Ep.436 - คำสั่งของผู้ครองแคว้น

1/3

Ep.436 - คำสั่งของผู้ครองแคว้น

ฮังอวี่เปิดใช้งานปลดปล่อยสัจธรรม ลดคูลดาวน์สกิลทั้งหมดที่เคยใช้มา 20 วินาที จากนั้นเปิดใช้งานสกิลบลิงค์ เทเลพอร์ตออกไปหลายสิบเมตร ตั้งใจเว้นระยะห่างชั่วคราว

ฉูเทียนหัวฟาดฟันปราณกระบี่หลายสายไล่ตามฮังอวี่ไปอย่างรวดเร็ว ปราณกระบี่เข้าพัวพัน กลายเป็นตาข่ายปราณกระบี่ ก่อรูปเป็นกรงทรงกลมกักขังสิ่งที่อยู่ข้างใน

สกิลขั้น 3 : ปราณกระบี่จองจำ!

ปราณสงครามของฮังอวี่ยังต้องใช้เวลาอีกสองสามวินาทีในการคูลดาวน์

เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหยุดอยู่ข้างใน

ดาบอสูรแผดเผาทั้งสองเล่มสะบั้นไปรอบๆอย่างบ้าคลั่ง หยุดยั้งปราณกระบี่ที่ขยับใกล้เข้ามา ดั่งแก้วแตกเป็นเสี่ยงๆ ปราณกระบี่นับไม่ถ้วนพังทลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย ถูกทำลายอย่างไร้ปราณี

“ปราณสงครามพุ่งจู่โจม!”

ฉูเทียนหัวที่ปกคลุมไปด้วยปราณสงครามพุ่งเข้ากระแทกอย่างแรง

ฮังอวี่เอี้ยวตัวหลบไปด้านข้างพยายามหลบหลีก อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังถูกกระแทกอย่างแรง ถอยออกไปหลายเมตร ในเวลาเดียวกัน กายาเกราะส่วนใหญ่ที่ปกคลุมรอบตัวเขาถูกปัดเป่าออกไป

เฉือนพริบตาต่อเนื่อง!

ขวานรบที่ทั้งหนักและใหญ่โต

ขวานยาวสองมือของฉูเทียนหัวคล่องแคล่วดั่งผีเสื้อ 7 8 คมขวานกระจายออกเป็นดอกไม้บาน ฟาดฟันร่างของฮังอวี่จากทุกทิศทาง เห็นได้ชัดว่าแต่ละสายนั้นเร็วมากจนยากจะแยกแยะด้วยตาเปล่า

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นสกิลการโจมตีในฉับพลันที่เกิดจากสกิลขั้น 3

เห็นแบบนี้ ฮังอวี่ล้มเลิกความคิดที่จะล่าถอย เปิดใช้งานเนตรแห่งเงาเพิ่มพลังในการมองเห็น และหลบการโจมตีจากหลากหลายทิศทางได้อย่างง่ายดาย ขณะเดียวกันดาบสองเล่มที่สลักลวดลายของเปลวเพลิงสีดำถูกกวัดแกว่งออกไปด้วยความเร็วอันน่าตกใจ ระเบิดภาพติดตาหลายสาย เข้าตอบโต้เฉือนพริบตาต่อเนื่องอย่างทันท่วงที

ฮังอวี่ตอบโต้ด้วยสกิลเคลื่อนเงาปะทะคลั่ง!

เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง!

ทั้งสองแลกอาวุธกันด้วยความเร็วสุดขีด

จุดปะทะกันเกิดประกายแปลบปลาบเป็นสะเก็ดไฟบานสะพรั่ง พร้อมสียงโลหะหนักทึบ

ความเร็วในการเฉือนพริบตาต่อเนื่องของฉูเทียนหัวนั้นไม่ด้อยไปกว่าเคลื่อนเงาปะทะคลั่ง

กระนั้นค่าคุณสมบัติของฉูเทียนหัวห่างชั้นกับฮังอวี่มากเกินไป นอกจากนี้ฉูเทียนหัวยังถืออาวุธเพียงชิ้นเดียว ขณะที่ฮังอวี่มีควงอาวุธคู่โจมตีได้ทั้งซ้ายและขวา ดังนั้นผลลัพธ์ของการแลกอาวุธกันในครั้งนี้จึงชัดเจน

ในทุกๆสองหรือสามการฟาดฟัน ฮังอวี่สามารถสบโอกาสใช้ช่องว่างฟันลงบนร่างของฉูเทียนหัว

ดาบอสูรแผดเผาฟันลงบนชุดเซ็ทโบราณสงครามศักดิ์สิทธิ์โดยตรง ทิ้งรอยดาบที่ลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิง

นี่คือเอฟเฟกต์ที่เกิดจากดาบอสูรแผดเผา

ทุกการโจมตีจะมาพร้อมกับคำสาปเผาไหม้ ไฟที่เกิดจากมันไม่เพียงดับไม่ได้เท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนหนอนไชกระดูก ยับยั้งการฟื้นฟูพลังชีวิตของฉูเทียนหัว ในเวลาเดียวกันเผาผลาญพลังชีวิตของเขาอย่างต่อเนื่อง

หลังจากผ่านไป 20 - 30 กระบวนท่า ทั้งร่างของฉูเทียนหัวก็ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟ

หากอยู่ในสถานการณ์ปกติ ด้วยการซ้อนทับของคำสาปเผาไหม้พวกนี้แค่อย่างเดียว เรียกได้เลยว่าลดเลือดฉูเทียนหัวไปแล้วครึ่งหนึ่ง

แต่สุดท้ายจำนวนการซ้อนทับของคำสาปแผดเผานั้นจำกัดครั้ง เมื่อหมดเวลาก็จางหายไป ด้วยความเร็วในการฟื้นฟูพลังชีวิตของฉูเทียนหัว ทำให้แม้บาดเจ็บ แต่เลือดของเขาไม่ลดต่ำลงมากไปกว่านี้

ในทางตรงกันข้าม ระหว่างการแลกอาวุธ พลังชีวิตของฮังอวี่ค่อยๆลดทอนลงทีละน้อย บวกกับสถานะการเปลี่ยนร่างของปลุกเลือดปีศาจ ทำให้ค่าพลังชีวิตของเขา ไม่นานก็ลดน้อยลงเหลือไม่ถึงหนึ่งในสี่

ยังมีความหวัง!

จ้าวหมิงตรงเข้าสู้ฮังอวี่ เจียงหนานคอยสนับสนุน หนึ่งรับหน้าที่รักษา อีกสองรับหน้าที่แลกอาวุธกันไปมานับหลายสิบรอบ

ถึงจุดนี้ สมาชิกทีมที่เหลือทั้งสามรู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าค่าพลังจิตของฮังอวี่ในตอนนี้อยู่ในสถานะเบิกใช้งานจากสกิล ขณะเดียวกันพลังชีวิตลดทอนลงเหลือเพียงหนึ่งในห้า

อย่างไรก็ตาม การตกอยู่ในสถานะนี้ไม่ใช่ข้อเสียเพียงอย่างเดียว เพราะในเวลาเดียวกันมันช่วยให้ค่าคุณสมบัติทั้งหมดของฮังอวี่เพิ่มขึ้นมากกว่า 75%! และยิ่งนานยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ทุกการโจมตีจึงเหมือนกับการลุ้นระทึก!

ฮังอวี่คิดในใจว่าควรค่าแก่เวลาแล้ว ถึงคราวยุติการต่อสู้นี้เสียที ตัดสินใจเบิกค่าพลังจิตที่ยังสามารถเบิกได้ สูญเสียพลังชีวิตไปอีกครั้ง

ปราณกระบี่ที่เสมือนดั่งมัจฉาแหวกว่ายในอากาศ เวลานี้ในที่สุดก็ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างสมบูรณ์

จ้าวหมิงกล่าว “เหล่าฉู ระวัง เขากำลังจะปลดปล่อยค่ายกลกระบี่!”

จริงดังคาด

วินาทีถัดมา กระบี่สีเงินหลายสิบเล่มทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าในจังหวะเดียวกัน จากนั้นเสมือนดั่งเม็ดฝน โถมกระหน่ำทับร่างของฉูและจ้าว ปกคลุมพวกเขาไว้ทั้งๆอย่างนั้น

ค่ายกลกระบี่ล่าแสงและเงา ถูกเปิดใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ!

อย่างไรก็ตาม ฉูเทียนหัว จ้าวหมิงเตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้ว

ขณะที่ค่ายกลกระบี่ปะทุ ทั้งคู่ปลดปล่อยปราณสงครามออกมาพร้อมกัน พลังงานทั้งสองสายกระจายเป็นวงกว้าง ครอบคลุมทั่วบริเวณในรัศมี 10 ฟุต

ปราณกระบี่จำนวนมหาศาลที่กระหน่ำเข้ามา ถูกปัดเป่าแหลกสลายไปทันที

ยังไงก็ตาม ฮังอวี่ไม่ได้สั่งการให้พวกมันทั้งหมดโจมตีในลมหายใจเดียว เขาขยายค่ายกลกระบี่ ยืดเวลาให้มันสามารถคงอยู่ได้เป็นเวลาสิบวินาที

ขณะที่ปราณสงครามตามปกติแล้วจะแสดงผลแค่ราวๆ 1 2 วินาทีเท่านั้น เมื่อปราณสงครามสลาย ฉูและจ้าวก็ทานรับการโจมตีที่เหลือ ทุกวินาทีถูกทำดาเมจอย่างบ้าคลั่ง

ค่ายกลล่าแสงและเงาของฮังอวี่ได้รับการอัพเลเวล 3 แล้ว พลังทำลายล้างของมันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ทุกๆ วินาทีมันสามารถสร้างดาเมจให้แก่ฉูเทียนหัวได้เกือบ 200 หน่วย นอกจากนี้ยังสามารถสร้างดาเมจให้แก่จ้าวหมิงได้มากกว่า 100 หน่วย ซึ่งฝ่ายหลังเกือบจะเกินขอบเขตการรักษาจากสกิลเขตแดนรักษาของเจียงหนาน ส่วนฝ่ายแรกเกินขอบเขตรักษาไปแล้ว

พลังชีวิตของฉูเทียนหัวค่อยๆลดลงด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ฉูเทียนหัวถูกตรึงอยู่ในค่ายกลกระบี่ไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้

ไม่ใช่ว่าเขาไม่พยายาม แต่ทดลองแล้วก็ยังไม่ประสบผล

สีหน้าของเขาค่อยๆแปรเปลี่ยนไป

อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้นเองสกิลรักษาทรงประสิทธิภาพได้ถูกร่ายใส่เขา เติมพลังชีวิตที่ลดลงเหลือ 50% อย่างรวดเร็ว ฟื้นตัวกลับมาเป็น 90% ทันที!

ปรากฏว่าแม้ตกอยู่ในสถานการณ์นี้ เจียงหนานก็ยังสามารถยกมือของเธอ เปิดใช้งานสกิลได้ หากเป็นแบบนี้ต่อไป ต่อให้ค่ายกลกระบี่ทรงพลัง ยังไงก็ไม่สามารถฆ่าเขา!

พลังชีวิตของฮังอวี่กำลังจะหมดลง หากพวกเขาสามารถฝ่าด่านี้ไปได้ เกรงว่าสิ่งที่รออยู่คือชัยชนะ!

ร่างของฮังอวี่เต็มไปด้วยละอองเลือดหนาแน่น ถูกเผาไหม้อย่างรุนแรง แผ่กลิ่นอายทำลายล้างออกมาไม่จบไม่สิ้น และทั้งหมดหลั่งไหลมารวมกันที่สองมือ ประกอบเป็นพลังอันน่าสะพรึง อากาศบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง

สกิลขั้น 4 - โทสะปีศาจคลั่ง!

ฮังอวี่ยกสองมือขึ้นไขว้กัน ใบดาบทั้งสองด้ามสีแดงฉาน ก้าวออกไปข้างหน้า นี่อาจดูเหมือนเป็นแค่การโจมตีปกติ แต่แท้จริงแล้วมันคือการฟาดฟันที่อัดแน่นไปด้วยความเดือดดาล!

ปราณดาบสีแดงฉานซ้อนทับกันเป็นสิบเมตร และสุดท้ายก่อรูปเป็นดาบไขว้ ฟันลงบนร่างของจ้าวหมิงและฉูเทียนหัวในพริบตา

-901!

ฉูเทียนหัวถูกฆ่าตายทันที!

-582!

แม้จ้าวหมิงจะไม่ตายในทีเดียว แต่เกราะเหล็กศักดิ์สิทธิ์บนตัวจ้าวหมิงพังทลายในพริบตา

ช่างเป็นอำนาจอันน่าสะพรึงเสียนี่กระไร!

นี่คือสกิลขั้น 4? เป็นสกิลขั้น 4 อีกแล้วใช่ไหม?

ไม่ทันได้เติมเลือดเลย ฉูเทียนหัวก็ตายซะแล้ว!

จ้าวหมิงเห็นผลลัพธ์ของการต่อสู้แล้ว

ฉูเทียนหัวคือกำลังรบหลัก

ขณะที่จ้าวหมิงแม้มีพลังป้องกันสูง แต่ความสามารถในการโจมตีอ่อนแอเกินไป อีกทั้งยังไม่สามารถไล่ตามความเร็วของฮังอวี่ทัน จากนี้ไปคงได้แต่ตกอยู่ในสถานะถูกเฆี่ยนตี

ฮังอวี่อาศัยความสามารถในการดูดเลือด ดึงพลังชีวิตที่สูญเสียไปในการต่อสู้กลับมาได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีผู้รักษาอยู่เบื้องหลังจ้าวหมิง แต่ก็ไม่มีทางเอาชนะฮังอวี่ได้!

จริงดังคาด

ภายใต้การโหมกระหน่ำอย่างดุร้ายของฮังอวี่ เขากำจัดจ้าวหมิงก่อน โจมตีอีกฝ่าย 40 50 กระบวนท่าจนตาย

“ฉันแพ้แล้ว”

เมื่อจ้าวหมิงล้มลง

ค่ายกลโล่ที่อยู่รอบกายเจียงหนานก็หายไปเช่นกัน

ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ

นี่น่ะหรือพลังของพี่มหาเทพ?

ตอนนี้บนสังเวียนในทีมเหลือเธอเพียงผู้เดียว

การต่อสู้ได้สิ้นสุดลงแล้ว

‘ถึงเวลายอมแพ้แล้วสินะ?’

แต่เมื่อเกิดความคิดนี้ เธอก็สลัดมันทิ้งไป

ทุกคนพยายามกันอย่างเต็มที่ แต่เธอยังแสดงฝีมือไม่เต็มที่เลย แล้วจะยอมแพ้ได้ยังไง? ต่อให้อีกฝ่ายคือเทพสงครามที่คงกระพัน เธอก็จะไม่มีวันล่าถอย

ไม่อย่างงั้นคงเป็นได้แค่คนขี้ขลาดที่ต้องรอคอยการปกป้องจากพี่มหาเทพตลอดไป!

ฮังอวี่เห็นเจียงหนานที่หน้าแดงก่ำแต่ยังไม่ยอมวางอาวุธลง เขาเกิดรอยยิ้มบาง

นักศึกษาเจียง ฉันขอยอมรับในความกล้าของเธอ!

เขาเปิดใช้งานชุบโลหิต ฟาดฟันออกไปแปดครั้ง เจียงหนานล้มลงตามคนอื่นๆ

การต่อสู้จบลงแล้ว!

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฉันชนะเดิมพัน!”

“บอสฮังไร้เทียมทานจริงๆ”

“ฉันบอกนายแล้วว่าให้เลือกข้างบอสฮัง!”

ฮังอวี่ได้รับชัยชนะในการต่อสู้แบบ 1 VS 5

ผู้ชมโห่ร้องยินดี

กระทั่งคนที่เสียเงินเดิมพัน ก็ยังต้องยอมรับ ว่ามันเป็นการต่อสุ้ที่ยอดเยี่ยมมาก

ห้านักสู้ระดับสูงแห่งมังกรคราม ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฮังอวี่ ผลลัพธ์นี้ทำให้ผู้คนตกตะลึง!

แต่ไม่มีใครคิดก่นด่าพวกเขา นั่นเพราะทั้งห้าพยายามเต็มที่แล้ว!

ถึงจะพ่ายแพ้แต่ก็น่าชื่นชม!

การต่อสู้ของฮังอวี่เคยถูกโพสต์ลงในเน็ตหลายครั้ง แต่ทุกครั้งที่ผ่านมาล้วนแล้วแต่อยู่ในสนามรบ ดังนั้นในวิดีโอเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย เป็นการยากที่จะวิเคราะห์และสังเกตุหาจุดอ่อนจุดแข็ง

ขณะที่การต่อสู้บนสังเวียน ทุกวินาทีคมจัดดและชัดเจน มีช่างภาพนับสิบคน ถ่ายจากสิบมุม บันทึกทุกการต่อสู้แบบไม่มีจุดอับ

เชื่อได้เลยว่าตราบใดที่มันถูกตัดต่อและเผยแพร่ออกไป มันจะสร้างความฮือฮาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!

“เป็นการต่อสู้ที่ดี!” ฮังอวี่พูดกับทั้งห้าคนหลังลงจากสังเวียน “ครั้งนี้สาเหตุที่ทุกคนพ่ายแพ้ หลักๆเป็นเพราะยังไม่มีข้อมูลสกิลใหม่ของผม”

ฉูเทียนหัวส่ายหัว “แพ้ก็คือแพ้ ไม่จำเป็นต้องอ้างเหตุผลใดๆ”

จ้าวหมิงหัวเราะ “ฮ่า ฮ่า แพ้ให้นาย ไม่น่าอายเลยสักนิด!”

เจียงหนานรีบพูด “ใช่ ใช่”

ฮังอวี่กำลังจะชวนทุกคนดื่มกินกัน แต่ในตอนนั้นเอง มีคนวิ่งเข้ามาด้วยความตื่นตระหนก

“บอสฮัง แย่แล้ว! ผู้ครองแคว้นส่งทูตมาหาพวกเรา! เขาบอกว่าปีศาจผู้ยิ่งใหญ่จะถือกำเนิดในทุกๆ 60 ปี และเวลานี้มันจะฟื้นคืนชีพอีกครั้งในแคว้นเดียวดาย พวกเขาต้องการให้ขุนนางใหญ่ทั้งหมดในแคว้นส่งกองกำลังไปสู้กับมัน และครั้งนี้เมืองธารทะเลทรายต้องเข้าร่วมด้วย!”