ตอนที่ 1-19 วิญญาณในแหวนมังกรขนด (2)
จักรวรรดิพูเอนท์ดำรงอยู่มาเป็นเวลานานมากและอาณาจักรถูกสร้างเมื่อแปดพันปีมาแล้ว จักรวรรดิพูเอนท์ดำรงมาได้สามพันปี แต่ในที่สุดก็ถูกทำลายจนได้ ดินแดนที่เป็นอาณาจักรพูเอนท์เดิมถูกแย่งชิงกันและผนวกเข้าเป็นดินแดนชายแดนของสหภาพศักดิ์สิทธิ์และพันธมิตรมืด
กล่าวอีกอย่างหนึ่ง....
ตลอดเทือกเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์ สิบสองอาณาจักรและสามสิบสองแคว้นเคยเป็นของจักรวรรดิพูเอนท์มาก่อน จากมุมมองนี้เพียงอย่างเดียว ใครๆ ก็บอกได้ทันทีว่านี่เคยเป็นจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่มาก่อน
แต่จักรวรรดิพูเอนท์ถูกทำลายนานมาแล้ว
“เกินกว่าห้าพันปีมาแล้วเหรอ?” ชายชราผมขาวตะลึงอยู่ชั่วขณะ และจากนั้นก็ถอนหายใจ “ไม่มีทางที่ข้าจะรู้ถึงเวลาที่ผ่านไปจากภายในโลกของแหวน คาดไม่ถึงเลยว่าเวลาผ่านไปจะเหลือแต่ข้าอยู่ในโลกเกินกว่าห้าพันปีแล้วสินะที่ประเทศชาติของข้าล่มสลาย”
“ปู่! ท่านพูดเรื่องอะไรน่ะ?ข้าสับสนไปหมดแล้ว”
ลินลี่ย์มีความรู้สึกว่าความคิดของเขาถูกยัดโคลน ผู้เฒ่าผู้นี้ไม่รู้มาจากไหน จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นและอ้างว่าเป็นจอมเวทผู้วิเศษยุคจักรวรรดิพูเอนท์ซึ่งถูกทำลายมานานห้าพันปีแล้ว ยังมีเรื่องอะไรที่ไร้สาระมากไปกว่านี้อีก?
ลินลี่ย์ยังสงสัยว่าเขากำลังฝันไป
“เด็กน้อย” ชายชราผมขาวมองดูลินลี่ย์ ยิ้มพลางกล่าวว่า“แหวนที่เจ้าคล้องอยู่บนอกคือวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าเคยใช้มาแล้ว นามว่าแหวนโลกา”
“เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว!”
ลินลี่ย์โพล่งขึ้นมาทันที“แหวนโลกาเหรอ? แหวนที่อยู่บนหน้าอกข้าถูกบรรพบุรุษในตระกูลข้าทิ้งไว้ มีชื่อว่าแหวนมังกรขนด!”
“แหวนมังกรขนด? มันถูกตั้งชื่อว่าแหวนมังกรขนดแทนชื่อเดิมหรือ?” ชายชราพูดอย่างประหลาดใจ
ลินลี่ย์ตกตะลึง
“ชื่อเดิม? ท่านหมายความว่ายังไง, ชื่อเดิม?” ลินลี่ย์มองชายชราอย่างสงสัย
ถึงตอนนี้ชายชราเริ่มหัวเราะ“โอว, แหวนมังกรขนด ต้องเป็นชื่อที่เจ้าตั้งให้เองแน่ หรือบางทีคงเป็นชื่อที่ญาติผู้ใหญ่ของเจ้าตั้งให้เมื่อตอนที่ข้าพบแหวนนี้แต่เดิม ข้าค้นดูจากเอกสารทุกอย่าง ก็ไม่ได้ข้อมูลแต่อย่างใด ดังนั้นข้าถือสิทธิ์ตั้งชื่อเองว่าแหวนโลกา แต่เดิมทีจะเรียกแหวนนี้ว่ายังไงข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“โอ, ท่านปู่ท่านเลือกชื่อเองได้ดีเหมือนกัน แต่ตอนนี้มันเป็นของข้าแล้ว และข้าเรียกมันว่าแหวนมังกรขนด” ลินลี่ย์ค่อนข้างยืนกราน
“ก็ได้, ก็ได้ เรียกว่าแหวนมังกรขนดก็ได้ถ้าเจ้าต้องการ” ชายชราหัวเราะไม่ต้องการจะต่อล้อต่อเถียงกับลินลี่ย์
“ท่านปู่, ท่านบอกเหตุผลข้าได้ไหมทำไมท่านเพิ่งจะปรากฏตัวออกมาจากแหวนมังกรขนด?” ลินลี่ย์ตั้งคำถาม
ชายชรายิ้ม “ในปี 4280 ตามปฏิทินยูลาน ข้า..”
พอได้ยินเช่นนี้ ลินลี่ย์ลอบตกใจ “ปี 4280? ปีนี้คือปี 9990!”
“ในปี 4280 ตามปฏิทินยูลานข้าเผชิญหน้ากับศัตรูเก่าของข้า จอมเวทผู้วิเศษระดับเซียนนามว่าฮาเมลินและเราทั้งสองต่อสู้กัน คิดไม่ถึงเลยว่านักสู้ระดับเซียนคนที่สองจะลอบทำร้ายข้า ในที่สุด ข้าพ่ายแพ้และร่างของข้าถูกทำลายข้าไม่ต้องการให้ฮาเมลินศัตรูของข้าจับวิญญาณข้าไปทรมาน ดังนั้นข้าจึงผนึกตนเองไว้ในแหวนโลกะ..เอ๊ย..แหวนมังกรขนดวงนี้” ชายชราเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต
“แหวนมังกรขนดนี้ เป็นของที่น่าอัศจรรย์มากไม่ปรากฏกลิ่นอายของวัตถุวิเศษแต่อย่างใด แต่ประโยชน์ของมันเทียบได้กับสิ่งประดิษฐ์ของเทพเจ้า เมื่อข้าผนึกวิญญาณข้าไว้ในแหวน ฮาเมลินและคนอื่นมองหาข้าอยู่เป็นเวลานาน แต่ก็ไม่อาจหาข้าพบได้ นี่ก็ต้องขอบคุณแหวนมังกรขนดเช่นกัน”ชายชรายิ้มขณะพูด
ลินลี่ย์ลอบพยักหน้า
ลักษณะของแหวนมังกรขนดความจริงดูธรรมดามาก ในฐานะที่เป็นสมาชิกของตระกูลเก่าลินลี่ย์นับว่ามีสายตาอยู่เหมือนกัน
ตามปกติ ของมีค่าอย่างน้อยจะต้องมีกลิ่นอายของธาตุบางอย่าง แต่แหวนมังกรขนดนี้ดูเหมือนเป็นของธรรมดาไม่มีอะไรมาก ดูไร้ค่า
“ท่านปู่! ท่านบอกว่าห้าพันปีที่แล้ว ท่านถูกจอมเวทผู้วิเศษระดับเซียนและนักรบระดับเซียนลอบทำร้ายและจากนั้นท่านผนึกตนเองไว้ในแหวนใช่ไหม? และแหวนนี้เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีพลังเท่ากับสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์?”ลินลี่ย์พูดในที่สุด
“ถูกแล้ว” พอเห็นว่าลินลี่ย์เข้าใจ,ท่านผู้เฒ่ามิได้ทำเช่นไร ได้แต่ยิ้มและพยักหน้าให้
“อย่างนั้น ท่านปู่,ท่านปรากฏตัวออกมาจากแหวนนี้ได้ยังไง?” ลินลี่ย์มองดูชายชราอย่างระมัดระวัง
ชายชราหัวเราะขณะอธิบาย“ความจริง เมื่อข้าผนึกวิญญาณไว้ในแหวนมังกรขนด ข้าก็ถูกขังอยู่ในแหวน จนกระทั่งเมื่อมีเจ้าของแหวนคนใหม่ ข้าจึงถูกปล่อยให้ออกมาได้”
“กลายเป็นเจ้าของแหวนคนใหม่เหรอ?
“ถูกแล้วโดยผ่านการหยดเลือดลงบนแหวนมังกรขนด” ชายชราหัวเราะ
ลินลี่ย์ขมวดคิ้วขณะพึมพำ“หยดเลือดลงบนแหวน?” เขาหน้ามุ่ยขณะพยายามทบทวนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ทันใดนั้นลินลี่ย์จำได้ว่าเมื่อก้อนหินกรีดสร้างแผลที่ศีรษะเขา เลือดไหลรดเสื้อผ้าและหน้าอกเขาเป็นส่วนใหญ่จากนั้นคงซึมไปรดลงบนแหวน
“โอ อย่างนั้นนั่นก็เป็นการทำให้ข้าเป็นเจ้าของแหวนมังกรขนดสินะ” ลินลี่ย์พยักหน้า
“ถูกแล้ว ตอนนี้ หลังจากที่เจ้ากลายเป็นเจ้าของแหวนมังกรขนดแล้วข้าก็สามารถแยกตัวออกมาจากแหวนได้ และจะได้สัมผัสกับอากาศในทวีปยูลานอีกครั้ง” รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าของชายชรา “เอาล่ะเด็กน้อย ข้าเพิ่งบอกนามของข้าไปแล้ว แต่เจ้าล่ะ ชื่ออะไร?”
ลินลี่ย์ยิ้มสดใส“ข้าชื่อลินลี่ย์! ลินลี่ย์ บาลุค”
“ลินลี่ย์, เป็นชื่อที่ดี” ชายชรายิ้ม
“ท่านปู่,ท่านจะต้องผูกพันอยู่กับแหวนไม่สามารถได้รับอิสรภาพตลอดไปอย่างนั้นหรือ?” ลินลี่ย์รู้สึกเสียใจต่อเขา
ชายชรายิ้มและพยักหน้า “ลินลี่ย์, เจ้าต้องรู้ไว้ว่าเมื่อคนส่วนใหญ่ตาย วิญญาณของพวกเขาจะต้องไปสู่ปรภพ แต่เพราะข้าเป็นจอมเวทผู้วิเศษระดับเซียน ทันทีที่ข้าตาย พลังจิตของข้ายังคงรูปที่เหมือนกายหยาบเดิมได้ นั่นคือเหตุผลเดียวที่ข้าต้านทานการเพรียกหาจากปรภพและผนึกตนเองไว้ในแหวนมังกรขนด ตอนนี้ มีเพียงหนทางเดียวที่ข้าจะไปจากแหวนได้ คือใช้พลังจิตของข้าที่เหลือให้หมด”
“ใช้พลังจิตที่เหลือทั้งหมดหรือ?”ลินลี่ย์ไม่ค่อยเข้าใจ
“สิ่งที่เราเรียกกันว่าพลังจิต, ผีก็อาจเรียกว่า พลังวิญญาณก็ได้ เมื่อพลังจิตของคนถูกใช้ไปอย่างเต็มที่ วิญญาณของพวกเขาจะกระจายไปตามธรรมชาติ กล่าวอีกอย่างก็คือ เมื่อพลังวิญญาณข้าสลายไป ก็จะพ้นจากขอบเขตอำนาจของแหวนมังกรขนด” ชายชรากล่าวอย่างใจเย็น “แต่สถานะปัจจุบันนี้ก็ดีเหมือนกัน แม้ว่าข้ายังถูกจองจำอยู่ในแหวนมังกรขนดป้องกันมิให้ข้าห่างจากแหวนเกินกว่าสามเมตร ก็นับว่าไม่เลวเกินไปนัก”
หัวใจลินลี่ย์สั่นสะท้าน
ทันใดนั้นในใจลินลี่ย์รู้สึกสงสารเห็นใจชายชราผู้นี้
“หึหึ ลินลี่ย์ ข้าพอใจมากอยู่แล้ว เจ้าไม่รู้เรื่องนี้ แต่...ถ้าวิญญาณข้าถูกฮาเมลินจับได้จะต้องประสบชะตาเลวร้ายยิ่งกว่าตาย” ชายชราถอนหายใจ
“ปู่! ท่านบอกว่าท่านคือเดลินโคเวิร์ทใช่ไหม? ให้ข้าเรียกท่านว่าปู่เดลินได้ไหม?” ลินลี่ย์พูดขึ้นทันที
เดลินโคเวิร์ทเป็นจอมเวทผู้วิเศษผู้ยิ่งใหญ่แห่งจักรวรรดิพูเอนท์ดังนั้นเขาจึงมีสถานะที่สูงส่ง คราวนั้นเขาถูกจัดอยู่อันดับบุคคลห้าสุดยอดในทวีปยูลาน เขาพลาดท่าเสียทีเพราะถูกจอมเวทผู้วิเศษฮาเมลินและนักรบระดับเซียนอีกคนหนึ่งลอบทำร้าย
อย่างไรก็ตาม...
เดลินโคเวิร์ทไม่เคยมีลูก ไม่เคยมีหลาน พอได้ยินลินลี่ย์เรียกเขาว่าปู่เดลิน หัวใจของเดลิน โคเวิร์ทที่ว้าเหว่มานานหลายพันปีพลันรู้สึกอบอุ่น
“ได้สิ ได้” เดลิน โคเวิร์ทรู้สึกมีความสุขมาก
ทันใดนั้นแววตื่นเต้นปรากฏอยู่ในดวงตาของลินลี่ย์“ปู่เดลิน, เมื่อครู่นี้ท่านบอกว่าท่านเป็นจอมเวทผู้วิเศษอย่างนั้นท่านสอนวิธีใช้เวทให้ข้าได้ไหม?” หัวใจของลินลี่ย์กำลังพองโต คนที่อยู่ต่อหน้าเขาคือจอมเวทผู้วิเศษระดับเซียนอายุห้าพันปี”
ในใจลินลี่ย์นึกถึงมังกรลมกรดร่างมหึมา, ระบำอสรพิษเพลิงที่น่าหวาดหวั่นและก้อนหินนับไม่ถ้วนที่ตกลงมาจากฟ้าปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง รวมทั้งบุรุษชุดเทาที่ยืนอยู่บนมังกรดำ
เขาปรารถนาลึกๆว่าสักวันหนึ่ง...
เขาจะก้าวไปยืนอยู่บนศีรษะของมังกรดำเช่นกันและทำให้ท้องฟ้าสั่นสะเทือน
เดลินโคเวิร์ทลูบเคราสีขาว นัยน์ตาของเขาเป็นประกายพูดว่า “แน่นอนว่าข้าสอนเจ้าได้!ปู่เดลินของเจ้าคือจอมเวทผู้วิเศษระดับเซียนสายธาตุดิน และในบรรดาองค์ประกอบธาตุทั้งหมด ธาตุดินมีความแกร่งกล้ามากที่สุด” ขณะที่เขาอธิบายเกี่ยวกับเวท เดลิน โคเวิร์ทก็เริ่มตื่นเต้น