ได้รับคำตอบจากระบบเช่นกัน
“ลืมมันไปเถอะ ตอนนี้ศรถูกยิงออกไปแล้ว มันไม่มีประโยชน์ที่จะคิดอีก”
“สิ่งเดียวที่ข้าทำได้ในตอนนี้คือทำให้แน่ใจว่าผลลัพธ์ของโครงเรื่องจะไม่เบี่ยงเบนอีกต่อไป”
จากประสบการณ์การเกิดใหม่หลายสิบครั้งก่อน
เจียงมู่รู้ดีมาก
แม้ว่าการดำเนินเรื่องจะแตกต่างกันเล็กน้อย ตราบใดที่ผลลัพธ์ยังเหมือนเดิม ก็ไม่มีปัญหา
หลิงอ่าวเทียน ยืนหยัดเพื่อ เสวี่ยเมิ่งหานและสอนบทเรียนให้เขา ทำให้เขาไม่สามารถมีส่วนร่วมในฤดูล่าสัตว์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และไม่สามารถรบกวนเสวี่ยเมิ่งหานได้อีกต่อไป
สำหรับการจูบเสวี่ยเมิ่งหาน
มันไม่ใช่เรื่องใหญ่
เพราะนี่เป็นฮาเร็มที่ใสสะอาดเหมือนน้ำ
ไม่เพียแค่จูบแรกของเสวี่ยเมิ่งหานเท่านั้น แต่จนถึงตอนจบ นางเอกทุกคนก็ยังสมบูรณ์ไม่สึกกร่อน
และในฐานะนางเอกเสวี่ยเมิ่งหาน เมื่อเห็นว่าเขาช่วยขาของนางไว้ ตราบใดที่นางยังเป็นพระมารดาศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่เป็นไร (พระมารดาศักดิ์สิทธิ์= ยังบริสุทธิ์)
“เอาล่ะ แผนของเมื่อวานถือว่าสมบูรณ์แล้ว ก็แค่นั้นแหละ”
“วันนี้ข้าไม่มีธุระ ออกไปพักผ่อนได้”
“ยังไงก็ตาม ข้าควรมีแผนของหนึ่งวันในตอนเช้า”
(แผนของหนึ่งวันในตอนเช้า เป็นการบอกผู้คนให้รักษาเวลา ตอนเช้าควรเป็นเวลาที่มีพลังมากที่สุดสำหรับเรา เพราะหลังจากคืนแห่งการพักผ่อนและปรับตัว สภาวะร่างกายและจิตใจควรจะดีที่สุด)
“ข้าต้องเขียนบันทึกประจำวันก่อน มาดูกันว่าวันนี้ข้าได้รางวัลอะไร!”
เจียงมู่เรียกบันทึกของเขา
เต็มไปด้วยความคาดหวัง
เริ่มเขียนบันทึกประจำวันของวันนี้