ตอนที่ 1-16 หายนะ (1)
เป็นที่ชัดแล้วว่า นักดาบในชุดเขียวมีชื่อว่าดิลลอน ส่วนบุรุษชุดเทาชื่อว่ารูดี้
มังกรดำที่บุรุษชุดเทายืนอยู่พ่นเพลิงสีดำครอบคลุมตัวบุรุษชุดเขียวและม้วนเป็นเกลียวเหมือนควัน ทันใดนั้นนัยน์ตาของจอมดาบชุดเขียวเปล่งแสงเรืองรองสีเขียวจากนั้นทั่วทั้งร่างเขามีม่านพลังสีเขียวป้องกันมิให้เปลวเพลิงทำอันตรายเขาได้ ขณะเดียวกันเสียงเช้งของดาบดังลั่นจนได้ยิน
เสียงเช้งนั้นดังและชัดกว่าเสียงมังกรคำรามเสียอีก ครอบคลุมแผ่นฟ้าและผืนดิน
บุรุษชุดเขียวชักดาบยาวออกมาทันใดนั้นปลายดาบที่พร่ามัวพลันยืดยาวเป็นสิบๆเมตรโจมตีใส่บุรุษชุดเทาอย่างเกรี้ยวกราด บุรุษชุดเทาจ้องดูดาบแสงอย่างเยือกเย็น ไม่ขยับแม้แต่น้อย เขาแค่บริกรรมคาถาอย่างต่อเนื่อง
“นี่คือปลายดาบหรือนี่?ปลายดาบมหึมา?” ขณะที่วิ่งไปที่โรงเก็บของ ลินลี่ย์ยังหันศีรษะไปดู “บุรุษชุดเทานั้นป้องกันได้ยังไง? ใช้มังกรดำหรือ?
“โครม!”
มังกรดำไม่ได้ป้องกันเลยแม้แต่น้อยและปล่อยให้ปลายดาบขนาดมหึมากระแทกใส่ร่างของบุรุษชุดเทา ชุดเทาของบุรุษผู้นั้นระเบิดไปทั่วทุกทิศทางทันที แต่หลังจากทำเช่นนั้นแล้วเกราะรบส่องประกายก็ปรากฏขึ้นมา เกราะรบนั้นสว่างจนแสบตา เหมือนกับว่าสร้างจากเพชร
ปลายดาบกระแทกกับเกราะรบและทำอะไรบุรุษชุดเทาไม่ได้แม้แต่น้อย
“เป็นไปได้ยังไง?” ลินลี่ย์กลัวจนโง่งม
เนื่องจากเขาไม่ได้ดูที่ๆ เขากำลังวิ่งไป ทันใดนั้นลินลี่ย์สะดุดหินก้อนหนึ่งล้มกระแทกพื้น แต่แม้จะล้มอยู่กับพื้น ลินลี่ย์ก็ยังคงมองดูการต่อสู้ในท้องฟ้าทิศตะวันออกต่อไป “นั่นเกราะอะไรกัน?มีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งมากได้ยังไง?”
“ลินลี่ย์, เร็วเข้า!เลิกฝันกลางวันได้แล้ว” พอเห็นลินลี่ย์ฮ็อกคำรามอย่างหงุดหงิดอย่างช่วยไม่ได้
“ขอรับ, ท่านพ่อ!” ลินลี่ย์เริ่มลุกขึ้น เขารีบลุกขึ้นทันทีและวิ่งตรงไปที่เรือนเก็บของอีกครั้ง
“ครืน, ครืน..” ทันใดนั้น เสียงที่น่ากลัว สามารถได้ยินจากท้องฟ้า ตามมาด้วยเสียงหวีดหวิวสั่นสะท้านทั่วเมืองอู่ซัน ลินลีย์ไม่สามารถทำอะไรได้ถูกได้แต่หันไปมองดูทางท้องฟ้าทิศตะวันออก การมองครั้งนี้ทำให้เขาต้องตะลึงอีกครั้ง
ทันใดนั้นท้องฟ้าทิศตะวันออกเต็มไปด้วยก้อนหินขนาดยักษ์กำลังลอยอยู่ แต่ละก้อนมีขนาดเท่าบ้านทั้งหลัง
“ควับ ควับ ควับ!”
ก้อนหินขนาดเท่าบ้านทุกก้อนมีประกายแสงสีเหลืองเข้มครอบคลุม ทุกก้อนปลิวผ่านอากาศด้วยความเร็วที่น่าตระหนกพุ่งเข้าใส่บุรุษชุดเขียวเหมือนกับดาวตกหินแต่ละก้อนต้องหนักเป็นสิบล้านปอนด์ แต่ละก้อนหนักและใหญ่เกินกว่าก้อนหินที่ใช้ยิงในสงคราม
แม้แต่กำแพงเมืองก็ไม่สามารถต้านทานก้อนหินที่ทรงพลังอย่างนั้นได้
หินใหญ่ก้อนหนึ่งยังมีพลังมากขนาดนั้น แต่ตอนนี้ มันลอยอยู่เต็มท้องฟ้า,ขณะที่หินนับไม่ถ้วนพุ่งเป็นแนวโค้งเข้าหาบุรุษชุดเขียว ชาวเมืองอู่ซันทุกคนตกตะลึงกับภาพที่เห็น
“โครม!”
ขณะที่หินก้อนแรกพุ่งเข้าใส่บุรุษชุดเขียว แสงสีเขียวขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมตัวเขาก็ขยายขึ้นอย่างรวดเร็วเปลี่ยนเขาให้เป็นดวงอาทิตย์สีเขียวที่ปล่อยรังสีเขียวออกมาทั่วทุกทิศทาง
ก้อนหินนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหาบุรุษชุดเขียว เหมือนหยดน้ำในกลางพายุฝน
ในชั่วพริบตา ดูเหมือนกับว่าเขาถูกก้อนหินล้อมไว้สิ้นเชิง แสงสีเขียวตอนนี้มองเห็นได้โดยผ่านรอยแยกผ่านผนังหินเหล่านั้น
แครก...
เสียงแตกเหมือนอัสนีบาต หินก้อนแล้วก้อนเล่าเริ่มระเบิด ขณะที่ก้อนหินเริ่มแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเพราะพลังปราณยุทธที่ทรงพลังน่ากลัว ก้อนหินทุกก้อนเดิมมีขนาดเท่าบ้านแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กน้อยพุ่งกระจายไปทั่วทุกทิศ
ก้อนหินเหล่านั้นอยู่ในอากาศราวร้อยเมตร เมื่อพุ่งออกมาด้วยปราณยุทธ เศษหินถูกกระแทกออกมาด้วยพลังรุนแรงเป็นระยะทางไกลมาก
“โอว ไม่นะ” ฮ็อกหน้าซีดขาว ฮิลแมนที่ยังอยู่บนถนนเมืองอู่ซันเห็นเหตุเช่นนี้ถึงกับหน้าซีดเผือดเช่นกัน พวกเขาทุกคนเข้าใจได้...
หายนะกำลังมาเยือนเมืองอู่ซัน
ก้อนหินนับไม่ถ้วนตั้งแต่ขนาดสองเมตรเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดตัวคนร่วงลงมาทุกทิศทางไม่มีจังหวะหรือรูปแบบที่แน่นอน ก้อนหินแต่ละก้อนแตกออกเป็นสิบหรือไม่ก็ร้อยชิ้นและบางทีเกือบร้อยละยี่สิบที่หินเหล่านี้พุ่งเข้าใส่เมืองอู่ซัน
“เร็วเข้า, เข้าไปข้างใน เร็ว” ฮ็อกตวาดอย่างเกรี้ยวกราด
ในตอนนี้ ลินลี่ย์ยังคงอยู่ห่างจากโรงเรือนเก็บของหลายสิบเมตร พอได้ยินเสียงบิดาโกรธ ลินลี่ย์เลิกสนใจอะไรอื่นและวิ่งตรงไปที่โรงเก็บของเร็วจี๋ ขณะที่เขาวิ่งอยู่นั้นเสียงดังครืนครันครั้งแล้วครั้งเล่า เริ่มมีเสียงก้อนหินร่วงลงมาที่เมืองอู่ซันนับไม่ถ้วน
เหมือนกับเกิดแผ่นดินไหว เป็นภาพหายนะแน่นอน
“วืดดดด!” หินก้อนหนึ่งหนักหลายร้อยปอนด์พุ่งผ่านลินลี่ย์ไปและกระแทกพื้นในที่ไม่ห่างจากเขานักเกิดหลุมยุบขนาดใหญ่ ลินลี่ย์รู้สึกถึงความเย็นที่แล่นไปตามสันหลังของเขา แค่วิถีของหินเบี่ยงเบนเพียงเล็กน้อยชีวิตน้อยๆของเขาคงจะจบสิ้น
“โครม! โครม! โครม! โครม!”
เสียงก้อนหินกระแทกทำลายบ้านสามารถได้ยินได้ เสียงหินกระแทกพื้นเสียงหินบดทำลายไม้และเสียงผู้คนร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด เสียงเหล่านั้นผสมปนเปไม่หยุดยั้งเหมือนบทบรรเลงหายนะ
“วืดดด!” หินก้อนมหึมากระแทกเข้าที่พื้นข้างหน้าลินลี่ย์ทำให้เขาต้องกระโดดถอยหลังอย่างรวดเร็ว
แต่ถ้าเขามัวแต่กระโดดหลบอย่างนี้ แล้วเขาจะไปซ่อนในโรงเก็บของได้ยังไง?
“คุณชายลินลี่ย์เร็วเข้า!” บุรุษคนหนึ่งพุ่งออกมาจากในโรงเก็บของ เป็นลุงแอชลี่ย์ผู้ดูแลบ้านของเขานั่นเอง ร่างของเขามีปราณยุทธสีแดงครอบคลุม กำลังวิ่งตรงมาหาลินลี่ย์
“พี่..เร็วๆ ด้วย”
ที่ประตูโรงเก็บของ วอร์ตันวัยสี่ขวบกำลังยืนตะโกนเรียกมาทางลินลี่ย์
“วอร์ตัน, เข้าไปข้างในเดี๋ยวนี้” ลินลี่ย์ตะโกนกลับด้วยความโกรธ
“วืดดด!” ก้อนหินมหึมาเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบสองเมตรพุ่งวาบมาแต่ไกลตรงมาที่โรงเก็บของ ทันใดนั้นลินลี่ย์ตระหนักได้ทันทีว่าเมื่อก้อนหินขนาดมหึมานี้พุ่งชนโรงเก็บของวอร์ตันจะต้องบาดเจ็บหนักหรืออาจถึงตายได้
“เร็วเข้า, วอร์ตัน เข้าไปข้างใน”นัยน์ตาลินลี่ย์เบิกกว้างจนเห็นเส้นเลือดและเขาร้องลั่นอย่างฉุนเฉียวขณะวิ่งตรงไปที่โรงเก็บของโดยเร็วที่สุด
เขาไม่สนใจพายุหินที่ตกกระหน่ำ ไม่พยายามแม้แต่จะหลบ เขาวิ่งตรงไปที่โรงเก็บของเป็นแนวตรงอย่างเดียว
แอชลี่ย์กำลังเผชิญหน้าลินลี่ย์และไม่อาจเห็นหินก้อนมหึมากำลังพุ่งมาที่โรงเก็บของ แต่ลินลี่ย์เห็นทุกอย่างชัดเจน เมื่อหินพุ่งลงมาบดกระแทกห้องหนูน้อยวอร์ตันจะรอดชีวิตได้ยังไง?
“คุณชายลินลี่ย์?” พอเห็นท่าทางลินลี่ย์ แอชลี่ย์ตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก
หินมากกว่าสามก้อนพุ่งกระแทกเฉียดลินลี่ย์ แต่ลินลี่ย์เคลื่อนไหวเหมือนเสือดำยังคงพุ่งไปข้างหน้า สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่หนูน้อยวอร์ตันในที่สุดเขาก็เข้าไปในโรงเก็บของ แอชลี่ย์หันไปดูรอบๆ ตอนนี้ถึงได้รู้ว่าก้อนหินขนาดสองเมตรกำลังพุ่งลงมาที่โรงเก็บของ หน้าของเขาซีดเผือดทันที
“หมอบลง!” ลินลี่ย์คำรามลั่น หน้าตาดุร้าย
วอร์ตันไม่เคยเห็นพี่ชายโกรธขนาดนั้นมาก่อนและกลัวจัดรีบหมอบลงกับพื้นทันที น้ำตานองหน้า เขามองดูลินลี่ย์และบ่นพึมพำ “พี่...” แต่ด้วยการกระโดดเข้ามากอด ทำให้เขากระแทกวอร์ตันและใช้ร่างตนเองบังวอร์ตันไว้
แทบจะในทันที
“โครม!”
เสียงก้อนหินกระแทกเข้ากับโรงเก็บของ ก้อนหินขนาดมหึมานั้นกระแทกใส่หลังคาโรงเก็บของด้วยเสียงที่น่ากลัว แม้ว่าหลังคาศิลาของโรงเก็บของจะมีความทนทาน แต่เมื่อโดนก้อนหินขนาดใหญ่กระแทกใส่ก็ยังแตกเป็นเสี่ยง แม้แต่พื้นโรงเรือนเก็บของก็ยังแตกร้าวจากแรงสั่นสะเทือนของแรงปะทะ
“คุณชาย” นัยน์ตาของพ่อบ้านแอชลี่ย์แดงฉานทันที ปราณยุทธในร่างกายระเบิดออก และเขาพุ่งเข้าหาเด็กๆเหมือนกับลำแสงสีแดง และใช้ปราณคุ้มครองกายกันเด็กๆ ไว้นอกจากนี้เขายังใช้มือผลักเศษศิลาที่กำลังร่วงใส่ร่างของลินลี่ย์ แอชลี่ย์และเพดานห้องยุบลงมาใส่ลินลี่ย์แทบจะพร้อมกัน
“ครืน..โครม”
ในชั่วพริบตา วอร์ตัน,ลินลี่ย์และแอชลี่ย์ก็ติดในซากปรักพังที่ทับลงมา
ฮ็อกอยู่ในลานบ้านควงดาบมหึมาคอยปัดก้อนหินลูกแล้วลูกเล่าแต่เมื่อเขาหันศีรษะมาทางลินลี่ย์ เขาเห็นลินลี่ย์ทุ่มเททุกอย่างเพื่อปกป้องวอร์ตันจากนั้นพ่อบ้านแอชลี่ย์จึงเหินไปหาพวกเขาทั้งสอง หัวใจของเขาถึงกับว่างเปล่า
โรงเรือนเก็บของพังถล่มและยุบลงมา
“ลินลี่ย์!” นัยน์ตาฮ็อกกลายเป็นสีแดง
ตอนนี้ไม่มีทางที่ฮ็อกจะบอกได้ว่าแอชลี่ย์ป้องกันลินลี่ย์ได้ทันเวลาหรือว่าก้อนหินที่ร่วงลงมากระแทกใส่ลินลี่ย์ก่อน