ตอนที่แล้วตอนที่ 24 สายฟ้าสังหาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 26 อย่างนั้นก็สู้กัน!

ตอนที่ 25 บึงหยกทะเลไผ่


สีหน้าของถังเทียนจริงจัง เขาบดหินข้างหน้าเขาด้วยหมัดเดียว

ปัง!

หินสั่นสะเทือน แล้วแตกออกเป็นหินบดก้อนเล็กนับไม่ถ้วน และทุกก้อนมีขนาดเท่าเกาลัด    หินเหล่านี้ไม่เหมือนรูปแบบก้อนหินบดอื่นๆที่เกิดจากหมัดพิฆาตน้อย หินทุกก้อนเรียบลื่นเหมือนกับถูกมีดตัดมากกว่า

“พลังยอดเยี่ยม เราไม่อาจบอกได้เลย สงสัยสหายน้อยผู้นี้เป็นอัจฉริยะแน่!”

“สามารถอดทนฝึกฝนหนักได้นั่นก็เป็นอัจฉริยะแท้จริงแล้ว!”

“ครั้งนี้ผู้เฒ่าเว่ยได้สมบัติชิ้นใหญ่มาแล้ว”

……

ชาวเหมืองที่ล้อมรอบอุทานอย่างประหลาดใจ แม้ว่าถังเทียนจะใช้หมัดเดียวต่อยบดหิน มันเป็นก้อนขนาดเท่ากำปั้นที่เป็นเช่นนั้นเพราะพลังเที่ยงแท้ของเขายังอ่อนเกินไป

บรรลุวิชาหมัดพิฆาตน้อย ถังเทียนก็แทบได้รับตำแหน่งยอดฝีมือผู้ชำนาญได้แล้ว

“ไม่เลว” สือโท่วยิ้ม และพูดกับถังเทียน“แม้ว่าวิชาหมัดพิฆาตน้อยจะเป็นเพียงวิทยายุทธระดับสาม  แต่พลังของมันค่อนข้างแข็งแกร่งแล้วแกจะค้นพบในเวลาต่อไป ว่าวิทยายุทธหลายชนิดจำเป็นต้องใช้พลังพังทลาย โดยเงื่อนไขที่แกสามารถดูดซับพลังพังทลายได้สมบูรณ์ วิทยายุทธระดับสูงทั้งหมดในอนาคตแกก็จะสามารถฝึกได้ง่าย คอยดูต่อไปเถอะ”

เขาเดินไปที่หินแกรนิตมหึมาสูงขนาดคนสองคนซ้อนตัวกัน

เขาอยู่ในท่านั่งม้า ตั้งหมัดระดับเอว สือโท่วมีสีหน้าจริงจัง

เขาระบายลมหายใจเสียงดัง ใช้หมัดขวาระเบิดพลังออกไปหนึ่งครั้ง

ปุ!

ด้วยความคาดหวังของถังเทียนขณะเขามองดูหมัดที่รุนแรง เสียงระเบิดบนหินแกรนิตเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เกิดขึ้น

ก้อนหินขนาดใหญ่ไม่ขยับแม้แต่นิ้วเดียว

นี่มัน....

ถังเทียนงุนงงและสงสัย

ทันใดนั้น สิ่งที่น่าทึ่งก็เกิดขึ้น พวกเขาเห็นหินแกรนิตสูงขนาดสองคนต่อกัน พังทลายลงเป็นก้อนเล็กๆ นับไม่ถ้วนและดูเหมือนหิมะถล่ม มันพังครืนจนพื้นสั่นสะเทือนมีเสียงดังปังทำให้ฝุ่นลอยฟุ้งขึ้นมา

บุรุษร่างล่ำสันด้วยมัดกล้ามคนหนึ่งที่อยู่ใกล้คนหนึ่งใช้ฝ่ามือสร้างลมผลักฝุ่นให้กระจายออกไป

กองภูเขาหินบดลูกย่อมๆ อยู่ต่อหน้าถังเทียน

ถังเทียนจ้องมองกองหินอย่างว่างเปล่า รู้สึกตะลึงจนไม่รู้จะพูดยังไง  ถ้าหมัดนี้โดนร่างใครสักคน  นั่นคงเป็นเรื่องน่าสยดสยองยิ่งนัก

สือโท่วเกรงว่าถังเทียนจะตกใจมากเกินไป จึงปลอบเขา  “ฉันฝึกฝนพลังทำลายนี้มาเกินกว่าสิบปี  ตราบใดที่แกยังฝึกฝนขัดเกลาตัวเองอนาคตของแกก็จะเด่นล้ำเกินฉัน”

ถังเทียนกระโดดเข้าไปอยู่ข้างๆ สือโท่วอย่างตื่นเต้นด้วยใบหน้าที่แสดงความยกย่องเขาเต็มเปี่ยม นัยน์ตาเป็นประกาย “พี่สือโท่ว, สอนฉัน,สอนให้ฉันด้วย”

สือโท่วหัวเราะลั่น “ฉันโง่ในเรื่องการใช้คำพูดไม่อาจจะอธิบายให้เหมาะสมได้ ถ้าแกอยู่ที่นี่สักสิบปี และทุบหินทุกวัน แกจะแข็งแกร่งกว่าฉันแน่นอน

ถังเทียนส่ายศีรษะ “ไม่ได้หรอก ฉันต้องไปหาเชียนฮุ่ย”

แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กำหมัดแสดงความเคารพแล้วพูดจริงจังว่า “พี่สือโท่วพี่สบายใจได้เลย  ฉันจะแซงพี่ให้ได้แน่นอน

ลักษณะของถังเทียนทำให้ทุกคนที่อยู่รอบๆ หัวเราะลั่น

แต่สือโท่วไม่ได้หัวเราะ และใช้ฝ่ามือของเขาลูบศีรษะของถังเทียนและตอบจริงจังว่า “เออ ฉันเชื่อแก”

เสียงหัวเราะขาดห้วงกะทันหัน เนื่องจากพวกเขาตกใจกับการกระทำของสือโท่ว

สือโท่วไม่ได้อธิบายแต่อย่างใด แต่หัวเราะอย่างเป็นกันเองและพูดให้กำลังใจ “ขอให้โชคดีนะ พ่อหนุ่มชาวฟ้า”

ถังเทียนชูมือทั้งสองและส่งเสียงฉลองชัย “วู้ววว, หนุ่มชาวฟ้า สู้เขาต่อไป”

※※※※※※※※※※※※※※※※※

อาโมรี่ถือดาบยักษ์ที่เปล่งรังสีดาบจางๆกล้ามเนื้อทุกมัดในตัวเขาเต็มไปด้วยพลังงาน และนัยน์ตาเขาเป็นประกาย

เขาชูยกมีดขึ้นสูง รังสีดาบสีเหลืองอ่อนกระพริบ

ดาบตัดลงไปที่วัสดุหิน

พอดาบที่ยกขึ้นและฟันลงไปรังสีดาบสีเหลืองก็กระพริบอีกครั้ง

อาโมรี่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นกับดาบเหล็กใหญ่ในมือเขา และความรู้สึกมาดมั่น เขาตัดอย่างต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง และหินสี่เหลี่ยมรูปอิฐบล็อคก็ปรากฏอยู่ต่อหน้าทุกคน

“อืม.. ถูกต้องครบถ้วน” สือโท่วตรวจสอบก้อนหินด้วยสีหน้าที่พอใจ

“ไชโย....”ถังเทียนกระโดดชูมือทั้งสองฉลองชัยอย่างร่าเริง

อาโมรี่มีรอยยิ้มโง่งมอยู่บนใบหน้า  เขาคิดว่าช่วง 2-3วันที่ผ่านมานี้ค่อนข้างลำบาก  ดาบเหล็กตัดหินให้เป็นเหลี่ยมดูเหมือนง่าย  แต่ตรงกันข้าม มันไม่ง่ายเลย เหมืองหินต้องการหินบล็อกที่สวย  ดังนั้นฝีมือคนงานจำเป็นต้องดีด้วย

ในตอนแรกเริ่มอาโมรี่ยังไม่คุ้นการใช้งานดาบ ความจริงเขาเพิ่งเริ่มฝึกวิชาดาบ แล้วจะใช้ดาบให้ได้ดีอย่างไรกัน, พิถีพิถันอย่างนั้นหรือ?  นอกจากความจริงว่าหินแกรนิตนั้นแข็งมากและดาบนั้นจำเป็นต้องรวบรวมพลังเที่ยงแท้ให้เข้มข้นพอก่อนจึงจะสามารถตัดหินให้เป็นอิฐบล็อกได้  จำเป็นต้องควบคุมพลังปราณเที่ยงแท้ให้ดีถึงจะสร้างผลงานที่น่าทึ่งได้

ด้วยการฝึกแบบนี้เขาสามารถรู้สึกได้ชัดเจนถึงความแตกต่าง เนื่องจากวิชาดาบของเขาเองมีความก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัด

กลุ่มชาวเหมืองผู้มีร่างกายบึกบึนปฏิบัติกับเด็กหนุ่มทั้งสองคนด้วยความเอ็นดูไม่ปรบมือก็ผิวปาก

ผู้เฒ่าเว่ยปรากฏตัวมาตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ

“ว่าไง, หนุ่มน้อย , ดูเหมือนว่าพวกแกจะทำได้ดีเชียวนะ”

ผู้เฒ่าเว่ยนัยน์ตาเป็นประกายอย่างมีความสุข  ขณะที่คนอื่นๆ เข้ามาทักทายเขาทีละคน

สือโท่วหันไปคุยกับผู้เฒ่าเว่ย  “แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่โตเต็มที่บ้าง  แต่ก็ถือว่าผ่านเจ้าหนูสองคนนี่นับว่ายอดเยี่ยม อดทนต่อการฝึกหนักได้  ผู้เฒ่าเว่ย! คุณได้สมบัติล้ำค่าเชียวนะ!”

รอยย่นบนใบหน้าผู้เฒ่าเว่ยเหยียดตรงและเขาพูดด้วยความภูมิใจ “พวกเขากำลังจะร้องไห้แล้ว  ไปกันเถอะหนุ่มน้อย  การฝึกฝนพิเศษที่นี่ของพวกแกจบลงแล้ว

ฝึกพิเศษที่นี่....

ถังเทียนและอาโมรี่มองหน้ากันเองอย่างกังวล เป็นไปได้ว่ายังมีการฝึกฝนพิเศษอย่างอื่นอีกหรือ?

“ถ้าพวกเขาสามารถฝึกได้สักครึ่งปี  พวกเขาจะมีความก้าวหน้ามากมายมหาศาล”  สือโท่วรู้สึกว่าเสียดายบ้าง

“มีเวลาไม่พอ” ผู้เฒ่าเว่ยพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “งานชุมนุมวิทยายุทธใกล้จะถึงแล้ว และเด็กทั้งสองยังมีบทฝึกพิเศษอื่นรออยู่อีก  ประการแรก ต้องให้พวกเขามีประสบการณ์ทุกอย่างสักครั้งและครั้งต่อไปเมื่อพวกเขา เมื่อพวกเขามีเวลาฝึกหนัก  พวกเขาจะเจียดเวลาไปเอง  แต่คำแนะนำสำหรับตอนนี้ก็คือ พอก่อน”

สือโท่วพยักหน้า “คุณพูดถูก”

สือโท่วหันไปทางถังเทียนกล่าวว่า “เสี่ยวเทียน! จำไว้นะ เคล็ดสังหารของหมัดพิฆาตน้อยก็คือถล่มทลาย”

ถังเทียนพยักหน้าและรับคำอย่างจริงจัง “พี่สือโท่วฉันจะฝึกให้คล่องจนได้”

สือโท่วยิ้ม ทันใดนั้นเขาดึงของที่อยู่ด้านหลังเขาออกมาเห็นแต่เพียงว่าเขาเอากล่องไม้ที่หักๆ 2 กล่องยื่นส่งให้เขาพลางหัวเราะ

เมื่อเปิดกล่องไม้ทั้งสองดู  ข้างในกลับเป็นถุงมือโลหะดำคู่หนึ่ง และอีกกล่องหนึ่งเป็นดาบยาวสีดำเล่มหนึ่ง

“นี่คือของขวัญสำหรับพวกแก หวังว่าพวกแกทั้งคู่คงจะชอบนะ”

สือโท่วมอบถุงมือและดาบยาวให้ถังเทียนและอาโมรี่ตามลำดับ

เมื่อเขาสวมถุงมือถังเทียนไม่สามารถรับน้ำหนักได้ มือของเขาถึงกับตกห้อยลง เพราะมันหนักมาก ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าถุงมือดำความจริงแล้วหนักเกินกว่า 15 กิโลกรัมทำให้ถังเทียนทึ่งมาก  เขาต้องการเพียงลองถุงมือเท่านั้น แต่คาดไม่ถึงเลยว่าถุงมือมิเพียงแต่หนักมากเท่านั้น แต่ก็สวมได้พอดี

นิ้วทั้งหมดของเขาให้ความรู้สึกว่องไว  ไม่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของนิ้วมือเลย

อาโมรี่ลูบดาบดำยาวด้วยความรู้สึกชื่นชม  เขาเชี่ยวชาญวิชาดาบมาหลายปีแล้ว  แค่เพียงลักษณะที่เห็นเขาสามารถบอกได้ว่าดาบยาวดำนั้นเป็นของคุณภาพชั้นยอด

ผู้เฒ่าเว่ยพึมพำ “พวกแกลุ่มหลงมันแล้ว อาวุธทั้งสองนี้ก็คือชุดอาวุธโลหะดำจากกลุ่มดาวเตาหลอม (ฟอแนกซ์)”

“กลุ่มดาวเตาหลอม?” ถังเทียนถามด้วยความสงสัย

“ในกลุ่มดาวที่ไกลโพ้นออกไปอาวุธเหล่านี้คือผลิตภัณฑ์ชั้นยอด พวกแกทั้งคู่อย่าทำหายจะดีกว่าไม่เช่นนั้นพวกแกไม่มีทางหาซื้อได้จากที่ไหนได้เลย”  ผู้เฒ่าเว่ยจ้องดูพวกเขา

“ก็หมายความว่ามันเป็นของล้ำค่ามากใช่ไหม?”  อาโมรี่ถามเสียงอ่อย,มือทั้งสองกอดดาบดำไว้แน่น

“ฮ่าฮ่า!” สือโท่วหัวเราะลั่น “มันจะเสียของเปล่าๆ ถ้าปล่อยทิ้งไว้ที่นี่  พวกแกไม่ต้องคิดอะไรมาก  อาวุธพวกนี้มันแช่ฝุ่นนานเกินไปแล้วมันไม่สมควรอยู่ที่นี่”

ถังเทียนและอาโมรี่ไม่เข้าใจ  แต่รู้สึกว่าเบื้องหลังคำพูดของพี่สือโท่วมีความรู้สึกเสียใจแฝงอยู่ด้วย

ผู้เฒ่าเว่ยเงียบ

สือโท่วโบกมือ “ไปเถอะ,อย่าเสียเวลาอีกต่อไปเลย  ถ้าพวกแกมีเวลาพออย่างนั้นก็แวะมาเที่ยวบ้างก็ได้”

แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงยี่สิบกว่าวันหลังจากที่ได้สนทนาโต้ตอบกัน ทุกคนก็สนิทกันมาก

พอผู้เฒ่าเว่ยกระตุ้นเตือน พวกเขาจึงพากันออกมาจากเหมืองหินอย่างไม่เต็มใจนัก

※※※※※※※※※※※※

“นี่ผู้เฒ่า! พี่สือโท่วกับพวกมาจากที่ไหนเหรอ? ฉันรู้สึกอยู่เสมอว่าพวกเขามีพลังแข็งแกร่ง?”

ระหว่างเดินทางถังเทียนอดที่จะถามผู้เฒ่าเว่ยอย่างช่วยไม่ได้

ผู้เฒ่าเว่ยมองดูเขา “ทำไมเจ้าเด็กอ่อนแอถึงได้เซ้าซี้ถามมากนักนะ?”

ถังเทียนจ้องทันที “ผู้เฒ่า! ปู่เรียกใครว่าเด็กอ่อนแอ”

อาโมรี่ที่อยู่ด้านข้างยกมือ “ปู่,เรื่องนั้นฉันเป็นพยานได้นะ ก้นของเจ้าถังพื้นฐานไม่เล็ก แน่นอน”

(*** คำสนทนานี้เป็นการเล่นคำ เด็กอ่อนแอในสำนวนจีนก็คือเด็กก้นเล็ก  อาโมรี่พาซื่อจึงคิดว่าพวกเขาพูดกันถึงเรื่องก้นเด็ก***)

ก้น..ดูเหมือน..อะไรสักอย่าง..  อะไรที่ผิดปกติ...

ถังเทียนได้แต่เกาหัวแกรกๆ

ผู้เฒ่าเว่ยพูดขึ้นทันที “พวกแกต้องจำไว้ว่า  พวกเขาเป็นกลุ่มลูกผู้ชายที่ควรแก่การยกย่อง ในโลกนี้มีคนที่อันตรายและเลวร้ายอยู่มากนัก  แต่ก็ยังมีคนผู้ยึดถือความเชื่อมั่นและปณิธานของพวกเขาเองตลอดไป  คนอย่างนี้คู่ควรกับการเคารพยกย่อง”

ถังเทียนเข้าใจครึ่งหนึ่งแต่อดลูบถุงมือที่เย็นดุจน้ำแข็งไม่ได้ ถุงมือที่แข็งและเย็นทำให้เขาเชื่อมั่นยิ่งนัก

“นี่ปู่!  ต่อไปเราจะฝึกพิเศษอะไรกันอีก?”  ถังเทียนถาม

“พวกแกจะได้พบในไม่ช้า”  ผู้เฒ่าเว่ยตอบโดยไม่เหลียวหลัง

ในไม่ช้า พวกเขาก็มาถึงถ้ำแร่  และผู้เฒ่าเว่ยเหวี่ยงอาโมรี่ลงไปในถ้ำ

“อาโมรี่ วิชาดาบในวัยระดับแกนับว่าโดดเด่นมากแล้ว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แกยังขาดอยู่ไม่ใช่แค่เคล็ดวิชา  แต่เป็นความเข้าใจระดับลึกซึ้งขึ้นไปอีก  แกฝึกวิชาดาบสายธาตุดิน  เครื่องบ่งชี้วิชาดาบสายธาตุดินทั้งหมดก็คือ  เข้าใจถึงแก่นแม่พระธรณีของเรา  ทันทีที่แกเข้าใจแก่นตรงนี้ได้แกจึงจะได้เริ่มฝึกดาบลมปฐพีที่แท้จริงได้”

แก่นแม่พระธรณีฟังดูเหมือนเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง

แต่ความจริง ก็เป็นแค่เหมืองแร่...

ถังเทียนสบถเงียบๆ ในใจ

แน่นอนว่าเมื่อผู้เฒ่าเว่ยพาเขาไปยังที่หมาย ถังเทียนก็ไม่มีแรงสบถด่าสาปแช่งอีกต่อไป

ทะเลป่าไผ่ไม่มีที่สิ้นสุดกับเงาไผ่ที่ส่งเสียงหวีดหวิวจากลมพัดโกรก บางคราก็เห็นเป็นเงาคล้ายม่านผ้าฝ้ายแขวนและและหมวกไผ่อยู่ภายในทะเลไม้ไผ่ทั้งทางไปและทางออก

“เจ้าหนูถัง! วิชาตัวเบาของแกยังน่าเป็นห่วงและนั่นคือจุดอ่อนของแก  บางทีแกคงจะได้ยินชื่อบึงหยกทะเลไผ่มาบ้างว่ามีผึ้งใบไผ่ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่ค่ามาก  เหล็กในและปีกใบไผ่ของพวกมัน  ทั้งสองอย่างนี้มีค่ามาก  มันมีมูลค่ามากในแง่ของการทำรายได้”

ทันทีที่ผู้เฒ่าเว่ยพูดถึงเรื่องเงิน  นัยน์ตาของเขาเป็นประกายเหมือนทอง

“นี่คือพื้นที่ฝึกฝนมหาสมบัติของแกอย่างแน่นอน  ไม่สิ นี่เอาไว้ให้แกได้ฝึกวิชาตัวเบา  และแกยังคงเอาไว้ใช้ฝึกฝ่ามือสลายเงา  เด็กน้อย แกต้องจำไว้นะการฝึกวิทยายุทธครั้งนี้ แกจะแพ้ไม่ได้ แกยังไม่มีวิชาฝ่ามือระดับสอง ฉันจะให้การ์ดวิญญาณวิชาฝ่ามือลอยลมเป็นของขวัญกับแก  เป็นการ์ดระดับบรอนซ์ แต่อย่าดูถูกเสียล่ะ”

ผู้เฒ่าเว่ยให้กำลังใจ  “พ่อหนุ่มชาวฟ้า, ขอให้โชคดี”

ทันทีที่เขาพูดจบ เงาของเขาหรี่ลงและเขาก็หายไป

าเฒ่าผู้นี้ต้องใช้แรงงานเด็กที่ลักพามาแน่นอน

ถังเทียนมองตำแหน่งที่ผู้เฒ่าเว่ยหายไปด้วยสายตาว่างเปล่าไม่ขยับเคลื่อนไหวอยู่นาน

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ถังเทียนจมจ่อมมองดูสภาพรอบด้าน เขาต้องยอมรับว่าบึงหยกทะเลไผ่เป็นที่เหมาะสมต่อการฝึกวิชาตัวเบาและฝ่ามือสลายเงา

บึงหยกทะเลไผ่เป็นสถานที่แปลกประหลาดมาก  มีสิ่งมีชีวิตเติบโตอยู่ในทะเลไผ่เหนือบึง  ถ้ามีคนต้องการเข้าไปในทะเลไผ่  พวกเขาจะต้องเหยียบกิ่งไผ่เพื่อเคลื่อนที่ไปข้างหน้าไม่มีการควบคุมวิชาตัวเบาที่ดี เป็นไปไม่ได้ที่จะไปได้ต่อ ผึ้งใบไผ่เป็นผึ้งประจำถิ่นของบึงหยกทะเลไผ่  พวกมันโตกว่าผึ้งธรรมดา  สีทั้งตัวของมันเขียวเหมือนหยกปีกของมันมีรูปเหมือนใบไผ่

เหล็กในและปีกของผึ้งใบไผ่ใช้ประโยชน์ได้มากมาย  ส่งผลให้เกิดพ่อค้าเร่ผู้เชี่ยวชาญดำเนินกิจการอยู่ด้านข้างทะเลไผ่

ดังนั้นจึงมีกลุ่มคนดำรงชีวิตอยู่ที่นี่โดยอาศัยการจับผึ้งเลี้ยงชีวิต

ถังเทียนจ้องทะเลไผ่ไร้ขอบเขตเพิ่มความรู้สึกกล้าหาญในจิตใจอย่างคาดไม่ถึงโอว,อย่างนั้นเราคงต้องเริ่มฝึกวิชาปักหลักกลางหาวเสียแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด