ตอนที่แล้วตอนที่ 2-14 พี่น้องในหอพัก 1987 (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2-16 เวทธาตุลม

ตอนที่ 2-15 พี่น้องในหอพัก 1987 (2)


นักเรียนส่วนใหญ่ของสถาบันเอินส์จะพักอยู่ในสถาบันเป็นเวลาหลายสิบปี  ดังนั้นตามปกติพอจบออกไปเพื่อนร่วมหอพักจะสนิทกันมาก  แม้ว่าเยลเรย์โนลด์ ลินลี่ย์และจอร์จทุกคนจะดูเป็นผู้ใหญ่เกินกว่าเด็กในวัยเดียวกัน  แต่จิตใจของพวกเขายังคงเป็นเด็กอยู่ดี

หลังจากสนทนากันเป็นเวลาสั้นๆ แล้ว พวกเขาทั้งสี่คนก็เพิ่มความสนิทกันมากขึ้น

“ทุกคน! เรามาใช้เวลาทำความรู้จักพื้นที่สถานศึกษาของเราให้ดีขึ้นกันเถอะ  คืนนี้ ข้าจะเลี้ยงมื้อค่ำทุกคน ฮ่าฮ่า”เยลตบอกพูดอย่างกระตือรือร้น

“หมอนี่มีบัตรเวทแก้วถ้าเราไม่ฉวยประโยชน์จากเขา แล้วเราจะไปฉวยประโยชน์จากใครได้เล่า?” เรย์โนลด์หัวเราะ

จอร์จและลินลี่ย์ยังคงเป็นเด็กทั้งคู่ และแล้วพวกเขาก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ทันที

“จี๊ด, จี๊ด!” ทันใดนั้นเอง หนูเงาน้อยบีบี โผล่หัวออกมาจากเสื้อของลินลี่ย์  มันเพิ่งตื่นขึ้น หนูเงาน้อยรู้สึกเหงาดังนั้นมันจึงโผล่ศีรษะออกมา

“โห, อะไรนั้น?”เรย์โนลด์สะดุ้งโหยงจนตัวลอย

“บีบี, ตื่นแล้วหรือ?”  ลินลี่ย์หัวเราะขณะที่เขาลูบหัวน้อยๆของบีบี  บีบีหลับตาอย่างพอใจและจากนั้นก็ลืมตาจ้องมองเรย์โนลด์,เยลและจอร์จ  จมูกน้อยๆของมันแค่นคำรามสามครั้ง ราวกับว่ามันดูถูกพวกเขา

“อสูรเวท, มันคืออสูรเวท!ข้าเคยดูมาจากในหนังสือ” เยลตะโกนทันที

“ลินลี่ย์, เจ้ามีเพื่อนเป็นอสูรเวทด้วยหรือ?”  เรย์โนลด์กับจอร์จยังคงตกใจ

พวกเขายังเด็กทุกคน หนึ่งในพวกเขาจะทำให้อสูรเวทยอมรับพวกเขาได้อย่างไร?

“บีบียังเป็นลูกอสูรเวท ข้าแค่ให้อาหารมัน ก็เลยทำให้มันชอบข้า ดังนั้นข้าก็เลยทำสัญญาผูกพันวิญญาณกับมัน”  ลินลี่ย์หัวเราะ

“สวรรค์โปรด, นั่นเป็นอสูรเวทตัวหนึ่งเชียวนะ! ลินลี่ย์ เจ้าน่ะน่ากลัวจริงๆ ข้าเคยฝันว่าจะมีอสูรเวทสักตัวตั้งแต่ข้ายังเด็ก”  เยลจ้องดูบีบี ตาของเขาเป็นประกาย “แม้ว่าข้าจะมีม้วนทำสัญญาผูกวิญญาณแต่ข้าไม่มีความสามารถบังคับให้อสูรเวทยอมรับข้าได้”

เยลพูดด้วยน้ำเสียงหดหู่

“เจ้าไม่อาจกำราบอสูรเวทได้หรือ? แม้แต่ลูกอสูรเวทก็ไม่ได้หรือ?” ลินลี่ย์หัวเราะ

เยลส่ายหน้า “ข้ายังไม่ได้เป็นจอมเวทแม้แต่ระดับหนึ่งด้วยซ้ำ  ดูจากพลังข้าแล้วบางทีข้าคงฝึกได้แค่อสูรเวทระดับหนึ่งหรือระดับสอง  แต่ข้าจะเอาอสูรอ่อนแออย่างนั้นไปทำอะไร?และลูกอ่อนอสูรเวทระดับเจ็ดหรือระดับแปดมันหาพบได้ยาก  ยิ่งกว่านั้นลูกอสูรเวทเหล่านั้นยังมีพลังมากกว่าข้า ต่อให้เป็นลูกอ่อนของมันก็ตาม”

ลินลี่ย์ลอบเห็นพ้องด้วยกับเขา

หนูเงาน้อยบีบีในปัจจุบันนี้แข็งแกร่งในระดับอสูรเวทระดับห้า  มันแข็งแกร่งกว่าลินลี่ย์มากนัก  แต่ได้อยู่ร่วมกับบีบีมาครึ่งปี  เขาบอกได้ว่าบีบีไม่โตขึ้นเลยแม้แต่น้อย  นี่คือสิ่งที่ทำให้ทั้งลินลี่ย์และเดลินโคเวิร์ทสับสน

“ลินลี่ย์! เจ้าหนูเงาตัวนี้ชื่อบีบีใช่ไหม? ให้ข้าอุ้มมันหน่อยได้ไหม?”

“บีบี ว่าไง?”

ทันใดนั้นลินลี่ย์ถามบีบีผ่านการเชื่อมโยงทางวิญญาณ

“ไม่, ไม่มีทาง”  บีบีสามารถสื่อสารความตั้งใจง่ายๆกับลินลี่ย์ผ่านการเชื่อมโยงทางวิญญาณ ขณะเดียวกัน บีบีแยกเขี้ยวใส่เรย์โนลด์ “จี๊ด จี๊ด!”มันร้องจี๊ดเสียงลั่นด้วยความหงุดหงิด

เรย์โนลด์อดจุ๊ปากไม่ได้ด้วยความผิดหวัง

“เรย์โนลด์ ข้าจะบอกความลับให้เจ้าอย่างหนึ่ง บีบีชอบกินเนื้อย่างมาก  ถ้าในอนาคตเจ้าเลี้ยงเป็ดย่างหรือไก่ย่างมัน ข้าเชื่อว่ามันจะไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อเจ้า” ลินลี่ย์หัวเราะเมื่อเห็นตาของเรย์โนลด์เป็นประกาย

“ได้เลย”

ทันใดนั้นเรย์โนลด์ขมวดคิ้วพลางหันหน้าไปหาเยล “เยล, ถ้าในอนาคต ข้าเงินหมดเจ้าให้ข้ายืมเงินบ้างได้ไหม เมื่อปู่ลุมมา ข้าค่อยใช้คืนเจ้า”

“ไม่มีปัญหา” เยลพูดอย่างใจกว้าง

“พนันได้เลยว่าทุกคนยังไม่มีโอกาสเที่ยวชมสถานศึกษาเลยใช่ไหม? ไปเถอะ,  ไปเดินเล่นกัน เพื่อสัมพันธ์ดุจครอบครัวของพวกเราดีไหม?” จอร์จยิ้มพลางพูดพลาง

สี่พี่น้อง จอร์จดูเป็นมิตรและหนักแน่นที่สุด เรย์โนลด์เป็นเด็กที่สุด เยลเป็นเด็กหนุ่มเจ้าสำราญ  สำหรับลินลี่ย์ ในสายตาเด็กๆ อีกสามคนเขาลึกลับที่สุด

จอมเวทสองสายธาตุ สัมพันธ์ธาตุอยู่ในระดับยอดเยี่ยมและยังมีอสูรเวทคู่ใจอีกด้วย

เขาลึกลับจริงๆ

สถาบันเอินส์เต็มไปด้วยอาคารนับไม่ถ้วนมีอายุเป็นพันๆ ปี  ที่ด้านหน้าพวกเขา มีกระทั่งป้ายแนะนำ

ในกลุ่มพวกเขา คนที่เด็กที่สุดอายุแปดขวบ ที่อายุมากที่สุดคือสิบขวบ เด็กๆจ้องมองชื่อที่มีชื่อเสียงทีละชื่อด้วยความเทิดทูน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งประวัติของนักสู้ระดับเซียนซึ่งเป็นเหตุให้หัวใจพวกเขาเต้นรัว พวกเขาทุกคนฝันว่าสักวันหนึ่งจะเป็นนักสู้ระดับเซียนให้ได้

แต่เสียงหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ หูลินลี่ย์ยังคงหัวเราะเรื่อยๆ“ไม่มีอะไรมากไปกว่าเด็กรุ่นหลังที่มีแววเท่านั้น เจ้าผู้นี้แค่กำลังอวดฝีมือฆ่าหมีดำลายม่วงใช่ไหม?นักสู้ระดับเซียนที่ฆ่าอสูรเวทระดับเก้า ไม่ใช่อสูรเวทระดับเซียนก็เป็นได้แค่ระดับเซียนอ่อนหัดเท่านั้น”

ผู้จบสถาบันเอินส์หลายคนที่มีชื่อเสียงถูกเดลิน โคเวิร์ทวิจารณ์ยับ

….

สี่พี่น้องแห่งหอพัก 1987 พร้อมกับหนูเงาบีบี เดินสำรวจไปทั่วสถานศึกษา  ช่วยเพิ่มความคุ้นเคยมากกว่าระดับพื้นฐานยามค่ำคืน ทั้งสี่คนไปที่โรงแรมที่ประดับตกแต่งหรูซึ่งอยู่ใกล้ๆ หอพักและเลี้ยงฉลองให้กับพวกเขาเอง  แต่แน่นอนทุกคนดื่มแต่น้ำผลไม้เท่านั้น

วันรุ่งขึ้น 9 กุมภาพันธ์ โรงเรียนเปิดเทอม!

วันนี้ไม่มีชั่วโมงเรียน การเรียนทั้งหมดจะเริ่มในวันที่ 10 กุมภาพันธ์  วันที่ 9กุมภาพันธ์ก็มีเพียงเข้าไปฟังคำแนะนำของโรงเรียน เพื่อให้พากเพียรอย่างหนัก  กลุ่มเด็กอายุ 6-12 ปีเต็มห้องประชุม  พวกเขาไม่รู้จริงๆว่าใครกำลังพูดกับพวกเขา  เด็กๆหลายคนเริ่มฝันกลางวัน เมื่อพิธีปฐมนิเทศเสร็จ ทุกคนแยกย้ายกันไปอย่างมีความสุข

หลังจากอาหารเย็น สี่พี่น้องชาวหอพัก 1987 ทุกคนนั่งอยู่บนเก้าอี้ภายในหอพักและปรึกษากันเรื่องชั้นเรียน

“ที่นี่ง่ายๆ มาก แค่เรียนวันละวิชา โอว..ลินลี่ย์เป็นพวกสองสายธาตุ  ดังนั้นก็ต้องสองวิชา”  เยลถอนหายใจ “แต่สถาบันเอินส์สบายจริงๆ  ถ้าเจ้าต้องการเข้าเรียน เจ้าก็ทำได้  ถ้าเจ้าไม่ต้องการ ก็ไม่ต้องเข้าเรียน”

จอร์จยิ้มใจเย็น “เยล! อย่าเพิ่งวางใจ แม้ว่าจะไม่มีข้อบังคับเป็นทางการสำหรับนักเรียน  แต่ทุกๆ ปี จะมีการทดสอบความสามารถ  ถ้าเพียงแต่เจ้ามีระดับพลังเพิ่มขึ้น เจ้าก็ได้รับผลการเรียนเพิ่มขึ้น  ถ้าเจ้าไม่ฝึกฝนให้หนักเจ้าตั้งใจจะอยู่ที่นี่ไปร้อยปีใช่ไหม? ยิ่งกว่านั้นสถาบันเอินส์ยังมีกฎว่าถ้านักเรียนไม่กลายเป็นจอมเวทระดับหกภายในหกสิบปี เขาจะถูกไล่ออกโดยไม่มีการยกเว้น”

พออ่านกฎข้อบังคับมากมายของสถาบันที่ระบุไว้ในเอกสารแนะนำ  ลินลี่ย์พยักหน้าเงียบๆ

แม้ว่าทางโรงเรียนจะไม่เข้มงวดกวดขันในการดูแลและอนุญาตให้นักเรียนไม่ต้องเข้าเรียนได้ถึงหกสิบปี  ทันทีที่ถึงกำหนดหกสิบปี  ถ้าท่านยังไม่กลายเป็นจอมเวทระดับหกก็ต้องถูกไล่ออก

“ไล่ออกเหรอ?”  เยลสะดุ้ง“ถ้าข้าต้องถูกไล่ออกจริงๆ ผู้เฒ่าที่บ้านคงฆ่าข้าแน่ๆ” การถูกขับไล่ออกจากสถาบันเอินส์จะมีผลตอบรับทำให้ถูกดูถูกดูแคลนจนเกินจะรับได้ไม่มีผู้ใดยินดีจะแบกรับเอาไว้ ที่สำคัญที่สุด การได้รับการยอมรับให้เข้าศึกษาก็หมายความว่าพวกเขามีพรสวรรค์กันทุกคน

“การเรียนจะเริ่มขึ้นพรุ่งนี้ ข้าสงสัยว่าพวกครูจะเป็นยังไง ถ้าพวกเขาไม่เก่งพอๆ กับปู่ลุมของข้า ข้าคงมาโดยไม่ได้อะไร” เรย์โนลด์พึมพำ

“เรย์โนลด์ ปู่ลุมของเจ้าเป็นจอมเวทเหรอ?” ลินลี่ย์ถามระคนตื่นเต้น

“แน่นอน ในเส้นทางที่ยาวไกลจากจักรวรรดิโอเบรียนถึงสถาบันเอินส์ปู่ลุมก็ได้เริ่มสอนเวทให้ข้าแล้ว” เรย์โนลด์พูดด้วยความภูมิใจ

เมื่อลินลี่ย์และสหายทั้งสามสนทนากัน พวกเขาทุกคนยิ่งรู้สึกตื่นเต้น

“ชั้นเรียนเวทเดินไม่สำคัญขนาดนั้น  เกี่ยวกับการทำความเข้าใจธาตุดินบรรดาครูในสถาบันเอินส์จะเทียบกับปู่เดลินได้ยังไง?  ชั้นเรียนที่สำคัญที่สุดก็คือชั้นเรียนเวทธาตุลม  สงสัยจริงว่าเวทธาตุลมจะเหมือนอะไร?”

วันนี้เริ่มมืดแล้ว แต่เสียงหัวเราะและสนทนาของเด็กทั้งสี่ยังคงดังอยู่ภายในหอพัก 1987อย่างต่อเนื่อง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด