ตอนที่แล้วตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 107 แหวนมิติ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 109 ปีศาจออกอาละวาด

ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 108 ออกจากบ้านเกิด


ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 108 ออกจากบ้านเกิด

แปลโดย iPAT  

หลี่ฉิงซานกล่าว “ทุกคนมาที่นี่เพื่อส่งหลี่หลงงั้นหรือ?”

พ่อบ้านหลิวกล่าว “พะ...เพื่อส่งเจ้าเช่นกัน ฉิงซาน เจ้าประสบความสำเร็จแล้วจริงๆ ข้าหวังว่าเจ้าจะลืมสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต” หลี่ฉิงซานในปัจจุบันเป็นบุคคลที่ไม่สามารถยั่วยุในสายตาของเขา กระทั่งพ่อบ้านหลิวจะมีประสบการณ์มากมาย เขาก็ยังต้องรวบรวมความกล้าและพิจารณาทุกคำพูดอย่างรอบคอบ

ชาวบ้านคนอื่นๆเข้ามาแสดงความยินดีกับหลี่ฉิงซาน พวกเขายังนำผลิตผลของตนเองมามอบให้เขา

เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยเหล่านี้ หลี่ฉิงซานเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก นั่นทำให้เขาลืมไปชั่วขณะว่าตนเองควรตอบสนองอย่างไร ตั้งแต่เขาเกิดใหม่ เขาก็ใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านกระทิงหมอบมาตลอด ในวินาทีนี้บ้านทุกหลังและหญ้าทุกต้นราวกับปรากฏขึ้นในสายตาของเขาอีกครั้ง

ในช่วงเวลานี้บ่อน้ำลึกที่เก็บน้ำไว้นานกว่าทศวรรษก็พร้อมที่จะเอ่อล้นออกมาได้ตลอดเวลา หัวหน้าหมู่บ้านหลี่กอดหลี่ฉิงซานด้วยน้ำตาไหลนอง แม้บริเวณโดยรอบจะเสียงดัง แต่ทุกอย่างกลับดูเงียบลงในความคิดของหลี่ฉิงซาน

หลี่ฉิงซานเห็นพี่ชายและพี่สะใภ้ของเขาอยู่ท่ามกลางฝูงชน ทั้งสองกำลังกระวนกระวายกับความมั่งคั่งของเมือง พวกเขามองหลี่ฉิงซานและต้องการกล่าวบางคำแต่พวกเขาไม่กล้าเข้าใกล้อีกฝ่าย ตอนนี้พวกเขารู้สึกเสียใจมาก หากพวกเขาไม่ละทิ้งหลี่ฉิงซาน ผู้ใดจะรู้ว่าพวกเขาจะได้รับเกียรติมากเพียงใด พวกเขาเห็นหลี่ฉิงซานมองมาที่พวกเขา นั่นทำให้พวกเขารู้สึกมีความหวัง

อย่างไรก็ตามหลี่ฉิงซานกลับเบี่ยงสายตาไปทันที สิ่งที่ควรตัดก็ขาดไปแล้ว พวกเขาไม่สามารถเรียกร้องนกที่ตกลงพื้นกลับคืน ไม่ใช่ว่าหลี่ฉิงซานไม่สามารถให้อภัยคนทั้สองแต่เพราะพวกเขาอยู่คนโลกกันแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็ไม่เข้าใจว่าตนเองจะตกเป็นเป้าหมายและถูกสังหารเพราะเป็นญาติของเขา

หยางซ่งออกคำสั่งให้ทุกคนแยกย้ายขณะที่รถม้าขนาดใหญ่วิ่งเข้ามา

หลี่ฉิงซาน หยางซ่ง หลี่หลง และเด็กหนุ่มอีกสี่คนขึ้นรถม้าก่อนที่มันจะเคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆและหยุดรับเย่ต้าฉวนกับที่ปรึกษาขึ้นไปด้วย

เมื่อหลี่ฉิงซานเห็นสิ่งที่อยู่ในมือของเย่ต้าฉวน ดวงตาของเขาก็ส่องประกายขึ้น “ธนูแยกหิน!” เขาทิ้งธนูแยกหินไว้ในบ้านที่เมืองชิงหยางแต่เขาไม่ได้กลับไป เขาไม่เคยคิดว่าเย่ต้าฉวนจะนำมันมาให้เขา เขาดึงสายธนูเบาๆ ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในปัจจุบัน เขาสามารถยิงธนูนับร้อยดอกติดต่อกันโดยไม่มีปัญหา

ในจุดที่ห่างออกไป หลี่ฉิงซานเห็นหัวหน้านักล่าแห่งหมู่บ้านบังเหียนม้าโค้งคำนับเขา

ฮวงปิงหูกล่าว “ยินดีด้วย ฉิงซาน เจ้าก้าวหน้าขึ้นอีกครั้ง” เขารู้ว่าคนที่สามารถเอาชนะจอมยุทธ์ในการเผชิญหน้าโดยตรงมีเพียงจอมยุทธ์อีกคนเท่านั้น หลี่ฉิงซานบรรลุเป้าหมายที่เขาเคยกล่าวไว้ในอดีตและยังใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือน นี่ทำให้ฮวงปิงหูไม่สามารถประเมินเด็กหนุ่มได้อีกต่อไป

หลี่ฉิงซานยิ้ม “หัวหน้านักล่า ท่านก็อย่าเสียเวลามาก รีบตามมา” เขาสามารถบอกได้ว่าฮวงปิงหูอยู่ห่างจากระดับนักสู้ชั้นหนึ่งเพียงเล็กน้อย หลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เขาก็ออกเดินทางอีกครั้ง สุดท้ายเมืองชิงหยางก็หายไปจากมุมมองสายตาของเขา

หลี่ฉิงซานพูดกับตนเองในใจ ‘ลาก่อน บ้านเกิดของข้า!’

เขาไตร่ตรองมาแล้ว ไม่ว่าเขาจะตายและกลายเป็นส่วนหนึ่งของพื้นดินหรือทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เขาก็จะไม่กลับมาที่นี่อีก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน ที่นี่ก็ยังเป็นบ้านเกิดของเขา

พวกเขาเดินทางในช่วงกลางวันและหยุดพักผ่อนในยามค่ำคืน หลังจากเดินทางผ่านภูเขาเป็นเวลาสามวัน พวกเขาก็พบที่ราบกว้างใหญ่

ทุ่งข้าวสาลีสีทองทอดตัวยาวไปจนสุดสายตา ลมฤดูร้อนพัดคลื่นความร้อนเข้ามา บ้านเรือนกระจายตัวอยู่ท่ามกลางทุ่งนาและมีควันลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า อย่างไรก็ตามมันแตกต่างจากหมู่บ้านกระทิงหมอบมาก

หยางซ่งกล่าว “เรามาถึงรอบนอกของเมืองชิงหยางแล้ว หากเราเดินทางอีกสามสี่วัน เราจะพบท่าเรือ ด้วยการใช้เรือข้ามฟาก เขาจะไปถึงเมืองเจียเผิงโดยตรง มันสามารถพาเราไปเมืองชิงเหอได้เช่นกัน”

หลี่ฉิงซานหยิบแผนที่ที่กู่เยี่ยนหยินมอบให้ออกมา ด้วยหนึ่งความคิด จุดแสงสว่างขึ้น ท่าเรือปลายทางอยู่ห่างจากตำแหน่งปัจจุบันของพวกเขาไม่กี่สิบกิโลเมตร

หยางซ่งกล่าวด้วยความประหลาดใจ “แผนที่จิตและยังครอบคลุมพื้นที่เขตรุ้ยอี้ทั้งหมด มันล้ำค่ามาก ฉิงซาน เจ้าได้มันมาจากที่ใด?”

ยิ่งแผนที่ครอบคลุมพื้นที่มากเท่าใด มันก็ยิ่งล้ำค่า แม้มันจะเป็นสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณระดับต่ำ แต่มันก็ยังมีค่ามาก

หลี่ฉิงซานกล่าว “ผู้อาวุโสหยาง ท่านเย่ เราจะแยกกันที่นี่”

เย่ต้าฉวนตกใจ “กระไรนะ!? เขาจะไม่ไปด้วยกันงั้นหรือ?”

หลี่ฉิงซานส่ายศีรษะ “ข้าวางแผนที่จะเดินทางเพียงลำพังและเดินเล่นไปรอบๆ ข้าจะทำให้พวกท่านเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ ขออภัยด้วย”

ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เขาจะออกเดินทางท่องเที่ยวและสำรวจโลกกว้าง

พวกเขามองหน้ากันและไม่แน่ใจว่าควรโน้มน้าวเขาอย่างไร ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินหลี่ฉิงซานหันหน้าไปยังที่ราบกว้างใหญ่และกล่าวเสียงดังว่า “ข้าต้องการเดินทางไปทั่วทุกมุมโลก ข้าต้องการลิ้มลองอาหารเลิศรส ดื่มสุราที่ดีที่สุด ข้าจะฝึกเคล็ดวิชาที่ยอดเยี่ยมที่สุด ต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุด และหลับนอนกับหญิงที่งดงามที่สุด โลกที่กว้างใหญ่ ข้ามาแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”

เขาหัวเราะเสียงดัง มันอาจเป็นคำพูดที่ฟังดูโง่เขลา แต่มันโง่เขลาจริงหรือไม่? บางที วัวดำที่เคยรับฟังคำสาบานของเขาไม่อยู่ที่นี่แล้ว แต่ตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องถามผู้ใดอีกว่าความฝันของเขาจะเป็นจริงได้หรือไม่

เขาไม่ต้องการให้ผู้ใดตอบคำถาม เขาไม่ต้องการการยอมรับจากผู้ใด และเห็นได้ชัดว่าเขาไม่สนใจสายตาของผู้อื่น คำตอบอยู่ในใจของเขาแล้ว

หลังจากนัดแนะเรื่องการพบกันที่เมืองเจียเผิง คนเหล่านั้นก็มองร่างของหลี่ฉิงซานหายไปจากมุมมองสายตา

หลี่ฉิงซานไม่ได้ใช้เส้นทางหลัก เขาวิ่งอย่างบ้าคลั่งผ่านทุ่งกว้างก่อนจะไปถึงเมืองหนึ่งที่เจริญกว่าเมืองชิงหยาง เขาไม่สนใจที่จะจำชื่อของมันแต่รีบไปยังโรงเตี้ยมที่ใหญ่ที่สุดและสั่งอาหารที่ดีที่สุดทันที อาหารทุกจานเป็นอาหารพิเศษของท้องถิ่น เขาไม่เคยเห็นหรือได้ยินเกี่ยวกับพวกมันมาก่อน สุราที่เขาสั่งล้วนเป็นสุราอายุยี่สิบปี แม้พวกมันจะไม่ยอดเยี่ยมเท่าสุราจิตวิญญาณ แต่พวกมันก็มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์

เจ้าของโรงเตี้ยมเห็นหลี่ฉิงซานเป็นลูกค้ารายใหญ่ ดังนั้นเขาจึงออกมาต้อนรับด้วยตนเองและกระทั่งดื่มกับเขาสองสามจอก เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ดื่มคนเดียวไม่สนุก นายน้อย ท่านต้องการหญิงงามหรือไม่?”

หลี่ฉิงซานรู้สึกประหลาดใจก่อนที่จะเผยรอยยิ้ม “แน่นอน! เหตุใดข้าจะไม่ต้องการ? ข้ามีเงินมากมาย!”

เขาจะฝึกฝนอย่างหนัก เขาจะก้าวข้ามสวรรค์ทั้งเก้า อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้วางแผนที่จะเป็นนักบวช เขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับหญิงเช่นกู่เยี่ยนหยิน แต่ก่อนที่เขาจะไปถึงจุดนั้น เขาไม่มีแผนการที่จะทำตัวเหมือนนักพรต

หลังจากนั้นหญิงที่แต่งตัวเย้ายวนหลายคนก็เข้ามานั่งอยู่ข้างเขา พวกนางหัวเราะคิกคักขณะพูดคุยกับเขาและเรียกเขาว่านายน้อยหรือคุณชายตลอดเวลา พวกนางยังใช้มือล้วงเข้าไปในอกเสื้อของเขาอย่างกล้าหาญอีกด้วย

แรกเริ่มหลี่ฉิงซานยังรู้สึกประหม่าเล็กน้อยราวกับกำลังถูกล้อเลียน แต่ไม่นานเขาก็เริ่มผ่อนคลายและยอมรับสิ่งเหล่านั้นโดยไม่ใส่ใจ เขายิ้มกว้างไปถึงใบหู เขาเหมือนเด็กที่ได้รับเกมส์ใหม่และกำลังลุ่มหลงมัน

อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้วางแผนที่จะหลับนอนกับหญิงเหล่านี้จริงๆ หลังจากทั้งหมดพวกนางไม่แม้แต่จะสามารถเปรียบเทียบกับกู่เยี่ยนหยินหรือซวนเยว่

“ปัง!”

ทันใดนั้นเสียงเปิดประตูอย่างแรงพลันดังขึ้น บางคนตะโกน “เงียบหน่อย” เขาเป็นชายหนุ่มที่สวมเสื้อผ้าราคาแพง ถือดาบล้ำค่า และสวมเครื่องประดับบนศีรษะ แน่นอนว่าการทานอาหารร่วมกับหญิงงามย่อมต้องมีการพูดคุย มันไม่ใช่การกินอาหารแบบเงียบๆ

ด้านหลังชายผู้นี้มีหญิงที่ดูทรงเสน่ห์ผู้หนึ่งติดตามมา นางมองหลี่ฉิงซานด้วยความรังเกียจ

หลี่ฉิงซานหาวก่อนจะลุกขึ้นยืน เขาหยิบตั๋วแลกเงินจำนวนหนึ่งออกมาและวางลงบนโต๊ะขณะที่หญิงเหล่านั้นพุ่งเข้าแย่งชิงพวกมันทันที

หลี่ฉิงซานหันหน้าไปทางชายผู้นั้นและตรวจสอบเขา คนผู้นี้วางมือลงบนด้ามดาบด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง หลี่ฉิงซานสามารถบอกได้ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นจอมยุทธ์ที่แท้จริง ไม่ เขาควรได้รับการยกย่องว่าเป็นจอมยุทธ์มากพรสวรรค์ หญิงที่อยู่ด้านหลังชายหนุ่มก็เช่นกัน ด้วยการคงอยู่ของจอมยุทธ์สองคน พวกเขามีสิทธิ์ที่จะดูถูกผู้คน ในสายตาของพวกเขา หลี่ฉิงซานเป็นเพียงเศษขยะที่ไร้ค่าเท่านั้น