ตอนที่ 1-20 เวทดิน (1)
ความคาดหวังของลินลี่ย์ปะทุออกมาเหมือนกับภูเขาไฟขณะที่เขารู้สึกมีความตื่นเต้นท่วมท้นทันที
“ปู่เดลิน, ท่านสอนให้ข้าเป็นจอมเวทได้ไหม?” ลินลี่ย์มองผู้เฒ่าเดลินอย่างตื่นเต้น
เดลิน โคเวิร์ทพอเห็นสภาพลินลี่ย์แล้ว จึงลูบเคราขาวของตนเอง “ลินลี่ย์,ปู่เดลินของเจ้าเป็นถึงจอมเวทผู้วิเศษระดับเซียนเชียวนะ ต่อให้เจ้ามิได้มีพรสวรรค์ธรรมชาติมากนักข้าก็สอนเวทให้เจ้าได้... แน่นอนว่า ถ้าพรสวรรค์ของเจ้าต่ำ ความสำเร็จของเจ้าก็พลอยต่ำไปด้วยเช่นกัน”
ถ้าเป็นจอมเวทอื่นได้ยินคำพูดของเขา พวกเขาอาจจะประหลาดใจก็เป็นได้
ในบรรดาสังคมของนักเวท สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพรสวรรค์ ไม่มีพรสวรรค์ก็หมายความว่าไม่มีทางเป็นจอมเวทได้ หลายคนเชื่อกันอย่างนี้
แต่เดลิน โคเวิร์ทกล้าอ้างว่า ต่อให้ทักษะของนักเรียนย่ำแย่ก็ตาม เขาก็ยังคงมีความสามารถสร้างนักเรียนให้เป็นจอมเวทได้ แต่บุรุษที่พูดคำเหล่านี้เป็นจอมเวทผู้วิเศษระดับเซียนอายุห้าพันปี!
“พรสวรรค์ต่ำ,ความสำเร็จต่ำเหรอ?” ลินลี่ย์รู้สึกใจสะท้าน
เหตุผลที่เขาต้องการเป็นจอมเวทเป็นเพราะเขาต้องการฟื้นฟูความรุ่งเรืองให้ตระกูลบาลุค ต่อให้เขามิอาจบรรลุเป้าหมายเช่นนี้ได้ เขาก็หวังว่าอย่างน้อยจะประสบความสำเร็จในงานได้สักงานซึ่งบรรพบุรุษในตระกูลได้พยายามทำมาหลายศตวรรษ ตามหามรดกของบรรพบุรุษของพวกเขา ถ้าเขาทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ นั่นก็นับว่าเพียงพอแล้ว
แต่จะทำเช่นนั้นได้ พลังเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ
“ลินลี่ย์, อย่ากังวลไปเลย ความถนัดด้านเวทมนตร์ของเจ้ายังไม่ได้รับการประเมิน ใครจะรู้ได้ว่ามันสูงหรือต่ำ? บางทีเจ้าอาจมีพรสวรรค์ทางเวทที่สูงส่งก็ได้” เดลิน โคเวิร์ทลูบเคราขาวยิ้มพลาง
ปู่เดลินทำให้ลินลี่ย์สงบจิตใจได้เช่นกัน
“ปู่เดลิน! แล้วจะทดสอบความถนัดทางเวทได้ยังไง?” ลินลี่ย์กระตือรือร้นอย่างช่วยไม่ได้
“การทดสอบความถนัดทางเวทนั้นค่อนข้างง่าย”ขณะที่เดลิน โคเวิร์ทพูด ทันใดนั้น...
มีเสียงฝีเท้าดังที่นอกประตู พอได้ยินเท่านั้นลินลี่ย์วิตกทันที เขารีบบอกเดลิน โคเวิร์ท “ปู่เดลิน, ซ่อนตัวเร็วเข้า มีคนกำลังมา” ถ้าจอมเวทผู้วิเศษระดับเซียนอายุห้าพันปีแห่งอดีตจักรวรรดิพูเอนท์ถูกพบเจอเข้าอาจมีเรื่องร้ายแรง
เดลิน โคเวิร์ทได้แต่ยิ้ม ไม่ได้ขยับอะไรเลย
“ปู่เดลิน!” ลินลี่ย์เริ่มร้อนใจ
“แอ๊ดดด” ประตูห้องนอนเปิดออก,และพ่อบ้านแอชลี่ย์โผล่ศีรษะเข้ามาข้างใน พอเห็นว่าลินลี่ย์ตื่นแล้ว เขาได้แต่ยิ้ม “คุณชายลินลี่ย์ ข้านึกไม่ถึงว่าท่านจะตื่นแล้วรู้สึกเป็นไงบ้าง คุณชาย?”
ลินลี่ย์ฝืนยิ้มทันที พยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ขอบคุณที่ท่านถาม ลุงแอชลี่ย์ตอนนี้ข้าดีขึ้นมากแล้ว”
ลินลี่ย์รู้สึกตื่นเต้นมาก เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เดลิน โคเวิร์ท แต่เดลิน โคเวิร์ทก็ยังยืนยิ้มอยู่ตรงนั้น “เกิดอะไรขึ้นกับปู่เดลินหรือนี่? อึก เราถูกพบเจอหรือนี่ จะเป็นเรื่องน่ารำคาญมากที่ต้องนคอยอธิบาย”
“คุณชายลินลี่ย์, ได้เวลาอาหารค่ำแล้ว ท่านตื่นขึ้นก็ดีแล้ว มาทานอาหารค่ำกับเราเถอะ” ลุงแอชลี่ย์ยิ้มขณะที่พูด
“เอ่อ..ทราบแล้ว” ลินลี่ย์ชำเลืองมองดูเดลิน โคเวิร์ท ใจของเขาเต็มไปด้วยคำถาม “เกิดอะไรขึ้น ดูจากสีหน้าลุงแอชลี่ย์ดูเหมือนว่าเขามองไม่เห็นปู่เดลินเลย”
พอเห็นลินลี่ย์ชำเลืองไปทางมุมเตียงของเขา ลุงแอชลี่ย์ถามด้วยความสงสัย“คุณชายลินลี่ย์ ทำไมท่านถึงเอาแต่จ้องดูที่ข้างเตียง? ทำอะไรตกไว้หรือเปล่า? ข้าจะช่วยหาดูให้นะ”
“ไม่.. ไม่มีอะไร”ลินลี่ย์คลานออกมาจากเตียง “ลุงแอชลี่ย์ ไปกินอาหารค่ำกันเถอะ”
แม้ว่าเขาพบว่าลินลี่ย์จะมีท่าทางแปลกไปบ้าง แต่ลุงแอชลี่ย์ไม่คิดอะไรมาก แค่พยักหน้าและยิ้ม ลินลี่ย์แต่งตัวเอง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะลอบมองเดลินโคเวิร์ท แต่ขณะที่เขาทำเช่นนั้น เดลินโคเวิร์ทยังคงยิ้มอยู่ ทันใดนั้นเขาค่อยหายลับไปจากสายตาลินลี่ย์
“เขาเข้าไปอยู่ในแหวนมังกรแล้ว” ลินลี่ย์สามารถรู้ได้ชัดเจนว่าตอนนี้วิญญาณพักอยู่ในแหวนมังกรขนด
ต่างจากในอดีตที่ผ่านมา ตอนนี้ลินลี่ย์เชื่อมจิตผูกพันกับแหวนด้วยเลือดตนเองทำให้เขาเข้าใจได้ลึกซึ้งขึ้น
“ลินลี่ย์! ไม่จำเป็นต้องพูดออกมาดังๆ แค่พูดกับข้าในใจก็พอ ในฐานะที่เป็นเจ้าของแหวนมังกรขนด เจ้าสามารถสื่อสารกับข้าทางจิตได้ในขณะที่วิญญาณข้าอยู่ภายในแหวน” เสียงของเดลิน โคเวิร์ทดังขึ้นในใจของลินลี่ย์
นี่ทำให้ลินลี่ย์ประหลาดใจมาก
“ปู่เดลิน?” ลินลีย์ลองติดต่อในใจ
“ข้าได้ยินเจ้าแล้ว” เสียงของเดลินโคเวิร์ทดังขึ้นในใจของลินลี่ย์เช่นกัน
หัวใจของลินลี่ย์เต็มไปด้วยความปลาบปลื้มยินดีทันที แต่ขณะที่เขาสนทนากับเดลิน โคเวิร์ทเขาไม่ทันระวังตัวเองขณะที่เดิน ทำให้สะดุดประตูทางเข้า ลุงแอชลี่ย์เดินอยู่ข้างหน้าเขา หันมาหัวเราะ“คุณชายลินลี่ย์ เดินระวังด้วยนะ”
“เข้าใจแล้ว ลุงแอชลี่ย์” ลินลี่ย์หัวเราะตอบ
ขณะที่ลินลี่ย์ตื่นเต้นกับการสนทนาในใจกับเดลิน โคเวิร์ทลินลี่ย์เข้าประตูห้องทานอาหารและนั่งลง อาหารค่ำมื้อนี้อร่อยมากจริงๆ มีทั้งเนื้อแกะย่างหอมฉุย ฮ็อกเหลือบมองลินลี่ย์ ยิ้มแล้วพูดว่า“ลินลี่ย์! กินนี่สิลูก” ขณะที่เขาพูด ฮ็อกฉีกเนื้อขาแกะท่อนล่างให้ลินลี่ย์
“ขอบคุณ, ท่านพ่อ”
ลินลี่ย์รู้สึกประหลาดใจ ครอบครัวของเขาอยู่ในสภาพเศรษฐกิจฝืดเคือง ดังนั้นตามปกติอาหารค่ำของพวกเขาจะเรียบง่าย แต่วันนี้ พวกเขากินเนื้อแกะย่าง?
สิ่งที่ลินลี่ย์ไม่รู้ก็คือ... เมื่อฝนก้อนหินถล่มเมือง นอกจากบุรุษและสตรีแล้วแม้แต่สัตว์เลี้ยงก็ยังถูกฆ่าไปด้วย นอกจากตระกูลบาลุคแล้วแม้แต่ครอบครัวยากจนบางครอบครัวก็ยังเพลิดเพลินมีความสุขกับอาหารเมนูเนื้อในวันนี้
“ปู่เดลิน, ทำไมลุงแอชลี่ย์ถึงไม่เห็นท่านเล่า?” ลินลี่ย์สนทนาทางจิตกับเดลิน
“ลินลี่ย์! ข้าต้องแจ้งให้เจ้ารู้ไว้ก่อนว่านอกจากเจ้าแล้ว ไม่มีผู้ใดมองเห็นข้าได้ เพราะตอนนี้ข้ามีแต่เพียงวิญญาณซึ่งไม่มีความสำคัญแล้ว ข้าอยู่ในสภาพที่มองเห็นด้วยตาไม่ได้ มีแต่เจ้าในฐานะที่เป็นเจ้าของแหวนมังกรขนดถึงจะเห็นข้าได้” เดลิน โคเวิร์ทอธิบายรายละเอียด
ลินลี่ย์เข้าใจทันที
ก่อนนั้น ปู่เดลินบอกว่าเขาตายมานานแล้ว ตอนนี้เหลือแต่เพียงวิญญาณ
“ปู่เดลิน, ในอนาคต ก็หมายความว่าท่านสามารถปรากฏตัวใกล้ๆ ข้าได้บ่อยๆใช่ไหม?” ลินลี่ย์มีความสุขมาก
ขณะที่ลินลี่ย์พูด เขาเห็นว่าข้างๆ เขามีชายชราผมขาวโพลนปรากฏตัวออกมาทันที เป็นเดลิน โคเวิร์ทนั่นเอง แต่ฮ็อก,พ่อบ้านแอชลี่ย์และวอร์ตันน้องชายของเขาก็ยังคงกินและคุยกันต่อไปมิได้สังเกตเห็นเดลิน โคเวิร์ทเลยแม้แต่น้อย
“โห...”
พอได้ยินได้เห็นสิ่งที่แตกต่างทั้งสองแล้ว เมื่อเขาเป็นสักขีกับตาตนเองคนอื่นๆ ในโต๊ะอาหารไม่รู้เรื่องการปรากฏตัวของปู่เดลิน ลินลี่ย์รู้สึกประหลาดใจอยู่ลึกๆ
“ยังคงมีคนที่รู้สึกถึงความคงอยู่ของข้าได้ คนที่มีพลังวิญญาณพอๆ กับข้าสามารถรู้สึกถึงความคงอยู่ของข้าได้ แต่ตามปกติ ถ้าข้าซ่อนตัวอยู่ในแหวนมังกรขนด พวกเขาจะไม่สามารถรู้สึกถึงตัวข้าได้” เสียงของเดลิน โคเวิร์ทดังอยู่ในหัวของลินลี่ย์
“คนที่มีระดับพลังวิญญาณพอๆ กับปู่เดลินน่ะหรือ?” ลินลี่ย์เคี้ยวอาหารพลางคิดเรื่องเดลินโคเวิร์ทในขณะเดียวกัน
“พวกที่มีพลังวิญญาณระดับเดียวกับข้า ส่วนใหญ่เป็นนักสู้ระดับเซียน มีเพียงนักสู้ระดับเซียนจึงจะรู้สึกถึงความคงอยู่ของข้าได้ แต่แน่นอนว่าสิ่งที่จำเป็นก็คือข้าต้องปรากฏตัวอยู่นอกแหวนมังกรขนด ทันทีที่ข้าเข้าไปในแหวนไม่มีทางที่พวกเขาจะหาข้าเจอ” เดลินโคเวิร์ทยิ้มขณะพูด
ลินลี่ย์พยักหน้าในใจขณะที่เขาคว้าขาแกะมาเคี้ยวกิน
“ลินลี่ย์ กินช้าๆ หน่อยลูก” ฮ็อกเห็นลินลี่ย์กินได้เร็วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
ลินลี่ย์ยิ้มให้บิดาเขา แต่ยังคงรีบกินอาหารของเขาต่อไป ในชั่วพริบตา เขาเล็มเนื้อที่ขาแกะจนหมด ลินลี่ย์เรออย่างสบายใจ จากนั้นใช้ผ้าเช็ดปาก เขายืนพูดว่า “ลุงแอชลี่ย์ข้ากินเสร็จแล้ว ข้ายังรู้สึกมึนๆอยู่ในศีรษะ ข้าขอไปพักต่ออีกหน่อยนะวอร์ตัน ค่อยเจอกันนะ” ลินลี่ย์กินอาหารเสร็จเป็นคนแรก
“ยังรู้สึกมึนอยู่อีกหรือ? อย่างนั้นก็ไปพักเถอะ” ฮ็อกรีบพูด
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนเช้าก่อนนั้นยังสร้างความประทับใจให้ฮ็อก มีช่วงเวลาหนึ่งที่เขาคิดว่าลินลี่ย์คงถูกบดกระแทกตาย หลังจากประสบการณ์นั้นความคิดที่เขามีต่อลินลี่ย์ชัดเจนดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
“พี่ลินลี่ย์, ค่อยพบกันนะ” หนูน้อยวอร์ตันโบกมือที่มีมันเยิ้มให้ลินลี่ย์