ตอนที่ 2-13 แหล่งชุมนุมอัจฉริยะ สถาบันเอินส์ สถาบันจอมเวทที่ดีที่สุดในแผ่นดินทวีปยูลาน
สถาบันเอินส์ตั้งอยู่ในพื้นที่ชนบทห่างจากนครเฟนไลเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ไปทางตอนใต้ยี่สิบกิโลเมตร สถาบันเอินส์ก่อตั้งและได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากวิหารเจิดจรัสปกติจะเป็นวิหารที่มั่งคั่งและรู้จักวิธีหว่านเงิน พวกเขาหาพื้นที่กว้างใหญ่มีแนวผาสูงโอบล้อมราวสิบกิโลเมตร เป็นสถาบันที่ใหญ่เกือบพอๆ กับเมือง
ด้านนอกสถาบันเอินส์ ปรากฏเห็นแต่เทือกเขาที่ว่างเปล่ามีมนุษย์ไม่กี่คน
ร้านอาหาร, ร้านเสื้อผ้า, บาร์และห้างร้านบริการอื่นๆทั้งหมดตั้งอยู่ในสถาบัน อาจกล่าวได้ว่านักเรียนของสถาบันเอินส์ใช้ชีวิตทั้งชีวิตอยู่ในสถาบันการศึกษา
“ช่างน่าประทับใจเสียจริง” ลินลี่ย์ยืนอยู่ที่ประตูทางเข้าสถาบันเอินส์เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความปลาบปลื้ม
ประตูใหญ่ของสถาบันเอินส์กว้างถึงห้าสิบเมตร เหนือประตูใหญ่เป็นสิ่งก่อสร้างรูปพระจันทร์เสี้ยวขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยอักขระเวทต่างๆซึ่งอาจพูดได้ว่าซับซ้อนน่าทึ่ง จากการได้เห็นอักขระเหล่านี้แล้ว ไม่ว่าใครๆสามารถจินตนาการถึงพลังอำนาจของวงเวทที่ปกป้องสถาบันเอินส์จะทรงพลังขนาดไหน
ยามนี้ ประตูใหญ่สถาบันเอินส์ครึกครื้นมีชีวิตชีวา มีแถวของเจ้าหน้าที่สถาบันและเด็กแต่ละคนนำจดหมายรับตัวมาเป็นหลักฐานยืนยันสถานะและเริ่มรับนักเรียนทันที ลินลี่ย์หยิบเอกสารของตนเองออกมาและตรงไปเข้าแถวด้วย
“โรงเรียนเปิดอย่างเป็นทางการ 9 กุมภาพันธ์ วันนี้เป็นวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ตามที่ได้แจ้งไว้ นักเรียนต้องมาถึงก่อนวันที่9 กุมภาพันธ์ และเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขาก็เพิ่งมาถึงวันนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาคงอาศัยอยู่ใกล้ๆสถาบันแน่นอน” ลินลี่ย์คิดเอาเอง
เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าลินลี่ย์ สามารถเห็นได้ชัดว่ายังเป็นเด็กอยู่ เขาเตี้ยกว่าลินลี่ย์ครึ่งศีรษะ และมีบุรุษสูงอายุคนหนึ่งอยู่ใกล้ๆ เขา
“หวัดดี! ข้ามาจากจักรวรรดิโอเบรียน ชื่อว่าเรย์โนลด์” นักเรียนที่กำลังเข้าแถวสมัครข้างหน้าลินลี่ย์หันหน้ามาทักทายลินลี่ย์อย่างเป็นกันเอง
พอได้ยินว่าเขามาจากจักรวรรดิโอเบรียล ลินลี่ย์ถึงกับสะดุ้ง “จักรวรรดิโอเบรียนหรือ?”
จักรวรรดิโอเบรียนเป็นหนึ่งในสี่จักรวรรดิใหญ่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเทือกเขาสัตว์วิเศษ ขณะที่สถาบันเอินส์ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกการเดินทางมายังสถาบันเอินส์ ต้องเดินทางอ้อมเทือกเขาสัตว์วิเศษจากเหนือหรือทางใต้ ที่สำคัญที่สุดนอกจากนักสู้ระดับเก้าหรือระดับเซียน ไม่มีผู้ใดกล้าข้ามเทือกเขาโดยตรง
เทือกเขาสัตว์วิเศษทอดแนวยาวเกินกว่าหมื่นกิโลเมตร
สำหรับผู้ที่มาจากจักรวรรดิโอเบรียนตลอดการเดินทางเป็นระยะทางอย่างน้อยสองหมื่นกิโลเมตร ถ้าพวกเขามาจากทางด้านตะวันออกของจักรวรรดิ ก็จะเพิ่มระยะขึ้นอีก
บางทีต้องใช้เวลาเป็นปีหรือประมาณนี้ต่อการเดินทางสองหมื่นกิโลเมตร
“ข้าชื่อลินลี่ย์ มาจากอาณาจักรเฟนไล” ลินลี่ย์พูดกับเด็กชื่อเรย์โนลด์อย่างสุภาพ
เรย์โนลด์ทำตาปริบๆ และถอนหายใจเฮือก “อาณาจักรเฟนไล? งั้นเจ้าก็มาได้สบายเลยสิ ข้าใช้เวลาหนึ่งปีเต็มเดินทางจากบ้านข้ามาอาณาจักรเฟนไล แต่เจ้าไม่ต้องใช้เวลามากนัก”
“ถูกแล้ว จากบ้านข้ามาที่นี่ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งวัน” ลินลี่ย์ตอบตามตรง
“โห...” เรย์โนลด์ทำหน้าตลก
ระหว่างพวกเขา คนหนึ่งใช้เวลาเดินทางเป็นปี แต่อีกคนกลับใช้เวลาครึ่งวัน
“เด็กๆ นักเรียน, เร็วเข้า” หนึ่งในเจ้าหน้าที่ทดสอบที่อยู่ใกล้กระตุ้นเตือน
หนึ่งในขั้นตอนรับสมัครนักเรียนใหม่ก็คือ การทดสอบซ้ำอีกรอบ ที่สำคัญที่สุดสถาบันเอินส์เกรงว่าใครบางคนอาจขโมยจดหมายรับตัวและเอามาสมัครแบบผิดๆ
“เข้ามา” เรย์โนลด์เข้ารับการทดสอบ
พอเห็นผลทดสอบ ลินลี่ย์รู้สึกตกใจอย่างช่วยไม่ได้
เด็กชื่อเรย์โนลด์นี้ มีความสัมพันธ์กับธาตุในระดับสูง พอๆ กับความบริสุทธิ์ของพลังจิต..
“เรย์โนลด์, อายุแปดขวบ ความบริสุทธิ์ของพลังจิต สูงกว่าเด็กในวัยเดียวกันสามสิบสองเท่า อยู่ในระดับยอดเยี่ยม”
พอได้ยินตัวเลขเหล่านี้ นัยน์ตาของลินลี่ย์แทบปะทุ แต่เจ้าหน้าที่ทดสอบดูเหมือนว่ายังใจเย็นอยู่มาก และไม่ได้แสดงอาการประหลาดใจแม้แต่น้อย
“ลินลี่ย์, อะไรกัน? แค่นี้ต้องตื่นเต้นด้วยเหรอ?” เรย์โนลด์พูดอย่างเฉยเมย“นี่คือสถาบันเอินส์ แต่ละปีพวกเขาจะรับนักเรียนจากทั่วทวีปยูลานเพียงร้อยคน ในคนพวกนั้นมีคนไหนที่ไม่ใช่อัจฉริยะที่น่าทึ่ง? ผลทดสอบของข้าถือว่าแค่ทั่วไปเท่านั้นเมื่อเทียบกับมาตรฐาน”
“แต่สถาบันเอินส์ก็เอนเอียงไปทางสหภาพศักดิ์สิทธิ์ พวกเขายอมรับนักเรียนห้าสิบคนจากสหภาพศักดิ์สิทธิ์,และอีกห้าสิบคนจากสี่จักรวรรดิใหญ่อื่น ถือว่าไม่ยุติธรรมอย่างมาก”เรย์โนลด์ถอนหายใจ
ลินลี่ย์หัวเราะเมื่อได้ยินเช่นนี้
สถาบันเอินส์ก่อตั้งโดยวิหารเจิดจรัส แน่นอนว่าย่อมมีความเอนเอียงไปทางสหภาพศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว
“ตาข้าแล้ว” ลินลี่ย์วิ่งตรงไปหาผู้ทดสอบเช่นกัน
เรย์โนลด์ย่นจมูกน้อยๆ ของเขา “สหายชื่อลินลี่ย์นี้มาจากสหภาพศักดิ์สิทธิ์เขาย่อมได้รับการยอมรับได้ง่ายกว่าข้าอย่างมิต้องสงสัย พนันได้เลยว่าเขาไม่มีพรสวรรค์เท่ากับข้า” เรย์โนลด์มั่นใจมาก
แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ทดสอบรายงานผลของลินลี่ย์ เรย์โนลด์ถึงกับตกตะลึง
“ความบริสุทธิ์ของจิตอยู่ในระดับสูง ความสัมพันธ์กับธาตุอยู่ในระดับยอดเยี่ยม? และเป็นพวกสองสายธาตุ คือธาตุดินกับธาตุลม?” เรย์โนลด์ถึงกับพูดไม่ออก
ความสัมพันธ์กับธาตุอยู่ในระดับยอดเยี่ยมก็หาได้ยากมากอยู่แล้ว แต่ลินลี่ย์มิใช่เป็นแต่เพียงพวกสองสายธาตุเท่านั้น แต่ยังมีความสัมพันธ์สายธาตุทั้งสองคือธาตุลมและธาตุดินในระดับยอดเยี่ยม นี่คืออัจฉริยะตัวจริงยังน่ากลัวมากกว่าตัวเขาเสียอีก ที่สำคัญนักเวทสองสายธาตุนั้นทรงพลังมาก
“เรย์โนลด์,อย่าเอาแต่ยืนซึมเซาอยู่ตรงนั้นเลย ไปกันเถอะ” ลินลี่ย์หัวเราะ
“โอว” เรย์โนลด์อายุน้อยกว่าลินลี่ย์หนึ่งปี แต่ถ้าดูจากลักษณะ ดูเหมือนจะอ่อนกว่าสามปี
ลินลี่ย์กับเรย์โนลด์รับบัตรประจำตัวนักเรียนสถาบันเอินส์ของพวกเขา จากนั้นรับกุญแจที่พักของพวกเขา ที่สถาบันเอินส์ นักเรียนทุกคน ไม่ว่าร่ำรวยและมีพื้นเพเช่นไรก็ต้องพักอาศัยอยู่ด้วยกัน ค่าเล่าเรียนและค่าที่พักจะได้รับการยกเว้นทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม...
“เฮ้, เจ้าต้องจ่ายค่าเล่าเรียนด้วยหรือ?” เมื่อลินลี่ย์เห็นชายชราที่ติดตามเรย์โนลด์เอาเงินค่าเล่าเรียนออกมา เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจ
ฮิลแมนที่อยู่ข้างๆ ลินลี่ย์หัวเราะ “ลินลี่ย์! สิทธิ์ยกเว้นค่าเล่าเรียนและค่าที่พักในสถาบันเอินส์นั้นได้รับเฉพาะสมาชิกของสหภาพศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ส่วนคนอื่นๆ จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมที่สูงมาก”
เรย์โนลด์พยักหน้าเช่นกัน
ชายชราที่อยู่ข้างๆ เขายิ้มให้ลินลี่ย์ “ถูกแล้ว นี่ไม่ใช่แค่เป็นกฎของสถาบันเอินส์ สถาบันนักรบอันดับหนึ่งในทวีปยูลานก็คือสถาบันโอเบรียนก็เหมือนกัน พวกเขายกเว้นค่าธรรมทั้งหมดให้กับนักเรียนในจักรวรรดิของตนเอง แต่เก็บค่าธรรมเนียมที่แพงจากนักเรียนที่มาจากที่อื่น”
ลินลี่ย์ไม่โง่ เขาเข้าใจได้ทันที
“ลินลี่ย์! คุณหนูข้าได้กุญแจที่พักเดียวกับเจ้า ทั้งสองคนคงจะพักอยู่ในที่เดียวกัน ข้าหวังว่าในอนาคต ทั้งสองคนจะช่วยเกื้อกูลกันและกัน” ชายชราพูด
เรย์โนลด์พูดอย่างไม่สบายใจ “ไม่เป็นไรหรอก, ปู่ลุม ท่านกลับไปได้แล้ว ข้ามาถึงสถาบันเอินส์แล้ว”
“ลุงฮิลแมน, ลุงก็กลับได้แล้วนะ ข้าดูแลตัวเองได้” ลินลี่ย์ยิ้มขณะที่พูดกับฮิลแมน และฮิลแมนพยักหน้ารับด้วยความพอใจ “ลินลี่ย์!อย่างนั้นข้าจะกลับเดี๋ยวนี้ล่ะนะ พยายามเข้าไว้” ฮิลแมนให้กำลังใจ
ลินลี่ย์ยิ้มและพยักหน้า
“ลินลี่ย์, ไปกันเถอะ” เรย์โนลด์คว้ามือลินลี่ย์และวิ่งเข้าไปในสถาบัน
“ลาก่อน, ลุงฮิลแมน”
ฮิลแมนและชายชราทั้งคู่ต่างมองเด็กๆ เข้าไปในสถาบันหลังจากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายกันเดินทาง
หลังจากพูดอำลาลุงฮิลแมนของเขาแล้ว ลินลี่ย์และเรย์โนลด์เข้าไปในสถาบันเอินส์พร้อมกัน สถาบันเอินส์เต็มไปด้วยความร่มรื่น, ทะเลสาบ,สะพานหิน อาคารโบราณ กลิ่นอายเก่าแก่ปกคลุมไปทั่วสถานที่ แค่ดูจากขนาดต้นไม้ขนาดยักษ์เจ็ดคนโอบแค่นี้ก็พอจะจินตนาการได้ว่าที่นี่เก่าแก่ขนาดไหน
“เป็นอะไรที่ไม่ฉูดฉาดเหมือนกับสถาบันใหม่ๆ เลยนะ นี่คือสิ่งที่เรียกว่าฉาบฉวย แววตาอยากรู้ของเรย์โนลด์กวาดตาไปทั่วบริเวณขณะพูด
ภายในสถาบันเอินส์ แต่ละที่จะมีป้ายบอกทางนักเรียนเป็นที่ชัดเจนว่าสิ่งนี้มีไว้ช่วยนักเรียนใหม่
“ลินลี่ย์! ไปหาหอพักของเรากันเถอะ” เรย์โนลด์ฉุดมือลินลี่ย์ รีบเข้าไปบริเวณหอพัก
หอพักหมายเลข 1987
ลินลี่ย์และเรย์โนลด์สมัครเข้าเรียนเสร็จในเวลาไล่เลี่ยกัน หอพักจะมีนักเรียนพักสี่คนเป็นอย่างมาก เมื่อลินลี่ย์และเรย์โนลด์มาถึงพื้นที่หอพัก พวกเขาอดถอนหายใจอย่างตื่นเต้นมิได้ ในชั่วแว่บแรกที่เห็น มีหอพักปรากฏโดดเดี่ยวเป็นพันทั่วบริเวณ
ในหอพักเป็นพันๆ นี้ จะเป็นหอพักแบบห้องชุดมีสองชั้น
“1987, 1987..” ลินลี่ย์และเรย์โนลด์ไล่ดูหมายเลขหอพัก วิ่งไปทางทิศใต้ไม่หยุด
พื้นที่หอพักวางตัวเลขไว้อย่างสมเหตุสมผล เริ่มจากเลข 0001 ในแต่ละแถวจะมีอาคารหอพัก 100 หลัง เมื่อลินลี่ย์มาถึงแถวที่ 20 เขาเห็นหอ 1901และจากนั้น ขณะที่พวกเขาวิ่งไปทางทิศตะวันออก เรย์โนลด์ก็เริ่มหอบหายใจ กระทั่งในที่สุด พวกเขาก็ตามถึงหอพักหมายเลข1987.