ตอนที่ 7 ผู้เฒ่าเว่ย
ถังเทียนลังเลเล็กน้อยจากนั้นเดินตรงไปที่ประตูอย่างกล้าหาญ เพื่อค้นหาความลับของแผ่นป้ายทองแดง เขาใช้เวลาห้าปีฝึกฝนวิทยายุทธพื้นฐานเพื่อให้ได้คะแนนถึงล้านคะแนนแล้วปลดล็อคแผ่นป้ายทองแดง
ขณะที่เขาก้าวผ่านประตูดาวกางเขนใต้ ภาพข้างหน้าเขาเปลี่ยนไปสิ้นเชิง
สิ่งแรกสุดที่เขาเห็นก็คือพื้นใต้เท้าเขาเป็นสีดำไม่รู้ว่าสร้างจากวัสดุอะไรเป็นเงางามเหมือนกระจกและสะท้อนให้เห็นร่างของถังเทียนหลังจากก้าวหยั่งเท้าดูรู้สึกว่ามันแข็งเหมือนโลหะ ถังเทียนซอกแซกดูด้วยความอยากรู้อยากเห็นในพื้นที่มีรัศมีเก้าเมตรไร้สิ่งมีชีวิตและด้านนอกห่างออกไปมีหมอกสีเทาปกคลุม เขาลองเดินเลาะไปตามริมหมอก แต่ดูเหมือนว่ามีแรงต้านประหลาดไม่ว่าจะใช้ความพยายามมากเพียงไหนก็ฝ่าหมอกเข้าไปไม่ได้
ทันใดนั้น คำเตือนสีแดงผุดออกมาจากพื้นที่สะท้อนเงาใต้เท้าของเขา
อักษรแดงพื้นดำดูลึกและชั่วร้าย
“จงห่วงเรื่องว่าเจ้าจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอดีกว่าเจ้าจะเป็นศัตรูกับตัวเจ้าไปชั่วชีวิต มันคือการต่อสู้ชั่วชีวิต เจ้าไม่มีทางหนีได้ ไม่อาจพึ่งพาโชค ถ้าเจ้าชนะเจ้าจะไม่มีผู้ใดต้านได้ ถ้าเจ้าแพ้เจ้าจะตระหนักว่า ความพยายามเจ้าสูญเปล่า และไม่มีความสำเร็จอะไร”
“ได้ชัย, ระดับคะแนน – ดี, รางวัลเวลาฝึกฝน – สิบวัน”
ได้ชัย
ระดับดี?
รางวัลเวลาฝึกฝน?
ถังเทียนเบะปากดูถูก “ไร้สาระ”
“คิดทบทวนดู บุรุษร่างเทานั้นกับเราใช้ท่าต่อสู้เดียวกัน เจ้าหมอนั่นก็เกินไปไม่ว่าเรารู้อะไร มันก็รู้ด้วยเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม เราเอาชนะเขาได้ในที่สุดไม่ใช่เหรอ?” ถังเทียนคิดอย่างดีใจ
เจ้าเด็กเสมือนจริงนี่ให้ความสนใจกับชัยชนะของเขาอย่างเดียว จะมีอะไรน่าตื่นเต้นกว่าการคว้าชัยชนะ?
ให้เวลาฝึกฝนอีกสิบวัน? เรื่องเหลวไหลที่มันคืออะไร?
ถังเทียนเกาหัว เดินกลับไปกลับมาแล้วนั่งลงชั่วครู่ต้องทำความเข้าใจบางเรื่องให้ดีขึ้น แผ่นป้ายทองแดง เดิมทีเป็นของที่ช่วยเหลือในการฝึกฝนจนกระทั่งคะแนนถึงหลักล้านจึงเข้าหลักเกณฑ์ในการเปิด
ถังเทียนไม่เข้าใจเมื่อแม่ของเขายังมีชีวิต เธอไม่เคยกระตุ้นให้เขาฝึกวิชาการต่อสู้มาก่อน จะเป็นยังไงถ้าแม่ของเขาไม่รู้วิธีใช้เจ้าของสิ่งนี้? แม่ของเขาไปได้แผ่นทองแดงนี้มาจากไหน?
เปล่าประโยชน์...
หน้าของถังเทียนหม่นหมอง เปล่าประโยชน์ แผ่นป้ายทองแดงนี้เป็นของที่เจ้าผู้ชายที่ไร้น้ำใจมอบให้แม่ของเขางั้นหรือ?
เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมา ถังเทียนคิดว่ามีความเป็นไปได้มากที่สุด ทุกครั้งที่แม่ของเขาช่วยเปลี่ยนสายร้อยสีแดง เธอจะมองแผ่นป้ายทองแดงในลักษณะหวนระลึก
ถังเทียนกำหมัดแน่น
น่ารังเกียจ!
หลังจากห่อเหี่ยวใจอยู่ครึ่งวันถังเทียนก็ปัดความคิดออกไปจากหัวและโกรธขึ้นมาแทน ถ้าแผ่นป้ายทองแดงเป็นเจ้าคนที่ไร้น้ำใจนั้นมอบให้แม่จริง ก็ดีเหมือนกัน
เขาควรใช้แผ่นป้ายทองแดงให้เต็มที่เพื่อให้ตัวเขาเองแข็งแกร่งและเอาชนะเจ้าคนไร้น้ำใจนั่นให้ได้ในที่สุด
ฮ่าฮ่า! ถึงเวลานั้นเจ้าผู้ชายไร้น้ำใจนั้นจะต้องเสียใจที่ให้แผ่นป้ายทองแดงกับแม่ในปีนั้นแน่
ใช่แล้วจะต้องเป็นไปในทำนองนี้
พอคิดว่าเจ้าผู้ชายไร้น้ำใจจะต้องเสียใจขนาดไหนแล้วนั่นทำให้รู้สึกสะใจจริงๆ
ถังเทียนมีกำลังใจสูงขึ้นอีกครั้ง และเขารู้ว่าการตัดสินใจของเขาเป็นเรื่องฉลาดจริงๆ
หมายเลขศูนย์สว่างวาบบนประตู ทำไมมันกลับไปเริ่มต้นที่ศูนย์ใหม่? ยังต้องฝึกวิชาต่อสู้พื้นฐานเพิ่มอีกหรือ? ถังเทียนส่ายศีรษะเดาว่าน่าจะเป็นทักษะต่อสู้ระดับสอง
ทั้งหมดเลย
ในที่สุดก็สามารถฝึกวิชาต่อสู้ระดับสองได้ ในที่สุดก็ได้สัมผัสความลับของแผ่นป้ายทองแดง แต่เขาก็ยังไม่รู้อะไรอยู่ดี
นอกจากนี้... ที่นี้ยังไม่มีร่องรอยของแม่แต่อย่างใด
ถังเทียนมองดูประตูดาวกางเขนใต้ที่ดูเหมือนทางเข้า แม่เคยมาที่นี่ด้วยหรือเปล่า?
ความรู้สึกโหยหาปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา
เขายืนงงอยู่ชั่วขณะก่อนจะเรียกความรู้สึกกลับคืนมา เขากำหมัดแน่นและพึมพำกับตนเอง “แม่! ฉันจะยังไม่เปิดเผยความที่แท้จริงของแผ่นป้ายทองแดง ฉันจะค้นหาเจ้าผู้ชายไร้น้ำใจนั่นและลากเขาไปที่หลุมศพแม่เพื่อให้สำนึกผิดให้จงได้”
ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตั้งใจ เขาไม่ลังเลใจอีกต่อไปและหมุนตัวเดินตรงไปที่ประตูดาวกางเขนใต้
ทันทีที่ถังเทียนก้าวออกจากประตูดาวกางเขนใต้ เขาเดินผ่านแสงและเงานับไม่ถ้วนและเดินทางกลับมาในช่วงเวลาสั้นๆ และต่อมาเป็นความรู้สึกจากเท้าของเขา ทำให้ถังเทียนรู้ว่านี่เป็นพื้นที่ของเขา
ชั่วเวลาต่อมาถังเทียนก็มาปรากฏอยู่ในห้องนอนของเขาเอง
รอบๆห้องเป็นที่คุ้นเคยมากเหมือนกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นแค่ภาพลวงตา
เขาค่อยๆ วางมือลงบนคอของเขาเพื่อจะได้รู้สึกถึงแผ่นป้ายทองแดง แต่มือของเขากลับสัมผัสความว่างเปล่า
ถังเทียนสั่นและหน้าซีดด้วยความกลัว
ที่คอของเขานอกจากว่างเปล่าแล้วมีเพียงด้ายแดงห้าเส้นที่ผูกไว้ด้วยกัน
แผ่นป้ายทองแดงเล่า
แผ่นป้ายทองแดงอยู่ที่ไหน?
ในช่วงขณะนั้นมีความรู้สึกเหมือนมือถูกเผา
ถังเทียนก้มหน้ามองดูและดาวกางเขนจำลองบนประตูมาปรากฏอยู่ในฝ่ามือของเขา
ดาวกางเขนค่อยๆจางลงๆ กระทั่งหายไป
เปล่าประโยชน์
นัยน์ตาของถังเทียนเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจและด้วยความคิดที่อยู่ในใจของเขา ฉากภาพที่อยู่ต่อหน้าเขาเปลี่ยนไปเขากลับมายืนต่อหน้าดาวกางเขนใต้
แผ่นป้ายทองแดงถูกฝังลงในร่างเขาจริงๆ
หลังจากตะลึงแล้วถังเทียนผู้หนังหนารู้สึกว่าความจริงนี่คือวิธีการที่ดีกว่ามาก
ในที่สุดก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าแผ่นป้ายทองแดงจะหาย
※※※※※※※※※※※※※※※※※
หลังจากเข้าๆ ออกๆ ถึงสองครั้งถังเทียนถึงเข้าใจวิธีใช้ประตูดาวกางเขนใต้อย่างคร่าวๆ
สิ่งที่เขาทึ่งที่สุดก็คือเรื่องรางวัลเวลาฝึกฝน ทันที่เขาก้าวผ่านประตูดาวกางเขนใต้ เวลาในโลกภายนอกจะหยุดเดิน แม้แต่เมื่อเขาอยู่ในนั้นตลอดทั้งวันเวลาภายนอกก็ยังนิ่งอยู่กับที่
การค้นพบที่ประหลาดครั้งนี้เหลือเชื่อเกินไป ถังเทียนมึนงงอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่งก่อนที่จะเรียกความรู้สึกกลับมา เขาคลี่ยิ้มเต็มใบหน้าก่อนเงยหน้ามองฟ้าหัวเราะลั่น
ได้เวลาแล้ว
เกินกว่าห้าปี เขาใช้เวลานับชั่วโมงไม่ถ้วนกับการฝึกวิชาต่อสู้ขั้นพื้นฐาน เวลาของเขาช้ากว่าคนอื่นถึงสี่ปี! แต่ตอนนี้มีความเป็นไปได้ที่เขาจะไล่ตามคนอื่นๆ ทัน
ในที่สุดเขาก็ได้เวลาฝึกฝนทั้งหมดกลับมา
อารมณ์ของถังเทียนในปัจจุบันนี้ยากจะอธิบาย เวลาห้าปีตั้งแต่เขาอายุ 12 จนถึงอายุ 17 ปีเขากลายเป็นนักเรียนโค่ง แก่ที่สุดในสถาบันแอนดรูว์
แม้ว่าลักษณะภายนอกของเขาจะไม่นำพาต่อสิ่งใด แต่ในใจเขามักเกิดแรงกดดันมหาศาล สิ่งที่หนุนเสริมให้เขาก้าวไปข้างหน้าทุกวันก็คือจำนวนเลขบนแผ่นป้ายทองแดงที่วิ่งเพิ่มขึ้นในแต่ละวันที่เขาเชี่ยวชาญวิทยายุทธพื้นฐานบางอย่าง และแรงปรารถนาที่ซ่อนลึกอยู่ในใจเขา เขาปรารถนาจะหาตัวเจ้าคนไร้น้ำใจที่ทอดทิ้งลูกและเมียจะตีเขาให้เหมือนสุนัขและลากเขาไปขอขมาหลุมศพมารดาเขา ความปรารถนานี้เพียงพอที่จะเติมเต็มคำมั่นสัญญา เขาสัญญากับเชียนฮุ่ยว่าเขาจะไปหาเธอที่กลุ่มดาวเพอร์ซูสและพวกเขาตกลงกันว่าจะไปที่วิถีสวรรค์ด้วยกัน
แน่นอน เขาจะต้องกัดฟันมานะบากบั่น
วันนี้ ห้าปีกับการทู่ซี้ทนฝึกฝนและดูเหมือนคนโง่ ในที่สุดก็ได้รับรางวัลตอบแทน
“ฮ่าฮ่า, เราต้องเอาชนะเจ้าตัวสีเทาให้ได้สัก 2 - 3 คราแน่นอน ด้วยวิธีนั้น เราจะได้รับเวลาเพิ่มขึ้น!”
“เราต้องการไปวิถีสวรรค์ เราต้องการไปหาเชียนฮุ่ย! วู้วววว!”
“จริงๆ แล้วเราก็เป็นเหมือนชาวสวรรค์อยู่แล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
น้ำเสียงร่าเริงยินดี สามารถได้ยินจากนอกบ้าน
ทันใดนั้น เสียงเริงร่าก็หยุด ถังเทียนยิ้มค้างเขานึกได้ทันทีว่ามีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง เขาจะไปเรียนวิชาต่อสู้ระดับสองได้ที่ไหน?
วิชาต่อสู้ระดับสองแตกต่างจากวิชาต่อสู้ระดับพื้นฐาน วิทยายุทธระดับสองจำเป็นต้องใช้การ์ดพลังภายใน ไม่มีการ์ดพลังภายในก็ไม่สามารถเรียนได้ ผู้ฝึกยุทธจะใช้พลังภายในของตนเองประทับลงไปในการ์ดใบหนึ่งก็จะกลายเป็นการ์ดพลังภายใน การ์ดพลังภายในใช้งานได้สองอย่างคือ หนึ่งในนั้นก็คือใช้เรียนและใช้ประทับบันทึกวิทยายุทธ
“การ์ดพลังภายใน! การ์ดพลังภายใน!การ์ดพลังภายใน...” ตาของถังเทียนแน่วแน่แต่ปากยังพูดซ้ำๆ กัน
การ์ดพลังภายในระดับสอง ชั้นจากทองแดงไม่ใช่ถูกๆ และการ์ดพลังภายในปกติจะเป็นของประจำตัว ทางโรงเรียนจะออกการ์ดพลังภายในให้ตามระดับความแข็งแกร่งของนักเรียน
สายตาของถังเทียนยิ่งเหม่อมองยิ่งขึ้น
ปั้ง ปั้ง ปั้ง!
เสียงทุบประตูลั่นทำให้ถังเทียนสะดุ้งตกใจ ประตูถูกเขย่ารุนแรงเหมือนกับหลุดออกมาทั้งแผง
ถังเทียนอุทานด้วยความตกใจ นึกได้ทันทีว่าเขาไม่มีเงินซ่อมประตูแน่ ถ้ามันพัง เขารีบลุกไปที่ประตู
ปัง!
ประตูไม้ไม่อาจทนแรงทุบได้อีกต่อไปมันแตกหักพังเป็นหลายเสี่ยงเสียงดังสนั่น
ในที่สุดถังเทียนก็เข้าใจความหมายที่พูดกันว่า เมื่อใดหลังคารั่วเมื่อนั้นคุณจะต้องตากฝนกันอีกหลายคืน” เขายืนมองดูเศษชิ้นส่วนประตูที่พักอย่างมึนงง
“ถังพื้นฐาน! ในที่สุดแกก็โดนไล่ออก! ฮะฮะ ดีแล้ว, ดีจริงๆ!” อาโมรี่ตะโกนลั่นอยู่ข้างนอกด้วยความดีใจ
ตาของถังเทียนเหลือกค้างแข็งกร้าว และในที่สุดก็ไม่สนอะไร
สีหน้าของเขาบูดบึ้งน่ากลัว ถ้าคนปกติมาเห็นเขาในตอนนี้ส่วนใหญ่คงจะหันหลังโกยอ้าวทันที
“ฮ่าฮ่าฮ่า! เยี่ยม! โคตรเยี่ยม!” อาโมรี่พูดน้ำลายแตกฟองขณะที่วิ่งเข้ามาในบ้านราวกับลมหอบทั้งที่ตัวโตล่ำขนาดนั้น “ถังพื้นฐาน! นี่คือชะตาของนาย นายมีชะตาร่วมกับฉันที่ต้องสร้างวิถีวิทยายุทธใหม่! มาเถอะน่า มาเข้าเรียนสถาบันเหมิ่งโซ่ว เรามาร่วมกันสร้างวิถีวิทยายุทธใหม่กัน”
ถังเทียนเตรียมจะปล่อยหมัดอยู่แล้วถึงกับชะงัก สถาบันเหมิ่งโซ่ว....
“อะแฮ่ม!” ถังเทียนคลายหมัดแกล้งทำเป็นกระแอมทำตัวเหมือนกับเป็นคนกร้านโลกพูดว่า “เจ้าวัวถึก! บอกฉันหน่อยซิว่า สถาบันเหมิ่งโซ่วของนายมีวิธีการอะไรดีๆ บ้าง?”
“วิธีการฝึกเหรอ? แกหมายความว่าไง?” อาโมรี่งงงวย
ถังเทียนหมดความสนใจทันที “ไอ้บ้าเอ๊ย! ไม่อยากเชื่อเลยว่าในโลกนี้ยังมีคนโง่กว่านายอีก” เขารู้สึกผิดหวังจึงโบกมือ “มาคุยกันดีกว่านายจะชดใช้ค่าประตูให้ฉันยังไง?”
อาโมรี่มองดูประตู แล้วหันกลับมามองถังเทียนพูดอย่างกระตือรือร้นอีก“ถังพื้นฐาน! มาเข้าโรงเรียนเหมิ่งโซ่วเถอะ...”
ถังเทียนมองดูอาโมรี่อย่างเหลือเชื่อ คิดอยู่ในใจว่า “มีคนโง่ขนาดนั้นอยู่ในโลกนี้ได้ยังไง...”
เดี๋ยวก่อน!
“นายรู้ได้ยังไงว่าฉันออกจากโรงเรียนแล้ว?” ถังเทียนหน้าเข้ม
“นายไม่รู้เหรอ? เดิมทีตระกูลโจวไม่ต้องการจะแพร่ข่าวนี้ออกไป คุณชายตระกูลโจวหน้าโง่กำลังดีใจถือโอกาสอ้างว่าเขาจะกลายเป็นขาใหญ่ประจำสถาบันแอนดรูว์นับแต่นี้ ตอนนี้ข่าวนี้รู้กันไปทั่วทั้งเมืองซิงฟงแล้ว นับเป็นการเสียหน้าครั้งใหญ่ของตระกูลโจวเลยทีเดียว” อาโมรี่ตอบ
ตระกูลโจว!
ในที่สุดถังเทียนก็รู้สาเหตุที่เขาถูกไล่ออก เขามีนัยน์แข็งกร้าวกำหมัดแน่น หนี้ครั้งนี้จะต้องชดใช้แน่นอน
“มาเรียนสถาบันเหมิ่งโซ่วของฉันเถอะ! มาเลย, มาเลย!”อาโมรี่มองถังเทียนอย่างรำคาญ
พอเห็นเช่นนี้ ถังเทียนรู้ว่าเขาต้องจริงจังกว่านี้ “ฉันรู้เพียงแต่วิทยายุทธพื้นฐานแล้วก็เพิ่งถูกไล่ออกมา สถาบันเหมิ่งจะรับฉันเข้าไปเรียนได้อย่างไร?”
“ก็..บางทีนะ”หน้าของอาโมรี่เปลี่ยนทันที ผงกศีรษะเห็นด้วยทันที
พอเห็นท่าทีเช่นนี้ ถังเทียนไม่มีแก่ใจด่าเขาอีกต่อไป
อาโมรี่ขมวดคิ้วก้มหน้าและดูเหมือนพยายามเค้นสมองคิดเรื่องบางอย่าง
“เฮ้! รีบๆ ชดใช้ประตูคืนให้ฉันได้แล้ว” ถังเทียนเตือนอาโมรี่ “อย่ามาทำให้ฉันเสียเวลา ฉันยังต้องไปหางานทำอีก ต่อให้เป็นชาวสวรรค์ก็ต้องหางานทำ”
ถึงตอนนี้ อาโมรี่ตบพื้นนัยน์ฉายแววแห่งความสุขตอบว่า “ฮ่าฮ่าฉันมีแผนแล้ว!”
ปัง!
ถังเทียนรู้สึกว่าพื้นสั่นอยู่ครู่หนึ่ง เกือบจะยืนไม่อยู่
ฝ่ามือทั้งสองของเขาจมลงไปในพื้น อาโมรี่เกร็งหมัดด้วยจึงทำให้เกิดรอยร้าวและรอยแตกปรากฏ
ฝุ่นจากเพดานร่วงลงมา ขณะที่เสียงกรอบแกรบจากหลังคาสามารถได้ยินอย่างชัดเจนและถังเทียนยืนจ้องตะลึงด้วยนัยน์ตาที่ว่างเปล่า
※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※※
ถังเทียนมองดูชายชราเนื้อตัวสกปรกข้างหน้าเขา ผมยุ่งเหยิงและดูโกโรโกโสยิ่งกว่าเขาเสียอีก เขาหันหน้าไปมองอาโมรี่อย่างงุนงงคิดว่าเจ้าวัวโง่คงไม่มีความตั้งใจดีจริงๆ?
แม้ว่าอาโมรี่จะดูเหมือนคนดี แต่ก็ไม่ใช่เวลาจะทำดี
“ตาเฒ่าเว่ย! ฉันพานักเรียนอัจฉริยะมาเข้าโรงเรียนของคุณ!” อาโมรี่ตะโกนลั่นดูเหมือนเขาจะสนิทกับชายชรา
โรงเรียน?
เมื่อได้ยินคำนี้ ถังเทียนสงสัยยิ่งกว่าเดิม โรงเรียนแบบไหนกันถึงยอมให้คนสุดโทรมอย่างนี้รับตำแหน่งในโรงเรียนด้วย?
“อัจฉริยะ?” ตาเฒ่าเว่ยเหลือกตา “อัจฉริยะวิชาต่อสู้ขั้นพื้นฐานน่ะหรือ?”
อาโมรี่ตกใจ และกล่าวชื่นชม “ใช่ ใช่ ใช่! แม้แต่คุณก็ยังบอกได้ด้วย”
ถังเทียนยืนอยู่ตรงนั้นถึงกับเหลือกตาเขาไม่อยากเชื่อเลยว่าอาโมรี่จะไม่เข้าใจคำพูดเสียดสีของชายชรา
อาโมรี่ดีใจและยังพูดต่อไป “เขาคือนักสู้ที่ฉันนับถือที่สุด เป็นนักสู้ที่มีหัวใจแข็งแกร่งที่สุดและยังสร้างวิถีวิทยายุทธเป็นของตนเองได้ เขาคือถังพื้นฐานสมบูรณ์แบบ ถังเทียน บุรุษขั้นเทพ”
“หึหึหึพูดอย่างนั้นแสดงว่าแข็งแกร่งจริงๆ” ผู้เฒ่าเว่ยหัวเราะหยีตาและประเมินถังเทียน
“เป็นไงบ้าง? เราเพิ่งประลองกันมาอย่างหนัก” อาโมรี่ยืนยันแทนถังเทียนพลางตบอกของเขา และยังพูดต่อด้วยความภูมิใจ “ทันทีที่คุณรับเขาเข้าเรียนโรงเรียนที่ใกล้เจ๊งของคุณ ก็จะเกิดความพลิกผันแน่นอน”
“หึหึหึ สมเหตุผลสมเหตุผลแล้ว แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ อาโมรี่ แกไม่ต้องการเข้าร่วมด้วยหรือ?” ผู้เฒ่าเว่ยจ้องไปที่อาโมรี่
ถังเทียนไม่อาจทนได้อีกต่อไป ในสายตาเขา ตาแกนี่ต้องการชักชวนอาโมรี่ เหมือนพวกโจรลักขโมยคน แม้ว่าเขาต้องการเข้าโรงเรียน แต่ถ้าเป็นอาโมรี่ออกค่าใช้จ่ายให้ เขาคงไม่ยอมรับ
เจ้าวัวนี่อาจจะทึ่มไปบ้าง แต่ในฐานะที่เขาแก่กว่า เขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากยอมรับ
เขาเตรียมจะหยุดการสนทนาอยู่แล้วเมื่อจู่ๆเขาเห็นอาโมรี่ชักนิ้วที่ดูเหมือนแคร็อทออกมาและเริ่มนับ “ไม่ใช่ว่าฉันไม่สามารถไปได้ แต่คุณต้องสัญญา อย่างน้อยก็ต้องให้การ์ดพลังภายในขั้นสี่ วิชาดาบเงินต้องเป็นการ์ดชั้นเงินด้วย เงินอุดหนุนสามเท่า หินสี่ดาว 5 ระดับ, หินสามดาว 50 ระดับ, คะแนนต้องเต็มทุกผลการสอบ แต่ฉันไม่ต้องเข้าเรียนนะ ถ้าฉันได้คะแนนดี 50 คนแรกในการสอบอย่างเป็นทางการของเมืองซิงฟง ต้องได้รางวัลเป็นหินสี่ดาว 5 ระดับ ถ้าได้ 30 อันดับแรกต้องได้รับหินสี่ดาว 10 ระดับ ถ้าได้ 10 อันดับแรกต้องได้รับหินสี่ดาว 20 ระดับ ถ้าได้ห้าอันดับแรก ต้องได้หินสี่ดาว 40 ระดับ และผมได้อันดับหนึ่งของเมือง ขอเป็นหินห้าดาว 1 ระดับ”
พอได้ยินเช่นนั้น ถังเทียนรู้สึกลำบากใจ เป็นข้อตกลงที่เอาเปรียบกันชัดๆ
เมื่อสิงโตตัวนี้อ้าปาก... มันโหดและอำมหิตจริงๆ
“ตกลง” ผู้เฒ่าเว่ยตอบรับโดยไม่ลังเลใจสักนิดลงนามสัญญาทันทีถังเทียนน้ำตาไหลนองหน้าทันที