บทที่ 88 คะแนนประทับใจท่วมท้น
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนลู่จื่อรั่วก็ลืมตาขึ้นและเห็นว่าฉินหรงกำลังโค้งคำนับซุนม่อ ด้วยความซาบซึ้ง
“ข้าช่วยแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นเจ้าประสบความสำเร็จได้เพราะเจ้ามีพรสวรรค์จริงๆ”
ซุนม่อกล่าวชมเชย
รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาที่มีความอบอุ่นราวกับแสงอาทิตย์นั้นเต็มไปด้วยความเป็นกันเองเข้าถึงได้ง่ายทำให้ผู้คนรู้สึกอบอุ่นในใจ
เมื่อได้ยินคำพูดนี้นักเรียนตกหลุมรักซุนม่อทันที
นักเรียนหญิงคนนี้ชื่อฉินหรงสามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตแห่งการกลั่นวิญญาณได้เพราะกำลังใจของซุนม่อ เป็นเพราะผลกระทบอันทรงพลังของ'คำแนะนำล้ำค่า' ของเขาแต่เขาไม่ได้อ้างสิทธิ์ในความดีความชอบสำหรับตัวเขาเอง แต่เขากลับยกย่องว่าเป็นความสามารถของฉินหรง
การให้กำลังใจดังกล่าวอาจทำให้ความมั่นใจของฉินหรงเพิ่มขึ้นอย่างมาก
"ขอขอบคุณ!"
ฉินหรงแทบสำลักอารมณ์ขณะที่นางนึกถึงประสบการณ์ของนางในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา
ทุกครั้งหลังจากฝ่าฟันยกระดับไม่ได้แต่ละครั้ง อารมณ์ความตื่นตระหนกความสูญเสีย ความกลัว และความลังเลสงสัยในตนเองจะเพิ่มขึ้นและจะเป็นเหมือนก้อนเมฆที่ลอยอยู่เหนือศีรษะไม่ยอมสลายไปตลอดทั้งวัน
ฉินหรงต้องการหาคนคุยด้วยจริงๆ!
ตอนนี้เมฆดำทะมึนหายไปแล้ว
เมื่อมองไปที่ใบหน้าคมสันของซุนม่อและวิธีที่เขามองตัวนางเองด้วยสายตาที่ชื่นชมในพรสวรรค์ฉินหรงรู้สึกภูมิใจและละอายใจในเวลาเดียวกัน
“อาจารย์ซุน ขอบคุณ!”
ฉินหรงเช็ดน้ำตาของนางและคำนับอีกครั้งจากนั้นนางก็หันไปหาเฝิงเจ๋อเหวินและคุกเข่าลงทันที
“อาจารย์ ข้าขอโทษ!”
“เอ๊ะ? นางขอโทษทำไม”
นักเรียนจำนวนมากไม่เข้าใจ
อย่างไรก็ตามครูหลายคนแสดงความอิจฉาออกมา เฝิงเจ๋อเหวินได้นักเรียนที่ดีจริงๆ!
ฉินหรงขอโทษเพราะนางได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตแห่งการกลั่นวิญญาณภายใต้รัศมีมหาคุรุของซุนม่อต่อหน้าเฝิงเจ๋อเหวินนี่ถือเป็นความอัปยศอย่างมาก
ในฐานะที่เป็นลูกศิษย์นางต้องไม่ปล่อยให้อาจารย์ของนางถูกทำให้อับอาย ดังนั้น ฉินหรงจึงคุกเข่าขอโทษ
"ลุกขึ้น!"
เฝิงเจ๋อเหวินช่วยประคองฉินหรงขึ้นตบไหล่ของนางและพูดด้วยท่าทางละอายใจว่า
"เป็นข้าที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเจ้ามากพอหากข้ารู้ปัญหานี้ก่อนหน้านี้ เจ้าคงได้เข้าสู่ขอบเขตการกลั่นวิญญาณตั้งแต่ 3เดือนที่แล้ว”
"อาจารย์!"
ฉินหรงปิดปากของนางด้วยความตกใจนางไม่คาดคิดมาก่อนว่าอาจารย์เฝิงที่เข้มงวดมาตลอดจะพูดคำเหล่านี้
“อาจารย์ซุน! ข้าแพ้แล้ว!”
เฝิงเจ๋อเหวินมองไปทางซุนม่อ
"ขอบคุณ!"
โอว!
เมื่อได้ยินคำประกาศของเฝิงเจ๋อเหวินผู้ชมทั้งหมดก็ตกตะลึง โดยเฉพาะครูฝึกสอนเหล่านั้น ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่เชื่อถือในทันที
ต้องรู้ว่าเฝิงเจ๋อเหวินเป็นมหาคุรุระดับ1 ดาวแล้ว ซุนม่อ ล่ะ? เขาเพิ่งได้รับการจ้างงานเมื่อเร็วๆนี้ และนี่เป็นเพียงการบรรยายทั่วไปครั้งแรกของเขา
เขาทำให้มหาคุรุยอมรับความพ่ายแพ้ในที่ทั่วไปเช่นนี้อย่างไม่คาดคิดนี่เป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมจริงๆ หากเรื่องนี้กระจายออกไปเขาสามารถอวดเรื่องนี้ได้หลายปี
นี่เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดสำหรับซุนม่อเขาคิดว่าเขาจะต้องรับการโจมตีที่ดุร้ายกว่าและบ้าคลั่งจากเฝิงเจ๋อเหวินแต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าเฝิงเจ๋อเหวินจะยอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดี เขาช่างมีจิตใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อะไรเช่นนี้!
ทันใดนั้น ซุนม่อก็ไม่ได้เกลียดเฝิงเจ๋อเหวินอีกต่อไปนอกจากนี้ การเตรียมการก่อนหน้าของเขาเพื่อใช้ 'ประทับครรภ์เอ๊ย ประทับวิญญาณ' ก็ไม่มีประโยชน์ในตอนนี้
นั่นเป็นสิ่งที่ดีมากเขาสามารถปล่อยมันไว้จนกว่าจะถึงคราวหน้าและใช้เต็มกำลัง
“ข้าเพิ่งจะทำแต่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น”
ซุนม่อเข้าใจดีว่ายิ่งเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมากเท่าไรเขาก็ยิ่งต้องเจียมเนื้อเจียมตัวมากขึ้นเท่านั้น
“อาจารย์ซุน! ข้าขอแสดงความยินดีกับเจ้าล่วงหน้าสำหรับความสำเร็จในอนาคตของเจ้า พวกเจ้าสองสามคนไปกันเถอะ”
เฝิงเจ๋อเหวินพูดจบและเรียกให้นักเรียนออกจากห้องเรียนไปด้วยอย่างไรก็ตาม ขณะที่เขากำลังก้าวออกจากประตู เขาเสริมว่า
“ข้าจะชดใช้หนี้พนันเพราะข้าแพ้เดิมพันข้าจะส่งเหล้าองุ่นของแคว้นเหลียง 3 ถังไปที่สำนักงานของเจ้าในภายหลัง”
เฝิงเจ๋อเหวินออกไปและห้องบรรยายซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนมากกว่าสามร้อยคนก็เงียบลง
ทุกสายตาจับจ้องไปที่ซุนม่อครูคนใหม่ที่ทำให้มหาคุรุระดับ 1 ดาวยอมรับความพ่ายแพ้
“ทำไมถึงไม่ใช่ข้าที่ยืนอยู่ตรงนั้น”
ครูฝึกงานหลายคนมองไปที่ซุนม่อและพัฒนาความคิดนี้พวกเขาอิจฉาเขามาก แต่หลังจากนั้นไม่นานความรู้สึกดังกล่าวกลับกลายเป็นความผิดหวังและความต่ำต้อยแม้ว่าพวกเขาจะยืนอยู่บนจุดนั้นได้ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะไปถึงระดับของซุนม่อ
เขาไม่ใช่ไอ้หนุ่มข้าวนุ่มเขาเต็มไปด้วยพรสวรรค์อย่างแท้จริง
“ข้าเคยพูดไปแล้วสำหรับผู้หญิงอย่างอาจารย์ใหญ่อันซินฮุ่ย นางจะชอบคนโง่เง่าปัญญาอ่อนได้อย่างไร?”
หลู่ตี๋หัวเราะเยาะตัวเองน่าเสียดายในฐานะเพื่อนร่วมห้องของซุนม่อเขามีโอกาสมากมายที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับเขาขึ้น แต่หลู่ตี๋ไม่เคยใช้ประโยชน์จากพวกเขา
เฮ้อ! เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ยังมีเวลาชดเชยหรือไม่?
แปะ!
แปะ แปะ!
กราวววววววว!
เสียงปรบมือเริ่มก้องกังวานและดังกระจายไป ปรบมืออย่างหลงใหล และดังขึ้นก้องไปทั่วทั้งห้องเรียนในทันที
…
ที่ห้องบรรยายทั่วไปของเกาเปิน
"เกิดอะไรขึ้น?เมื่อครู่นี้พลังปราณวิญญาณที่ผันผวนและตอนนี้ก็มีเสียงปรบมือดังมาก!”
“ช่างเป็นความโกลาหลอึกทึกครั้งใหญ่นี้จะไม่ทำข้าต้องไปดู”
“เราจะไปด้วย!พวกเราจะไปด้วย!”
นักเรียนไม่สามารถนั่งต่อไปได้อีกต่อไปพวกเขาเริ่มงอหลังส่วนล่างและแอบออกจากประตูหลังห้องเรียน
เมื่อเกาเปินเขียนกระดานดำเสร็จและหันหน้ากลับมาเขาก็ตกตะลึงในทันที
ทั้งห้องเรียนเหลือนักเรียนเพียง4 คน และพวกเขาทั้งหมดเป็นนักเรียนส่วนตัวของเขา
เนื่องจากความผันผวนอย่างรุนแรงของพลังปราณวิญญาณนักเรียนจำนวนมากจึงออกจากชั้นเรียนของเขาและเหลือไม่มากนัก อย่างไรก็ตามหลังจากเสียงปรบมือดังขึ้น นักเรียนที่เหลือก็หายไปเช่นกัน
“แม่ง..เอ๊ย!”
เกาเปินรู้ว่าเขาต้องรักษาบุคลิกท่าทางของครูและไม่ควรโกรธแต่เขาทนไม่ไหว
พังยับป่นปี้ไปหมดแล้ว!
การบรรยายทั่วไปครั้งแรกของเขาถูกทำลายยับเยิน!
“เกิดอะไรขึ้นข้างนอก?สภาพแวดล้อมในชั้นเรียนในสถาบันจงโจว แย่มากขนาดนี้ได้อย่างไร?”
เกาเปินบ่นและรู้สึกเสียใจที่เลือกมาสถาบันนี้ในทันใด
นักเรียนทั้ง 4คนมองหน้ากันอย่างตกใจ
ในที่สุดนักเรียนชายคนหนึ่งถามอย่างกล้าหาญว่า
“อาจารย์ดูเหมือนว่าจะมีสถานการณ์ภายนอกเกิดขึ้น ทำไมเราไม่ไปดูล่ะ? บางทีเราอาจช่วยได้!”
“เจ้าแค่อยากไปในที่ที่มีคนเยอะๆใช่ไหม?”
เกาเปินพูดถึงความตั้งใจของนักเรียนชาย
“เรียนต่อไป!”
แม้ว่าเขาจะพูดแบบนี้เกาเปินก็แค่แสดงท่าทางฉุนเฉียว จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและไม่เต็มใจดังนั้นความคิดของเขาสำหรับบทเรียนถูกตัดขาดไปนานแล้ว
เขาเพิ่งเริ่มก้าวแรกในอาชีพครู ข้อเท้าก็แพลงเสียแล้ว อะไรวะ! เดี๋ยวก่อนเขามีศิษย์ส่วนตัว 5 คนไม่ใช่หรือ?
เกาเปินเงยหน้าขึ้นและมองผ่านห้องเรียนเขาตระหนักว่ามีเพียง 4 คนเท่านั้น
“ไอ้บ้าฟู่เชาไปไหน”
เกาเปินทนไม่ไหวแล้วและระเบิดอารมณ์ออกมา(ข้าเป็นครูของเจ้า เจ้าจะไม่ฟังบทเรียนของข้าได้อย่างไร ข้าจะถลกหนังของเจ้าในภายหลัง!)
…
เสียงปรบมือเป็นเวลานานโดยไม่ขาดสาย
ในเวลานี้นักเรียนจำนวนมากได้รวมตัวกันนอกหอบรรยายของซุนม่อเพื่อดูที่เกิดเหตุความก้าวหน้าที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของนักเรียน 2 คนทำให้เกิดการปะทุของปราณจิตวิญญาณที่ผันผวนสองครั้งดึงดูดผู้ชมจำนวนมาก
นักเรียนบางคนถามและหลังจากที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความเสียใจทำไมพวกเขาไม่มาเร็วกว่านี้เพื่อแย่งที่นั่งในชั้นเรียน?
“อาจารย์สุดยอดมาก!อาจารย์สุดยอดมาก!”
ลู่จื่อรั่วปรบมือน้อยๆของนางอย่างตื่นเต้นและไม่สามารถหยุดพูดประโยคนี้ได้
ติง!
คะแนนความประทับใจจากลู่จื่อรั่ว+30 เป็นมิตร (368/1,000)
“นั่นเป็นเรื่องปกติ ข้าเดาผลลัพธ์นี้แล้ว!”
หลี่จื่อฉีมองซุนม่อ และรู้สึกภูมิใจในตัวเองที่เลือกครูที่เหมาะสม
ติง!
คะแนนความประทับใจจากหลี่จื่อฉี+20 เป็นมิตร (176/1,000)
เมื่อได้ยินการแจ้งเตือนของระบบซุนม่ออดไม่ได้ที่จะหันไปมองนักเรียน 5 คนของเขาตอนนี้พวกเขานั่งในแถวแรกและมองดูเขา
เมื่อสังเกตเห็นการจ้องมองของซุนม่อถานไถอวี่ถังก็ยิ้มออกมา ซวนหยวนพ่อยังคงดูเบื่อและปรบมือเป็นช่วงๆ เมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาของเขาดูเหมือนว่าเขาต้องการออกไปฝึกฝนแต่เนิ่นๆ
เมื่อเจียงเหลิ่งเห็นว่าซุนม่อกำลังมองอยู่เขาก็ยิ้มออกมาเช่นกัน
ติง!
คะแนนความประทับใจจากเจียงเหลิ่ง+5, เป็นกลาง (75/100)
เปลือกตาของซุนม่อกระตุกนักเรียน 3 คนนี้ของเขาไม่ง่ายที่จะรับมือ
ถานไถอวี่ถัง บุคคลที่จิตไม่ปกตินี้แม้ว่าเขาจะอายุเพียงสิบสี่ปี แต่คนธรรมดาก็ไม่สามารถคาดเดาวิธีคิดของเขาได้สำหรับซวนหยวนพ่อ ที่ไม่ได้ให้คะแนนความประทับใจใดๆ ซุนม่อ เขาคาดไว้แล้ว
เขาเป็นคนเสพติดการต่อสู้นอกจากการฝึกฝน การต่อสู้ และการต่อสู้ เขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับสิ่งอื่น แต่เจียงเหลิ่งทำไมเขาถึงแปลกจัง?
(เพราะเหตุใดเจ้าจึงให้คะแนนความประทับใจ5 คะแนนเพียงเพราะข้ามองเจ้า แต่ทำไมไม่ใช่เพราะเจ้าประทับใจกับการแสดงที่ยอดเยี่ยมของข้าในการพาบรรยากาศทั้งหมดไป)
“รองอาจารย์ใหญ่จาง ท่านคิดอย่างไรกับผลงานของซุนม่อ”
อันซินฮุ่ยถาม
"ฮึ!"
จางฮั่นฟูแค่นเสียงเย็นชาด้วยท่าทางที่น่าเกลียดอย่างยิ่งนอกจากนี้ เฝิงเจ๋อเหวิน คนนี้ก็ไร้ประโยชน์อย่างแท้จริงเขาไม่สามารถจัดการกับครูที่เพิ่งว่าจ้างใหม่ได้?
เมื่อมองไปที่รูปลักษณ์ของจางฮั่นฟู อันซินฮุ่ยรู้สึกตื่นเต้นในใจ หลังจากทนทุกข์ใจอึดอัดใจมานานกว่าครึ่งปีในที่สุดนางก็มีทางระบายออก
ติง!
คะแนนความประทับใจจากอันซินฮุ่ย+10, เป็นกลาง (15/100)
เมื่อได้รับคะแนนความประทับใจจากคู่หมั้นของเขาซุนม่อก็ทำหน้ามุ่ย ในที่สุดก็ไม่ใช่แค่ +1
การบรรยายทั่วไปยังไม่สิ้นสุดและในขณะที่ซุนม่อกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ข้อมูลของ + คะแนนความประทับใจที่ดีก็ท่วมตาซ้ายของเขาราวกับน้ำตกที่มีธารน้ำไหลลงมา
“ขอแสดงความยินดีกับร่างสถิตเจ้าได้รับคะแนนความประทับใจทั้งหมด +526 คะแนน”
“คะแนนความประทับใจเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเพราะเจ้าได้ช่วยให้นักเรียน2 คนฝ่าอุปสรรคยกระดับและได้รับการยอมรับจากนักเรียนสำหรับความสามารถของเจ้าในเวลาเดียวกัน ครูส่วนเล็กๆ ชื่นชมเจ้าและให้คะแนนความประทับใจมากกว่าสิบคะแนน”
ระบบอธิบาย
“ข้าโดดเด่นมากและพวกเขามีส่วนสนับสนุนมากกว่าสิบคะแนนความประทับใจ?”
ซุนม่อรู้สึกประหลาดใจ
“เจ้าควรจะพอใจ ครูเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าภาคภูมิใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาคุรุ โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาจะไม่เชื่อใครเลย แค่มองไปที่เฝิงเจ๋อเหวินแม้ว่าเขาจะยอมรับความพ่ายแพ้ แต่เขาได้ให้คะแนนความประทับใจหรือไม่? ไม่มีแน่นอน!”
ระบบเย้ยหยัน
“ซุนม่อจำไว้ แม้ว่าเจ้าจะเอาชนะมหาคุรุหนึ่งร้อยคนเจ้าอาจไม่ได้รับคำชมจากมหาคุรุแม้แต่คนเดียวในชีวิตของเจ้า”
“ข้าไม่เชื่อเรื่องนี้!”
ซุนม่อไม่มีความสุขและในขณะที่เขาพูด3 คำนั้น การแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้น
ติง!
“มอบหมายภารกิจ: จงทำให้ได้รับความชื่นชมจากอาจารย์จากก้นบึ้งของหัวใจภายในหนึ่งปีเจ้าจะได้รับรางวัลเป็นกล่องสมบัติเพชร หากเจ้าล้มเหลวเจ้าจะได้รับการลงโทษที่โหดหิน”
“ต้องใจร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ซุนม่อพูดไม่ออกแต่เมื่อเห็นว่ารางวัลนั้นเป็นกล่องสมบัติเพชร เขาจึงรู้ว่าระบบไม่ได้โกหกกว่าจะได้รับความชื่นชมจากอาจารย์ เป็นเรื่องยากจริงๆ
อันที่จริงซุนม่อรู้ดีว่าระบบนั้นไม่ผิดกู้ซิ่วสวินไม่ได้ให้คะแนนความประทับใจใดๆ และ จินมู่เจี๋ยก็เช่นกัน
“หากข้าโหดเหี้ยมจริงๆข้าจะทำให้เจ้าได้รับความชื่นชมจากมหาคุรุ”
ระบบส่งเสียงอย่างเย็นชา(ข้าไว้หน้าเจ้าแล้ว)
“สิ่งนี้จะไม่ทำ ให้ข้าต้องคิดถึงเรื่องดีๆบ้าง มิฉะนั้น ข้าเกรงว่าข้าจะทุบตีเจ้าไม่ได้”
ซุนม่อสูดหายใจเข้าลึกๆ
แต้มความประทับใจของเขาเกิน2,000 เยี่ยมมาก! รู้สึกราวกับว่าเขาเป็นเศรษฐีในบ้านนอกในขณะนี้เขาวางแผนที่จะไปที่ร้านค้าเพื่อซื้อผลดาราจันทร์ในภายหลัง
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านั้น เขายังมีอะไรจะพูด
ซุนม่อกลับไปที่แท่นบรรยายและกวาดสายตามองไปรอบๆทุกคนที่อยู่ตรงนั้น
“มีใครยังเก็บความสงสัยในตัวข้าไว้บ้าง?ตอนนี้เจ้าสามารถยืนขึ้นและถามคำถามของเจ้า”
เสียงของซุนม่อทำให้ห้องเรียนที่มีเสียงดังเงียบลงทันที