บทที่ 821 ลูกหมู(ตอนฟรี)
บทที่ 821 ลูกหมู
“เป็นพวกนายนี่เอง!”
เมื่อจี้เฟิงดึงคาวากิ ไยโกะและซาซากิออกจากรถ เขาก็จำสองคนที่เคยต่อสู้ด้วยมาก่อนได้ทันที และเขาก็อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย “หึหึ! นึกว่าใครที่ไหน ช่างบังเอิญจริงๆ!”
จี้เฟิงโยนคาวากิ ไยโกะ และซาซากิลงกับพื้นทีละคน
“ตุ้บ—!”
ทั้งสองล้มลงกับพื้นทันที
“โอ๊ย!”
“อั่ก—!”
บนถนนที่เย็นยะเยือก ทั้งสองคนที่ถูกโยนลงมากระแทกพื้นอดไม่ได้ที่จะร้องออกมา โดยเฉพาะซาซากิที่ได้แต่ร้องอู้อี้ การเคลื่อนไหวที่สร้างความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงสร้างความเจ็บปวดให้กับกรามของเขาเป็นอย่างมาก และมันทำให้ความเจ็บปวดนี้แล่นไปทั่วร่างกาย
คนขับถูกจี้เฟิงต่อยจนสลบไปแล้ว และในเวลานี้ หลังจากที่จี้เฟิงยืนยันได้แล้วว่าคาวากิ ไยโกะและซาซากิไม่มีความสามารถในการหลบหนี สายตาเขาก็เหลือบมองไปยังรถคันสุดท้าย
มันเป็นรถออฟโรดยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์สีดำที่มีป้ายทะเบียนมณฑลเจียงซูและเจ้อเจียง รถคันนั้นไม่ได้เปิดไฟใดๆรวมถึงไฟหน้ารถด้วยและจนถึงตอนนี้ เป็นเพราะการกระทำของจี้เฟิงเงียบเกินไป จึงไม่มีใครสังเกตเห็น และทำให้พวกเขายังไม่รู้ตัวว่าจากนักล่าพวกเขาได้กลายเป็นเหยื่อเองแล้ว และสหายของพวกเขาก็ต้องอยู่ในเงื้อมมือของจี้เฟิงไปแล้วในเวลานี้
จี้เฟิงถือปืนกลเบาที่เขาฉกฉวยมาจากชาวเจี๋ยเผิงและเดินไปอย่างรวดเร็ว
.......
“คุณชายรอง ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ ทำไมมิสชิซุโกะถึงได้ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเลย เธอน่าจะเดินไปถึงเป้าหมายแล้ว” มีคนสามคนนั่งอยู่ในรถออฟโรดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ นอกจากคนขับรถแล้วยังมีชายวัยกลางคนในวันห้าสิบนั่งอยู่ที่เบาะด้านข้างคนขับและชายหนุ่มอายุยี่สิบกลางๆนั่งอยู่ที่เบาะหลัง
ใบหน้าของชายหนุ่มซีดขึ้นเล็กน้อย เขาสวมเสื้อสูท รองเท้าหนัง และเสื้อโค้ตราคาแพง เขาดูเหมือนเด็กหนุ่มจากตระกูลร่ำรวย
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศรอบตัวของเขา ทำให้ภาพลักษณ์ทั้งหมดของเขาดูตกต่ำลงทันที เขาเหมือนกับเด็กหนุ่มที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ไม่จริงจังกับชีวิต
ชายวัยกลางคนที่นั่งข้างคนขับที่กำลังพูดอยู่ในตอนนี้มองไปข้างหน้าด้วยความกังวลใจ “คุณชายรอง ฉันคิดว่าเพื่อความปลอดภัย เราควรจะถอยออกไปสักหน่อยดีมั้ย ถ้ามิสชิซุโกะพลาดขึ้นมาจริงๆ เราจะได้หาทางหนีทีไล่ได้ทัน”
“ทำไมต้องถอย? ทำไมต้องหาทางหนี?!”
ชายหนุ่มที่ชายวัยกลางคนเรียกว่าคุณชายรองพูดด้วยน้ำเสียงดูแคลนเล็กน้อย “ก่อนมาพวกเราก็ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วไม่ใช่เหรอว่าพวกนั้นมีบอดี้การ์ดมาด้วยแค่ไม่กี่คน แล้วฝีมือของคุณชิซุโกะก็ไม่ธรรมดา ทำไมยังต้องกลัวอีกว่าเราจะจัดการกับไอ้พวกนั้นไม่ไหว? อาก็น่าจะรู้นี่ว่าซามูไรชาวเจี๋ยเผิงข้างคุณชิซุโกะแข็งแกร่งกว่าอันธพาลในแก๊งเราเยอะ!”
“นั่นก็ไม่ผิด แต่คุณชายรอง ท้ายที่สุดแล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับนายหญิงคนโตของตระกูลโจว หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ ตระกูลโจวจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้จบลงอย่างเงียบๆแน่ การจัดการของเราจะลำบากมากอย่างแน่นอน” ชายวัยกลางคนพูดอย่างลังเล “ยิ่งไปกว่านั้น บอดี้การ์ดของตระกูลโจวก็ฝีมือไม่ธรรมดาเลย”
“พอๆ เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว คอยดูท่าทีไว้ก็พอ ถ้าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ อยู่ตรงนี้ก็หนีทัน!” คุณชายรองเม้มริมฝีปากและพูดอย่างหมดความอดทน “ไม่ต้องกังวลให้มากเกินกว่าเหตุ ถ้าคุณชิซุโกะกับคนอื่นๆพลาดท่าจริงๆ ตระกูลโจวก็ไม่กล้าทำอะไรพวกเราง่ายๆเหมือนกัน!”
ชายวัยกลางคนได้ยินแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น คนที่สามารถทำให้แก๊งยามากุจิแห่งเจี๋ยเผิงจัดทริปพิเศษเพื่อจัดการ จะเป็นตัวละครที่เรียบง่ายไร้พิษสงได้อย่างไร?
แก๊งเหลียนจูแห่งเกาะไต้หวัน ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งหรือทรัพยากรทางการเงินของพวกเขา พวกเราเทียบไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แม้แต่พ่อของคุณก็ยังไม่กล้าพูดอย่างพล่อยๆว่าเขาสามารถงัดข้อกับแก๊งเหลียนจู!
“คุณชายรอง ฉันรู้ว่าคุณต้องการสร้างความแตกต่าง แต่...”
ชายวัยกลางคนต้องการจะพูดให้คุณชายรองเปลี่ยนใจ แต่ก็ถูกขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน “อย่าห่วงเลยอาเต๋อ หากครั้งนี้เราสามารถสร้างความสัมพันธ์แบบร่วมมือระยะยาวที่มั่นคงกับยามากุจิ-กุมิได้ มันจะเป็นโอกาสที่เราไม่กล้าแม้แต่จะฝันถึง! และเมื่อถึงตอนนั้น ฉันก็จะกลายเป็นฮีโร่ตัวจริง แล้วพี่ชายจะเอาอะไรมาสู้ฉันได้?!”
ชายวัยกลางคนทำได้เพียงพยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น แต่ก็ยังคงรู้สึกไม่สบายใจ
“ฉันขอพูดอะไรหน่อยนะอาเต๋อ ทำไมอาถึงได้เป็นคนขี้ขลาดมากขึ้นทุกวันๆเลยล่ะ!” คุณชายรองขมวดคิ้วและพูดว่า “อาเห็นฉันตั้งแต่เล็กจนโต อาไม่อยากให้ฉันครอบครองแก๊งพยัคฆ์มังกรเหรอ?”
“ไม่ใช่แน่นอน ฉันแค่อยากเตือนคุณชายรองว่าอย่างประมาท ระวังตัวไว้ก็ไม่เสียหายอะไรไม่ใช่หรือ?” อาเต๋อพูดอย่างรวดเร็ว “คุณชายรองร่วมมือกับคนของเจี๋ยเผิงโดยที่ไม่ได้บอกนายใหญ่ และเราก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านายใหญ่จะคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องนี้ยังเกี่ยวข้องกับตระกูลโจวด้วย ฉันจึงคิดว่าระวังไว้น่าจะดีกว่า!”
“ไม่ต้องห่วงหน่าอาเต๋อ ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าตาเฒ่าคิดอะไรอยู่!”
ทันทีที่พูดถึงนายใหญ่ คุณชายรองก็เหยียดริมฝีปากอย่างเหยียดหยามและพูดว่า “ตาเฒ่านิสัยเสียแบบนั้น วันๆคิดแค่สองอย่าง อย่างแรกคือผู้หญิง อีกอย่างก็เรื่องเงิน! ตอนนี้เขาไม่ใช่ซูหลงผู้มีอำนาจมากในเจียงซูและเจ้อเจียงเหมือนตอนที่เขายังเป็นหนุ่มอีกต่อไป ตอนนี้เขาแก่มากแล้ว เก่งก็แต่วิธีเล่นกับผู้หญิงแล้วก็หาเงินมาใช้แค่นั้นนั่นแหละ!”
“คุณชายรองระวังคำพูดด้วย!” อาเต๋อเตือนอย่างรวดเร็ว
“ระวังทำไม? ฉันพูดผิดซะที่ไหนล่ะ!” คุณชายรองพูดอย่างเย่อหยิ่ง “ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตาเฒ่าเอาผู้หญิงมาเป็นสิบเป็นร้อยคนได้แล้วมั้ง! แสร้งทำเป็นคนที่ประสบความสำเร็จเพื่อหลอกสาวดีๆมาเอา ยิ่งแก่ก็ยิ่งหื่น!”
อาเต๋อฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น นายใหญ่มีงานอดิเรกเช่นนี้จริงๆ แต่ก่อนหน้านี้เขาเคยคบกับผู้หญิงคนหนึ่งจากครอบครัวที่ดีมาก แต่เขากลับก่อเรื่องวุ่นวายที่บ้าน สุดท้ายผู้หญิงคนนั้นก็ถูกภรรยาทุบตีและไล่ออกจากบ้าน เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องตลกขำขันในแก๊ง และในตอนนั้นแทบไม่มีใครที่ไม่รู้เรื่องนี้
“นอกจากผู้หญิงแล้ว สิ่งที่เขารักมากที่สุดก็คือเงิน! ให้ตายเถอะ! พูดแล้วก็โมโห ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์นี่โอนถ่ายทรัพย์สินไปต่างประเทศไม่รู้เท่าไหร่!”
“เรื่องของตาเฒ่าจัดการได้ไม่อยากหรอก ใครหาเงินให้เขาได้ เขาก็ชอบทั้งนั้นแหละ แค่บอกว่าเราอำนวยความสะดวกให้กับยามากุจิ-กุมิ แลกมากับความร่วมมือในด้านธุรกิจ แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่แก๊งพยัคฆ์มังกรของเราจะสามารถทำเงินได้มากมาย เมื่อถึงตอนนั้นเขาจะหาเหตุผลอะไรมาไม่ส่งต่อตำแหน่งหัวหน้าแก๊งให้ฉัน?” คุณชายรองตะคอก
“สิ่งที่คุณชายรองพูดล้วนเป็นความจริง” อาเต๋อ ชายวัยกลางคนเห็นว่าเขาไม่สามารถปัดเป่าความเชื่อมั่นเช่นนี้ของคุณชายรองได้ ดังนั้นเขาจึงได้แต่พยักหน้าด้วยรอยยิ้มจางๆ แต่ภายในใจเขาไม่ได้คิดเช่นนั้น
คุณชายใหญ่ไม่ใช่คนเจ้าเล่ห์แบบคุณชายรอง แต่เขาไม่ใช่คนจิตใจดีมีเมตตาอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นแผนการหรือวิธีที่โหดเหี้ยม เขาเหนือกว่าคุณชายรองมาก ผู้อาวุโสส่วนใหญ่ในแก๊งต่างก็สนับสนุนคุณชายใหญ่ และภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ คุณชายรองจะต่อสู้กับคุณชายใหญ่ได้อย่างไร?
แค่ว่าตอนนี้คุณชายรองมีความสุขมาก และอาเต๋อก็รู้ดีว่าพูดอะไรไปตอนนี้คุณชายรองก็ไม่รับฟังสิ่งที่เขาพูด ดังนั้นเขาจึงได้แต่ถอนหายใจและส่ายหัว
“เวลานี้ สิ่งที่เราต้องทำคือกำจัดจี้ยูเหวินคนนั้นและโยนความผิดให้กับแก๊งตงไห่! จากนั้นก็แค่รอคอยดูผลลัพธ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ.... ฮ่าๆๆ!” คุณชายรองพูดด้วยความภาคภูมิใจและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้แก๊งตงไห่และซูยาหยุนต้องปวดหัว!”
“แก๊งพยัคฆ์มังกร?”
จี้เฟิงที่ยืนอยู่ใกล้ๆรถอดไม่ได้ที่จะยิ้มบางๆ แต่ดวงตาของเขาฉายแววเย็นชา “ชื่อเท่ดีนี่!”
เฮ้ย!
อาเต๋อและคุณชายรองหน้าซีดด้วยความตกใจพร้อมๆกันและอุทานว่า “ใครวะ?!”
วินาทีต่อมา มือของอาเต๋อก็เอื้อมมาจับที่หน้าอกเตรียมจะชักปืนออกมา
“เปรี้ยง—!”
ทันใดนั้น กำปั้นของจี้เฟิงได้ทุบกระจกรถและทุบไหล่ของอาเต๋อในคราวเดียว จากนั้นก็คว้าผมของอาเต๋อและดึงเขาออกมาจากหน้าต่างรถที่กระจกแตกไปแล้วเรียบร้อยจนอาเต๋อหล่นลงมากระแทกพื้นอย่างแรง
ทันทีหลังจากนั้น ก่อนที่คุณชายรองจะทันได้ตอบโต้ เขาก็ถูกลากออกจากรถเป็นรายต่อไป และถูกเหวี่ยงบนถนนในสภาพหัวทิ่มหัวต่ำ และนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ๆ
“ฟึ่บ—!”
“เปรี้ยง—!”
หลังจากทำทั้งหมดนี้แล้ว จู่ๆจี้เฟิงก็ออกแรงอย่างกะทันหันที่เท้า เพียงเสี้ยววินาทีเขาก็ไปอยู่ที่อีกด้านหนึ่งของรถ เขาดีดตัวขึ้นและเตะกระจกรถอีกด้านด้วยท่าวอลเลย์ และเตะคนขับที่ถือปืนอยู่จนสลบ
จากนั้น จี้เฟิงก็ร่อนลงพื้นอย่างมั่นคง เขามองไปที่อาเต๋อและคุณชายรองซึ่งนอนกลิ้งอยู่บนพื้นและกำลังร้องครวญครางเพราะความเจ็บปวดด้วยสายตาที่เย็นชาก่อนที่จะเดินเข้าไปหาสองคนนั้นทีละก้าว
“ไอ้สารเลว แกเป็นใครถึงกล้าทำกับฉันแบบนี้? รู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร!” คุณชายรองตกใจและโกรธ ไม่มีใครในมณฑลเจียงซูและเจ้อเจียงที่กล้าปฏิบัติต่อเขาเช่นนี้ แต่ไอ้สารเลวไม่มียางอายคนนี้กล้ามาทำให้เขาเจ็บ
“เปรี้ยง—!”
จี้เฟิงเตะโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ทำให้ซี่โครงของคุณชายรองหักไปหลายซี่ในทันที
“อ๊ากกก—!”
ดวงตาของคุณชายรองเบิกโพลง เส้นเลือดปูดโปนเต็มหน้าผาก เขาขดตัวเป็นลูกบอลและร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“หยุด!”
อาเต๋อตะโกนทันที “คุณเป็นใคร ต้องการอะไรก็บอกมา!”
“แม่งเอ๊ย ไอ้เวรตะไล!”
คุณชายรองสบถด่าด้วยความเจ็บปวด “ฉันคือพยัคฆ์....”
“คุณชายรอง!”
อาเต๋อตะโกนขัดจังหวะคุณชายรองทันทีและมองไปที่จี้เฟิง เขากัดฟันและอดทนต่อความเจ็บปวดจากไหล่ที่หัก “คุณผู้ชายท่านนี้ พวกเราเป็นสมาชิกของแก๊งตงไห่ และนี่ก็คือนายน้อยคนที่สองของเรา ฆ่าพวกเราไปมันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับคุณ และมันจะเกิดปัญหาไม่จบไม่สิ้นในอนาคต! แต่ตราบใดที่คุณปล่อยเราไป เราจะลืมเรื่องในวันนี้ซะ คุณคิดเห็นอย่างไร?”
“ฮ่าๆๆ!”
จี้เฟิงหัวเราะเยาะและเตะออกไปทันที
“ตู้ม!”
เขาเตะไปที่น่องของคุณชายรองจนขาของเขาหักทันที
“อ๊ากกก—!”
คุณชายรองร้องออกมาอย่างโหยหวน ร่างกายของเขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว
“ไอ้สารเลว หยุดเดี๋ยวนี้!” เมื่อเห็นสภาพที่น่าสังเวชของคุณชายรอง อาเต๋อก็รู้สึกหวาดกลัวหัวใจของเขาหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที เขาตะโกนออกมาอย่างลนลาน “ต้องการอะไรก็บอกมา เราจะให้ความร่วมมือทุกอย่าง!”
“เป็นห่วงนายน้อยของคุณมากเลยหรือ?” จี้เฟิงหัวเราะเบาๆ “ดูเหมือนว่าคุณกำลังทำหน้าที่สมกับเป็นคนรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ได้ดีจริงๆ!”
“แก.. แกต้องการอะไรกันแน่!” อาเต๋อกัดฟันถามอย่างโกรธเคือง แต่ในใจของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นไหวด้วยความหวาดกลัว
“ก็ไม่ได้ต้องการอะไรนะ”
จี้เฟิงส่ายหัว “ฉันแค่รู้สึกรังเกียจคนที่มีพฤติกรรมที่ชอบใส่ร้ายคนอื่นของพวกนาย แถมมาถึงขนาดนี้แล้วก็ยังไม่ยอมพูดความจริงอีก ก็เลยอยากจะสั่งสอนซักหน่อยเท่านั้นเอง!”
“แก...”
อาเต๋อแทบจะกระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธ เขาไม่คาดคิดว่าการที่เขาพูดโกหกเพียงเพราะต้องการจะปกปิดตัวตนของคุณชายรอง จะทำให้คุณชายรองถูกเตะจนขาหัก ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้เหี้ยมโหดผิดมนุษย์มานาเกินไปแล้ว!
จี้เฟิงยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยันและก้าวไปข้างหน้าอย่างกะทันหัน เขาคว้าตัวอาเต๋อและคุณชายรองและโยนเข้าไปในรถออฟรถ เมอร์เซเดส-เบสซ์ จากนั้นก็โยนคาวากิ ไยโกะและซาซากิลงไป คนขับทั้งสองคนก็ไม่รอดพ้นชะตากรรม พวกเขาถูกปฏิบัติราวกับลูกหมูที่ถูกยัดเข้าคอก คนหกคนทับซ้อนกันที่เบาะหลังของรถ จี้เฟิงเข้าไปยังตำแหน่งที่นั่งคนขับ และขับรถออกไปจอดที่กลางทาง
หลังจากนั้นทุกคนที่เข้าร่วมปฏิบัติการในคืนนี้ก็ถูกโยนลงไปกลางถนนทับถมกันดูเหมือนกับกองขยะ
.....จบบทที่ 821 ~