ตอนที่ 18 ร่างกระเรียน
ในห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่ อาจารย์ใหญ่รินน้ำชาแล้วส่งมอบให้ผู้เฒ่าเว่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้คุณ “ในทีสุดนายก็พบศิษย์ที่เหมาะสมคนหนึ่ง หลายปีมานี้นายปฏิเสธที่จะพบฉัน แต่ฉันรู้ว่านายไม่ยอมแพ้ง่ายๆ”
ผู้เฒ่าเว่ยละเลียดจิบน้ำชาก่อนที่เปิดปากพูด“นายเป็นคนเดียวที่ยังเข้าใจฉัน ฉันสังเกตและศึกษาดูอาโมรี่มา 2 - 3 ปีแล้ว และฉันรู้ว่าอารมณ์ของเด็กคนนี้เป็นยังไง เขาไม่เลวนักและเขายังเหมือนกับฉันตอนหนุ่มๆ ฮ่าฮ่าฮ่า”
ครูใหญ่ยิ้ม “อย่างนั้นฉันเดาว่าเจ้าเด็กนั่นคงหยิ่งและทะนงตัวแน่”
“เขาเต็มไปด้วยความภูมิใจในตนเองแน่นอน แต่เขาไม่ใช่คนหยิ่งเท่าใดนัก และเขามีนิสัยเรียบง่ายซื่อสัตย์ ส่วนอีกคน เจ้าเด็กนี่มันบ้า ถ้าไม่ใช่เพราะเขาไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับวิชาดาบได้ ฉันคงไม่ทนส่งเขาเข้าสู่เส้นทางยอดฝีมือสู้ระยะประชิดแน่” ผู้เฒ่าเว่ยดูท่าทางเสียใจ
“โอว” อาจารย์ใหญ่รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย “ไม่ใช่เรื่องง่ายที่นายจะชมเขา ฉันคาดหวังหลายอย่างจากเขาไว้แล้ว เพื่อให้ได้เลือกเส้นทางยอดฝีมือสู้ระยะประชิด เขาเป็นคนพิเศษแน่นอน”
“ฮ่าฮ่า เขาเป็นเด็กที่น่าสนใจ” ผู้เฒ่าเว่ยพูด
อาจารย์ใหญ่หัวเราะลั่น “เพราะนายอุตส่าห์มาเยี่ยมฉัน ต้องมีแรงจูงใจแน่นอน บอกมาเลย มีอะไรที่ฉันจะช่วยนายได้?”
“ฮื่อ ความจริงไม่มีอะไรมาก” ผู้เฒ่าเว่ยไม่เกรงใจ“อาโมรี่ไม่มีปัญหาอะไรกับการเรียนวิชาดาบพายุปฐพี แต่เขาขาดคู่ซ้อมมือ ฉันอยากจะยืมสนามฝึกซ้อมที่เทียนเจียงเพื่อให้เขาได้ฝึกซ้อม สำหรับถังเทียน เขาไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้อายุสิบเจ็ดปีแล้วแต่เพิ่งจบการฝึกฝนวิชาต่อสู้พื้นฐานมาไม่นาน ถ้านี่ลากออกไป อย่างนั้นเขาก็จะมีอนาคตทอดยาวช้าออกไปอีก”
“สิบเจ็ดปีแล้วเหรอ?” รอยยิ้มบนใบหน้าอาจารย์ใหญ่จางหายไป เขาจ้องมองผู้เฒ่าเว่ย “เพิ่งจบวิชาต่อสู้ขั้นพื้นฐานงั้นหรือ?”
“ถูกแล้ว” ผู้เฒ่าเว่ยยิ้ม “แต่นายไม่ควรดูถูกเขา...”
อาจารย์ใหญ่ยกมือและพูดโพล่งขึ้นมา “ฉันไม่ได้ดูถูกเขา แต่ฉันไม่คิดว่าคนอายุสิบเจ็ดปีเพิ่งจบวิชาต่อสู้พื้นฐานจะมีค่าควรส่งเสริม เปลี่ยนเป็นคนอื่นเถอะ”
รอยยิ้มของผู้เฒ่าเว่ยจางหายไปและเขาขมวดคิ้ว“นายกำลังจะบอกว่าช่วยฉันไม่ได้ใช่ไหม?”
“ฉันสามารถช่วยอาโมรี่ได้ แต่ฉันไม่เห็นค่าอะไรที่จะต้องส่งเสริมถังเทียน” อาจารย์ใหญ่ยังคงย้ำ “ฉันเพิ่งนึกออกว่าถังเทียนผู้นี้สอบตกบ่อยมาก นายจะส่งเสริมนักเรียนเช่นนี้ได้อย่างไร?”
ผู้เฒ่าเว่ยพูดเย็นชา “แกข้องใจสายตาฉันใช่ไหม?”
“นายใจอ่อนเกินไป และทำเรื่องแปลกๆ อยู่เสมอ” อาจารย์ใหญ่พูดเย็นชา “นายมักเชื่อเสมอว่าโลกนี้มีปาฏิหาริย์ คนไม่มีพรสวรรค์ถูกมองว่าธรรมดา ยิ่งกว่านั้น เขาไม่มีเวลาแล้ว นายมาหาฉัน ฉันก็ดีใจมาก อย่างไรก็ตาม นายนำคนที่ไม่มีศักยภาพใดๆเลยมาหา ฉันยอมรับเรื่องนั้นไม่ได้ นายกำลังเสียเวลาเปล่า และจะทำลายสัมพันธ์ของเราด้วย”
ผู้เฒ่าเว่ยหัวเราะเย็นชา “แกก็ยังคงเหมือนเมื่อก่อนไม่มีแม้แต่ความเมตตาสักนิด”
“นั่นคือสาเหตุให้สถาบันเทียนเจียงเป็นโรงเรียนอันดับหนึ่งในเมืองซิงฟง ขณะที่สถาบันคาราเมลของนายรั้งอันดับสามจากบ๊วย” อาจารย์ใหญ่ไม่คิดอ่อนข้อให้เลยแม้แต่น้อย
ผู้เฒ่าเว่ยหัวเราะเฉื่อยชา และพูดชัดๆ ว่า “งั้นเราค่อยพบกันที่งานชุมนุมวิทยายุทธเมืองซิงฟงก็แล้วกัน”
เขาหันไปผลักประตูและเดินออกไปทันทีที่พูดจบ
เมื่อถังเทียนและอาโมรี่เห็นผู้เฒ่าเว่ยหน้าคล้ำออกมาทั้งสองคนไม่พูดอะไรสักคำ
เมื่อเดินกลับสถาบันคาราเมล ทั้งสองคนเดินตามหลังเงียบๆไม่ได้แม้แต่จะกระซิบกัน
ถังเทียนรีบโยนเรื่องนี้ออกไปจากหัวและยังคงฝึกหมัดประกายไฟทุกวัน แม้ว่าปัจจุบันนี้ประสิทธิภาพของเขาจะไม่เกินจริงเหมือนขณะฝึกหนักอยู่เบื้องหลังประตูดาวกางเขน แต่เขาก็สามารถออกหมัดประกายไฟได้ถึงสี่พันหมัดเป็นประจำ
ถังเทียนจะใช้นิสัยรักการฝึกหนักเพื่อฝึกฝนแล้วก็ฝึกจนกระทั่งหมดเรี่ยวแรง จากนั้นจึงใช้คัมภีร์ปราณกระเรียนฟื้นฟูร่างกาย ยิ่งเมื่อใช้ปราณกระเรียน ความก้าวหน้าของปราณกระเรียนก็เร็วเป็นพิเศษ ความจริงก็คือถังเทียนสามารถออกหมัดประกายไฟสำเร็จได้มากกว่าสี่พันหมัดต่อวันที่ทำได้มากก็เพราะได้รับความช่วยเหลือจากคัมภีร์ปราณกระเรียนอย่างมาก
โดยไม่รู้ตัว ถังเทียนออกหมัดประกายไฟสำเร็จรวม 160,000 หมัด
การฝึกหนักรอบที่สาม
ถังเทียนกล้ำกลืนความทรมานและยังคงออกหมัด หมัดของเขาหายไปและปรากฏในอากาศ ไวกว่าแต่ก่อน เคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว
หมัดของเขาเหมือนกับมีเส้นด้ายที่มองไม่เห็นร้อยเชื่อมโยงกับพลังปราณเที่ยงแท้ในแอ่งตันเถียนที่สาม โดยทุกๆ หมัด พลังปราณเที่ยงแท้ในแอ่งตันเถียนชั้นที่สามจะล้นเข้าไปในเส้นลมปราณของร่างกายถังเทียนเล็กน้อย
ด้ายของพลังเที่ยงแท้นี้ดีเหมือนกับขนวัว และถังเทียนไม่รู้สึกถึงมัน ด้ายพลังน้อยๆ ทั้งหมดนี้แล่นไปตามหมัดของถังเทียนไม่มีสิ้นสุดและเข้าไปอยู่ในทุกมุมของร่างกายของเขา
แม้ว่าจะมีขนาดเล็กและมีปริมาณน้อยจนน่าแปลกใจ นับตั้งแต่ถังเทียนเริ่มฝึกฝนปราณกระเรียน เขาออกหมัดไปแล้วเกิน 150,000 และนั่นหมายความว่านั่นคือ 150,000 ของด้ายพลังปราณเที่ยงแท้ กลุ่มสายพลังนั้นเหมือนกับคลื่นที่เคลื่อนที่ไปข้างหน้า
กลุ่มสายพลังเหล่านั้นเคลื่อนผ่านเส้นปราณที่แยกออกไปและเล็กละเอียดซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่เคยใช้มาทั้งชีวิต เส้นปราณเหล่านั้นถูกพลังเที่ยงแท้กระตุ้นทีละเส้นๆก็แผ่กระจายพลังชีวิต
เส้นเดินปราณในร่างของมนุษย์ โดยหลักจะประกอบไปด้วยเส้นปราณสิบสองเส้นที่ใช้กันมากที่สุดเส้นปราณเหล่านั้นทั้งหมดกว้างเหมาะให้พลังเที่ยงแท้โคจรผ่าน นอกจากเส้นปราณเหล่านี้แล้วยังมีเส้นปราณที่ไม่ธรรมดาอีกแปดสาย ซึ่งไม่ได้ใช้งานเหมือนกับเส้นปราณหลัก 12สาย แต่เป็นระบบธรรมชาติซึ่งยอดฝีมือหลายคนก็พัฒนาฝีมือจากตรงนี้ นอกจากทางเดินปราณใหญ่ 12เส้นและเส้นปราณที่ไม่ธรรมดาอีก 8 เส้น ยังมีเส้นปราณที่ดีและเล็กอยู่มากมายเหมือนสายใยแมงมุม และในสายตาของยอดฝีมือหลายคนมองว่าเป็นเส้นปราณที่ไร้ประโยชน์
เส้นปราณเหล่านั้นเล็กและอ่อนแอมาก มีเพียงบางส่วนถึงจะทนรับพลังปราณเที่ยงแท้ได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ถังเทียนไม่รู้ก็คือทุกๆหมัดที่ปล่อยออกไปก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพลังเที่ยงแท้ของเขา
ถังเทียนยังคงฝึกออกหมัด จนเกือบครบ 200,000 หมัดเมื่อเขาออกหมัดประกายไฟสำเร็จ 200,000 หมัดเขาสามารถปล่อยหมัดประกายไฟได้สมบูรณ์แบบไม่บกพร่อง ความจริงในทุกๆ สิบหมัดเขาออกหมัดประกายไฟสำเร็จถึงเก้าหมัด
หมัดประกายไฟของเขาแสดงให้เห็นถึงบุคลิกเฉพาะตัว สง่างามและรวดเร็ว
“ฮึ่ย ฮึ่ย ฮึ่ย!” เหงื่อยังคงหลั่งไหลไม่หยุด แต่ไม่ส่งผลต่อการเพ่งสมาธิของเขา
ยังไม่แน่ใจว่าเนื่องจากเขาบรรลุเป้าหมายหรือเปล่า แต่ถังเทียนไม่รู้สึกถึงความเหนื่อยล้าเลย เขากลับรู้สึกมุ่งหวังต่อไปและการออกหมัดของเขาก็เร็วขึ้นเรื่อยๆ
กระแสลมจากการออกหมัดของเขาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นเร็วขึ้นและรุนแรงขึ้น
พลังเที่ยงแท้จากภายในแอ่งตันเถียนชั้นที่สามให้ความรู้สึกราวกับว่าเต็มไปด้วยพลังงานสะสมและเริ่มปั่นป่วนขึ้นมา
ถังเทียนลืมสิ้นทุกอย่างที่เขาเพ่งดูและเห็นร่องรอยของหมัดทุกหมัดของเขาได้ชัด เขาสามารถเห็นได้ชัดว่าทุกๆ หมัดสลายหายไปในอากาศและกระแสไหลของอากาศที่เกิดจากการออกหมัด
หนึ่งหมัดและตามมาอีกหมัด!
กระแสอากาศที่ไหลนั้นสั่นสะเทือนเหมือนสายน้ำซึ่งแตกกระจายออกไปเพราะการปล่อยหมัด
หมัดที่ 200,000
ร่างของถังเทียนสั่นสะท้านและพลังปราณเที่ยงแท้ที่รุนแรงจากแอ่งตันเถียนชั้นที่สามระเบิดปังเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น
เสียงร้องของนกกระเรียนชัดเจนดังขึ้นมาในใจเขา
หมัดของถังเทียนหายไปในอากาศทันที
เมื่อหมัดของเขาปรากฏออกมา รังสีนวลสีขาวเปล่งคลุมรอบหมัดของเขาไว้
ถังเทียนตกตะลึง เขาจ้องมองหมัดตนเองอย่างว่างเปล่าตอนนี้หมัดนั้น มีรังสีหมัด..
เขาพยายามออกหมัดอีกครั้ง
เป็นความจริง หมัดของเขามีรัศมีขาวเรืองรองอยู่รอบๆ หมัด
รังสีหมัด! นั่นคือรังสีหมัดจริงๆ ด้วย
มีแต่เพียงวิชาหมัดระดับสามเท่านั้นหมัดจึงจะมีรังสีหมัดปรากฏ เขาอัศจรรย์ที่เห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นกับมือของเขาเอง
ถังเทียนโลดเต้นอย่างมีความสุข แม้ว่าจะเป็นเพียงชั้นรังสีหมัดบางๆ แต่พลังของมันกลับให้ผลที่ยิ่งใหญ่ หมัดประกายไฟคือวิชาหมัดมวยระดับสอง แต่เน้นเคล็ดการใช้โดยสร้างจากพลังกล้ามเนื้อ เพราะเหตุนั้นเคล็ดต่อสู้พื้นฐานและหมัดประกายไฟทั้งคู่นี้มีต้นกำเนิดเดียวกันและเป็นไปไม่ได้ที่สร้างรังสีหมัดออกมาได้
รังสีหมัดที่แท้จริงนั้น ดาบกระบี่มิอาจกล้ำกราย มีอำนาจทำลายทั้งศิลาและโลหะ
“ฮ่าฮ่า! รังสีหมัด! ข้าฝึกรังสีหมัดได้แล้ว! ข้าฝึกรังสีหมัดได้แล้วจริงๆด้วย”
สิ่งที่เรียกว่ารังสีหมัดพิสุทธิ์ถูกสร้างโดยการปลดปล่อยพลังปราณเที่ยงแท้และนี่เป็นลักษณะเคล็ดวิชาต่อสู้ระดับสามโดยเฉพาะ ดาบทลายปฐพีของอาโมรี่ก็สามารถกระตุ้นรังสีดาบได้ ในอดีตที่ผ่านมาถังเทียนยังสามารถปล่อยพลังปราณเที่ยงแท้ได้ แต่ไม่เคยสร้างรังสีหมัดได้เลย
นี่หมายความว่ามาตรฐานหมัดประกายไฟของถังเทียนดีพอจะเริ่มฝึกฝนเคล็ดวิชาต่อสู้ระดับสาม
หลังจากนั้นต่อมาถังเทียนสงบอารมณ์ได้และคิดถึงว่าหมัดประกายไฟสามารถสร้างรังสีหมัดออกมาได้อย่างไร
หมัดประกายไฟเป็นเคล็ดวิชาหมัดมวยระดับสอง ว่าตามเหตุผลไม่สามารถสร้างรังสีหมัดได้
ทันใดนั้นเขานึกถึงอาการสั่นสะเทือนที่แอ่งตันเถียนชั้นที่สามและปราณกระเรียนเหล่านั้น หัวใจเต้นแรง นั่นคือพลังปราณเที่ยงแท้ เขารีบนั่งลงและตรวจดูพลังปราณเที่ยงแท้ในร่างกายของเขา แอ่งตันเถียนชั้นที่สามเต็มไปด้วยพลังปราณเที่ยงแท้ เป็นเรื่องยากที่จะหาเงื่อนงำใดๆ เจอได้
จากนั้น ขณะที่ถังเทียนตัดสินใจปล่อยหมัดประกายไฟอีกหมัดหนึ่ง ความอัศจรรย์ก็บังเกิดขึ้นรัศมีปราณเที่ยงแท้ไหลออกจากแอ่งตันเถียนชั้นที่สาม เข้าไปในเส้นทางเดินปราณที่เขาฝึกฝนแล้วตรงเข้าไปในหมัดของเขา
น่าสนใจ!
ถังเทียนยิงหมัดประกายไฟอย่างต่อเนื่องและเพ่งดูสิ่งที่เกิดขึ้นในร่างกายเขา
พลังปราณเที่ยงแท้ในร่างของเขามีการใช้งานที่ไม่ธรรมดา โดยตันเถียนเป็นแหล่งพลังงานมีเส้นชีพจรเป็นทางเดินปราณผ่านเส้นทางเหมือนตาข่ายที่ปกคลุมอยู่ทั่วร่างกายถังเทียน เมื่อถังเทียนออกหมัดของเขา สายพลังปราณเที่ยงแท้เล็กๆหลายสายก็เริ่มหลั่งไหลตรงเข้าหมัดของเขา ราวกับว่าทำตามคำสั่งด้วยความเคารพสูงสุด ทำให้เกิดพลังรังสีหมัด
ถังเทียนปล่อยหมัดประกายไฟซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อสังเกตความเปลี่ยนแปลงในปราณเที่ยงแท้ตามข่ายเส้นปราณ เพราะเขารู้สึกว่าความเปลี่ยนแปลงในข่ายพลังปราณเที่ยงแท้นั้นเป็นภาพที่คุ้นตานัก
เดี๋ยวก่อน ถังเทียนตบศีรษะตนเองและนึกภาพได้ออก
เงาภาพนกกระเรียน
ข่ายปราณเที่ยงแท้ที่คลุมทั่วร่างของเขาก็คือโครงร่างของนกกระเรียน หมัดของถังเทียนก็คือจะงอยปากนกกระเรียน
เมื่อถังเทียนเหยียดกำปั้นออกมา พลังปราณเที่ยงแท้ก็มารวมตัวอยู่ที่จะงอยปากนกกระเรียนและก่อตัวเป็นรังสีหมัดและเมื่อถังเทียนชักหมัดกลับ เงาร่างกระเรียนก็กลายเป็นพร่าเลือนไม่ชัดเจน
ปราณกระเรียน!
ช่างน่าตื่นตาตื่นใจเสียเหลือเกิน!
ถังเทียนอ้าปากค้างด้วยความทึ่ง มิน่าเล่าสำนักกระเรียนถึงได้รุ่งเรืองเกรียงไกรในยุคทองของพวกเขา พวกเขามีวิชาพลังภายในที่ทรงอานุภาพขนาดนั้นนั่นเอง
ถังเทียนไม่รู้ตัวว่าเขาเชี่ยวชาญคัมภีร์ปราณกระเรียนโดยบังเอิญ วิชาที่สำนักกระเรียนกำลังฝึกอยู่ทุกวันนี้เป็นคัมภีร์ปราณกระเรียนฉบับปรับปรุงแก้ไข คัมภีร์ปราณกระเรียนค่อยๆ สาบสูญจากการสืบทอดและนี่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหลักการของวิชา ในเส้นเดินปราณที่ซับซ้อน ถ้าไม่มีผู้ใดชี้ให้เห็นเงาร่างของกระเรียนได้ อย่างนั้นการฝึกฝนก็จะทำได้ยากมากดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีคนอย่างถังเทียน ที่ฝึกฝนวิชาต่อสู้มาอย่างต่อเนื่องเพื่อเปิดเส้นทางเดินปราณเล็กๆ ที่ไม่ได้รับความสนใจ โดยรู้จักกันในนามว่าร่างกระเรียน
การ์ดวิญญาณชั้นเงินสำหรับฝึกพลังภายในระดับสาม คัมภีร์ปราณกระเรียนย่อมใช้ได้ดีที่สุดสำหรับศิษย์รุ่นเยาว์ของสำนักกระเรียน ร่างกระเรียนได้สร้างพื้นฐานของเคล็ดวิชาต่อสู้ของสำนักกระเรียน และนี่คือคติที่แท้จริงของสำนักกระเรียน
ถังเทียนพยายามฝึกร่างกระเรียนทั้งที่ยังคลุมเครือ
ตอนนี้หมัดของเขามีพลังปราณเที่ยงแท้จากทั่วทั้งตัวและยังรวมกันเป็นชั้นๆในรูปแบบพลังงานปัจจุบัน
มีอยู่หลายครั้งที่เขาแกะรอยติดตามผลจะดูจุดที่สำคัญแต่ดูเหมือนธรรมดา การ์ดวิญญาณชั้นเงินคงอยู่กับเขามาหนึ่งเดือนแล้ว ถังเทียนรู้ว่าสิ่งนี้อยู่ในใจเขาและมีปฏิกิริยาทันที ความรู้ความเข้าใจมหาศาลหลั่งไหลเข้าสมองเขามากขึ้นทุกทีทำให้เขารู้ชัดเจนขึ้น
ทันใดนั้น ถังเทียนเห็นแสง ช่องปราณที่ไม่ได้ใช้งานเล็กและดูเหมือนไร้ประโยชน์เมื่อกระตุ้นให้ทำงานสามารถระเบิดและปลดปล่อยปราณเที่ยงแท้ได้ การระเบิดพลังนั้นช่างน่าอัศจรรย์
สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ เมื่อร่างกระเรียนถูกนำมาฝึกฝนไม่เพียงแต่สามารถใช้ร่วมกับหมัดประกายไฟได้เท่านั้น มันยังสามารถใช้ร่วมกับวิชาต่อสู้ใดๆ ก็ได้
โดยไม่มีอะไรต้องกังวลใจเพิ่ม ถังเทียนเอาแต่หมกตัวฝึกฝนอย่างหนัก
ตอนนี้ 200,000 หมัดแล้ว เป้าหมาย 400,000 รอข้าก่อน
เสริมสร้างร่างกระเรียน!
เพื่อเข้าใจเคล็ดสังหาร
ถังเทียนรู้สึกกระฉับกระเฉง