ตอนที่แล้วตอนที่ 20 ตัวละครเสวี่ยเมิ่งหานต้องบิดเบี้ยวไปแล้วแน่ๆ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 22 พิษธาตุน้ำ

ตอนที่ 21 เขาจูบข้า… เขากล้าดียังไง


“ปล่อยเมิ่งหานของข้า!!!”

อารมณ์ของหลิงอ่าวเทียนระเบิดออกมาอย่างสมบูรณ์

เจียงมู่กล้าจูบริมฝีปากเล็กๆของเสวี่ยเมิ่งหานต่อหน้าเขา!

"ข้าจะฆ่าเจ้า!!!"

เขากระโจนเข้าใส่เจียงมู่ราวกับสิงโตคลั่ง

หึๆ

หากเจ้าไม่สอนบทเรียนให้ตัวร้ายเช่นข้า ถ้าอย่างงั้นเจ้าที่เป็นพระเอกจะเทียบสุนัขได้หรือ?

"จูบ!"

ริมฝีปากของเจียงมู่ออกผละออกจากริมฝีปากเล็ก ๆ ของ เสวี่ยเมิ่งหาน

“หรงเอ๋อ หลีกทาง เปิ้นจงจะจัดการมันเอง!”

เขารีบหยุดติงหนานหรงที่พร้อมที่จะเคลื่อนไหว

หากนางเคลื่อนไหว มันจะไม่ใช่เนื้อเรื่องของเขาอีกต่อไป

เขาผลักสวี่ยเมิ่งหานที่ราวกับถูกฟ้าผ่าออกไป และพุ่งกระโจนเข้าหาหลิงอ่าวเทียนและคำรามออกมา

“เปิ้นจงจะทุบตีเจ้าให้ตาย ไอ้คนบ้านนอก!!”

บูม บูม บูม!

ทั้งสองปะทะกันด้วยหมัดต่อหมัดอย่างดุเดือด

"อั๊ก----“เจียงมู่ถูกชกเข้าที่ท้องถูกส่งบินกลับและร้องออกมาด้วย 'ความเจ็บปวด'

  ในที่สุดเขาก็บินเข้าสู่แขนอันอ่อนนุ่มของติงหนานหรง

  ในขณะที่หลิงอ่าวเทียนเอาชนะเจียงมู่ได้ เขารู้สึกเหมือนมีคนต่อยเข้าที่ท้องทำให้เขายิ้มด้วยความเจ็บปวด

  แต่ตอนนี้เขาโกรธมากและไม่สนอะไรทั้งนั้น

หลิงอ่าวเทียน โกรธจัดในขณะที่เขาหมอบลงและเหยียดแขน ใช้วิชาวิญญาณชั่วร้าย

“หมัดวารีพิษเทพนาคา!”

รัศมีพลังงานวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นพร้อมกับร่องรอยพลังงานชั่วร้ายที่ยากจะลบเลือน

และบนแขนแต่ละข้างของเขามีงูสีดำพันวน

งูน้ำสีดำโอบรอบตัแขนตั้งแต่ปลายข้อศอกจนถึงกำปั้น ร่างเงาของงูเปิดปากที่ราวกับหุบเหวและจ้องมองไปที่เจียงมู่ด้วยรูม่านตาสีทอง

ราวกับจ้องมองไปยังศัตรูคู่อาฆาตจากชาติปางก่อน!

[เจ้าต้องการที่วางยาพิษเขา?]

ในความคิดของ หลิงอ่าวเทียน เสียงของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่แหบแห้งและเย็นชาก็ดังขึ้น น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความสงสัยและความไม่พอใจ

“ไม่ต้องห่วง อาจารย์! ศิษย์จะควบคุมปริมาณพิษ อย่างมากสุดก็มีแค่มือของเขาเท่านั้นที่โดนพิษ!”

“ศิษย์จะทำให้คนสกุลเจียงต้องชดใช้ที่มันกล้าดูหมิ่นเมิ่งหาน!”

เชี่ย!

พระเอกคนนี้พยายามจะทำให้ข้าพิการใช่ไหม!

เมื่อมองไปที่งูน้ำสีดำสองตัวที่มีรูม่านตาสีทองบนแขนของหลิงอ่าวเทียน เจียงมู่ก็ตกใจ

เขาย่อมรู้จักวิชานี้ดี

หมัดวารีพิษเทพนาคา

นี่คือวิชาพลังวิญญาณที่อาจารย์เทพปีศาจ ของ หลิงอ่าวเทียน ได้สอนเขา

พิษที่อยู่ในงูน้ำสีดำรูม่านตาสีทองนั้นรุนแรงมาก แม้เพียงเล็กน้อยก็สามารภทำให้คนเป็นอัมพาตครึ่งซีกได้ วิชาที่ชั่วร้ายนี้เป็นหนึ่งในไพ่ตายของหลิง อ้าวเทียน

เขาคาดไม่ถึงว่ามันจะถูกใช้กับตัวเอง

นี่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่องดั้งเดิม!

ใจของ เจียงมู่ เริ่มกังวลอีกครั้ง

ในแผนเดิม หลิงอ่าวเทียน เอาแต่ทุบตีเขาอย่างโหดเหี้ยมและไม่เคยใช้ไพ่ลับนี้เลย

ต้องเป็นเพราะ เสวี่ยเมิ่งหาน บิดเบี้ยวเลยทำให้หลิงอ่าวเทียนเบี่ยงเบนเช่นกันใช่ไหม

“อ๊าาา”

หลิงอ่าวเทียน คำรามในขณะที่เขาพุ่งเข้าหาเจียงมู่เหมือนลูกธนูด้วยความเร็วสูงสุด

ไม่มีทางอื่นนอกจากเลิกคิดและเผชิญหน้ากับเขาโดยตรง

บูม บูม บูม!!!

“เปิ้นจงจะฆ่าเจ้า!”

ทั้งสองโจมตีกันด้วยหมัดต่อหมัดอย่างดุเดือดอีกครั้ง

ในที่สุดหมัดทั้งสองก็ปะทะกันและงูสีดำบนแขนของหลิง อ่าวเทียน ก็สามารถพันรอบแขนของ เจียงมู่ ได้ทันที

ทันทีหลังจากนั้น ทั้งคู่ก็กระเด็นถอยห่างออกจากกัน

"นี่มันอะไรกัน!"

เจียงมู่ มองไปที่แขนทั้งสองข้างด้วย 'ความตกใจ'

งูน้ำสีดำสองตัวพันรอบแขนของเขาอย่างหนาแน่น และพวกมันก็เริ่มซึมเข้าสู่ผิวหนังของเขาผ่านแขนเสื้ออย่างช้าๆ

ในที่สุด งูน้ำสีดำทั้งสองตัวก็หายเข้าไปในแขนของเขาอย่างไร้ร่องรอย

“มือของข้า!”

เจียงมู่ ยังคงมีสีหน้า 'หวาดกลัว' บนใบหน้าของเขา

มือของเขาค่อยๆ ห้อยลงไปด้านข้างและเริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่ได้

“สารเลว! เจ้าทำอะไรกับมือข้า!!!”

แม้ว่าภายนอก เจียงมู่i จะแสดงออกถึงความโกรธและตื่นตระหนก

อย่างไรก็ตาม เขาดูดซับและกลั่นพิษจากอสรพิษดำตัวนี้อย่างเงียบ ๆ และปลูกยาระเบิดพิษภายในตันเถียนของเขา

โชคดีที่ไม่เป็นไร….

ถ้าไม่ใช่เพราะ ร่างกายที่แบกรับพิษได้นับอนันต์ มือของเขาคงไร้ประโยชน์

เจียงมู่ แอบดีใจในใจ

หลิงอ่าวเทียน หัวเราะอย่างเย็นชาในขณะที่เขาจ้องมองที่มือของเจียงมู่ที่สั่นเทา

“หมัดวารีพิษเทพนาคา เป็นทักษะลับของข้า หลังจากโดนท่านี้ แขนของเจ้า ไม่เพียงแต่เจ้าจะสูญเสียการเคลื่อนไหว แต่ยังจะดูดซับและใช้พลังวิญญาณขณะที่เจ้าฝึกฝน ทำให้การฝึกฝนของเจ้าช้าลง ลงหลายเท่า!”

"อะไร! เจ้า …. เจ้าปีศาจร้าย!”

“ฮิๆ ปีศาจร้าย? ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าช่วยชีวิต เมิ่งหาน ข้าจะทุบตีเจ้าจนกว่าจะกลายเป็นเถ้าธุลี! และตอนนี้การสูญเสียมือของเจ้าคือราคาที่ต้องจ่ายสำหรับการดูหมิ่นเมิ่งหาน!”

“รีบนำยาแก้พิษมาให้เปิ้นจงผู้นี้ซะ!”

เจียงมู่ 'หวาดกลัว' มากจนร่างกายของเขาสั่น

ในสายตาของติงหนานหรง นางไม่รู้ว่าเขาหวาดกลัวจริงๆหรือไม่

นางมองไปที่มือที่สั่นเทาของ เจียงมู่ จากนั้นที่ เสวี่ยเมิ่งหาน ซึ่งยืนนิ่งอยู่ข้างๆนาง

ในที่สุดนางก็มองไปที่ หลิงอ่าวเทียน ซึ่งยิ้มอย่างเย้ยหยันอยู่ฝั่งตรงข้าม

นี่ควรเป็นส่งที่ในบันทึกได้เขียนไว้…. เนื้อเรื่องหลักที่สอง?

นางจึงดูละครต่อด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“ไปไม่ได้ที่จะให้ยาแก้พิษกับเจ้า”

หลิงอ่าวเทียน มองไปที่ เจียงมู่ ที่ไม่พอใจด้วยความยินดีอย่างยิ่งในใจ

จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างเฉยเมย

“พิษของข้า แม้เพียงเล็กน้อยก็เพียงพอที่จะทำให้แขนทั้งสองข้างเป็นอัมพาต แต่ถ้าเจ้าไม่รักษาทันเวลา และถ้าเจ้าใช้พลังวิญญาณอย่างไม่ระมัดระวัง มันจะเลวร้ายยิ่งกว่าการเป็นอัมพาต”

เหตุผลที่เขายกประเด็นนี้ขึ้นมา

ประการหนึ่ง เป็นเพราะเจียงมู่ไม่สามารถถูกฆ่าได้ ท้ายที่สุดก็ยังมีติงหนานหรง

ประการที่สอง ด้วยการให้ความหวังอันริบหรี่แก่ เจียงมู่ ว่าเขาจะมุ่งเน้นไปที่การรักษามือของเขาและไม่มีเวลามารบกวน เสวี่ยเมิ่งหาน

ในอีกสี่วันข้างหน้า เขา หลิงอ่าวเทียน จะต้องออกไปแก้แค้นศัตรูของเขาและจะไม่สามารถดูแล เสวี่ยเมิ่งหาน ได้

ตามที่คาดไว้ เมื่อ เจียงมู่ ได้ยินสิ่งนี้ แสงแห่งความหวังก็ส่องประกายในดวงตาของเขาทันที และเขารีบถาม

"อะไร! เจ้ากำลังบอกว่ามันรักษาได้เหรอ?”

“มันขึ้นอยู่กับเจ้าที่จะเชื่อหรือไม่”

หลิงอ่าวเทียน หัวเราะเยาะและพูด

“ข้าแนะนำให้เจ้าอย่าเข้าร่วมในฤดูล่าสัตว์ รีบกลับไปรักษาพิษซะ ถ้าปล่อยไว้นานเกินไป ข้าก็รับประกันไม่ได้…”

ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยต เจียงมู่ก็ดูเหมือนจะคว้าฟางช่วยชีวิตไว้ได้และสั่งติงหนานหรงซึ่งอยู่ข้างๆ “หรงเอ๋อ! เร็วเข้า รีบส่งข้ากลับไปที่เรือบินเดี๋ยวนี้!”

ขณะที่เขาพูด เขาก็เดินไปที่รถเข็นของเขาและนั่งลง รอให้ ติงหนานหรงผลักเขากลับไปที่เรือบินส่วนตัว

เขาไม่ลืมที่จะทิ้งคำพูดที่โหดร้ายเอาไว้ “หลิง อ่าวเทียน ใช่มั้ย? ครั้งต่อไป เปิ้นจงคนนี้จะฆ่าเจ้าแน่นอน!”

นั่นคือตอนจบ?

ติงหนานหรงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

เนื่องจากไม่มีละครให้ดูอีกต่อไป นางจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากผลักเจียงมู่กลับไปที่เรือบินส่วนตัวอย่างรวดเร็ว

“เมิ่งหาน เจ้าสบายดีไหม!”

หลังจากที่เจียงมู่และติงหนานหรงจากไป หลิงอ่าวเทียนก็ก้าวเข้ามาปลอบประโยนเสวี่ยเมิ่งหาน

เมื่อเห็นท่าทางงุนงงของนาง หัวใจของเขาก็เจ็บปวดเล็กน้อย

“เมิงหาน เชื่อข้าเถอะ สักวันหนึ่ง ข้าจะตัดมือและเท้าของเจียงมู่ออกและให้มันชดใช้ที่กล้าจูบเจ้า!”

“เขาจูบข้า… เขากล้าดียังไง…”

เสวี่ยเมิ่งหานพึมพำ แต่ยังไม่ตื่นจากความงุนงง

หลิงอ่าวเทียน ได้ยินไม่ชัดนักและถามให้ดังขึ้นเล็กน้อย “เมิ่งหาน เจ้าพูดอะไรเหรอ?”

"ฮะ? ไม่… ไม่มีอะไร ข้า… ข้าจะกลับไปที่เรือเหาะ นายน้อยหลิง ไม่ต้องไปส่งข้า!”

เสวี่ยเมิ่งหานผู้ซึ่งตกอยู่ทในความงุนงงเป็นเวลานานในที่สุดก็ตื่นขึ้น

นางใช้มือทั้งสองข้างปิดหน้าที่แดงก่ำขณะที่นางก้าวบันไดดอกบัวราวกับควบม้ารีบไปทางเรือเหาะเมือง

เสวี่ย (บันไดดอกบัว ท่าเดินที่สวยงามของผู้หญิง) (ควบม้า เป็นคำแสลงหมายถึง อย่างรวดเร็ว)

“อาจารย์ เมิ่งหาน นาง…”

เมื่อมองไปที่ด้านหลังที่ตื่นตระหนกของ เสวี่ยเมิ่งหาน หลิงอ่าวเทียน ก็ไม่เข้าใจว่าทำไม

[ก็แค่ผู้หญิงโง่ๆ คนหนึ่งที่อยู่ในฤดูใบไม้ผลิ] (ฤดูใบไม้ผลิ หมายถึง ความรัก)

“……”

หลิงอ่าวเทียน พูดไม่ออก

[อย่าลืมเรื่องสำคัญ เจ้ามาที่นี่เพื่อแก้แค้น]

[ปีศาจต้นไม้พิษเลือดริมทะเลสาบนั่น มันยังไม่ตาย ไปฆ่ามันและปรับแต่งพิษเพื่อทำให้หมัดวารีพิษของเจ้าแข็งแกร่งขึ้น]

"…ขอรับ!"

***

เรือบินส่วนตัว ภายในห้องสุดหรู

“หรงเอ๋อ เจ้าออกไปได้แล้ว ข้าขออยู่คนเดียว”

หลังจากที่ ติงหนานหรงเข็น เจียงมู่ เข้าไปในห้อง เขาก็นั่งบนรถเข็นถูขมับและเริ่มคิดอย่างหนัก

เกี่ยวกับเนื้อเรื่องของวันนี้

เขาต้องแยกแยะและดูว่าเขาสามารถหาสาเหตุของเนื้อเรื่องที่บิดเบี้ยวได้หรือไม่

นอกจากนี้เขายังจูบ เสวี่ยเมิ่งหาน

นี่เป็นจูบแรกของ เสวี่ยเมิ่งหาน!

แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่เร่งด่วนและขาดความอดทนในตอนนั้นก็ตาม

แต่มันอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทัศนคติของ เสวี่ยเมิ่งหาน ที่มีต่อตัวเขาเอง ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ในทางกลับกันจะส่งผลต่อเนื้อเรื่องในภายหลัง

“ไม่กินยาเหรอ?”

เมื่อมองไปที่มือของเขาที่สามารถขยับได้แล้ว ติงหนานหรงค่อนข้างอยากรู้อยากเห็น

อาจจะเป็นพิษปลอม

เขารักษาเสวี่ยเมิ่งหานจากพิษของปีศาจต้นไม้ด้วยปากของเขา

และตัวเขาเองก็ดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบจากพิษของหลิงอ่าวเทียน

เขาต้องกำลังปกปิดความลับที่ไม่มีใครรู้

“ไม่ ข้า… โอ้ เดี๋ยวข้าจะทาเอง”

เจียงมู่ เปลี่ยนน้ำเสียงของเขาทันทีและกลับมาแสร้งทำเป็นมือสั่น

แม้ว่ามือของเขาเองจะไม่เป็นไรแล้วก็ตาม

แต่ ติงหนานหรงไม่รู้

ในความคิดของนาง เขา เจียงมู่เป็นคนงี่เง่า ในเมื่อมือของเขาได้รับพิษ เป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะดีขึ้นโดยไม่มีเหตุผล

“ท่านจะทาเองเหรอ”

เมื่อมองไปที่มือของเขาที่สั่นไม่หยุด ติงหนานหรงก็อยากจะหัวเราะออกมาดัง ๆ

มันเป็นการแสดงที่ดีเลยทีเดียว

"…ใช่." เจียงมู่ตอบกลับอย่างเจ็บปวด

“ยาอยู่ที่ไหน” ติงหนานหรงถามอย่างขี้เล่น

“เอ่อ….”

เกิดอะไรขึ้น นางไปเอาคำพูดมากมายขนาดนี้มาจากไหน

“แน่นอนว่ามันอยู่ในแหวนมิติ ออกไปเถอะ ข้าจะล้างพิษ” เจียงมู่ คร่ำครวญและกระตุ้นให้นางออกไปอีกครั้ง

“แต่ท่านไม่ได้สวมแหวน ข้าวของทุกอย่าง แม้แต่ชุดชั้นในก็อยู่กับข้า ท่านโกหก ท่านจะโกหกทำไม”

ดวงตาที่สวยงามของ ติงหนานหรงเผยให้เห็นร่องรอยของความสนุกสนานเล็กน้อย

ยิ่ง เจียงมู่ ปกปิดมันมากเท่าไหร่ นางก็ยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นเท่านั้น

นางตัดสินใจว่านางจะขุดคุ้ยความลับของเขาออกมาให้ได้

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด